โดยปกติแล้ว ecu ไม่สามารถแตะต้องได้ ต้องถอดกล่องมาเปลี่ยนชิป เพราะล็อคทุกอย่างจากโรงงาน
กล่องเครื่องจากรถเก่านอก ถึงเปลี่ยนกับรถประกอบในได้ เพราะค่าเดียวกับโรงงานตั้ง
ส่วนการลงเฟิร์มแวร์ที่อุปกรณ์ ต้องมีรหัสเข้าไปที่กล่อง ผ่านคอม ที่ลงได้มี เกียร์ เครื่องเสียง ระบบแสดงผล
ต้องถามช่างดูว่า ที่แก้ปัญหาหน้าจอ ไปลงที่ecu รึเปล่า ถ้าลงไปมีผลแน่ เพราะแสดงผลไม่สมบูรณ์
รถเยมีกล่องคุมหลายระบบ และเชื่อมต่อแบบแลน ผ่านสายชิลด์ส่งดิจิตอล ไม่ใช่สายเดี่ยวแบบรถยุ่น ส่งอนาล็อค
ถ้ากล่องใดกล่องหนึง ส่งข้อมูลไปที่ecuผิด ecuจะชดเชยระบบให้ทำงานได้ ในขอบเขตที่เครื่องทำงานได้
ถ้าชดเชยแล้วทำงานไม่ได้ตามค่าที่ตั้ง ecuจะตัดเข้า safe mode เพื่อป้องกันเครื่องพัง หนักกว่านั้นคือตัดไฟรถวิ่งไม่ได้
ecu จะจำค่าที่ผิดพลาด บอกเป็นรหัสไว้ แล้วต้องเข้าเครื่องสั่งให้ลืม ไม่งั้นอัพไป หรือเปลี่ยนอะไหล่ ก็ไม่ทำงานหรือเพี้ยน
อาการคล้ายกัน รถยุ่นวิ่งได้แต่ขึ้นไฟเตือน ส่วนรถยุโรปวิ่งไม่ได้ขึ้นไฟเตือน เพราะวางระบบปลอดภัยไม่เท่ากัน
เวลาพังที่หลายคนบอกรถยุโรปไม่พังเยอะเท่ายุ่น เพราะระบบนิรภัยเข้มกว่า ยกรถไปซ่อม ดีกว่าฝืนวิ่งจนพังคาเท้า
เช่น เครื่องโอเวอร์ฮีท,วาล์วน้ำแตก รั่ว,ระบบจุดระเบิดเสีย
ถ้าไม่เป็นที่ซอฟแวร์ แต่กินน้ำมันมากขึ้น ต้องตรวจกรองโซล่า ว่าเคยเปลี่ยนรึเปล่า
2-3ปีเปลี่ยนที แต่ตรวจทุกปี ถ้ามีถ้วยดักน้ำ ต้องไขออกมาเททิ้ง เพราะถึงห้าหมื่นโล ต้องเปลี่ยนกรองโซล่า
ไม่งั้นแรงดันน้ำมันน้อยลง ฉีดฝอยยาก เครื่องต้องฉีดเพิ่ม เลยกินน้ำมัน หัวฉีด กับปั้มไม่น่าตัน เพราะวิ่งไม่เยอะ
ส่วนน้ำมันเครื่อง ถ้าถ่ายทุก 25,000กม. ควรล้างเครื่อง เพราะข้างในอาจเป็นโคลน แบบที่เจอหลายคัน
เปิดอ่างมาทีเป็นคราบ นมค.ถ่ายทุกหมื่นโล พร้อมไส้กรอง ห้ามลากถ่าย เพราะอากาศบ้านเราร้อนจัด
ในออยเครื่องเป็นกระป๋องสี่เหลี่ยม เก็บน้ำมันลิตรกว่า ถ่ายออกไม่หมดจะมีของเก่าค้างอยู่ จึงผสมของใหม่
ปกติใช้น้ำมันดีเซลล้าง แล้วเดินเบา แต่หลายที่ขายน้ำยาล้างเครื่อง เอาที่ศูนย์รับประกันดีที่สุด
ถ้าเปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องส่องดูแล้วไม่เป็นคราบโคลน ก็แล้วไป เพราะรุ่นนี้ไม่มีไม้วัด ต้องเปิดอ่างอย่างเดียว
เกียร์ถ่ายที่เก้าหมื่นโล เปลี่ยนกรองเกียร์ ล้างสมองเกียร์ ตรวจวาล์ว โซลินอยเกียร์ไปด้วยเลย
bsi ปล่อยลากใช้ ต้องจ่ายค่าแรงช่างเองแบบรถยุ่นถึงเปลี่ยนให้ จำเป็นต้องจ่าย รถจะไม่มีปัญหาสะสม ใช้ทน
เสียแล้วตัดระบบ ยืนหล่อๆ ข้างถนน ทริปพัง นัดพัง งานเจ๊ง รอรถลาก โดนฟันค่าลากหลักหมื่นแล้วต่อด้วยค่าอะไหล่ค่าแรงจาก0 (ไม่งั้นก็สมัครสมาชิกรถยกไว้ประจำ หลังปีที่ 5)
ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ารถมันดีจริงๆหรือเปล่า สุดท้ายก็คือเสียกลางทางเหมือนกัน
เอาจริงๆ ผมว่าของรถญี่ปุ่นบางค่ายเขาก็ทำดีนะ ในแต่ละระยะ แจ้งไว้ชัดเจน ว่าต้องเปลี่ยนอะไรซ่อมอะไร โดยไม่ต้องรอให้มันพังก่อน น้ำมันแต่ละอย่าง เขาจัดการให้เราเองโดยไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าวันไหนจะไปจอดตายกลางทาง ใช้มาทะลุสิบปี สองแสน กม ก็ยังไม่เห็นไฟเตือนขึ้นแม้แต่ดวงเดียวสักที ผิดกับยุโรปบางค่ายหลังปีที่ 6 เริ่มมีไฟเตือนเริ่มจอดตายเป็นระยะๆ จนเจ้าของไม่กล้าเอาออกไปไหนไกลๆ
ไปซ่อมอู่นอก ก็ต้องลุ้น ช่างจะว่างไหม คิวยาว แถมต้องมานั่งลุ้น จะโดนฟันไหม ซ่อมจบหรือเปล่า จะเข้า
0 เจอค่าอะไหล่ไป ก็แพงเกินซ่อมไม่ไหว กับอีกคันที่ขับอย่างเดียวกัน เช็คระยะ 0 สบายใจ ใช้อย่างเดียวจริงๆ
0 รถยุโรป ตั้งแต่อดีตเป็นยังไง ตอนนี้ผมว่ามันก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก อยากให้รถยุโรปมันขับสบายใจ ใช้สบายใจ 0 เชื่อใจได้ ไม่ฟันอะไหล่บ้าเลือดแบบค่ายญี่ปุ่นบ้างเหมือนกัน