ผู้เขียน หัวข้อ: ปรึกษาเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันรถ BMW F10 525d แย่ลงครับ  (อ่าน 9686 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 964
เมื่อปลายเดือน พ.ค. ผมได้นำรถเข้าศูนย์เพื่อดำเนินการแก้ไข Software ใหม่เพราะว่าหน้าจอกลางกับหน้าจอตรงคอนโซลแจ้งข้อมูลการระยะทางการเข้าศูนย์ไม่ตรงกัน หลังจากลงโปรแกรมใหม่แล้วปรากฎว่าอาการขัดข้องดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขได้แต่ปัญหาที่ตามมาคือ อัตราการกินน้ำมันของรถแย่ลงอย่างชัดเจนจากเดิมน้ำมันเต็มถังจะวิ่งได้ประมาณ 950 กิโลเมตร และลดลงเหลือราวๆ 850 กิโลเมตร ตั้งแต่เข้าศูนย์มาเป็นจำนวน 3 ถังน้ำมันแล้วครับ จึงอยากสอบถามเพื่อนสมาชิกว่าจะเป็นไปได้ไหมที่การลงโปรแกรมจะทำให้ ECU เพี้ยนไปจนทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นครับ หรืออาจจะมาจากปัญหาอื่นครับ

ประวัติการบำรุงรักษารถผมก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามโปรแกรมของ BSI และมีการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อตอน 55,000 กิโลเมตร และกำลังจะนำรถเข้าไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อีกครั้งพุธนี้ที่ระยะทาง 90,000 กิโลเมตรครับ

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,368
ถ้าลงโปรแกรมใหม่แค่พวกค่าโชว์หน้าจอ ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับอัตราสิ้นเปลืองนะครับ

แต่ผมก็ไม่ทราบว่า 0 ลงโปรแกรมให้ใหม่ ใหม่ถึงอะไรใหม่บ้าง  ถ้าใหม่หมดเลย reset ค่าต่างๆ ลามทุ่ง แบบนั้นก็อาจจะมีผลต่อการจ่ายน้ำมันและการตอบสนองของคันเร่งได้เหมือนกัน

ออเกือบลืม  ของผม 520d  มีช่วงนึก ประมาณ 60,000 กิโล  ก็มีอาการอืดมากๆ เร่งไม่ไป ทำให้ต้องเค้นหนักกว่าปกติแบบสังเกตได้   เลยจับเปลี่ยนนมก. ซะ  พอเปลี่ยนเสร็จ รถก็ตอบสนองดีขึ้น และเหมือนจะประหยัดลงด้วยนิดนึง  ของจขกท. ก็มีโอกาสจะอืดเพราะน้ำมันเกียร์ได้เหมือนกัน ยิ่งใกล้แสนกิโลเมตร  บางทีถ้าไม่ได้เปลี่ยนกรองเกียร์ตอน 55,000 โล ใช้ต่อมาพอใกล้ช่วงแสนกิโล  ก็มีโอกาสที่ระบบเกียร์จะดร็อปลงได้ครับ  เปลี่ยนกรองด้วยน่าจะดีขึ้น

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
โดยปกติแล้ว ecu ไม่สามารถแตะต้องได้ ต้องถอดกล่องมาเปลี่ยนชิป เพราะล็อคทุกอย่างจากโรงงาน
กล่องเครื่องจากรถเก่านอก ถึงเปลี่ยนกับรถประกอบในได้ เพราะค่าเดียวกับโรงงานตั้ง

ส่วนการลงเฟิร์มแวร์ที่อุปกรณ์ ต้องมีรหัสเข้าไปที่กล่อง ผ่านคอม ที่ลงได้มี เกียร์ เครื่องเสียง ระบบแสดงผล
ต้องถามช่างดูว่า ที่แก้ปัญหาหน้าจอ ไปลงที่ecu รึเปล่า ถ้าลงไปมีผลแน่ เพราะแสดงผลไม่สมบูรณ์

รถเยมีกล่องคุมหลายระบบ และเชื่อมต่อแบบแลน ผ่านสายชิลด์ส่งดิจิตอล ไม่ใช่สายเดี่ยวแบบรถยุ่น ส่งอนาล็อค
ถ้ากล่องใดกล่องหนึง ส่งข้อมูลไปที่ecuผิด ecuจะชดเชยระบบให้ทำงานได้ ในขอบเขตที่เครื่องทำงานได้

ถ้าชดเชยแล้วทำงานไม่ได้ตามค่าที่ตั้ง ecuจะตัดเข้า safe mode เพื่อป้องกันเครื่องพัง หนักกว่านั้นคือตัดไฟรถวิ่งไม่ได้
ecu จะจำค่าที่ผิดพลาด บอกเป็นรหัสไว้ แล้วต้องเข้าเครื่องสั่งให้ลืม ไม่งั้นอัพไป หรือเปลี่ยนอะไหล่ ก็ไม่ทำงานหรือเพี้ยน

อาการคล้ายกัน รถยุ่นวิ่งได้แต่ขึ้นไฟเตือน ส่วนรถยุโรปวิ่งไม่ได้ขึ้นไฟเตือน เพราะวางระบบปลอดภัยไม่เท่ากัน
เวลาพังที่หลายคนบอกรถยุโรปไม่พังเยอะเท่ายุ่น เพราะระบบนิรภัยเข้มกว่า ยกรถไปซ่อม ดีกว่าฝืนวิ่งจนพังคาเท้า
เช่น เครื่องโอเวอร์ฮีท,วาล์วน้ำแตก รั่ว,ระบบจุดระเบิดเสีย


ถ้าไม่เป็นที่ซอฟแวร์ แต่กินน้ำมันมากขึ้น ต้องตรวจกรองโซล่า ว่าเคยเปลี่ยนรึเปล่า
2-3ปีเปลี่ยนที แต่ตรวจทุกปี ถ้ามีถ้วยดักน้ำ ต้องไขออกมาเททิ้ง เพราะถึงห้าหมื่นโล ต้องเปลี่ยนกรองโซล่า
ไม่งั้นแรงดันน้ำมันน้อยลง ฉีดฝอยยาก เครื่องต้องฉีดเพิ่ม เลยกินน้ำมัน หัวฉีด กับปั้มไม่น่าตัน เพราะวิ่งไม่เยอะ

ส่วนน้ำมันเครื่อง ถ้าถ่ายทุก 25,000กม. ควรล้างเครื่อง เพราะข้างในอาจเป็นโคลน แบบที่เจอหลายคัน
เปิดอ่างมาทีเป็นคราบ นมค.ถ่ายทุกหมื่นโล พร้อมไส้กรอง ห้ามลากถ่าย เพราะอากาศบ้านเราร้อนจัด
ในออยเครื่องเป็นกระป๋องสี่เหลี่ยม เก็บน้ำมันลิตรกว่า ถ่ายออกไม่หมดจะมีของเก่าค้างอยู่ จึงผสมของใหม่

ปกติใช้น้ำมันดีเซลล้าง แล้วเดินเบา แต่หลายที่ขายน้ำยาล้างเครื่อง เอาที่ศูนย์รับประกันดีที่สุด
ถ้าเปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องส่องดูแล้วไม่เป็นคราบโคลน ก็แล้วไป เพราะรุ่นนี้ไม่มีไม้วัด ต้องเปิดอ่างอย่างเดียว

เกียร์ถ่ายที่เก้าหมื่นโล เปลี่ยนกรองเกียร์ ล้างสมองเกียร์ ตรวจวาล์ว โซลินอยเกียร์ไปด้วยเลย

bsi ปล่อยลากใช้ ต้องจ่ายค่าแรงช่างเองแบบรถยุ่นถึงเปลี่ยนให้ จำเป็นต้องจ่าย รถจะไม่มีปัญหาสะสม ใช้ทน

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
ไม่ได้ใช้ด้วย

 แต่สงสัย  รถมีการปรับค่ายางเปลี่ยนไปหรือไม่  เช่น  จาก 225  เปลี่ยนเป็น  235    แบบนี้ ทำให้ไมล์แข็งขึ้น  ทั้งที่อัตราการใช้น้ำมันคงเดิมนั้นแหละ  แต่ไมล์ไม่เหมือนเดิม...

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
รถจากโรงงานแต่ละรุ่นตัวถัง มักใช้ล้อ ยางเบอร์เดียวตลอดอายุรถที่จำหน่าย
ยกเว้นตัวแรงที่เปลี่ยนทุกปี เบอร์ยางจะไม่ซ้ำกัน

ถ้าเปลี่ยนยางเอง จากหน้ากว้าง 225 เป็น 235 แก้มเท่ากัน วงเท่ากัน
แต่เมื่อเทียบเส้นผ่าศูนย์ยางแล้ว ต่างกัน เข็มไมล์ย่อมต่างกัน

ร้านยางที่ชำนาญจะนำยางที่จะเปลี่ยนมาเทียบกับยางติดรถ แล้วบอกกับเจ้าของรถกว่า
สูง ต่ำ เท่านี่จะมีผลต่อเข็มไมล์ประมาณไหน เพราะเบอร์ยางเดียวกัน ต่างยี่ห้อก็ต่างกันเล็กน้อย
ส่วนใหญ่ร้านจะเทียบยางที่สูงเท่ากันหรือใกล้เคียงที่สุด เข็มจะไม่เพี้ยนมากจนดูออก

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
รถจากโรงงานแต่ละรุ่นตัวถัง มักใช้ล้อ ยางเบอร์เดียวตลอดอายุรถที่จำหน่าย
ยกเว้นตัวแรงที่เปลี่ยนทุกปี เบอร์ยางจะไม่ซ้ำกัน

ถ้าเปลี่ยนยางเอง จากหน้ากว้าง 225 เป็น 235 แก้มเท่ากัน วงเท่ากัน
แต่เมื่อเทียบเส้นผ่าศูนย์ยางแล้ว ต่างกัน เข็มไมล์ย่อมต่างกัน

ร้านยางที่ชำนาญจะนำยางที่จะเปลี่ยนมาเทียบกับยางติดรถ แล้วบอกกับเจ้าของรถกว่า
สูง ต่ำ เท่านี่จะมีผลต่อเข็มไมล์ประมาณไหน เพราะเบอร์ยางเดียวกัน ต่างยี่ห้อก็ต่างกันเล็กน้อย
ส่วนใหญ่ร้านจะเทียบยางที่สูงเท่ากันหรือใกล้เคียงที่สุด เข็มจะไม่เพี้ยนมากจนดูออก

  ครับ  ปกติรถระดับนี้  ในระบบสามารถปรับค่าตัวเลขขนาดยางได้อยู่แล้ว ได้ไม่ต่ำกว่าสิบไซด์ ที่ผมสงสัย  คือเมื่อปรับซอร์ฟแวร์ใหม่  ค่าตัวนี้ยังคงเป็นขนาดที่ใช้อยู่หรือไม่..แค่นั้นครับ

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
โดยปกติแล้ว ecu ไม่สามารถแตะต้องได้ ต้องถอดกล่องมาเปลี่ยนชิป เพราะล็อคทุกอย่างจากโรงงาน
กล่องเครื่องจากรถเก่านอก ถึงเปลี่ยนกับรถประกอบในได้ เพราะค่าเดียวกับโรงงานตั้ง

ส่วนการลงเฟิร์มแวร์ที่อุปกรณ์ ต้องมีรหัสเข้าไปที่กล่อง ผ่านคอม ที่ลงได้มี เกียร์ เครื่องเสียง ระบบแสดงผล
ต้องถามช่างดูว่า ที่แก้ปัญหาหน้าจอ ไปลงที่ecu รึเปล่า ถ้าลงไปมีผลแน่ เพราะแสดงผลไม่สมบูรณ์

รถเยมีกล่องคุมหลายระบบ และเชื่อมต่อแบบแลน ผ่านสายชิลด์ส่งดิจิตอล ไม่ใช่สายเดี่ยวแบบรถยุ่น ส่งอนาล็อค
ถ้ากล่องใดกล่องหนึง ส่งข้อมูลไปที่ecuผิด ecuจะชดเชยระบบให้ทำงานได้ ในขอบเขตที่เครื่องทำงานได้

ถ้าชดเชยแล้วทำงานไม่ได้ตามค่าที่ตั้ง ecuจะตัดเข้า safe mode เพื่อป้องกันเครื่องพัง หนักกว่านั้นคือตัดไฟรถวิ่งไม่ได้
ecu จะจำค่าที่ผิดพลาด บอกเป็นรหัสไว้ แล้วต้องเข้าเครื่องสั่งให้ลืม ไม่งั้นอัพไป หรือเปลี่ยนอะไหล่ ก็ไม่ทำงานหรือเพี้ยน

อาการคล้ายกัน รถยุ่นวิ่งได้แต่ขึ้นไฟเตือน ส่วนรถยุโรปวิ่งไม่ได้ขึ้นไฟเตือน เพราะวางระบบปลอดภัยไม่เท่ากัน
เวลาพังที่หลายคนบอกรถยุโรปไม่พังเยอะเท่ายุ่น เพราะระบบนิรภัยเข้มกว่า ยกรถไปซ่อม ดีกว่าฝืนวิ่งจนพังคาเท้า
เช่น เครื่องโอเวอร์ฮีท,วาล์วน้ำแตก รั่ว,ระบบจุดระเบิดเสีย


ถ้าไม่เป็นที่ซอฟแวร์ แต่กินน้ำมันมากขึ้น ต้องตรวจกรองโซล่า ว่าเคยเปลี่ยนรึเปล่า
2-3ปีเปลี่ยนที แต่ตรวจทุกปี ถ้ามีถ้วยดักน้ำ ต้องไขออกมาเททิ้ง เพราะถึงห้าหมื่นโล ต้องเปลี่ยนกรองโซล่า
ไม่งั้นแรงดันน้ำมันน้อยลง ฉีดฝอยยาก เครื่องต้องฉีดเพิ่ม เลยกินน้ำมัน หัวฉีด กับปั้มไม่น่าตัน เพราะวิ่งไม่เยอะ

ส่วนน้ำมันเครื่อง ถ้าถ่ายทุก 25,000กม. ควรล้างเครื่อง เพราะข้างในอาจเป็นโคลน แบบที่เจอหลายคัน
เปิดอ่างมาทีเป็นคราบ นมค.ถ่ายทุกหมื่นโล พร้อมไส้กรอง ห้ามลากถ่าย เพราะอากาศบ้านเราร้อนจัด
ในออยเครื่องเป็นกระป๋องสี่เหลี่ยม เก็บน้ำมันลิตรกว่า ถ่ายออกไม่หมดจะมีของเก่าค้างอยู่ จึงผสมของใหม่

ปกติใช้น้ำมันดีเซลล้าง แล้วเดินเบา แต่หลายที่ขายน้ำยาล้างเครื่อง เอาที่ศูนย์รับประกันดีที่สุด
ถ้าเปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องส่องดูแล้วไม่เป็นคราบโคลน ก็แล้วไป เพราะรุ่นนี้ไม่มีไม้วัด ต้องเปิดอ่างอย่างเดียว

เกียร์ถ่ายที่เก้าหมื่นโล เปลี่ยนกรองเกียร์ ล้างสมองเกียร์ ตรวจวาล์ว โซลินอยเกียร์ไปด้วยเลย

bsi ปล่อยลากใช้ ต้องจ่ายค่าแรงช่างเองแบบรถยุ่นถึงเปลี่ยนให้ จำเป็นต้องจ่าย รถจะไม่มีปัญหาสะสม ใช้ทน

เสียแล้วตัดระบบ​  ยืนหล่อๆ​ ข้างถนน​  ทริปพัง​ นัดพัง​  งานเจ๊ง​  รอรถลาก​ โดนฟันค่าลากหลักหมื่นแล้วต่อด้วยค่าอะไหล่ค่าแรงจาก​0​ (ไม่งั้นก็สมัครสมาชิกรถยกไว้ประจำ​ หลังปีที่​ 5)

ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ารถมันดีจริงๆหรือเปล่า​   สุดท้ายก็คือเสียกลางทางเหมือนกัน

เอาจริงๆ​  ผมว่าของรถญี่ปุ่นบางค่ายเขาก็ทำดีนะ​ ในแต่ละระยะ​  แจ้งไว้ชัดเจน​ ว่าต้องเปลี่ยนอะไรซ่อมอะไร​  โดยไม่ต้องรอให้มันพังก่อน น้ำมันแต่ละอย่าง​  เขาจัดการให้เราเองโดยไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าวันไหนจะไปจอดตายกลางทาง​ ใช้มาทะลุสิบปี​   สองแสน​ กม​ ก็ยังไม่เห็นไฟเตือนขึ้นแม้แต่ดวงเดียวสักที​  ผิดกับยุโรปบางค่ายหลังปีที่​ 6   เริ่มมีไฟเตือนเริ่มจอดตายเป็นระยะๆ​ จนเจ้าของไม่กล้าเอาออกไปไหนไกลๆ​

ไปซ่อมอู่นอก​  ก็ต้องลุ้น​ ช่างจะว่างไหม​  คิวยาว​ แถมต้องมานั่งลุ้น​  จะโดนฟันไหม​  ซ่อมจบหรือเปล่า​ จะเข้า​
0​ เจอค่าอะไหล่ไป​  ก็แพงเกินซ่อมไม่ไหว​  ​ กับอีกคันที่ขับอย่างเดียวกัน​ เช็คระยะ​ 0​  สบายใจ​ ใช้อย่างเดียวจริงๆ​

0​ รถยุโรป​  ตั้งแต่อดีตเป็นยังไง​  ตอนนี้ผมว่ามันก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก​  อยากให้รถยุโรปมันขับสบายใจ​  ใช้สบายใจ​  0​ เชื่อใจได้​ ไม่ฟันอะไหล่บ้าเลือดแบบค่ายญี่ปุ่นบ้างเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2018, 03:59:53 โดย Butterzai »

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 964
ถ้าลงโปรแกรมใหม่แค่พวกค่าโชว์หน้าจอ ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับอัตราสิ้นเปลืองนะครับ

แต่ผมก็ไม่ทราบว่า 0 ลงโปรแกรมให้ใหม่ ใหม่ถึงอะไรใหม่บ้าง  ถ้าใหม่หมดเลย reset ค่าต่างๆ ลามทุ่ง แบบนั้นก็อาจจะมีผลต่อการจ่ายน้ำมันและการตอบสนองของคันเร่งได้เหมือนกัน

ออเกือบลืม  ของผม 520d  มีช่วงนึก ประมาณ 60,000 กิโล  ก็มีอาการอืดมากๆ เร่งไม่ไป ทำให้ต้องเค้นหนักกว่าปกติแบบสังเกตได้   เลยจับเปลี่ยนนมก. ซะ  พอเปลี่ยนเสร็จ รถก็ตอบสนองดีขึ้น และเหมือนจะประหยัดลงด้วยนิดนึง  ของจขกท. ก็มีโอกาสจะอืดเพราะน้ำมันเกียร์ได้เหมือนกัน ยิ่งใกล้แสนกิโลเมตร  บางทีถ้าไม่ได้เปลี่ยนกรองเกียร์ตอน 55,000 โล ใช้ต่อมาพอใกล้ช่วงแสนกิโล  ก็มีโอกาสที่ระบบเกียร์จะดร็อปลงได้ครับ  เปลี่ยนกรองด้วยน่าจะดีขึ้น

ขอบคุณครับ ผมเปลี่ยนตอนถ่ายน้ำมันเกียร์ผมเปลี่ยนไส้กรองและอ่างไปด้วยเลยครับ ส่วนน้ำมันเครื่องเข้าเช็คตาม BSI เปลี่ยนถ่ายทุกๆ 11,000 กิโลเมตรครับ

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 964
โดยปกติแล้ว ecu ไม่สามารถแตะต้องได้ ต้องถอดกล่องมาเปลี่ยนชิป เพราะล็อคทุกอย่างจากโรงงาน
กล่องเครื่องจากรถเก่านอก ถึงเปลี่ยนกับรถประกอบในได้ เพราะค่าเดียวกับโรงงานตั้ง

ส่วนการลงเฟิร์มแวร์ที่อุปกรณ์ ต้องมีรหัสเข้าไปที่กล่อง ผ่านคอม ที่ลงได้มี เกียร์ เครื่องเสียง ระบบแสดงผล
ต้องถามช่างดูว่า ที่แก้ปัญหาหน้าจอ ไปลงที่ecu รึเปล่า ถ้าลงไปมีผลแน่ เพราะแสดงผลไม่สมบูรณ์

รถเยมีกล่องคุมหลายระบบ และเชื่อมต่อแบบแลน ผ่านสายชิลด์ส่งดิจิตอล ไม่ใช่สายเดี่ยวแบบรถยุ่น ส่งอนาล็อค
ถ้ากล่องใดกล่องหนึง ส่งข้อมูลไปที่ecuผิด ecuจะชดเชยระบบให้ทำงานได้ ในขอบเขตที่เครื่องทำงานได้

ถ้าชดเชยแล้วทำงานไม่ได้ตามค่าที่ตั้ง ecuจะตัดเข้า safe mode เพื่อป้องกันเครื่องพัง หนักกว่านั้นคือตัดไฟรถวิ่งไม่ได้
ecu จะจำค่าที่ผิดพลาด บอกเป็นรหัสไว้ แล้วต้องเข้าเครื่องสั่งให้ลืม ไม่งั้นอัพไป หรือเปลี่ยนอะไหล่ ก็ไม่ทำงานหรือเพี้ยน

อาการคล้ายกัน รถยุ่นวิ่งได้แต่ขึ้นไฟเตือน ส่วนรถยุโรปวิ่งไม่ได้ขึ้นไฟเตือน เพราะวางระบบปลอดภัยไม่เท่ากัน
เวลาพังที่หลายคนบอกรถยุโรปไม่พังเยอะเท่ายุ่น เพราะระบบนิรภัยเข้มกว่า ยกรถไปซ่อม ดีกว่าฝืนวิ่งจนพังคาเท้า
เช่น เครื่องโอเวอร์ฮีท,วาล์วน้ำแตก รั่ว,ระบบจุดระเบิดเสีย


ถ้าไม่เป็นที่ซอฟแวร์ แต่กินน้ำมันมากขึ้น ต้องตรวจกรองโซล่า ว่าเคยเปลี่ยนรึเปล่า
2-3ปีเปลี่ยนที แต่ตรวจทุกปี ถ้ามีถ้วยดักน้ำ ต้องไขออกมาเททิ้ง เพราะถึงห้าหมื่นโล ต้องเปลี่ยนกรองโซล่า
ไม่งั้นแรงดันน้ำมันน้อยลง ฉีดฝอยยาก เครื่องต้องฉีดเพิ่ม เลยกินน้ำมัน หัวฉีด กับปั้มไม่น่าตัน เพราะวิ่งไม่เยอะ

ส่วนน้ำมันเครื่อง ถ้าถ่ายทุก 25,000กม. ควรล้างเครื่อง เพราะข้างในอาจเป็นโคลน แบบที่เจอหลายคัน
เปิดอ่างมาทีเป็นคราบ นมค.ถ่ายทุกหมื่นโล พร้อมไส้กรอง ห้ามลากถ่าย เพราะอากาศบ้านเราร้อนจัด
ในออยเครื่องเป็นกระป๋องสี่เหลี่ยม เก็บน้ำมันลิตรกว่า ถ่ายออกไม่หมดจะมีของเก่าค้างอยู่ จึงผสมของใหม่

ปกติใช้น้ำมันดีเซลล้าง แล้วเดินเบา แต่หลายที่ขายน้ำยาล้างเครื่อง เอาที่ศูนย์รับประกันดีที่สุด
ถ้าเปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องส่องดูแล้วไม่เป็นคราบโคลน ก็แล้วไป เพราะรุ่นนี้ไม่มีไม้วัด ต้องเปิดอ่างอย่างเดียว

เกียร์ถ่ายที่เก้าหมื่นโล เปลี่ยนกรองเกียร์ ล้างสมองเกียร์ ตรวจวาล์ว โซลินอยเกียร์ไปด้วยเลย

bsi ปล่อยลากใช้ ต้องจ่ายค่าแรงช่างเองแบบรถยุ่นถึงเปลี่ยนให้ จำเป็นต้องจ่าย รถจะไม่มีปัญหาสะสม ใช้ทน

ขอบคุณครับ เรื่องการถ่ายน้ำมันเครื่องน่าสนใจมากครับเพราะศูนย์ไม่น่าจะฟลัชน้ำมันออกทั้งหมด แค่ถ่ายออกแล้วใส่ใหม่แน่ๆ แต่จำเลยหลักน่าจะเป็นการลง เฟิร์มแวร์เพราะช่างเซอวิสบอกว่าต้องต่อคอมลงโปรแกรมใหม่ครับ

ออฟไลน์ ho-mannie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
รถวิ่งมา 90,000 แล้ว พรัชชิ่งพวกน้ำมันต่างๆก็จะยิ่งดีนะคับ  แล้วก็แนะนำล้างท่อ อินเตอร์ ไอดี ปีกผีเสื้อ ด้วยคับ เขม่าเยอะแน่นอนในเครื่องดีเซล  ปกติใน bsi 0 จะไม่ล้างให้ ถ้าล้างเองจ่ายเพิ่มประมาณ 6,500บาท แต่มาล้างอธ่นอก 2,000-2,500 คราบดำๆออกมาเยอะเป็นตะกลั่นกองกับพื้นเต็มไปหมดเลยคับ. ระยะเวลาการล้างเผื่อไว้ซัก 3-4ชม อย่างต่ำนะคับ

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 964
รถวิ่งมา 90,000 แล้ว พรัชชิ่งพวกน้ำมันต่างๆก็จะยิ่งดีนะคับ  แล้วก็แนะนำล้างท่อ อินเตอร์ ไอดี ปีกผีเสื้อ ด้วยคับ เขม่าเยอะแน่นอนในเครื่องดีเซล  ปกติใน bsi 0 จะไม่ล้างให้ ถ้าล้างเองจ่ายเพิ่มประมาณ 6,500บาท แต่มาล้างอธ่นอก 2,000-2,500 คราบดำๆออกมาเยอะเป็นตะกลั่นกองกับพื้นเต็มไปหมดเลยคับ. ระยะเวลาการล้างเผื่อไว้ซัก 3-4ชม อย่างต่ำนะคับ

มีอู่แนะนำมั้ยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ