เพราะตลาดรถประเภทนี้มันไม่มีสภาพคล่อง หรือสภาพคล่องมันน้อยรึเปล่าครับ เอาตามหลักการแล้วราคาตลาด คือราคาที่มีการเปลี่ยนมือซื้อขายสินค้าและบริการเกิดขึ้นจริง และมี
ปริมาณซื้อขาย ณ จุดนั้นมากที่สุด บางทีเจ้าของเขาอาจจะมั่นใจในสภาพรถของตัวเองมากก็ได้ครับ แม้จะตั้งราคา 10 ล้านก็ไม่ผิด แต่ใครจะโง่ซื้อละ มันไม่มีความหมายหรอกครับ (ผม
แค่จะสื่อว่าเขาจะตั้งราคาเท่าไรก็ได้ มันเป็นเรื่องของความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายครับ) คุณเคยเห็นดอกทิวลิปที่เป็นโรค ติดเชื้อไวรัสแต่ขายได้ราคาเป็นล้านไหมละครับ
ไม่มีสภาพคล่องคืออะไรครับ?
ตอนนี้ CLA มือหนึ่งถ้าเป็นสีขาวรอนานกว่าพวกตัวที่ออกมาทีหลังอีก
ส่วนลดก็น้อยกว่า c class ตอนผมซื้อเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว ต้องรอรถ 1 ปี
ราคานี้คือราคาที่ขายทั่วไปเลยครับและมีคนซื้อด้วย
ลองเข้าไปดูในเวปที่ขายๆกันก็ได้
มีคนซื้อไม่ได้หมายความว่า ราคามันจะไม่เพี้ยนนะครับ ถ้าสภาพคล่องของตลาดมันน้อย คุณต้องไปดูปริมาณรถรุ่นนี้ในตลาดรองทั้งหมด แล้วมีการซื้อขายกันจริงถึง 20% หรือเปล่า
ยิ่งตลาดแรกขายได้เยอะยิ่งบอกว่าสภาพคล่องมือ2 ต่ำนะครับ ถ้ารถมือ2 มีขายน้อยน่ะ มันแปลความได้ว่ารถมือ2 ที่มีอยู่จริงเยอะแต่เขาไม่ขาย คนที่มาขายตั้งราคาเป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ แถมคุณจะไปหาข้อมูลจากไหนว่ารถรุ่นนี้ซื้อขายกันที่ราคาไหนมากที่สุด ในเมื่อเขารู้กันแค่ผู้ซื้อผู้ขาย 2 คนไม่ได้มาประกาศให้คนอื่นรู้กัน บวกกับรถยนต์เป็นสินค้าที่แต่ละคันมีสภาพแตกต่างกันอีก ยิ่งทำให้ราคากลางเพี้ยนหนักเข้าไปอีก ปีต่างกันราคาก็ต่างอีก
แต่ถ้าคุณหมายถึงว่ารถรุ่นนี้ซื้อง่ายขายคล่องเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไว นั่นมันไม่ใช่ความหมายของสภาพคล่องของตลาด คนละเรื่องในการอธิบายราคาตลาดไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด ที่คุณเข้าใจมันคือรถรุ่นนี้มันมีสภาพคล่องสูง(เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไว) แต่ผมพูดถึงสภาพคล่องตลาดที่ใช้ในการอธิบายราคาดุลยภาพ
...ผมถึงได้บอกไงครับรถมือ2 จะเป็นลักษณะการซื้อขายที่ตั้งราคาตามๆ กัน ซื้อขายกันตามความพอใจของสภาพรถของผู้ซื้อและผู้ขายมากกว่า ไม่มีทางเลยที่ราคาตลาดจะมีประสิทธิภาพ
