ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย  (อ่าน 5674 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ryu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 14:38:50 »
ก็พูดกันไปเยอะแล้วครับเรื่องรถ EV ในประเทศไทยทั้งเทคโนโลยี สถานีชาร์ท แบตเตอรี่  แต่ไม่รู้ว่ามีใครพูดถึงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงที่รถ EV เข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลายในไทยบ้างหรือยังที่ ผมลองคิด ๆ ไว้ก็มีอยู่ 2 ประเด็นหลัก ๆ ที่อยากจะให้เพื่อน ๆ ร่วมกันแชร์ความคิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน

1. ราคาค่าใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นมากไหม แล้วต้องโดนเก็บภาษีเฉพาะเหมือนน้ำมันหรือเปล่า ท่าไม่โดนรายได้ของรัฐหลายไปเยอะเลยนะครับ ถึงแม้ว่ารถใช้น้ำมันยังจะมีอยู่แต่ที่เมื่อไหร่สัดส่วน รถใช้น้ำมัน/รถ EV เป็น 50:50
2. ราคาจะแยกระหว่างไฟฟ้าสำหรับรถ EV กับบ้านเรือน อันนี้ผมว่าแยกยาก

ท้ายสุดแล้วเราจะได้ใช้รถที่มีเชื้อเพลิงราคาประหยัดจริง ๆ หรือครับ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2018, 14:42:20 โดย Ryu »

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 15:52:35 »
จากเจ้าของกระทู้ ดูจะสนใจประเด็น เรื่องภาษีที่ภาครัฐจะจัดเก็บเกี่ยวกับ อุตสาหกรรม รถยนต์ได้น้อยลงใช่ไหมครับ
ส่วนตัวนะครับ ถ้ารัฐ ปรับแนวคิดไม่คิด โดยไม่มาเน้นการคิดเงินจากผู้ซื้อรถเป็นหลักก็น่าจะดีนะครับ
แต่เดี๋ยวก่อนผมไม่ได้หมายความว่า จะส่งเสริมให้รัฐไปเก็บภาษีจากผู้ที่ใช้ไฟบ้านมากกนะครับ
ส่วนตัวก็คิดว่าควรจะเก็บภาษีการใช้ไฟแบบปัจจุบัน คือ คนใช้ไฟน้อยก็จ่ายค่าไฟใน rate ที่ต่ำ
ใครใช้ไฟฟ้ามาก็ควรจะเก็บ ค่าไฟใน rate ที่สูงกว่าขึ้นไปเช่นเดิมครับ

 เพียงแต่เรื่องการเก็บภาษีจากอุตสาหกรรมรถยนต์  แทนจะเน้นเก็บจากการซื้อรถ ให้เปลี่ยนไปเก็บจากการใช้รถบนถนนแทน และเน้นเก็บกับคนที่มีกำลังจ่าย หรือคนที่มีความจำเป็นต้องจ่ายครับ
แนวคิดผมคือ ฝังชิป และใช้พวก GPS ระบุตำแหน่งว่ารถอยู่บนถนนเลยไหม

และเก็บเงินจากการใช้นโยบาย การใช้พื้นที่ถนน ครับ โดยแต่ละถนนจะเก็บไม่เท่ากัน โดยถนนไหนเป็นย่านเศรษฐกิจ หรือ มีการจราจรติดขัดจะเก็บค่าใช้พื้นที่ในอัตราที่สูงกว่าค่าที่จอดรถบนถนนเส้นนั้นด้วย โดย rate การใช้พื้นที่ถนน จะแปรผกผัน กับความเร็วเฉลี่ยที่ของรถที่วิ่งบนถนนเส้นนั้นๆครับ แต่จะแปรผันตาม สภาพเศรษฐกิจของถนนเส้นนั้นครับ  และจะคิดค่าใช้พื้นถนน จาก ขนาดพื้นที่ของรถคันนั้นว่ากินพื้นที่บนถนนนั้นมากหรือน้อยด้วยเช่นกันครับ
   ผมว่านโยบายนี้จะเก็บได้ไม่เงินไม่น้อยแน่น้อยครับ  แต่จะช่วยลดการใช้รถของคนที่ไม่มีความจำเป็นด้วย เช่น พวกวัยรุ่น หรือนักศึกษา ที่บ้านพอมีฐานะบ้างแต่ไม่มากนัก ก็จะไม่เอารถมาวิ่งในใจกลางเมืองเพราะ ค่าใช้พื้นที่ถนน น่าจะเยอะกว่าค่าเชื้อเพลิงถึง 3-5 เท่าเป็นอย่างน้อย และจะช่วยลดอุบัติเหตุจากคนกลุ่มนี้ไปได้ด้วย
   ปล. แต่จริงนะถ้าจะคิดภาษีมลพิษ จากการนำรถมาวิ่งบนถนนนด้วยก็จะดีนะครับ ถ้าสามารถติดชิป แล้ว ก็จะสามารถรถวิ่งอยูุ่บนถนนเส้นไหนนานเท่าไร  สมมติมีการระบุ rate ภาษีมลพิษของแต่ละถนนต่างกันตามสภาพแวดล้อมถนนนั้นด้วยเช่น กัน ก็อาจเอา rate ที่คิดนั้น มาคำนวณกับ มลพิษ หรืออาจจะแค่ CO2 ที่รถคันนั้นน่าจะปล่อยบนถนนนั้นด้วยก็น่าจะดีๆ  เพื่อให้รัฐเอาเงินตรงนั้นไป หาวิธีบำบัดหรือลดมลพิษ ในพื้นที่นั้นๆ หรือ เอาเงินไปช่วยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล จากอาการป่วยของคนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจากมลพิษทางอากาศในพื้นที่นั้นด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2018, 16:03:22 โดย Mr. RO »

ออฟไลน์ Noncyclopedia

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,200
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 16:39:31 »
หัวข้อนี้.  ผมรออ่านพี่คนนึงเลย

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 16:54:24 »
   

ก็คงต้องรอเจ้านี้ พร้อมครองตลาดไฟฟ้าก่อนหละครับ   รัฐถึงจะเริ่มสนับสนุน

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 18:23:57 »
เกี่ยวอะไรกับ ปตท อ่ะ   เอกชนอื่นมีปัญญาทำก็ขายได้ก่อนนี่
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,952
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 18:38:52 »
อย่าพึ่งมองไกลเลยครับ ทั้งรัฐฯและ ปตท อะเกี่ยวข้องน้อยมากๆ

รัฐฯสนับสนุนอยู่แล้ว และลดภาษีให้แล้วด้วย (หาข้อมูลเอาเองนะ)

ปตท เป็นผู้ค้าน้ำมันก็จริง แต่เค้าไม่สามารถห้ามรถ EV ได้หรอกถ้ามันจะเกิด ..

ทีนี้ รถ EV จะเกิดได้ ดูผู้ผลิตรถยนต์แต่ละยี่ห้อเลยครับ เอาทั่วโลกเลยนะ อย่ามองเฉพาะที่ไทย ว่า ยี่ห้อไหนจริงจังรถ EV บ้าง ...

ถ้าค่ายรถพร้อมใจกันผลิต EV และเลิกผลิตรถน้ำมัน เราค่อยมาพูดกันต่อถึงเรื่องภาษีที่จัดเก็บ หรือราคาค่าไฟฟ้าครับ ...

อย่ามองอะไรไกลเกินเลย ... มโนกันไปเองทั้งนั้นเรื่องรถ EV ..ค่ายรถไม่เห็นมีใครจริงจังเลย (ยกเว้นเทสล่านะ) ต่อให้รัฐฯออกกฏหมายฟรีทั้งภาษีนำเข้า ฟรีทุกอย่างเลยในวันพรุ่งนี้  EV ก็ไม่เกิดครับ เพราะยังไม่มีใครทำออกมาขายจริงจังสักยี่ห้อเลย ...

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 19:22:18 »
เกี่ยวอะไรกับ ปตท อ่ะ   เอกชนอื่นมีปัญญาทำก็ขายได้ก่อนนี่

พูดถึงการผลักดันของรัฐ อ่ะ ประเทศไหนที่รถไฟฟ้าเติบโตได้ไปลองดูครับ รัฐมีส่วนช่วยผลักดัน  ทั้งนั้น ไม่ว่า คิดภาษีตัวรถมูลค่าถูก  ถ้านำรถน้ำมันไปเทรดเป็นรถไฟฟ้า มีเงินช่วยค่ารถใหม่ให้ส่วนนึง  สนับสนุนการเปิดสถานีชาร์ทไฟเพิ่มให้พอเพียง รวมถึงเเคมเปน รณรงค์ต่างๆให้คนหันมาใช้  ถ้ารัฐยังไม่ช่วยผลัก ยังไงมันก็ยังเกิดได้ยาก

คุณมีเงินตอนนี้คุณจะสั่งซื้อรถไฟฟ้าเลยก็ได้ เเล้วไฟหมดกลางทาง คุณหาที่เติมได้ยัง 

 บริษัทเอกชนรถจะลงทุนทำตลาด เอามาขายเค้าก็ต้องรอนโยบายภาครัฐเเละเเนวโน้มการสนับสนุน  ก่อนมั้ย เอามาขายโท่งๆตอนนี้ ก็เเย่สิ


ส่วนเกี่ยวไรกับ ปตท.  ปตท. นั้น กระทรวงการคลัง(รัฐ)ถือหุ้นไหญ่ ถ้ารถพลังงานไฟฟ้า จะมาเเทนที่ น้ำมันได้จริง ปตท.ก็ต้องปรับตัวพร้อมเเล้ว เพื่อยังคงกำไรส่วนไฟฟ้าให้มาเเทนน้ำมันได้ ไม่งั้นรัฐก็สูนรายได้ต่อปีมหาศาล  ถ้าปล่อยเอกชนรายอื่นเอาไปกินหมด 

ถ้าบอกว่า ปีหน้า รัฐจะผลักดันรถให้คนใช้ไฟ้า มากขึ้นมาเเทนน้ำมัน คิด ว่า ผู้ให้บริการน้ำมันเดิม ใครพร้อมเปลี่ยนแปลงสุดหละ มันก็อารมจะเอารถไปติดเเก้สทำไม ถ้า ยังหาปั๊ม เติมเเก้สไม่ได้   

เเล้วการที่ ปตท. หันไปสนใจลงทุนพลังงานไฟฟ้า มากเป็นเป็นพิเศษในช่วงนี้ คิดว่าบังเอิญหรอครับ....ผมว่าไม่

เเละสถานีบริการ ชาร์ทไฟ เป็นสิ่งใหม่ในไทย เเน่นอนว่าการจะเปิดสถานบริการไฟฟ้านี้ ต้องมีการขออนุญาติจากภาครัฐ ต้องมีการวางมาตรฐานความปลอดภัย เเละ สิ่งเเวดล้อมชุมชน อยู่เเล้ว ไม่ใช่เอกชนอยากเปิดก็มาเปิดโท่งๆได้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2018, 19:42:13 โดย r0u0g0e0k »

ออฟไลน์ Amnaj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 511
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 20:08:30 »
ความเห็นส่วนตัวผม

1.รถไฟฟ้าไม่มีทางราคาถูกกว่ารถสันดาป ในคลาสเดียวกัน แม้ว่ารัฐอาจเก็บภาษีน้อยกว่า
2.รถไฟฟ้ามาแน่นอนตามเทรนของโลก อีกไม่กี่ปีเราต้องเห็นวิ่งสวนกันบนถนนบ่อยๆ โดยเฉพาะในเมือง
3.สถานที่ชาตร์ขยายไม่ยากเชื่อว่า มีเอกชนรายใหม่ๆหรือรายที่มีธุรกิจอื่นอยากมาทำธุรกิจนี้ เช่นจุดชาตร์ในห้าง ในสถานที่เอกชนต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว เรียกว่าแย้งจับจองทำเลทำจุดชาตร์ไฟ เพราะจะสร้างรายได้ไปอีกหลายปี
4. ค่าไฟแพงขึ้นแน่ ทั้งระบบบ้านและเอกชน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2018, 20:10:16 โดย Amnaj »

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 21:23:18 »
เกี่ยวอะไรกับ ปตท อ่ะ   เอกชนอื่นมีปัญญาทำก็ขายได้ก่อนนี่

พูดถึงการผลักดันของรัฐ อ่ะ ประเทศไหนที่รถไฟฟ้าเติบโตได้ไปลองดูครับ รัฐมีส่วนช่วยผลักดัน  ทั้งนั้น ไม่ว่า คิดภาษีตัวรถมูลค่าถูก  ถ้านำรถน้ำมันไปเทรดเป็นรถไฟฟ้า มีเงินช่วยค่ารถใหม่ให้ส่วนนึง  สนับสนุนการเปิดสถานีชาร์ทไฟเพิ่มให้พอเพียง รวมถึงเเคมเปน รณรงค์ต่างๆให้คนหันมาใช้  ถ้ารัฐยังไม่ช่วยผลัก ยังไงมันก็ยังเกิดได้ยาก

คุณมีเงินตอนนี้คุณจะสั่งซื้อรถไฟฟ้าเลยก็ได้ เเล้วไฟหมดกลางทาง คุณหาที่เติมได้ยัง 

 บริษัทเอกชนรถจะลงทุนทำตลาด เอามาขายเค้าก็ต้องรอนโยบายภาครัฐเเละเเนวโน้มการสนับสนุน  ก่อนมั้ย เอามาขายโท่งๆตอนนี้ ก็เเย่สิ


ส่วนเกี่ยวไรกับ ปตท.  ปตท. นั้น กระทรวงการคลัง(รัฐ)ถือหุ้นไหญ่ ถ้ารถพลังงานไฟฟ้า จะมาเเทนที่ น้ำมันได้จริง ปตท.ก็ต้องปรับตัวพร้อมเเล้ว เพื่อยังคงกำไรส่วนไฟฟ้าให้มาเเทนน้ำมันได้ ไม่งั้นรัฐก็สูนรายได้ต่อปีมหาศาล  ถ้าปล่อยเอกชนรายอื่นเอาไปกินหมด 

ถ้าบอกว่า ปีหน้า รัฐจะผลักดันรถให้คนใช้ไฟ้า มากขึ้นมาเเทนน้ำมัน คิด ว่า ผู้ให้บริการน้ำมันเดิม ใครพร้อมเปลี่ยนแปลงสุดหละ มันก็อารมจะเอารถไปติดเเก้สทำไม ถ้า ยังหาปั๊ม เติมเเก้สไม่ได้   

เเล้วการที่ ปตท. หันไปสนใจลงทุนพลังงานไฟฟ้า มากเป็นเป็นพิเศษในช่วงนี้ คิดว่าบังเอิญหรอครับ....ผมว่าไม่

เเละสถานีบริการ ชาร์ทไฟ เป็นสิ่งใหม่ในไทย เเน่นอนว่าการจะเปิดสถานบริการไฟฟ้านี้ ต้องมีการขออนุญาติจากภาครัฐ ต้องมีการวางมาตรฐานความปลอดภัย เเละ สิ่งเเวดล้อมชุมชน อยู่เเล้ว ไม่ใช่เอกชนอยากเปิดก็มาเปิดโท่งๆได้เลย

ก็ไม่เห็นต้องเอะอะก็ ปตท เลย ในเมื่อรัฐ ไม่ได้เอาจริงขนาดนั้น ไม่มีอะไรชัดเจนจน ปตท ต้องลงทุนขนาดนั้น

ถ้ารัฐ ประกาศให้มันชัดเจนทั้งนโยบาย ทั้งกฎหมายมารองรับ แบบนั้น ปั๊มก็ทำให้ไม่ยากหรอก

แต่นี่ รัฐ บอกสนับสนุน แต่มันไม่ได้มีแรงดึงดูดต่อคนจะลงทุนเลย ขาดทุนรัฐ ไม่ได้มาจ่ายให้

อีกอย่างไฟฟ้ายังต้องซื้อเพื่อนบ้านอยู่เลย โรงไฟฟ้าประเทศตัวเองโดนต่อต้าน ความมั่นคงทางไฟฟ้าก็ไม่มีขนาดนั้น ลงทุนไปเยอะๆเสี่ยงที่จะเจ๋ง ต่อให้มีนโยบายรัฐมาสนับสนุน แต่ไม่ได้สนับสนุนจริงๆจังๆเลย

ผมเป็น ปตทก็ไม่อยากทำหรอก เจ้าไหนกล้าทำ ก็ทำไป จนกว่ารัฐ จะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าสักที และเปิดให้เอกชน ค่ายรถมาลงทุนเต็มที่ ตอนนั้นแหละ ถ้าเป็น ปตท ผมจะลงทุน ต่อเมื่อค่ายรถประกาศว่าจะส่งรถ EV มาขายค่ายละรุ่น สองรุ่น ในปีสองปี

แต่ไม่ใช่สั่งให้เจ้าของปั๊มลงทุนทำหัวจ่ายไฟฟ้า ตอนนี้ มันดูเปล่าประโยชน์ต่อเงินมาก
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ SRY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 713
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 21:39:42 »
แค่ฝนตกแรงๆ ไฟก็ยังดับเลย
จัดงานบุญมีหมอลำไฟตกทั้งชุมชน
แบตจะไปเร็วน่ะสิ

คิดว่ายังไม่พร้อม

ออฟไลน์ TNP

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 436
    • อีเมล์
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 10, 2018, 21:55:43 »
มองง่ายๆ

ไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา (พูดให้เพราะ  จริงๆ คือ ประเทศด้อยพัฒนา)

ของแบบ รถเก๋งไฟฟ้าในไทย ... ไม่ต้องไปคิดอะไรไกล

ลองมองประเทศพัฒนาแล้ว (โลกกลุ่มที่ 1) ที่มีอยู่หลายสิบประเทศ เป็นตัวอย่างก่อนเถอะครับ

ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา ฯลฯ 

มีประเทศไหน มีรถเก๋งไฟฟ้าใช้แพร่หลายกันแล้วบ้าง ???


รอให้เกิดในประเทศเหล่านั้น จริงๆ ก่อนเหอะ

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 11, 2018, 09:07:29 »
มันจะมีค่าไฟพิเศษเฉพาะจุดที่ชาร์จเร็วตามปั้ม ถ้าคุณชาร์จไฟตามบ้านก็คิดค่าไฟปกติ สมมติรถชาร์จไฟปกติกินไฟเท่ากับติดแอร์ 1 เครื่อง ปกติรัฐก็ไม่มานั่งเช็คว่าบ้านคุณติดแอร์ไปแล้วกี่เครื่องนะ ยิ่งบางคนเค้าติดพลังงานแสงอาทิตย์ใช้เองลงทุนไปเยอะจะไปคิดภาษีเพิ่มกับเค้าอีกเหรอ

ส่วนเรื่องกลัวรัฐขาดรายได้ ขึ้นกับรัฐสนับสนุนรถไฟฟ้ามั้ย ความคุ้มค่าด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ บางทีอากาศดีขึ้น คนเจ็บป่วยลดลง นักท่องเที่ยวมากขึ้น เผลอๆคุ้มกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2018, 09:12:28 โดย Jacob »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 11, 2018, 09:46:31 »
ตกลง EV หรือ เสียบปลั๊ก นี่ช่วยประหยัดกว่าหรือเปล่าครับ

ราคารถแพงกว่า ค่าไฟที่ชาตเข้าไป หรือถ้าเป็น plug-in hybrid ต้องมีค่าน้ำมันด้วย หรือบ้านใครต้องติด wall charge ด้วย

ค่าดูแล ซ่อมบำรุงอีก ที่ยังแพงกว่ารถปกติ


ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 11, 2018, 14:28:26 »
ก็พูดกันไปเยอะแล้วครับเรื่องรถ EV ในประเทศไทยทั้งเทคโนโลยี สถานีชาร์ท แบตเตอรี่  แต่ไม่รู้ว่ามีใครพูดถึงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงที่รถ EV เข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลายในไทยบ้างหรือยังที่ ผมลองคิด ๆ ไว้ก็มีอยู่ 2 ประเด็นหลัก ๆ ที่อยากจะให้เพื่อน ๆ ร่วมกันแชร์ความคิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน

1. ราคาค่าใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นมากไหม แล้วต้องโดนเก็บภาษีเฉพาะเหมือนน้ำมันหรือเปล่า ท่าไม่โดนรายได้ของรัฐหลายไปเยอะเลยนะครับ ถึงแม้ว่ารถใช้น้ำมันยังจะมีอยู่แต่ที่เมื่อไหร่สัดส่วน รถใช้น้ำมัน/รถ EV เป็น 50:50
2. ราคาจะแยกระหว่างไฟฟ้าสำหรับรถ EV กับบ้านเรือน อันนี้ผมว่าแยกยาก

ท้ายสุดแล้วเราจะได้ใช้รถที่มีเชื้อเพลิงราคาประหยัดจริง ๆ หรือครับ?

ค่าใช้ไฟฟ้า กฟน. และ กฟภ.เป็นคนคิด ผู้ใช้ตามบ้านคงไม่กระทบ แต่ตาม สถานีเติมไฟฟ้า ทาง กฟน.จะมาติดตั้งหม้อแปลง ให้รับโหลดได้มากขึ้น ตาม จำนวน หัวเติมไฟฟ้า

ค่าเติมไฟฟ้าตามสถานี ขึ้นกับ ข้อตกลงระหว่างสถานีกับเจ้าของที่ เช่น บ้านคุณอยู่สีลม ค่าชาจอาจจะชม.ละ 100 ในขณะที่ไปชาจ ที่ ฉะเชิงเทรา อาจจะชม ละ 40  หรือ ตามห้าง อาจชาจฟรี ถ้าช้อปเกิน 500 เป็นต้น

รถไฟฟ้าน่าจะเห็นจริงจัง กลางปีหน้า มีขายหลายยี่ห้อ nissan  leaf ก็จะมาจริงจัง น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี และรถจีน byd ด้วย รถไทยยี่ห้อ mine จะขายจริงจังก็ต้องปลายปีหน้า แต่ราคาจะน่าสนใจกว่ามาก

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,528
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 11, 2018, 21:06:10 »
ก่อนจะถึงจุดนั้น แค่มีรถถ่าน 1 ล้านคัน โรงไฟฟ้าจะพอไหมครับ

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 11, 2018, 22:53:27 »
เรื่องค่าไฟที่แพงขึ้น ผมคิดว่าไม่ค่อยมีผลกระทบมากเท่าไหร่ครับ

เพราะถ้าค่ายผู้ผลิตรถยนต์เค้าจะดันรถไฟฟ้า นำเข้ามาขายจริงๆ ยังไงคนก็ต้องซื้ออยู่แล้ว

แต่ประเด็นสำคัญที่น่ากังวลก็คือ ระยะเวลาในการชาร์จ และ ราคาแบตเตอร์รี่

จริงอยู่ที่ซื้อรถใหม่ ย่อมได้ Warranty อยู่แล้ว แต่หลังจากหมด Warranty ล่ะจะทำยังไง?

ถ้าเปลี่ยนแบตลูกนึงหลักแสน ผมคิดว่ารถไฟฟ้าคงจะเกิดได้ยากแน่นอนครับ

เพราะบ้านเราใช้รถกันอย่างน้อย 7-10 ปี ครับ ซึ่งก็น้อยคนที่จะเปลี่ยนรถทุกๆ 3-5 ปี

และในส่วนระยะเวลาของการชาร์จ ถ้าหากว่าต้องวิ่งต่างจังหวัดยาวๆ ใช้เวลา 10-12 ชั่วโมง

แต่นั่งรอชาร์จ 2-3 ชั่วโมง ต่อรอบการชาร์จ แบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

แต่เห็นในต่างประเทศมีการสลับแบตได้เลย ซึ่งก็ไม่ต้องรอชาร์จ แต่ในไทยจะทำได้มั้ยก็ต้องรอดูกันต่อไป

ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าแก้เรื่องระยะเวลาของการชาร์จ กับ ราคาแบตเตอร์รี่ที่ยังแพงได้ โอกาสก็มีมากขึ้นครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2018, 22:54:58 โดย BN` »

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
Re: วิเคราะห์อนาคตรถ EV ในไทย
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 12, 2018, 19:56:22 »
เรื่องค่าไฟที่แพงขึ้น ผมคิดว่าไม่ค่อยมีผลกระทบมากเท่าไหร่ครับ

เพราะถ้าค่ายผู้ผลิตรถยนต์เค้าจะดันรถไฟฟ้า นำเข้ามาขายจริงๆ ยังไงคนก็ต้องซื้ออยู่แล้ว

แต่ประเด็นสำคัญที่น่ากังวลก็คือ ระยะเวลาในการชาร์จ และ ราคาแบตเตอร์รี่

จริงอยู่ที่ซื้อรถใหม่ ย่อมได้ Warranty อยู่แล้ว แต่หลังจากหมด Warranty ล่ะจะทำยังไง?

ถ้าเปลี่ยนแบตลูกนึงหลักแสน ผมคิดว่ารถไฟฟ้าคงจะเกิดได้ยากแน่นอนครับ

เพราะบ้านเราใช้รถกันอย่างน้อย 7-10 ปี ครับ ซึ่งก็น้อยคนที่จะเปลี่ยนรถทุกๆ 3-5 ปี

และในส่วนระยะเวลาของการชาร์จ ถ้าหากว่าต้องวิ่งต่างจังหวัดยาวๆ ใช้เวลา 10-12 ชั่วโมง

แต่นั่งรอชาร์จ 2-3 ชั่วโมง ต่อรอบการชาร์จ แบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

แต่เห็นในต่างประเทศมีการสลับแบตได้เลย ซึ่งก็ไม่ต้องรอชาร์จ แต่ในไทยจะทำได้มั้ยก็ต้องรอดูกันต่อไป

ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าแก้เรื่องระยะเวลาของการชาร์จ กับ ราคาแบตเตอร์รี่ที่ยังแพงได้ โอกาสก็มีมากขึ้นครับ

 15 นาที วิ่งได้ 150 โล นี่ช้าไหมครับ  รถ mine ทำได้ครับ ด้วยระบบ dc supercharge รถยี่ห้ออื่นจะทำได้หรือไม่ ขึันกับ vcu ในรถครับ

แบตเตอรี่ จะมีโรงงาน เองที่นิคมที่ฉะเชิงเทรา และทำเป็นโรงไฟฟ้าขนาด 50 GW  และที่สำคัญคือ แบตเตอรี่จะมีสาร stoba ทำให้ไม่ติดไฟ ไม่ระเบิด  ไม่เกิดเหตุการณ์แบบ porsche ไฟไหม้ครับ