ผู้เขียน หัวข้อ: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา  (อ่าน 5614 ครั้ง)

RockmanJilly005

  • บุคคลทั่วไป
ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« เมื่อ: ตุลาคม 23, 2018, 21:38:03 »
กระทู้นี้ผมถามพี่ สมช เล่นๆแบบไม่ซีเรียสว่าในทุกแง่มุมของบ้านเรา พร้อมหรือไม่อย่างไรบ้างกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพราะเดี๋ยวนี้เราได้ยินข่าวบ่อยๆว่ามีหลายบริษัทสนใจมาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ รถจักรยานไฟฟ้าในประเทศไทยกันเกร่อมากเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2018, 21:46:13 โดย RockmanJilly005 »

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2018, 21:44:19 »
โรงไฟฟ้าไม่เกิดรถไฟฟ้าก็ตายแห้งครับ

อีกอันก็กฎหมาย และนโยบายที่รัฐบาลจริงใจเอื้อต่อการให้บริษัทมาลงทุนระยะยาว
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ lambkin

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 277
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2018, 21:53:12 »
ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,935
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2018, 21:54:36 »
 แท่นชาร์ตไฟน่าจะลงทุนน้อยกว่าปั๊มน้ำมันเยอะ ถ้ามีรถไฟฟ้าคงมีคนทำจุดชาร์ตไฟแน่นอน

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,044
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 05:31:07 »
บ้านเราผลิตไฟได้ไม่พอใช้อยู่ครับ .. แก้ตรงนี้ไม่ได้ รถไฟฟ้าไปต่อยาก

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,985
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 07:13:42 »
รัฐไม่เอื้อ ทุกอย่างไปได้ยากครับ กำแพงภาษีและเงื่อนไขหยุมหยิ๋มจะตามมา
ผมคิดว่าคงอีกหลายปีครับ และต้องรอ ตปท. ใช้ไปสัก 7- 8 บ้านเราถึงจะบูม เหมือนสมัยรถไฮบริค

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 07:21:15 »
ถ้ารัฐกันต่างชาติ ก็ต้องสนับสนุนคนในประเทศสร้างนวตกรรมอย่างจริงจังและจริงใจน่าจัเกิดได้ไม่ยากครับ

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 08:20:13 »
ตอนนี้มันพร้อมสำหรับขับใน กทม ครับ ที่ชาร์จเยอะแยะ แต่ถ้าออกต่างจังหวัดอาจจะไปได้แค่ พัทยา เขาใหญ่ หัวหิน และต้องวางแผนการเดินทางหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้ปรับตัวยากอะไร
แต่ที่ยังไม่พร้อมจริงๆ น่าจะเรื่องรัฐสนับสนุนภาษีอยู่ เพราะ ตปท ioniq ขายกันคันละ 1 ล้าน มาเมืองไทยราคาไป 1.7 ล้านบาท และรุ่นอื่นๆ ที่จะเข้ามา ไม่ต้องสืบ ราคาขาย d segment ขนาดรถ c segment แน่ๆ

ออฟไลน์ kabutoro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 901
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 08:47:59 »
ถ้าคุณขับรถแบบธรรมดาเข้าเมืองไปทำงานแบบปกติแล้วกลับบ้านระยะทางไม่เกิน50โลผมว่ามันก็โอเคอยู่ แต่ถ้าเป็นเซลวิ่งไปใหนมาใหนไกลๆคงต้องผ่านรถแบบนี้ไปละครับ และแน่นอนว่าถ้ามองในมุมมองของบ้านเรามันก็คงไม่คุ้มที่จะซื้อจริงๆล่ะนะ (หรือไม่ก็เอาไว้เป็นรถคันที่สองประจำบ้านก็น่าจะดีถ้ามันทำราคาได้ถูกมากกว่านี้)

ออฟไลน์ Jake

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 09:08:35 »
ถ้ารัฐกันต่างชาติ ก็ต้องสนับสนุนคนในประเทศสร้างนวตกรรมอย่างจริงจังและจริงใจน่าจัเกิดได้ไม่ยากครับ
ดูเหมือนที่ USA กำลังสนุกสนานกับการ ดัดแปลงรถไปสู่ไฟฟ้า

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 10:37:27 »
หน่วยงานของรัฐ ต้องปรับตัวให้ได้ก่อนนะครับ การรับรองคุณภาพ ความปลอดภัยของแบตเตอรี่ มันต่างจากรถไฮบริดที่ผ่านๆมา

และที่สำคัญผู้มีส่วนได้เสียกับการเข้ามาของรถไฟฟ้า จะทำอย่างไร

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 10:40:59 »
มาอีกแล้ว
-รัฐฯไม่สนับสนุน

รัฐฯสนับสนุนเต็มที่แล้วครับ เก็บภาษี 2% ได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่ 5 – 8 ปี หากมีการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญมากกว่า 1 ชิ้น จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นชิ้นละ 1 ปี แต่รวมแล้วไม่เกิน 10 ปี อ่านข้อมูลก่อนดังนี้ครับ

http://www.headlightmag.com/thailand-taxes-reduce-for-hybrid-plugin-ev/
https://www.mmthailand.com/boi-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C/

เบื่อแล้ว วลีรัฐฯไม่สนับสนุน รัฐกีดกัน บริษัทน้ำมันกีดกัน อะไรพวกนี้ มโนกันเองทั้งนั้น

เงื่อนไขรัฐฯทำให้ขนาดนี้ บริษัทรถยนต์ไหนบ้างที่คิดจะทำครับ อยากให้เกิด บอกบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ครับ เค้าไม่ทำมาขาย แล้วจะไปซื้อใช้จากที่ไหน ....
อย่าโทษรัฐฯ โทษบริษัทรถยนต์เถอะ ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2018, 10:42:51 โดย apinui »

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 12:53:07 »
สายไฟฟ้าที่ผ่านหน้าบ้าน กับ มิเตอร์ 30/100 ขึ้นไป ถ้าจ่ายค่าขอไม่ไหว เลิกคิด
คอนโด ห้องเช่า ตึกทั่วไปติดตั้งไม่ได้ ขนาดสาย มิเตอร์ ลงทุนแพง ไม่คุ้ม

ถ่านรุ่นใหม่ที่ดีกว่าลิเธี่ยม ใช้ไฟแรงดัน กระแสต่ำ อัดไฟได้เร็วเหมือนมือถือตอนนี้ได้ ถึงได้เกิด
รถไม่แพง อะไหล่ทน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย คนถึงกล้าเล่น แต่แอร์แพงเท่าไฮบริด และรถโทรมเพราะแอร์

10ปีข้างหน้ายังเร็วไปด้วยซ้ำ แค่สายไฟ สายสื่อสารลงดินยังยาก ไว้ค่าขอมิเตอร์ถูกคงเกิดได้
ป่านั้นโซล่าเซลคงดีและถูกพออัดไฟกันเองแล้ว ไม่ก็เครื่องแยกไฮโดรเจนพลังแสงอาทิตย์ถูกจนซื้อติดบ้านได้

ขนาดสนามบินไฟยังดับยาวถึง10นาที ทั้งที่ไฟสำรองต้องมาต่อทันที อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2018, 13:12:01 โดย bahamu »

ออฟไลน์ Pla_two🐟

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 78
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 13:06:40 »
จริงๆ ผมก็อยากใช้นะครับ แต่ประเทศเรายังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยประการทั้งปวงครับ

ถ้าตัดเรื่องนายทุนน้ำมันตัวร้ายกับรัฐบาลตัวแสบออกไป ประเทศเรายังผลิตไฟฟ้าได้ไม่มากพอที่จะป้อนให้รถไฟฟ้าหลายๆคันได้ แถมจุดชาร์จนอกบ้านก็ยังมีไม่มากพอที่จะชาร์จไฟให้รถไฟฟ้าวิ่งใช้งานได้แบบรถน้ำมันได้สมบูรณ์ อย่างสเปคคร่าวๆ รถ mine ที่คนไทยกำลังพัฒนาเตรียมผลิตจริงวิ่งได้ประมาณ 200 กิโลเมตร หรือ nissan leaf ที่สุดๆประมาณ 400 กิโลเมตร ถ้าสำหรับคนไทยที่ใช้รถออกต่างจังหวัดด้วยเพราะที่บ้านมีรถคันเดียวสมมติว่าต้องขับไปเชียงใหม่ หรือไปอุบลราชธานีซึ่งเกินระยะทำการของรถจะหาที่ชาร์จเติมได้ที่ไหนละครับ สถานีชาร์จที่บริษัทแม่ของ mine mobility พยายามกระจายให้มากที่สุดทุกวันนี้ผมยังเห็นอยู่แค่ที่เดียว คือตรงเส้นทางกรุงเทพเพชรบุรีอยู่เลย แล้วมันจะครอบคลุมการใช้งานของคนใช้รถทั่วไปได้อย่างไรครับ นี่ไม่นับรวมการจราจรในกรุงเทพที่รถติดได้ติดดี แถมถ้าจุดชาร์จไม่ค่อยมี โอกาสกลับไม่ถึงบ้านมีสูงครับ อาจจะได้จอดแบตหมดขวางทางจราจรรถคันอื่นซ้ำเข้าไปอีกครับ

สำหรับประเทศไทย จนกว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าและสถานีชารจ์จะเพียงพอ ตอนนี้ผมมองว่ารถแบบ e-power ตัวเลือกที่เหมาะที่สุดครับ หรือถ้านายทุนจะสนใจไอเดียของผมที่เอา methane จากการหมักขยะอินทรีย์ทำปุ๋ยมาสังเคราะห์เป็นไฮโดรเจน รวมกับไฮโดรเจนเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมาขายในปั๊มแก๊สสำหรับไว้ใช้กับรถ fuelcell แล้วละก็ รถพลังไฮโดรเจนก็เหมาะไม่น้อยสำหรับเมืองไทยครับ เพราะระยะทำการของมันเทียบเท่าหรือมากกว่ารถน้ำมันด้วยซ้ำ แถมคนไทยสามารถสร้างรถ fuelcell ทั้งคันได้นานแล้วครับ แค่ไม่ได้ผลิตขายเท่านั้น ถ้ามีทุนสนับสนุนที่มากพอและกฏหมายเอื้อให้ทำผมว่าน่าจะรุ่งนะครับ ทั้งรถไฟฟ้าและรถ fuelcell

ออฟไลน์ *Zatan_p2*

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 914
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 13:07:02 »
รัฐสนับสนุนจริง แต่ไม่ครบทั้งระบบ
เช่น สถานีชาร์จ โรงไฟฟ้า  การส่งเสริม รัฐยังไม่สนับสนุนเท่าที่ควร
ความมั่นคงในระบบไฟฟ้า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ การตั้งสถานีไฟฟ้าเนี้ย (ไม่ใช่โรงไฟฟ้านะ)  ชาวบ้านมองว่าบดบังทัศนียภาพ อันตราย บลาๆ
การตั้งโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก ชาวบ้านยังประท้วงอยู่เลยไม่เอาโรงไฟฟ้า ถ่านหิน แสงอาทิตย์  แล้วทีนี้ ความมั่นคงในระบบไฟฟ้า จะเอามาจากไหน ปัจจุบันยังไม่เพียงพอเลยครับในบางพื้นที่
เก่งแกมดีเป็นศักดิ์เป็นศรีกว่าเก่งแกมโกง

ออฟไลน์ chiltunder

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 128
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 13:17:15 »
เราว่าจะเกิดได้นอกจากสถานีชาร์จที่ครอบคลุมแล้ว ไฟฟ้าในประเทศต้องมีเสถียรภาพด้วย ณ เวลานี้ไฟฟ้ายังไม่พอใช้ในบางพื้นที่เลย เราสนับสนุนถ้าจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปเลย แล้วทำข้อตกลงกับประชาชนในพื้นที่นั้นๆว่า ถ้าสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วผลกระทบในระยะยาวมีอะไรบ้าง แล้วให้การไฟฟ้าแบ่งเงินครึ่งนึงจากกำไรมาให้ชุมชน เช่นเป็นค่ารักษาฟรี ตรวจสุขภาพฟรี ต่างๆ


** ทุกโรงไฟฟ้าย่อมมีข้อเสีย แต่ถ้ามัวแต่มาวิพากษ์วิจารย์ แล้วไม่ช่วยหาทางออก หรือหาจุดตรงกลางร่วมกันก็จะไม่มีวันได้สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆในอนาคตแน่นอน **

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 13:50:12 »
สถานีชาร์จ ระยะเวลาในการชาร์จต่อครั้ง รวมถึงไฟฟ้าทั้งหมดพอใช้ไหม มันมีอะไรอีกมากมายครับ

ต้องให้ลูกผสมใช้งานเกลื่อน รวมถึงราคาพาร์ทอะไหล่ไฮบริดที่ไม่สูงมาก เปลี่ยนได้ตามอู่

ออฟไลน์ Fambba

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 17:06:30 »
ถามเล่นๆ งั้นขอตอบเล่นๆ คิดเล่นๆ นะครับ
ตอนนี้มีแต่เป็นชิ้นๆ ไม่สามารถไปพร้อมกันทั้งระบบได้ครับ
รัฐสนับสนุนครับ แต่ไม่ทั้งระบบ เห็นส่วนมากก็ลดสิทธิทางภาษีเหลือไม่กี่ % บ้างอะไรบ้าง
การผลิตรถคันนึง ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วตั้งตูมๆ แล้วคนแห่ซื้อ...
ผลิตแล้วคนไม่ซื้อ ก็เหมือนในโลกออนไลน์ ที่ชอบคอมเม้นว่าทำไมไม่เอาเครื่อง โน่นนี่ option นี่มาลง สุดท้ายก็ไม่ซื้อ....

รัฐรายได้มาจากไหนบ้าง...รถยนต์คันนึงก็เสียภาษีเข้าเป๋าของรัฐ
น้ำมันก็ส่วนหนึ่งนะ ทุก 1 ลิตร เข้ากระเป๋ารัฐเท่าไหร่... ลองหาข้อมูลดูกันครับ (แล้วจะเปลี่ยนมาใช้ ev รัฐจะเก็บตังยังไงดีน้า)

ดังนั้นหลายๆ ท่าน คิดว่ามันน่าจะมาจาก บ.รถ ที่ไม่ขยับเอง
กลับมาที่รถยนต์ครับ คิดเล่นๆ สมมตินะครับ
รถยนต์สันดาบภายใน(ICE) คันนึงแบ่งชิ้นส่วน 1000 ชิ้น ถ้ากลายเป็นรถไฟฟ้า ชิ้นช่วนจะหายไปเหลือแค่ 500 ชิ้น
สมมติ 1000 ชิ้น มี บ.ผลิตให้ 1000 บ. จะกลายเป็นว่า ถ้าทำรถ ev บ.อีก 500 บ. เรียกว่าหายจากระบบ supply chain... แน่นอน ถังน้ำมันเป็น 1 ในนั้น
แล้วถ้า 500 บ. ที่หายไป เป็น บ.ลูกของแบรนด์รถยนต์ คงไม่มีใครอยากฆ่าแบรนด์ลูกตัวเองหรอกมั้ง....

ไทยเรามีกำหนด รถ 1 คัน ชิ้นส่วนต่างๆ  ต้องมีกระบวนการผลิตชิ้นส่วน ใช้แรงงานไทย ผลิตในไทย กี่ % อยู่ ผมจำไม่ได้ 60 หรือ 80 % นี่แหละ(ไม่ชัวร์เลข) ถึงจะเสียภาษีต่ำ
(เป็นที่มา ถ้านำเข้าทั้งคัน จาก ตปท. ราคาจะโดดไปไกลมาก สังเกตได้จากค่ายยุโรป ที่ตอนนี้เริ่มประกอบในไทย ราคาจึงถูกลง)

ชิ้นส่วน EV ตอนนี้ในไทยผลิตอะไรได้บ้างครับ... แบต ? บอดี้ (ต้องเป็น alu เทียบที่ความแข็งแรงเท่ากันกับเหล็ก alu เบากว่า)

ตัวอย่างที่รัฐเอาจริง ไปอยู่ที่เวียดนามครับ Vinfast รายนั้นเอาจริงมั่กๆ หลายๆคนคิดว่ามันจะไปได้หรอ เหมือนโปรตอน รถมาเล รถอินเดีย
ทำแล้วพัง มันก็มีค่าก็เหมือนกับ อยู่เฉยๆ แล้วพัง ...

นี่เรายังไม่พูดถึงความยั่งยืน ของไฟฟ้าในไทยเลยนะะะ ยังซื้อประเทศเพื่อนบ้านอยู่เลย
โรงไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้าน ทำซ่อมบำรุงที มีเสียว ถ้าวันใดวันนึงเค้ามีอำนาจต่อรองถึงขั้นไม่ขายให้เราก็....
สร้างโรงไฟฟ้าสิ... คัดค้านกันเต็มเลยครับ เหนือจรดใต้....

ออฟไลน์ Sleepy Boy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,417
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 17:15:23 »
ถ้าพูดเฉพาะในแบบยุติธรรมทุกฝ่าย ปัจจุบันระบบไฟฟ้ากับปริมาณกระแสไฟไม่พอจ่ายให้กับทุกครัวเรือน คนไทยเยอะแยะที่อาศัยจอดรถตามถนน ตรอก ซอย จะชาร์จทีต้องไปตามสถานี แต่ละคันก็ใช้เวลานาน ไม่เหมือนเติมน้ำมัน  คาดว่าน่าจะเป็น 10 ปีกว่าจะแพร่หลายจริงๆ ช่วงต้นคงมีแต่คนมีฐานะนำร่องใช้ไปก่อนครับ

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 18:26:19 »
ผมคิดว่าอย่างน้อยๆคงอีกประมาณ 10-15 ปีครับ ถึงจะพร้อมสำหรับรถ EV

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2018, 20:07:31 »
รัฐสนับสนุนมากหรือน้อย คงต้องดูอัตราการเพิ่มของจำนวนรถไฟฟ้า ถ้ามาถูกทางจำนวนต้องเพิ่มขึ้นทุกๆปีครับ แต่นี่ก็อย่างที่คนเห็น แสดงว่าคนที่กำหนดนโยบายยังไม่เข้าใจหรือยังไม่ตั้งใจสนับสนุนเพียงพอครับ

อย่าง นอร์เวย์ สนับสนุนทุกทาง ตั้งแต่ราคายันที่ชาร์จ จนตอนนี้ ยอดขายรถไฟฟ้าประมาณ50%แล้ว

ออฟไลน์ G.K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
  • Respect Others' Opinions.
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2018, 14:57:47 »
ส่วนตัวผมมองว่าปัญหาของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันคือ ปัญหาด้านระยะทาง สิ่งอื่นๆไม่ใช่ปัญหา ถ้าแก้ปัญหาเรื่องแบ็ตเตอรี่ได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นรถไฟฟ้าก็เกิดครับ เรื่องสาธารณูประโภคไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ ถ้าจะลงมือทำแผลบเดียวก็เสร็จ มันไม่ได้ซับซ้อนอะไร ส่วนเรื่องไฟไม่พอมันก็เหมือนกับการติดแอร์เพิ่มอีกตัว ไม่ใช่สาระสำคัญ เค้ามีแผนการสำรองอยู่แล้ว ความไม่พร้อมที่แท้จริงคือ ความไม่พร้อมทางทัศนะคติ

รถไฟฟ้าจะเริ่มเข้ามามีบทบาทจริงๆก็ปี 2020 ขึ้นไปครับ เพราะหลายๆเจ้าเค้ากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองอยู่ แต่อย่างที่บอกครับ ปัญหาอยู่ที่แบ็ตเตอรี่ที่เค้ากำลังขมักเขม้นวิจัยและพัฒนาอยู่ เพราะสิ่งนี้คือต้นทุนและตัวกำหนดราคาของตัวผลิตภัณฑ์ครับ

ออฟไลน์ natty ib-cm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2018, 15:35:55 »
ผมมองว่าถ้าเวลานี้ เทคโนโลยี e-power ของนิสสัน แน่จะตอบโจทย์มากกว่าไฮบริด หรือ ไฟฟ้าล้วนนะครับ  ที่พอจะเติบโตและขายได้ในไทย โดยที่สามารถบริการหลังการขายและการใช้งานจริง จะไม่เกิดปัญหาเท่าไหร่

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2018, 20:05:44 »
ที่บอกว่ารัฐไม่สนับสนุนที่ดีพอ ไม่ใช่ว่าประเด็นแค่ลงทุนอย่างเดียวนะ  แต่พื้นฐานที่จะทำให้คนหันมาใช้นี่มันเหมือนไม่สนใจเท่าไหร่เลย
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2018, 12:51:13 »
ผมว่า E-power น่าจะเป็นระบบ ที่เป็นไปได้ และ ทำได้ทันทีเลย

โดยใน gen ต่อไป ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีขึ้นระดับ 30-40 กม/ลิตร ในขนาดรถ B-seg ก็ยิ่งน่าสนใจครับ (มีข่าวออกมาบ้างว่า gen ต่อๆไปอาจได้ถึง 40 กม/ลิตร)
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2018, 13:11:47 »
รถ mine เริ่มจะวิ่งทดสอบได้ มกรา นี้ ชาจ  7 นาทีวิ่งได้ 100 โล โดยชาจที่ station fast charge ของ ea anywhere นะครับ ราคาเริ่มต้น หกแสนบาท สำหรับรุ่นสี่ประตู
รถ ไฟฟ้า มาแน่ มาเร็วๆนี้ด้วย ไม่เกิน สองปี จะเห็นเยอะขึ้นมาก เรื่องชาจ ถ้าไม่เจอสถานี ก็ชาจบ้านได้ แต่ใช้ระยะเวลาหน่อย ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา
สถานี ชาจ ea anywhere ตามเป้าคือ 1000 แห่ง ภายในกลางปีหน้า ตอนนี้ทยอยติดไปเรื่อยๆ น่าจะได้ประมาณ 3-400 แห่งแล้ว
ส่วนเรื่องปัญหาไฟฟ้าไม่พอ ไม่เกี่ยวกัน ทาง กฟน.สนับสนุนเต็มที่ รวมถึง โรงไฟฟ้าที่บอกว่า ต้องสร้าง เนื่องจากไฟไม่พอ ความจริงคืออาจจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำ เพราะ เราทำโรงงานแบต เก็บพลังงาน ไว้ตอนไม่ใช้ เช่น 1GW(ตามเป้าคือ 50 gw) นำมาจากพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน ลม หรือแสงแดด ชาจเอาไว้ พอถึงจุดที่ โรงไฟฟ้าไม่พอ ก็ปล่อยไฟฟ้าจากโรงงานแบตเข้าไปเสริม  หรือคิดกันถึงว่า ตามบ้านจะมี แบตสำรอง เก็บพลังงานไว้ใช้ ก็น่าจะเป็นไปได้
สิ่งที่จะบอกคือ รถไฟฟ้าไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอคอย 5ปี 10 ปี แต่มันจะมาเร็วมากแบบตั้งตัวไม่ติด ดังนั้นถ้าระบบพื้นฐานเราไม่มี เช่น ไม่มีสถานีชาจ ระบบพลังไฟฟ้าสำรอง นั่นจบเห่มากกว่า เพราะรถไฟฟ้ามันง่าย ใครเอาเข้ามาก็ขายได้แล้ว

ออฟไลน์ onbit40

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 215
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2018, 14:48:10 »
off peak บ้านเราเหลือๆ มันข้ออ้างว่าไฟไม่พอไฟฟ้าหายาก

ง่ายๆ supply - demand , ถ้ามันทำเยอะเกิน demand มันจะแพงเหรอคับ?  พลังงานทางเลือกเยอะมากๆ เกลือร้อน ,แสงอาทติย์ ,ลม , ถังลงแรงดัน   ทำ scale ใหญ่ๆ ผลิตได้เยอะกว่าพวก fossil fuse เสียอีก แต่เขาไม่ทำแค่นั้นเอง

ทุกประเทศแหละ ผลักของพวกนี้ให้เป็นภาระประชาชนฮ้าๆ

กลับมาบ้านเรา ที่มันไม่เกิดจริงๆคือ รัฐยังอุ้ม กลุ่มทุนเก่าอยู่คับ ทั้งน้ำมัน ทั้งผู้ผลิตยานยนต์  มันเรื่องเงินล้วนๆ ใครจะอยากรวยน้อยลงละคับ? ในเมื่อผูกขาดอยู่แล้ว ไฟฟ้ามา มันเป็นทางเลือก
คิดง่ายๆ ไฟฟ้าใช้กับรถนี่ จริงๆแล้วใน solar cell 20kw ตามบ้าน ผลิตกันได้สะบายๆ ถ้าใช้กันเยอะ คนก็หันมาติดผลิตไฟกันเอง ทีนี้เงินมันไม่ไหลเข้าส่วนหลาง น้ำมัน ภาษีน้ำมัน ภาษีรถ ชิ้นส่วน บลาๆ

ปล. อย่าเชื่อผมน่ะ ผมบ้า

ออฟไลน์ SRY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 713
Re: ความพร้อมของรถไฟฟ้าในบ้านเรา
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2018, 20:41:00 »
แค่มีหมอลำไฟยังตกทั้งหมู่บ้าน
ฝนตกแรงๆ หรือมีทีท่าจะแรงดับไฟรอ
คิดว่าไม่น่าพร้อมครับ