รอมานาน ในที่สุดก็เคาะ คำว่า ทางหลวงระหว่างเมืองออกมาสักที
อย่างสายเอเชีย วิ่งขึ้นเหนือ สายอีสาน สายใต้ เนี่ย จริงๆมันต้องเป็นทางหลวงระหว่างเมืองตลอดสาย
แล้วก็ให้กำนดเส้นทางให้ชัดเจนเลยนะว่า อันไหน ทางหลวงระหว่างเมือง ไม่ใช่ทางหลวงระหว่างเมือง
ไม่ใช่แบบที่สายอีสาน ที่จับความเร็ว 90 บนถนนมิตรภาพ(รึ พหลโยธิน ป่ะ) หรือตรงวงแหวนตะวันตก ก็จับที่ 90 โคตรตลก
ในข่าวใช้คำว่า "ถนนระหว่างเมืองทางด่วน" ดังนั้นทางหลวงระหว่างเมือง ที่ไม่ได้เป็นทางด่วน ยังไม่ได้มีการนำเสนอให้ปรับความเร็วครับ
เดี๋ยวรอดูตัวกม.จริงๆที่ปรับแก้อีกทีนะครัช
แต่ถ้าย้อนไปดูเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ข่าวลงไว้แบบนี้
http://www.nationtv.tv/main/content/378616132/จากกรณีที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)เตรียมปรับแก้เนื้อหาในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจราจรทางบกปี 2522 ให้ผู้ใช้รถใช้ถนน สามารถขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วที่สูงขึ้นจากเดิม 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นมาตรการที่สวนทางกับสถานการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามท้องถนนที่เพิ่มขึ้น
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 (ผบก.ส.3) ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจรา ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า แม้ว่าอุบัติเหตุจะมาจากการขับรถด้วยความเร็วสูง แต่ในการศึกษาของคณะทำงานพบว่า จากเดิมกฎกระทรวง ฉบับที่ 10 เมื่อปี 2524 กำหนดความเร็วไว้ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มในเขตเทศบาล กำหนดความเร็วไว้ไม่เกิน 80 กม./ชม. และ2.นอกเขตเทศบาล ไม่เกิน 90 กม./ชม.
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังกล่าวว่า ถนนในประเทศไทย มีความเสียดทาน ความกว้างของถนน ตามมาตรฐานของสหรัฐ ซึ่งกำหนดความเร็วที่ 65 ไมล์/ชม. หรือประมาณ 105 กม./ชม. แต่ไม่ใช่ว่า ถนนทุกสายจะใช้ความเร็วระดับเดียวกัน เพียงแต่เฉพาะถนนในเส้นทางที่มีความพร้อมในการใช้ความเร็วนั้นๆ ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดีคณะทำงานจำเป็นต้องหารือกับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม และประชาชนซึ่งต้องสามารถอธิบายได้ว่า การเพิ่มความเร็วระดับนี้จะปลอดภัยหรือไม่ อย่างไร
ส่วน
การใช้ความเร็วในเส้นทางมอเตอร์เวย์ เป็นถนนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะมีการคำนวณความเร็วที่เหมาะสมและกำหนดไว้ในกฎหมายพิเศษแล้ว เช่น มอเตอร์เวย์ สายตะวันออก กำหนดไว้ที่ 120 กม./ชม.และยังมีกล้องตรวจจับความเร็วตลอดเส้นทาง ซึ่งจะพบได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเคารพกติกา นั่นแสดงว่า เป็นความเร็วที่เหมาะสมต่อการเดินทาง
ส่วนทางด่วนแต่กลับกำหนดความเร็วที่ 80 กม./ชม.สวนทางกับวัตถุประสงค์ของการใช้เส้นทางที่ต้องการความรวดเร็วแต่เนื่องจาก กฎกระทรวง ฉบับที่ 10 กำหนดไว้ให้ในเขตเทศบาล ต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีข้อเสนอที่จะเพิ่มความเร็ว แต่ต้องเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เพื่อหารือถึงความเร็วที่เหมาะสมบนพื้นฐานของความปลอดภัยนั้นควรอยู่ในระดับใดต่อไป
ตัวเลขเบื้องต้นตั้งไว้ที่ประมาณ 105 - 110 กม./ชม.กับถนนที่อยู่นอกเขตเทศบาล ส่วนถนนในเขตชุมชนที่ความเร็ว 80 กม./ชม.นั้นเหมาะสมแล้ว แต่ในจุดที่ควรลดความเร็วลง เช่น หน้าโรงเรียน โรงพยาบาล จะกำหนดให้ลดลงโดยกำกับด้วยป้ายจราจร
สำหรับทางหลวงระหว่างเมือง ในเส้นทางตรง ยาว โดยไม่มีจุดตัดจะประมาณ 105-110 กม./ ชม. แต่เมื่อถึงจุดตัด ทางแยก ทางเชื่อม ก็จะลดความเร็ว โดยใช้ป้ายจราจรแสดงกำกับไว้ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับต่างประเทศนำมาใช้ควบคุมการเดินทางของประชาชนได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยอย่างไรก็ดีคณะทำงานเตรียมประชุมหารือกันร่วมกับหน่วยงานที่เกียวข้องในช่วงหลังสงกรานต์คาดว่า จากนี้ไปอีกไม่เกิน 30 วันก็จะมีคำตอบให้ประชาชน
ตรงที่ขีดเส้นใต้ไว้นะครับ
ในเมื่อ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ มีกม.พิเศษเขียนกำหนดความเร็วไว้แล้ว ที่ 120 จะลดมาที่ 110 เพื่ออะไรครับ ผมว่าคงไม่ใช่แล้วล่ะ
กับการพิจารณาตรง ทางหลวงระหว่างเมือง ในเส้นทางตรง ยาว โดยไม่มีจุดตัด เขียนแยกไว้ชัดเจนว่าแยกพิจารณากับ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)
เดี๋ยวรอดูกม.จริงๆละกันครัช