ผู้เขียน หัวข้อ: Turbo มีจุดอ่อนอะไร ทำไมไม่ถูกใช้เป็นส่วนประกอบมาตรฐานในรถทุกคัน  (อ่าน 14458 ครั้ง)

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,418
มีอุปกรณ์อะไรเพิ่มเข้ามา แน่นอนว่า ต้นทุนการผลิตเพิ่ม การ stock อะไหล่ ก้เช่นกัน คนซื้อก็ต้องดูแลเพิ่ม

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
อ่านแล้วทำไมผมรู้สึกว่าเทอร์โบมันงอกขึ้นมาจากดินเลย  อยากจะใส่ก็เดินไปเด็ดมา

 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Bank113

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
ต้นทุนคับ
เพิ่มขึ้นทุกอย่างเลยคับทั้งตัวเครื่อง
ระบบที่เพิ่มขึ้น ระบบระบายความร้อน เบนซินเทอร์โบ นี่ความร้อนสูงมากนะคับ
และที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือ ช่วงล่างคับ

ผมว่าพวกเครื่องเทอร์โบ มันเฉพาะกลุ่มคับ ไม่แพร่หลายขนาดnaในด้านราคาคับ

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
บริษัทรถยนต์ไม่ใช่มูลนิธิครับ เขาไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนารถยนต์ให้ดีที่สุด

แต่เขาต้องพัฒนารถยนต์ที่เขาได้กำไรมากที่สุด การที่เขาจะใส่อะไรมา

ถ้าไม่ใช่กฎหมายบังคับ ก็คือลูกค้าไม่มีใครซื้อรถที่ยังไม่มีอุปกรณ์นั้นครับ

ซึ่งการที่คนส่วนใหญ่ในไทยจะเลิกซื้อรถที่ไม่มีเทอร์โบ (ซึ่งราคาถูกกว่ามาก) คงยากในเร็ววันนี้ครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ระยะยาว มันไม่พังง่ายๆ นะครับ
ดูดีเซล สิวิ่งกัน 500,000 หลายล้านคันละมั้ง

จุดอ่อนคือแพง นั่นละ ไม่จำเป้นกับรถจ่ายและส่งลูก

ออฟไลน์ YOCHAI

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 55
    • อีเมล์
ตั้งตารอ ฮอนด้า ซิตี้ 1.0t  แต่อ่านคำตอบหลายท่านแล้ว  เหี่ยวเลย

ผมก็กำลังสนใจในรถ Honda ที่จะมีเครื่องใส่ turbo มาในหลายๆ รุ่น ช่วงนี้อยู่พอดี

กระจางเลย ครับ

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
เพราะต้นทุนล้วนๆเลยครับ

ออฟไลน์ Eakkypoo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 312
    • อีเมล์
ต้นทุนคับ
เพิ่มขึ้นทุกอย่างเลยคับทั้งตัวเครื่อง
ระบบที่เพิ่มขึ้น ระบบระบายความร้อน เบนซินเทอร์โบ นี่ความร้อนสูงมากนะคับ
และที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือ ช่วงล่างคับ

ผมว่าพวกเครื่องเทอร์โบ มันเฉพาะกลุ่มคับ ไม่แพร่หลายขนาดnaในด้านราคาคับ

ก็ร้อนจริงๆล่ะครับ
BMW F30 เบนซินนี่
ห้องเก็บของฝากระโปรงท้ายนี่
เวลาซิ่งเสร็จ อย่าไปเปิดออกมาเชียว ระอุ สุดๆ นะครับ
Turbo พัง ลูกละเหยียบแสน

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
Honda เนี่ยนะ ขายราคาเดิม 5555+

ลองไปหาข้อมูล Honda Freed ตัวแรกดู ล้านกว่า รถ 1.5 บ้าไปแล้ว

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,192
    • อีเมล์
ช่วงนี เทรน Downsizing เครื่องยนต์+เทอร์โบ ลดความจุCC.ลง แต่แรงม้าเท่าเดิมหรือมากกว่า มาแรง
ทำให้เครื่องยนต์ NA ค่อยๆลดลง และ ด้วยสภาพมลพิษทางอากาศ

แต่อุปกรณ์มากขึ้น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ปรับแต่งรับกับบูสจากเทอร์โบ
ค่าดูแลมากขึ้น ตอนซ่อมบำรุงรักษา เทอร์โบเบิกใหม่ไม่ใช้ถูกๆครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
city กับ jazz ใหม่ ถ้าเอา 1.0T มานี่บริษัทเสียภาษาลดลงนะ แล้วขายราคาเดิมออฟชั่นพอๆกับของเดิม หึหึ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,595
  • may the force lead your way ...
city กับ jazz ใหม่ ถ้าเอา 1.0T มานี่บริษัทเสียภาษาลดลงนะ แล้วขายราคาเดิมออฟชั่นพอๆกับของเดิม หึหึ

+1

ด้วยจุดขายที่เทียบเท่าเดิม เพิ่มเติมคือเข้าศูนย์แล้วต้องบำรุงเยอะขึ้น
กำไรจาก service ก็เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธที่ใช้ได้ครับ  :o
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
city กับ jazz ใหม่ ถ้าเอา 1.0T มานี่บริษัทเสียภาษาลดลงนะ แล้วขายราคาเดิมออฟชั่นพอๆกับของเดิม หึหึ

ในความเป็นจริงเเทบเป็นไปไมได้ที่จะขายราคาเดิม

ภาษีที่จ่ายลดลง ก็คงถือเป็นกำไรที่มากขึ้นของบริษัทนะผมว่า คงไม่คืนกำไรให้ผู้บริโภค ขนาดนั้น

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,492
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
Honda ราคาเดิม หึหึ

ลองไปดูเกรดพลาสติก และพาร์ทหลายๆชิ้นดูครับ แล้วคุณจะพบความจริง
Civic MY2019 1.8EL ไม่มีแผ่นกันความร้อนใต้กระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้ายก็เห็นสายไฟเปลือยๆ เลย มองงานตัวถังในห้องเครื่อง นึกว่ารถชนหนักมา เกือบจะไม่รับรถอยู่แล้ว
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
อุปกรณ์ส่วนเกี่ยวข้องกับโบ ถ้าทนไม่ได้ก็พังทั้งคัน
ทำให้เมื่อผูกโบต้องเปลี่ยนสเปกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกัน ให้ทนทานกว่าเดิมมาก
ส่งผลให้เงินทุนผลิตสูงต่อคัน เมื่อต้นทุนแพง ก็ต้องขายรถแพง กำไรก็ต้องหวังเพิ่ม
แต่ในเมื่อคนยังต้องการรถเดิมๆอยู่ ไม่โบก็ได้ ก็เลยไม่รู้จะเพิ่มโบในรถทุกคันไปทำไม
เพราะขายอย่างเดิม ขายง่ายกว่า มีคนต้องการเยอะอยู่ ลูกค้าซื้อไปก็ดูแลง่ายกว่า ซ๋อมไม่แพงด้วย
 8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ Sinplug

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 419
    • https://www.facebook.com/groups/4G64Club
    • อีเมล์
เอาว่ามันร้อนเวลาแช่มั้ง

"ผมก็แค่กะบะเบนซิล''4G64 Turbo  แรงม้า XXX Max. Torque 618 N/m''  
Facebook: 4G64 Club Thailand/4G64T Club Thailand

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
มันก็ทนทานดีนะ รถ benz bmw ถ้าไม่แต่ง ผมยังไม่เห็นมันพังสักคันเลย  แถมซีซีน้อยลง ประยหัดน้ำมันมากขึ้น

ออฟไลน์ F.I.P.G.

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 116
ในความคิดผมต่อไป เทอร์โบจะเป็นมาตรฐานในแทบจะทุกคันครับ
เหตุผลที่คำถามนี้เกิดขึ้นมา เพราะว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครับ เลยยังไม่เห็นทั้งหมด

อย่างที่ทุกท่านบอกไว้ว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนนี้สามารถชดเชยได้ด้วย สิทธิพิเศษทางภาษี และ
Economy of scale ครับ

ในเคสของ Honda นั้นผมว่ายังไงก็ต้องเป็น 1.0T ทั้ง Line-up หรือไม่ก็ Hybrid เป็นของเสริม
เพราะอย่าลืมว่ารถจะต้องเข้า ECO Phase-2 ซึ่งเครื่อง N/A เดิมนั้นไม่สามารถกดลงมาได้ต่ำกว่านี้ได้แล้ว
รวมถึงถ้าเครื่องตัวนี้จะแทนที่ 1.8์N/A ในอนาคตละ.....

ดังนั้นเหตุผลทั้ง 2 ข้อที่กล่าวถึงไปนั้นก็สามารถเป็นไปได้ใช่ไหมครับ

โดยปกติ Honda มักจะเป็นเจ้าแรกที่ทำให้ใช้ E85 อยู่แล้ว และถ้าทำได้อีกก็สามารถลดภาษีสรรพสามิตได้อีก

น่าคิดนะครับ....................

ปล.
1. https://www.honda.co.uk/cars/new/civic-4-door/performance.html
https://www.honda.co.uk/cars/new/jazz/performance.html

ลองดู FC 1.0T พบว่า CO2 เกิน 100 มานิดๆ พอๆกับ 1.3 i-VTEC เลย

แล้ว CITY-JAZZ ใหม่น่าน่าจะทำผลงานได้ดีอีกถูกต้องไหมครับ :)

2. เปรียบเทียบแรงบิด
1.0T
Peak: 200 Nm @ 2250 rpm /
Flat: 180 Nm @ 1700-4500 rpm

1.8 N/A (R18)
174 Nm / 4300 rpm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2019, 18:40:55 โดย F.I.P.G. »

ออฟไลน์ I_AM_IM

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 296
NA ดูแลง่ายไม่จุกจิก

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
ก็เหมือนเครื่องหัวฉีดของเบนซิน กับเครื่องไดเรคอินเจคชั่นของดีเซล ต้องผ่านการแข่งขันและพัฒนาทั้งด้านเทคนิคและต้นทุน

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
ในความคิดผมต่อไป เทอร์โบจะเป็นมาตรฐานในแทบจะทุกคันครับ
เหตุผลที่คำถามนี้เกิดขึ้นมา เพราะว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครับ เลยยังไม่เห็นทั้งหมด

อย่างที่ทุกท่านบอกไว้ว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนนี้สามารถชดเชยได้ด้วย สิทธิพิเศษทางภาษี และ
Economy of scale ครับ

ในเคสของ Honda นั้นผมว่ายังไงก็ต้องเป็น 1.0T ทั้ง Line-up หรือไม่ก็ Hybrid เป็นของเสริม
เพราะอย่าลืมว่ารถจะต้องเข้า ECO Phase-2 ซึ่งเครื่อง N/A เดิมนั้นไม่สามารถกดลงมาได้ต่ำกว่านี้ได้แล้ว
รวมถึงถ้าเครื่องตัวนี้จะแทนที่ 1.8์N/A ในอนาคตละ.....

ดังนั้นเหตุผลทั้ง 2 ข้อที่กล่าวถึงไปนั้นก็สามารถเป็นไปได้ใช่ไหมครับ

โดยปกติ Honda มักจะเป็นเจ้าแรกที่ทำให้ใช้ E85 อยู่แล้ว และถ้าทำได้อีกก็สามารถลดภาษีสรรพสามิตได้อีก

น่าคิดนะครับ....................

ปล.
1. https://www.honda.co.uk/cars/new/civic-4-door/performance.html
https://www.honda.co.uk/cars/new/jazz/performance.html

ลองดู FC 1.0T พบว่า CO2 เกิน 100 มานิดๆ พอๆกับ 1.3 i-VTEC เลย

แล้ว CITY-JAZZ ใหม่น่าน่าจะทำผลงานได้ดีอีกถูกต้องไหมครับ :)

2. เปรียบเทียบแรงบิด
1.0T
Peak: 200 Nm @ 2250 rpm /
Flat: 180 Nm @ 1700-4500 rpm

1.8 N/A (R18)
174 Nm / 4300 rpm

ยุคเปลี่ยนผ่าน ผมว่าต้องเป็น จากรถยนต์น้ำมันไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกกว่า

เทอโบเป็นเทคโนโลยีเก่ามากเเล้ว ซึ่งทุกคนรู้มันมีข้อดีบางอย่าง เเละก็ข้อเสียอีกบางอย่าง

 ในยุคนั้นจึงไม่มีใครสนใจนำมาใส่ในรถระดับใช้งานทั่วไปนัก ทั้งที่สามารถทำได้ เทเเต่เทอโบมักไปอยู่ในรถรุ่น เเเรงๆสะมากกกว่า

เเต่มาถึงปัจจุบันที่เทอโบกลับมาได้รับความนิยม มาจากกการเเก้ปัญหาที่หลายประเทศตั้งมาตรฐาน เครื่องยนต์ที่ปล่อยมลพิษ ให้มีขอบเขตต่ำลงทุกที เพื่อลดมลภาวะ รวมถึงความสำคันในการประหยัดเชื้อเพลิงด้วย  รถที่ ซีซีเยอะจึงผ่านมาตรฐานลำบาก

 ต้องดาวน์ไซส์เครื่องยนต์ลง เอาเทอโบมาเป็นตัวช่วยให้มีกำลังเพียงพอ เเละช่วยให้เผาไหม้ดีขึ้นอีกนิดหนึ่ง   เทอโบถึงกลับมาเป็นความนิยม ในรถทั่วไป เเต่ก็เเลกมากับการใช้งานของผู้ซื้อ ที่ต้องดูเเลมากขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2019, 11:23:37 โดย r0u0g0e0k »

ออฟไลน์ F.I.P.G.

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 116
ยุคเปลี่ยนผ่าน ผมว่าต้องเป็น จากรถยนต์น้ำมันไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกกว่า

เทอโบเป็นเทคโนโลยีเก่ามากเเล้ว ซึ่งทุกคนรู้มันมีข้อดีบางอย่าง เเละก็ข้อเสียอีกบางอย่าง

 ในยุคนั้นจึงไม่มีใครสนใจนำมาใส่ในรถระดับใช้งานทั่วไปนัก ทั้งที่สามารถทำได้ เทเเต่เทอโบมักไปอยู่ในรถรุ่น เเเรงๆสะมากกกว่า

เเต่มาถึงปัจจุบันที่เทอโบกลับมาได้รับความนิยม มาจากกการเเก้ปัญหาที่หลายประเทศตั้งมาตรฐาน เครื่องยนต์ที่ปล่อยมลพิษ ให้มีขอบเขตต่ำลงทุกที เพื่อลดมลภาวะ รวมถึงความสำคันในการประหยัดเชื้อเพลิงด้วย  รถที่ ซีซีเยอะจึงผ่านมาตรฐานลำบาก

 ต้องดาวน์ไซส์เครื่องยนต์ลง เอาเทอโบมาเป็นตัวช่วยให้มีกำลังเพียงพอ เเละช่วยให้เผาไหม้ดีขึ้นอีกนิดหนึ่ง   เทอโบถึงกลับมาเป็นความนิยม ในรถทั่วไป เเต่ก็เเลกมากับการใช้งานของผู้ซื้อ ที่ต้องดูเเลมากขึ้น

เท่าที่ผมลองจับประเด็น จากข้อความดังกล่าว คือ

1. ยุคเปลี่ยนผ่าน คือ การเปลี่ยนการใช้พลังงานแบบหนึ่งไปสู่อีกแบบหนึ่ง
ตอบ
- ไม่ผิดครับในกรณีถ้ามองแบบทั่วไป แต่ถ้าเราลองมองลึกลงไปอีกขั้นหนึ่งพบว่า การเพิ่มประสิทธิภาพของเดิมที่มีด้วยเทคโนโลยี ทำให้เกิดการใช้พลังงงานต่อหน่วยได้คุ้มค่ามากขึ้น อันนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านได้ไหมครับ
(ตัวอย่าง... คาร์บู>>>หัวฉีด>>หัวฉีดเดี่ยว>>หัวฉีดแยกตาม Port Intake>>Direct Injection // ห้องเผาไหม้ช่วย>>Direct injection>>Common rail Direct Injection)


2. เทอร์โบคือเทคโนโลยีเก่า แต่คือปัจจัยนึงที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพลังงานในปัจจุบัน ซึ่งมีข้อจำกัดคือค่าบำรุงรักษามากขึ้น
ตอบ
- แม้ว่าจะเก่า แต่ถ้าเพิ่มเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใส่ระบบอิเลกทรอนิกส์ เพื่อควบคุมให้มีการทำงานอย่างแม่นยำ แต่ว่าค่าใช้จ่ายบำรุงรักษามากขึ้น
ซึ่งส่วนนี้ถ้าแก้ไขได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตและเพิ่มจำนวนให้มีต้นทุนคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานที่ง่ายขึ้น อันนี้สามารถแก้ไขปัญหา 2 อย่างนี้ที่ตั้งกระทู้ได้ไหมครับ

เพราะ ผมมองว่าเทคโนโลยีต่างๆ ถ้ามันมาถูกที่ ถูกเวลา และสามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อของมนุษย์ได้ทีละนิดๆได้จนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างสนิทใจ มันก็สามารถเป็นไปได้ใช่ไหมครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2019, 12:48:56 โดย F.I.P.G. »

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
ยุคเปลี่ยนผ่าน ผมว่าต้องเป็น จากรถยนต์น้ำมันไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกกว่า

เทอโบเป็นเทคโนโลยีเก่ามากเเล้ว ซึ่งทุกคนรู้มันมีข้อดีบางอย่าง เเละก็ข้อเสียอีกบางอย่าง

 ในยุคนั้นจึงไม่มีใครสนใจนำมาใส่ในรถระดับใช้งานทั่วไปนัก ทั้งที่สามารถทำได้ เทเเต่เทอโบมักไปอยู่ในรถรุ่น เเเรงๆสะมากกกว่า

เเต่มาถึงปัจจุบันที่เทอโบกลับมาได้รับความนิยม มาจากกการเเก้ปัญหาที่หลายประเทศตั้งมาตรฐาน เครื่องยนต์ที่ปล่อยมลพิษ ให้มีขอบเขตต่ำลงทุกที เพื่อลดมลภาวะ รวมถึงความสำคันในการประหยัดเชื้อเพลิงด้วย  รถที่ ซีซีเยอะจึงผ่านมาตรฐานลำบาก

 ต้องดาวน์ไซส์เครื่องยนต์ลง เอาเทอโบมาเป็นตัวช่วยให้มีกำลังเพียงพอ เเละช่วยให้เผาไหม้ดีขึ้นอีกนิดหนึ่ง   เทอโบถึงกลับมาเป็นความนิยม ในรถทั่วไป เเต่ก็เเลกมากับการใช้งานของผู้ซื้อ ที่ต้องดูเเลมากขึ้น

เท่าที่ผมลองจับประเด็น จากข้อความดังกล่าว คือ

1. ยุคเปลี่ยนผ่าน คือ การเปลี่ยนการใช้พลังงานแบบหนึ่งไปสู่อีกแบบหนึ่ง
ตอบ
- ไม่ผิดครับในกรณีถ้ามองแบบทั่วไป แต่ถ้าเราลองมองลึกลงไปอีกขั้นหนึ่งพบว่า การเพิ่มประสิทธิภาพของเดิมที่มีด้วยเทคโนโลยี ทำให้เกิดการใช้พลังงงานต่อหน่วยได้คุ้มค่ามากขึ้น อันนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านได้ไหมครับ
(ตัวอย่าง... คาร์บู>>>หัวฉีด>>หัวฉีดเดี่ยว>>หัวฉีดแยกตาม Port Intake>>Direct Injection // ห้องเผาไหม้ช่วย>>Direct injection>>Common rail Direct Injection)


2. เทอร์โบคือเทคโนโลยีเก่า แต่คือปัจจัยนึงที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพลังงานในปัจจุบัน ซึ่งมีข้อจำกัดคือค่าบำรุงรักษามากขึ้น
ตอบ
- แม้ว่าจะเก่า แต่ถ้าเพิ่มเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใส่ระบบอิเลกทรอนิกส์ เพื่อควบคุมให้มีการทำงานอย่างแม่นยำ แต่ว่าค่าใช้จ่ายบำรุงรักษามากขึ้น
ซึ่งส่วนนี้ถ้าแก้ไขได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตและเพิ่มจำนวนให้มีต้นทุนคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานที่ง่ายขึ้น อันนี้สามารถแก้ไขปัญหา 2 อย่างนี้ที่ตั้งกระทู้ได้ไหมครับ

เพราะ ผมมองว่าเทคโนโลยีต่างๆ ถ้ามันมาถูกที่ ถูกเวลา และสามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อของมนุษย์ได้ทีละนิดๆได้จนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างสนิทใจ มันก็สามารถเป็นไปได้ใช่ไหมครับผม

ถ้ามองถึงการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี ลองมองเครื่องยนต์ skyactive x  ของมาสด้าครับ อันนั้น นวัตกรรมใหม่ ที่มาเปลี่ยนการเครื่องยนต์เบนซินของจริง

มุมมองส่วนตัวผม เทอโบยังไม่ใช่ครับ  เป็นเเค่อุปกรณ์ร่วมภายนอกเครื่องยนต์เบนซินระบบเดิมๆ มาเพิ่มเเรงอัดอากาศ เข้าไปห้องเผาไหม้ได้เยอะขึ้น  เค้นเเรงม้าเพิ่มขึ้น จากก การทำงานระบบเดิมๆของเครื่องยนต์

จะเทียบกับ การเปลี่ยนผ่าน คาบิวมาเป็นหัวฉีดไม่น่าได้ นั้นถือเป็นการเปลี่ยนเทคโลยีการควบคุมการจ่ายเชื่อเพลิงไปเลยอย่างสิ้นเชิง จาก เเมคคานิค เป็นอิเลคโทรนิค เเละเป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์กว่าเดิม อย่างที่ทำให้คาบิว เเทบสูนพันธุ์ไปเเล้ว

เเต่เป็นสิ่งที่เทอโบไมไ่ด้จำเป็นขนาดนั้น เพราะเทอโบมีมานานเกิน 30ปีเเล้ว จนถึง ปัจจุบัน ก็ยังมีทั้งรถที่มีก็ดีไม่มีก็ได้   ถ้ามันมีความสามารถเปลี่ยนผ่านเทคโลโนยีเครื่องยนต์ได้จริง ผ่านมาเกิน 30ปี รถยนต์ควรจะเป็นระบบเทอโบไปหมดเเล้ว  เเต่ทุกวันนี้ ก็ยังไมไ่ด้เเพร่หลายขนาดนั้น หลายค่ายหลายรุ่นก็ยังพัฒนาเบนซิน กันต่อไป โดยไม่ได้จำกัดว่าต้องเทอโบ  อย่างมาสด้า sky activex ก็มีสิ่งที่ข้ามผ่านเทอโบไปไกลเเล้ว

ส่วนสาเหตุที่กลับมานั้นก็เเจ้งไปเเล้วว่า มาตรฐานต่างประเทศยิ่งญี่ปุ่นเเละยุโรป จะเข้มงวดมากขึ้นทุกปีๆ เข้มจนถึงขั้นมีเเผน ให้รถยนต์ปล่อยมลพิษเป็น 0% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า  ตอนนี้เพื่อผ่านการควบคุมเหล่านั้น เครื่องดาวไซส์จึงจำเป็น  การติดเทอโบร์ จึงเป็นทางออก ที่จะใช้เครื่องเล็กลง เเต่เรียกเเรงม้าไห้กลับไปเท่าขนาดเครื่องเดิม





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2019, 13:30:03 โดย r0u0g0e0k »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


ข้างบนถูกครับ
Turbo ถูกนำมาใช้ กับรถบรรทุก นานแล้ว เพื่อจุดประสงค์ ประสิทธิภาพ
คราวนี้ มันถูกบังคับ ให้ประจำกับ รถบ้าน เบนซินแทบทุกขนาดแล้ว