Volvo S90 Inscription + Polestar Performance Package
ผมย้ายข้อมูลจากเก่า
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=64584.0มาที่หมวด User's Voice ด้วยนะครับ
335 Days - 40100 KM
โดยรวมยังไม่พบปัญหาอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์แต่อย่างใด ช่วงล่างรู้สึกไม่มั่นใจขึ้น อาจจะเกิดจากผมขับไปต่างจังหวัดบ่อยเส้นทางอาจจะไม่ดีนัก
ตอนนี้ส่งให้ทางศูนย์ตรวจเช็คระยะ 40000 KM อยู่ พบว่าน้ำมันเกียร์จะเปลี่ยนตอน 60000 KM แต่ก่อนหน้านี้พนักงานในศูนย์บอกผม 40000 KM แต่เราก็ยังไม่ได้เช็คในคู่มือให้ชัด ผมเลยมีรายการที่ให้ศูนย์ทำเพิ่มเติมคือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ไปเลย ทางศูนย์แจ้งมาว่า ประมาณ 10000 บาท ก็เลยตกลงไป (ได้ผมรับรถแล้วจะถ่ายรูปใบตรวจเช็คระยะมาให้ดู)
รอรับรถอีกทีหลายวันอยู่เนื้องด้วยช่วงหลังปีใหม่คิวยาวเยียดยันสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เพราะอาจเป็นที่ศูนย์บริการน้อยด้วยคนเลยมาแย่งกันใช้บริการ
โดยรวมระบบตัวรถจะมีปัญหาบ้างแต่ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นปัญหาที่เกิดความน่ารำคาญ ไม่ถึงกับ Critical ใช้รถไม่ได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น List
- เวลาหมุนพวงมาลัยขณะที่เบรคหรือ Brake Hold ทำงาน จะมีเสียงกึกๆๆๆดังจากซุ้มล้อ แต่ใส่ Parking Brake ไม่เป็น น่าจะเกิดจากจานเบรค เท่าที่ให้ศูนย์เช็คน่าจะแก้ไม่ได้ และพบว่าหลายๆคันเป็นรวมถึงคันที่ Test Drive
คลิปตัวอย่าง: https://photos.app.goo.gl/yiKMe3Jb84gMGQbEA - ตัวแบตมีอาการเสื่อมสภาพไปบ้าง จากเดิม Hybrid หน้าปัดแจ้งว่าวิ่งได้ 40 KM เมื่อ Max Battery Level ปัจจุบันแจ้ง 38 KM
- กล้อง 360 มีอาการเออ๋ภาพจากขวาไม่ขึ้นเป็นสีดำ เริ่มเป็นหลังจาก Update software ครั้งแรก
คลิปตัวอย่าง: https://photos.app.goo.gl/chUH1FV8XEhNuCcx8 - ยางเปลี่ยนไปแล้วจาก Michelin Pilot Sport 4 มาเป็น Bridgestone RE003 พบว่า อาการย้วยหายไปพอสมควรยัดโค้งได้ดีขึ้นแลกกับเสียงที่ดังขึ้นตั้งแต่เปลี่ยนยาง สรุปคืออาการย้วยส่วนนึงเกิดจากยาง แต่ก็ยังไม่พ้นช่วงล่างที่ไม่เหมาะแก่การขับรุนแรง เพราะเด้งย้วยพอสมควร เสมอต้นเสมอปลาย
- ในกรณีที่ใช้ขับเคลื่อนเป็นไฟฟ้าอยู่และ เข้าเกียร์ถอยหลังถอยรถและเปลี่ยนเกียร์ไป N และ D ในขณะที่รถกำลังจะหยุดนิ่ง Brake Hold มีโอกาศพยายามทำงานและทำให้เกียร์ D เร่งไม่ขึ้น โดยเสียงมอเตอร์ไฟฟ้าจะดังค้างเพราะพยายามจะเร่งความเร็ว ถ้าเปลี่ยนเป็น N ปล่อยให้ Brake Hold ทำงานสำเร็จจะ เสียงจะหายไป และเกียร์ D จะเร่งได้ปกติ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจะมีเสียงดังปั้ง !!! (ยังไม่ทราบที่มาของเสียง)
- เวลาล๊อครถกระจกพับบ้างไม่พับบ้าง
- เวลาขับรถอยู่บางครั้งเหมือน Memory ของ Sensus เต็ม จอจะ Reboot ไปดื้อๆ ที่สังเกตจะเป็นตอนต่อ Android auto ซึ่งบางทีมีปัญหากับตัวมือถือทำให้ระบบเดี้ยงไป กับตอนใช้ Spotify ที่ติดกับตัว Sensus (เพราะ Sensus น่าจะเป็น android ที่ modified มาซึ่งปัญหาดั่งเดิมของระบบนี้ ก็คือ memory management) ซึ่งบางครั้งก็ดับไปไม่ตื่นเลยและแอร์ก็ดับตามไปสะงั้น แต่บางครั้งก็ Reboot กลับมาได้ไว เคยเป็นรวมกันทั้งหมด 4 ครั้ง หนักสุดครั้งเดียว
- Adaptive light โดยรวมใช้ได้ดี 70% อาจจะยังไม่ฉลาดมากนัก ผมขับรถออกต่างจังหวัดบ่อยและขับกลางคืนแทบเกือบทุกครั้ง พบว่ามันชอบไปเปิดไฟสูงอัดมอไซด์ หรือ ถนนที่มีต้นไม้แทรกตรงกลาง พร้อมมีรถฝั่งตรงข้ามที่อยู่ในระยะไกลๆ ซึ่งกว่ามันจะยอมลดไฟเป็นไฟต่ำ ก็โดนสาดไฟอัดหน้าไปแล้ว
- เบาะหนังเฉพาะคนขับเริ่มมีอาการแตกลายงาบริเวณด้านปีกขวาเพราะเกิดจากการเสียดสีที่บ่อยเวลาขึ้นหรือลงจากรถ เพราะการเข้าออกรถที่นั่งคนขับสำหรับคนอ้วนน้ำหนัก 108 กิโล อย่างผมมีลำบากบ้าง
- ที่ปัดน้ำฝนถ้าเปิดระดับสามหรือแรงสุดจะแรงแค่ช่วงแรกๆ หลังจากนั้นช้าลงพอสมควรจนรู้สึกเหมือนความเร็วเพิ่งเป็นระดับสอง ไม่มั่นใจเป็นที่อะไรและ
พบปัญหานี้ตอนฝนตกหนักช่วงเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาทำให้ต้องแทบจะจอดเปิดไฟฉุกเฉินเพราะปัดน้ำฝนไม่ทันมองไม่เห็นถนน - หาวิธีปิดไฟ Daylight ไม่ได้
- พึ่งสังเกตุว่าไฟเลี้ยงสว่างมากๆ เปิดทีเวลากลางคืนป้ายทุกป้าย เป็นสีส้มสะท้อนกลับหมด
- Sensus สามารถติดตั้ง Spotify ในตัวระบบได้ แต่ปัญหาคือถ้าตั้ง Quality ของเสียง เป็น Extreme เสียงที่ได้ออกมาดีเลยละ แต่ๆๆ ติด Buffer บ่อยมากครับ ทั้งๆที่เน็ตในมือถือที่แชร์ไปค่อนข้างแรง เหมือนระบบ Sensus Process ไม่ทัน บางครั้งค้าง Buffer ยาวๆจนต้องเปลี่ยนมาใช้ Android Auto แทน
- ส่วน Adaptive + Cruise Control เหมาะแก่การใช้งานในทางด่วน ที่สุดครับ และไม่เหมาะกับการใช้ในเมืองเลยแทบทุกที่ ที่เป็นเมือง เพราะ รถมอเตอร์ไซต์ครับ ที่เข้ามาแทรกตัวตลอดโดยเฉพาะปาดหน้ารถ ซึ่งทำให้รถเราคิดว่ารถคันหน้าเบรคกระทันหัน รถเราก็เบรคหน้าหงายครับแล้วมอเตอร์ไซต์ก็ขับไปแบบชิวๆ บางครั้งมอเตอร์ไซต์ที่ขับอยู่ระหว่างรถเรากับรถคันหน้า ถ้ามอเตอร์ไซต์ขับแทรกซ้ายหรือขวาผ่านรถคันหน้าเราไป รถเราจะคิดว่ารถคันหน้าขับไปแล้วเร่งขึ้นจนเกือบชนรถคันหน้า จนเราต้องกดเบรคเอง และถ้ารถติดการรักษาระยะห่างอาจจะยังไม่ดีหนักแม้ตั้งให้ขับเข้าแบบใกล้คันหน้าที่สุด สุดท้ายรถคันอื่นก็จะเข้ามาแทรกตลอดเวลาจนรถเราไม่ได้ไปไหน หรือรถเราดันมองไม่ออกว่ามีรถเข้ามาแทรกก็จะพุ่งไปชนซะงั้น
--------------------------------------------------------------------------------------45 Days - 5100 KM
เดินทางต่างจังหวัดประมาณ อาทิตละครั้ง
ผมใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางไปทำงานทุกวัน
https://goo.gl/maps/KxL1yHJZn7S2ออกเดินทางประมาณ 9-10 โมง ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงที่ทำงาน
ระยะทางประมาณ 19 KM ไปและกลับ ประมาณ 40 KM เพราะเส้นทางกลับจะคล้ายๆกัน
Drive Mode เป็น Pure หน้าปัดแจ้ง สามารถวิ่งได้ 45 KM (สำหรับ Hybrid จะแจ้ง 40 KM ขาดว่าจะสำรองไฟไว้สำหรับเรื่องอื่นๆ)
พบว่าเมื่อขับจากที่บ้านจนถึงที่ทำงาน หน้าปัดแจ้งเหลือ 20 KM พบว่าค่อนข้างไม่ตรงกับระยะทางที่เดินทางน่าจะเกิดจากใช้ไฟ Idle รถระหว่างรถติด
อัตราสิ้นเปลืองในเมืองขับแบบเรื่อยๆตามสภาพจราจร
2-3/100 L/KM = 34 - 50 KM/L
อัตราสิ้นเปลืองนอกเมือง ความเร็ว 100 -160 KM/H
7-8/100 L/KM = 12.5-14 KM/L
อัพเดทเพิ่มเติม
อัตราสินเปลืองจากการขับจากกรุงเทพ - นครพนม ครับ
ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนได้รับรถ ประมาณ 1000 บาท
เบาะนั่ง
เบาะนุ่มนั่งสบายจริงครับ เป็นเบาะ Nappa เบาะนั่งจะเป็น แอ่งพอสมควร พอนั่งลงไปแล้วจะสบายแต่ลุกออกจากรถลำบากพอสมควร เบาะที่นั่งตรงกลางด้านหลังค่อนข้างแข็งครับเหมือนไม่ได้ทำมาให้นั่งเท่าไหร่ พื้นที่ภายในรถค่อนข้างเหลือเฟือครับ มีครั้งนึงผมพาน้องๆที่บริษัทไปกินข้าว อัดกันไปได้ 8 คนรวมคนขับ ก็สามารถยัดกันเข้าไปได้
การดูแลรักษาพบว่ายากพอสมควรครับ แปบเดียวก็เริ่มมีรอยดำตามขอบเบาะแล้วครับ ส่วนเบาะคนนั่งที่เข้าออกลำบากก็พาทำเบาะเสียไปด้วย เพราะน้ำหนักตอนลุกจากรถมันไปลงตรงขอบเบาะพอดีทำให้เบาะเป็นรอยบริเวณดังกล่าวพอสมควร
Handling
พบว่าตัวรถช่วงล่างถูกเช็ทมาค่อนข้างนิ่ม เวลาขับเจอพวกลูกระนาดไม่ค่อยรู้สึกกระแทกและเสียงไม่ค่อยมี หลุมเวลาตก ไม่ค่อยรู้สึกชัดเจนเหมือนขับผ่านไปเฉยๆ เวลาใช้ความเร็ว 160 -180 รู้สึกถึงความไม่มั่นใจเพราะรถมีอาการลอยตามช่วงรอยต่อของถนน อีกทั้งเวลาเทโค้งความเร็วสูงๆมีอาการโคลงจนต้องเบรคช่วย โดยรวมเหมาะกับขับรถเร็วทางตรงถ้าเจอถนน โค้งเยอะๆ ขับแบบธรรมดาดีกว่า ตัวรถผมรู้สึกว่ามันสูงกว่ารถ Sedan ทั่วๆไปครับ พวกเนินหรือทางขึ้นชันๆ พวกฟุดบาทที่ไม่สูงมาก ไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ผ่านได้สบายๆไม่มีอะไรครูด น่าจะเป็นเหตุผลที่มันโคลงด้วยละมั้งครับ
การเก็บเสียง
เสียงจากลม เสียงลมเริ่มจะมีเข้ามาตั้งแต่ช่วง 120 KM แต่ถ้าเปิดเพลงดังขึ้นมาหน่อยก็กลบเสียงลมไปหมด แต่ก็รู็สึกว่าเสียงลมดังพอสมควร
เสียงจากพื้นถนนผมไม่เคยใช้ยาง PS4 มาก่อนเหมือนกันแต่เสียงช่วงต่อระหว่างถนนค่อนข้างดังอีกทั้งถนนที่ขรุขระเสียงจะดังมากเป็นพิเศษ จนคิดว่าครูดอะไรอยู่
เสียงลำโพงที่เปิด จาก Android Auto เปิดเสียงครึ่งนึง พบว่ามีเสียงรอดออกมาจากรถค่อนข้างเยอะ (คนข้างนอกรู้หมดเลยฟังเพลงอะไรฮ่าๆๆๆ)
ระบบความปลอดภัย
- ระบบเตือนการชน เวลาทำงานจะมีการเบรคจึ๊กแรกให้เราร้สึกตัวว่าต้องทำอะไรต่อไปถ้าเรา Action ต่อระบบรถก็จะช่วยสนับสนุน Action นั้นๆครับ แต่บางทีก็ไม่น่าเด้งเตือนเหมือนกันเบรคจึ๊กนึงหน้าหงายทั้งรถครับ ผมได้มีโอกาศใช้ ระบบนี้ตอนรถข้างหน้าเบรคกระทันหันแล้วระบบแจ้งเตือนขึ้นระบบทำผมทำการหักพวงมาลัย ไปทางขวาเพื่อเปลี่ยนเลนโดยผมพบว่าพวงมาลัยรถช่วยผมหมุนพวงมาลัยให้ผมหักพวงมาลัยไปพอดี กับ เลนขวามือเป๊ะๆ ซึ่งผมก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันเพราะไม่คิดว่ามันจะช่วยขนาดนี้
- ระบบ Lane assist ตัวนี้ช่วยได้เยอะมากเวลาขับทางไกลถ้ามีการขับไปเหยียบเส้นถนน พวงมาลัยจะสั่นพร้อมกับหักคืนให้กลับไปที่เลน ระบบนี้จะไม่ทำงานถ้าเราเปิดไฟเลี้ยวครับและสามารถเปิดและปิดได้ครับ
ระบบเสียง (Bower and Wilkins)
- ผมจะ Set Sound Profile เป็น Individual Stage ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนนั่งฟัง Concert เล็กๆจากด้านหน้าเวทีครับ แล้วก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆครับ ตัวเสียงที่ได้มาถ้าใช้ Bluetooth เสียงจะแห้งๆ Base ไม่ค่อยมี พอเปลี่ยนเป็น Android Auto ดีขึ้นเยอะมากครับ Source จากเสียงผมก็ไม่ได้ดีมากอะไร เป็น App Spotify Premium แต่ Happy กับเสียงที่ได้กลับมาครับ
ระบบอื่นๆ
- Sensus ของ Volvo ตั้งแต่ใช้มาไม่เคยรวนจนมีปัญหาครับ แต่ที่หงุดหงิดหน่อยคือความ Sensitive ของ Touch screen ที่มันให้ความรู้สึกเหมือน Tablet จีนมาก
กดไม่ค่อยติดพอกดตรงๆกลายเป็นเลื่อนหน้าจอ สร้างความสมคารพอสำควรถ้าต้องกดอะไรระหว่างขับรถ
- Clean zone กับ Parking climate สองระบบนี้ผมรู้สึกดีที่มีมันนะ Cleanzone จะเป็นตัวฝอกอากาศในรถซึ่งช่วยผมได้เยอะเวลาเดินทางที่ๆมีฝุ่นเยอะๆ ส่วน Parking climate ผมตั้งเวลาไว้ตอนเช้า ระบบจะทำการเปิด Air condition ทิ้งไว้ในช่วงเวลาที่กำหนด พอขึ้นรถก็ เย็นช่ำเลย
- ระบบไฟ ผมกลับชอบไฟรถยนต์สีเหลืองขาวมากกว่า ขาวจั๋วแหะ ผมเป็นคนขับรถกลางคืนความสบายตาในการมองถนนมันหายไปเยอะพอสมควร อีกทั้งรถฝั่งตรงข้ามชอบคิดว่าผมเปิดไฟสูงเพราะมันสว่างมาก ก็เต๊าะไฟสูงอัดหน้าผมตลอด
ปล. รถคันนี้มีคนทักว่าเป็น Diesel มาหลายคนละครับเพราะเสียงเครื่องดังมาก
ปล2. เวลาใช้ Drive Mode เป็น Dynamic หน้าปัดจะเปลี่ยนเป็นแบบวัดรอบ เวลาเร่งเครื่องเสียงเครื่องยนต์จะเปลี่ยนไปแบบชัดเจน จาก Mode อื่นๆ
โดยรวมผม Happy กับรถคันนี้ครับเดี่ยวผมจะเอารูปมาเปะให้เรื่อยๆครับพอดีไม่ได้ถ่ายไว้
รายละเอียดอื่นๆถ้าคิดได้จะมาเพิ่มให้เรื่อยๆครับ