ผมเพิ่งออกรถมาได้สัปดาห์กว่า เป็นตัว RDesign ค่อนข้างนอยด์ว่ารถจะประหยัดอย่างที่โม้ไว้จริงๆไหม ที่กลัวไม่ใช่กลัวเปลืองค่ำน้ำมัน แต่เป็นเพราะ
1. กลัวเติมน้ำมันทีนึงวิ่งได้ไม่ถึง 400 โล ต้องเติมบ่อย (ทริปประจำผม 300โล) โดนเยาะเย้ยจิกกัดแหงๆ
2. รถ ที่ถูกสร้างโดยแนวคิดเพื่อประหยัดน้ำมัน ถ้าตอนหลังพิสูจน์ได้ว่า ไม่ประหยัดจริง เป็นการใช้เทคนิคโฆษณาเท่านั้น ท้ายสุด คนก็ต้องเริ่มรู้ ว่าที่แท้โกหกทั้งเพ ราคารถ คุณค่ารถ ก็ร่วงตามไปด้วย ไม่ว่าราคาในใจเรา หรือราคาขายต่อจริงๆ
พอดีได้ออกนอกเมืองไปอีกจังหวัด เลยลองเทสอัตราการสิ้นเปลืองแบบไฮบริดล้วน ที่ไม่มีไฟฟ้าจากการ Plug-in มาช่วย อีกนัยหนึ่งคือ การสิ้นเปลืองที่แท้จริงเวลาขับทางไกล โดยผมใช้แบตเตอรี่ให้หมดก่อน เพื่อไม่ต้องเอาระยะแบตมานับรวมด้วย ขั้นตอนตามนี้
- ขับ2คนไม่ขนของ ลมยาง 37 ใช้โหมดpure+hybrid เท่านั้น
- ไม่มีการกดให้ "ชาร์จแบต" หรือกด "Hold" (เก็บประจุ) ใดๆทั้งสิ้น ในทริปนี้ ไฟฟ้าใดๆที่ชาร์จได้ระหว่างเบรค จะถูกใช้ไปช่วยในการขับเคลื่อนตลอดเวลา
- ตลอดระยะทาง ตัวเลขแบตเป็น 0 กม ตลอด (คือไม่ต้องเก็ํบ ชาร์จไปใช้ไปให้หมด)
ขาไป- วิ่งด้วยแบตไฮบริด จนเกจ์วัดแบตขึ้น - - (0 กม.) (ใช้แบตให้หมด) แล้ววิ่งด้วยน้ำมันต่อ ไปถึงปั๊มน้ำมัน A
- เติมน้ำมันเต็มถังแบบแบบ ไม่เขย่ารถ หยุดเต็มเมื่อหัวจ่ายเด้ง
- กดรีเซ็ททริป สิ่งที่เห็นคือเลขวัดอัตราสิ้นเปลือง จะเปลี่ยนเป็น - - ตัวเลขแบตไฮบริดจ ก็ยังคงเป็น - - (0 กม.)
- ขับด้วยความเร็วสูงสุด 100-120 ไม่มีการ kickdown เวลาแซง (แซงแบบไม่รีบแซง) ไปเรื่อยๆรักษาความเร็ว ไม่เกิน 120
- เข้าปั๊มน้ำมัน B ที่ห่างจากปั๊ม A เป็นระยะทาง 86.5 กม.วัดจาก google map (86.1 กม.วัดจาก Trip computer รถ)
- เติมน้ำมันเต็มถังเหมือนเดิม เติมไป 5.85ลิตร
- อัตราการสิ้นเปลือง คำนวณจาก 86.5/5.85 ได้ 14.78 กม./ลิตร หรือ 6.76ลิตร/100กม. ซึ่งถือว่าดีมาก ทั้งๆที่ไม่มีการชาร์จแบตไว้ก่อน
เป็นที่น่าสังเกตุว่า รถกลับบอกความสิ้นเปลือง ณ จุดนั้นว่า 8.4 L/100km ซึ่งมากกว่าที่คำนวณเองเปรียบเทียบกับ MB E350e ที่ pualtan (มาเลเซีย) เทสไว้ () นั่ง4คนบวกกระเป๋าเดินทาง4ใบ วิ่งยาว 400 โล (แต่มีชาร์จแบตตอนต้นช่วยไว้ 20โล) ทำได้ 7.0 ลิตร/100กม น่าจะดีกว่า XC60 นิดหน่อย เพราะนั่งตั้ง4คนกระเป๋าเต็ม (แต่รถก็เบากว่า) ขาเข้าเมือง และรวมขากลับ-หลังเต็มน้ำมันเต็มถังเสร็จ ก็วนเข้าย่านการค้า มีวนขึ้นลานจอดรถห้าง และมีรถติดนิดหน่อย รวมระยะที่วิ่งๆหยุดนี้ ไม่เกิน 4km
-ออกนอกเมือง วิ่งยาวเป็นระยะ 132กม. ขับเร็วขึ้น =< 130km/h + บรรทุกของ 100 โล + นั่ง2คน
-เติมน้ำมันเต็มถังเมื่อถึงบ้าน เติมน้ำมันครั้งที่3นี้ ได้ 14.398 ล
-สรุปว่า ขากลับ(รวมที่วิ่งในย่านการค้า)กินน้ำมันมากกว่าขาไปมาก ครอบคลุมระยะได้ 135กม กินไป 14.398ล
-อัตราการสิ้นเปลืองเท่ากับ 9.37โล ต่อลิตร หรือ 10.66 ลิตรต่อ 100 กม.

-ทริปคอมฯ กลับบอกอัตราการสิ้นเปลืองไว้แค่ 9.7 ลิตรต่อ 100 กม งง ขามาบอกเยอะไป ขากลับบอกน้อยไป หรือผมทำขั้นตอนไหนผิด
สรุปว่า ถ้าการทดสอบถูกต้อง ถือว่าขาไปขากลับมีความแตกต่างค่อนข้างกันเยอะ เพราะขากลับ มีช่วงรถติด รวมทั้งบรรทุกของ สรุปเรื่องกินน้ำมัน ยังสอบผ่านครับ (ในความคิดผม)โดยไม่ต้องพึ่งการเสียบปลั๊กทุกครั้ง คือ สามารถขับได้ 600โล ต่อถังได้ ถ้าต้องการ (ไม่ทุกของหนัก ไม่เข้าเมืองรถติด ไม่นั่งหลายคนมาก ขับเรื่อยๆ ไม่กระชาก ไม่เกิน130) แต่ถ้าขับปกติ มีเข้าเมืองด้วย ก็ลดลงมา แต่ทั้งนี้ก็ไม่เกินกิโลละ 3 บาท ทั้งนี้ ไม่นับการชาร์จแบตมารวม ถ้าชาร์จแบตมารวมด้วย วิธีคิด ก็ประมาณเอาว่ากม ไฟฟ้า กมละ 1-1.6 บ (คำนวณจาก 10 หน่วย *3.3บ=33บ วิ่งได้ 20-35กม) เอามาถัวเฉลี่ยเอา
วันหลังจะมารีวิวเรื่องข้อดีข้อด้อย และเทคนิคบางอย่างที่เจอมาครับ