ขอบคุณมากๆเลยครับ เบสต์ และโดยเฉพาะกับเนย ที่มาแชร์ เรื่องราวของ รถที่ไม่มีทางเข้ามาขายในไทยให้ได้อ่านกัน
และ จะว่าไป สิ่งที่เนยประสบมาบนพวงมาลัยนั้น พี่เอง ก็คาดเอาไว้แล้ว
จากการที่เคยลองนั่ง ตอนมันจอดโชว์อยู่ใน Tokyo Motor Show 2007 อันเป็นปีสุดท้ายที่ Chrysler เข้าร่วมงาน
บอกตามตรงเลยว่า พลาสติก ห่วยได้ใจมากทั้งคัน มีมาให้ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่มีอะไรให้น่าประทับใจเลย แย่มากๆ
ยิ่งมาฟังความเห็นจากเนย ในฐานะคนขับแล้ว ยิ่งทำให้พี่ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมรถรุ่นนี้ ในอเมริกา ถึง ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก
บางที Chrysler มันก็คิดอะไรแปลกๆ ถึงได้ เลิกทำ Neon ไป เพียงเพราะมันคิดว่า สู้รถญี่ปุ่นยังไงก็ไม่ได้
ทั้งที่มันควรจะตั้งคำถามว่า ทำไม GM ถึงฮึดสู้ ต่อลมหายใจอีกครั้ง ด้วย Chevy Cruze แล้วทำไมตัวเองถึงไม่ยอมสู้
หรือว่าไม่มีเงิน แล้วต้องรอให้เฟียต เอารถมาป้อน?
เรื่องวัสดุภายในนี่ไม่อยากจะพูดเลย ตอนกลับเพื่อนมีภารกิจต้องแบกเฟอร์นิเจอร์จำนวนมากกลับมาจาก New York
ชิ้นนึงคือโคมไฟตั้งพื้นซึ่งเป็นท่อเหล็กหลายท่อนประกอบกัน ก็เลยจับถอดเป็นท่อนท่อนแล้ววางไว้ตรงที่พักเท้าคนนั่งหลังในลักษณะตั้งขึ้น
กลับมาถึง Philadelphia เปิดประตูหลังมาหยิบของ อ้าว! ชิบหาย ทำไมพลาสติกที่แผงประตูมันฉีกขาดออกมา สรุปว่ามันทนแรงเสียดสีของท่อเหล็กที่ว่าไม่ไหว แหกกันออกมาเป็นนิ้ว ตอนไปคืนรถหน้าคนขับก็เลยเหลือสองนิ้วเลย โคตรเครียด
อีกอย่าง นึกว่าจะให้แอร์แบบออโต้มา แต่สุดท้ายเป็นมือหมุนหมด ก็แปลกแปลกดี
แต่จะว่าไปท่ี Philadelphia กับ New York คนใช้กันเยอะนะ เข้าใจว่ามันคงไม่แพง แถมลุยน้ำท่วมพอได้
สิ่งที่ประทับใจมีอย่างเดียว คือมันสามารถกระโดดจากความเร็ว 45 mph ในเลนรถช้า แทรกตัวเข้าเลนรถเร็วที่ 60 mph ได้ทันใจมาก นอกไปจากนั้นแล้ว..ก็ขับขับไปเหอะ ขอโบกมือลา Dodge ทุกรุ่นในประเทศไปเลยก็แล้วกัน --"