ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้ามีเงินเก็บอยู่ 3 ล้านบาท ท่านจะเลือกรถใด?  (อ่าน 13248 ครั้ง)

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,492
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์
Re: ถ้ามีเงินเก็บอยู่ 3 ล้านบาท ท่านจะเลือกรถใด?
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2019, 23:43:42 »
สำหรับผมจะดูรายได้จากสิ่งที่หามาได้เป็นหลัก เงินเก็บคือเงินเก็บไว้ฉุกเฉิน หรือเผื่อซื้อที่ดิน

ถ้ารายได้ 7 หมื่นออก Mazda 3 ตัวที่กำลังจะมา หรือว่า Civic 1.8 ก็สมเหตุผลนะครับ

อาจจะเอาเงินเก็บมาซื้อสดก็ได้ แต่ยอดผ่อน (เก็บคืน) ประมาณ 1 ใน 5 ของรายได้ครับ

หรือลองปรึกษาแฟนดูครับ ว่าอยากให้ซื้อรถอะไร
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ Koolkoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 263
Re: ถ้ามีเงินเก็บอยู่ 3 ล้านบาท ท่านจะเลือกรถใด?
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2019, 00:21:30 »
ผมว่าเอาแบบไม่เกินล้าน honda hrv ก็อเนกประสงค์ดีนะครับ บำรุงรักษาไม่แพงด้วย ที่เหลือเก็บไว้เผื่อเรามีโอกาสทางธุรกิจ
แต่ถ้าถามว่าจะซื้อเต็ม
งบสามล้านเลย ผมชอบ 530e elite ครับ จบเลยตัวนี้

ออฟไลน์ Neshz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 271
Re: ถ้ามีเงินเก็บอยู่ 3 ล้านบาท ท่านจะเลือกรถใด?
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2019, 16:26:04 »
PCX 1 คัน 1 แสนบาทมีทอน อีก 2.9 ซื้อ Rolex + Chanel เก็บไว้ขายครรับ

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
Re: ถ้ามีเงินเก็บอยู่ 3 ล้านบาท ท่านจะเลือกรถใด?
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2019, 01:17:23 »
Camry, Accord มือสอง สภาพสวย เลขไมล์น้อย ไม่เกิน 7 แสน ครับ

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
Re: ถ้ามีเงินเก็บอยู่ 3 ล้านบาท ท่านจะเลือกรถใด?
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2019, 08:33:26 »
โจทย์ดังนี้ครับ

ถ้ามีเงินเก็บทั้งเนื้อทั้งตัว 3 ล้านบาท

1. มีบ้านของพ่อแม่ใน ตจว

2. ขายของใน กทม (เช่าที่)
ได้กำไรเดือนละไม่ต่ำกว่า 70,000 บาท
ไม่จำเป็นต้องมีรถเพื่อขนของ

3. ไม่เคยมีรถ ขับรถไม่คล่อง

4. อายุ 30 มีแฟน แต่ยังไม่แพลนแต่งงาน

ถ้าเป็นท่าน ท่านจะเลือกรถรุ่นใดครับ
และสด หรือว่าผ่อน

ขอบพระคุณครับ
[/quote]

ต้องสำรวจตัวเองเพิ่มขึ้นครับ
1. การเช่าที่จะมีโอกาสจะมีคนแย่งที่เช่าเราได้ในอนาคตไหม และเราจะมีสามารถหาตำแหน่งที่ขายดีๆในอนาคตทดแทนได้ยากแค่ไหน
2. มีการวางแผนความเสี่ยงอื่นๆ เช่น ปกติแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายเท่าไร ก็ควรจะมีเงินเก็บสำรองไว้สัก 6-12 เดือนกรณีขายของไม่ได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาต่างๆ
เช่นป่วย และ มีประกันสุขภาพที่คุ้มครองเพียงพอแล้วหรือยัง ถ้ายัง แนะนำหาประกันสุขภาพโดยด่วน อันนี้ต้องเร่งทำครับ (ปล. ได้ยินว่า kt-axa กำลังจะปิดแบบประกันสุขภาพเดิมในสิ้นเดือน กค. นี้ และแบบใหม่อาจเพิ่มขึ้นเท่าตัวนะ)
3. มีแผนการมีลงทุนแล้วหรือยัง แนะนำให้เก็บเงินโดยการออม หรือลงทุนไว้บ้าง เพื่อการขยับขยายโอกาสชีวิตในอนาคต นะครับ
สำหรับผม การซื้อที่ดิน ในเมืองน่าลงทุนที่สุด แต่ในช่วง 2-3 ปี ยังไม่มีเงินซื้อที่นะ ก็เอาเงินสดไปซื้อทองคำแท่ง หาจังหวะดีครับ ชนะเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยฝากประจำแน่นอน ในมุมผมนะ ถ้ามี 3 ล้าน ควรกันไว้มาซื้อรถอย่างมากไม่เกิน 25-30% ของเงินสดที่มี นำเงินที่เหลือไปบริหารความเสี่ยงและลงทุนเพื่ออนาคตเพื่อความมั่นคงในอนาคตดีกว่า ครับ ไว้มีเงินสดมากขึ้น ก็ค่อยขยับขยายนำเงินไปซื้อรถใหม่ขึ้นดีขึ้น ตามปริมาณเงินสดที่มีนะครับ
เพราะส่วนตัวเองมองว่ารถเป็นเพียงของใช้ ไม่ใช่ทรัพย์สินนะครับ จะพยายามใช้เงินให้น้อยที่สุดกับของใช้ครับ
4. ดูความต้องการในการซื้อรถนะ สำหรับผมเน้นรถที่ประหยัดน้ำมันหรือเชื้อเพลิงจะดีครับ แต่มีบ้านตจวต้องไปหาพ่อแม่ด้วย และเพื่อไว้สำหรับสภาวะอากาศในไทยด้วยไม่รู้ฝนตกเมื่อไร และเพื่อมุมมองในการขับขี่ที่ดีขึ้นนะ ก็หาพวก รถที่ Ground Clearance สูงหน่อยจะเป็นพวก SUV หรือ CompactSUV ก็ได้
แต่ถ้ายังขับรถไม่คล่องแนะนำ หารถมือสองสภาพดีที่วิ่งมาไม่เกิน 3-5 หมื่นกิโล ที่มีอายุไม่เกิน 3,4 ปีก็จะดี  ซึ่งจะได้รถราคาถูกลงสัก 30-45% ก่อนนะครับ ไว้ครับจนคล่องแล้วคล่องจริงๆก่อนแล้วค่อยซื้อรถมือหนึ่งใช้นะครับ (แต่ถ้าจะเลือกรถมือสองพยายามหาสภาพดีๆที่ ไม่ต้องซ่อม หรือถ้าซ่อมก็ซ่อมไม่ยาก หรือซ่อมแล้วจบ ไม่ต้องซ่อมบ่อยๆ ให้เสียเวลาชีวิตนะครับ)
  และถ้าใช้ชีวิตในเมือง ผมว่าหา CompactSUV ใช้ก่อนครับ อย่าง MG ZS,Ford Ecosport,Nissan Juke,Suzuki Sx4(อันนี้จะหารถอายุอย่างน้อย  7 ปีขึ้น), แต่น่าซ่อมบำรุงไม่ยาก พวกนี้น่าหารถในราคา 250,000-500,000 ได้ หรือถ้าจะขยับงบ เป็นสัก 750,000 ก็อาจจะหาซื้อ CRV Gen4, HRV, CX3,Xtrail
แต่ถ้าสนใจรุ่นไหน ก็ไปลองหาข้อมูลและลองเข้าไปดูห้องโดยสารอย่างละเอียดนะครับ เพราะการใช้งานจริงเราอยู่ภายในห้องโดยสารครับ รูปลักษณ์ภายนอกสำหรับรถมือสองมันก็โดนตีราคาลงมาจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่โดดเด่นหรือสวย ตอนซื้อพอสมควรแล้ว ราคาก็ขึ้นกับความดีที่มันมีอยู่แล้วครับ
สำหรับกรณีถ้าซื้อมือสอง  นี้ซื้อเงินสดเท่านั้นครับ
ส่วนถ้าจะซื้อมือหนึ่งรอ ตอนมีโปรโมชั่นดีๆครับ เพราะจะได้พวกผ่อน 0% แบบนี้เป็นต้นนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 13, 2019, 09:00:34 โดย Mr. RO »