ผู้เขียน หัวข้อ: ควรลองเปลี่ยนลิ้นปีกผีเสื้อ (มือ 2) = แก้ปัญหาเหยียบเบรคแล้วรอบตกไหมครับ ??  (อ่าน 11750 ครั้ง)

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
บางทีการซ่อมรถ ก็คงต้องไล่ๆไปเป็นอย่างๆไปดูละครับ จุดไหนทำแล้วก็คงต้องข้ามไป อันนี้จากที่ผมเคยซ่อมรถมานะครับ

ส่วนเรื่อง afr เป็นเรื่องดีครับที่สมัยนี้หันมามองกันมาก อย่างรถผมเคยมีปัญหาเป็นปีๆแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นก็ไล่ซ่อมกันวุ่นไปหมด ไปที่ไหนเขาก็ว่าเปลี่ยนเครื่องเถอะ จนผมมาเจอผู้รู้อยู่ท่าน บอกเรื่อง afr มา พอดีรถผมมีทำเครื่องเปลี่ยน แค็ม แต่งมาบ้างละครับ เลยหันมาดูเรื่อง afr ที่เหมาะสมกับการทำเครื่องกัน

แต่ของผมเรื่อง afr ผมที่มีปัญหาเพราะ มันไม่พอกับของที่ทำไป รถผม afr รอบสูงต้องวิ่งอยู่ย่าน 12.5 - 13.0 เครื่องถึงไม่ตัดเข้าเซฟโหมด คือ ของผมพอรอบสูงที่ 6400 แล้วอะไรที่เครื่องต้องการแล้วมันไม่พอ เครื่องจะตัดเข้า misfire ไปเลย แต่ดับเครื่องสตาร์ทใหม่วิ่งได้เป็นปกติ คงน่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้ฝืนขับต่อ พอมาแก้เรื่องนี้ถึงจะหาย

แต่อันนี้เป็นเครื่องเดิมๆ ไม่ได้มีการตกแต่งอะไร น่าจะลองมองๆพวกอุปกรณ์กลไกต่างๆรอบเครื่องดูอีกทีละครับ บางทีปัญหามันอาจจะไม่มากแต่เรายังหามันไม่เจอก็มีครับ

อย่างไงก็ขอเอาใจช่วย ให้หายได้เร็วๆนะครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมก็พยายามไล่แก้ทีละจุดครับ

ถ้าเปลี่ยน canister purge valve วาล์วไล่ไอน้ำมันเครื่อง ??

แล้วอาการกลับเป็นปกติ จะมาแจ้งให้เพื่อนสมาชิกทราบครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ต้องขอโทษด้วย  ผมไม่ว่างเข้ามาอ่าน  เพิ่งเข้ามา

ส่วนการเปลี่ยนอะไหล่หาแบบนั้น  มันสูญเสีย  รู้ว่าอยากให้มันสมบูรณ์  แต่เปลี่ยนแล้วผลมันไม่คุ้ม

ส่วนหม้อเบรค(คุณเปลี่ยนไปแล้ว)  ผมก็พยายามบอกว่าให้ทดสอบก่อนว่าเสียหรือไม่   การทดสอบ  ไม่ใช่ดึงท่อเวคกั้มออกเฉย ๆ   ท่อเส้นนั้นต้องอุดด้วย  อุดให้สนิท  ไม่ให้ลมเข้าได้เลย   เบรคเมื่อไม่มีเวคกั้มช่วย  จะหนักมาก  วิ่งบนถนนทั่วไป  ไม่เหมาะ  เครื่องยนต์จะไม่เร่งหลังจากอุดท่อเส้นนั้นแล้วทีนี้ก็ลองวิ่งวนในสนามกว้าง ๆ   สลับเกียร์ เบรค ฯลฯ  เพื่อดูว่ารอบตกหรือไม่  จะได้ตัดไปทีละประเด็น 

  การทำแบบนี้  เราไม่ต้องเสียเงิน  จะรู้ว่ามันเสียจริงหรือเปล่า  ถ้าชุดนี้ไม่รั่ว  ก็เหลือชุดเช็ควาล์ว  เผาไอน้ำมันทิ้งที่ต่อมาจากถังเข้าชาโคล  ตรงนั้นรถผมจะเป็นวาล์วไฟฟ้า  ปกติจะเปิดเมื่อได้รับคำสั่ง  ส่วนรถคุณ  ผมก็ไม่ทราบว่ามันแบบเดียวกันหรือไม่

  บางทีรถคุณไม่ได้มีอะไรเสียหายเลยก็ได้  แค่ท่อไอดีจากกรอง  ผ่านเซนเซอร์(แอร์แมส)มาแล้ว  ช่วงจากนี้- ลิ้นปีก  มีรั่ว เล็กน้อย  ก็เป็นได้เหมือนกัน

   ปัญหาพวกนี้  มันเล็กน้อย  ช่าง  ไม่ว่าอู่  หรือศูนย์  จะไม่หาให้แน่ ๆ    ได้ไม่คุ้ม กับเวลาที่เสียไป  ครับ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
 8) 8) 8)....อ่านคำแนะนำเพื่อนพ้องซะเบลอไปเลย  HD ตั้งแต่ ปี 2001 เป็นต้นมาเขาใช้ computerize 100 %  ที่ใช้ ECU /PGM signalling ทั้ง input/output รับ/ป้อน สั่งงาน ทั้ง direct coil ไฟจุดระเบิด-control rpm/idling rpm/rev rpm/injector pressure/rich&lean fuel ฯลฯ ถ้ามัน รับ-ส่ง สัญญาน ผิดเพี้ยนจุดใดก็ตาม จะ บันทึกไว้ละเอียดยิบ เช่น ต้นเหตุจากอะไร/จากสูบไหน/หัวฉีดสูบใด/มีผลลงไปถึงสั่งเกียร์ (CVT) solenoid ขุดใดเพี้ยน ฯลฯ
...ผมงงว่า ทั้งช่างศูนย์ฯทั้งช่างอู่เองก็น่าจะมี OBD scanner เรียก และพิมพ์ เจ้าผู้ร้ายตัวต้วต้นเหตุแล้วก็วิเคราะห์ให้ตรงประเด็นตามที่รถ memory เอาไว้ละเอียดอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ไม่โก้เท่ากับการวิเคราะห์ ดิบ เปลี่ยนลองผิดลองถูกไปเรื่อยเปื่อยเพราะมีเจ้าของรถเป็นเจ้ามือลงทุนจ่ายค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตั้งต้นใหม่ครับ เพราะรถคุณถูกวิเคราะห์อาการแบบซ่อมรถรุ่นปี 1950-1960 อยู่ หยุดแล้วตั้งต้นใหม่ครับ !!! :-X

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ต้องขอโทษด้วย  ผมไม่ว่างเข้ามาอ่าน  เพิ่งเข้ามา

ส่วนการเปลี่ยนอะไหล่หาแบบนั้น  มันสูญเสีย  รู้ว่าอยากให้มันสมบูรณ์  แต่เปลี่ยนแล้วผลมันไม่คุ้ม

ส่วนหม้อเบรค(คุณเปลี่ยนไปแล้ว)  ผมก็พยายามบอกว่าให้ทดสอบก่อนว่าเสียหรือไม่   การทดสอบ  ไม่ใช่ดึงท่อเวคกั้มออกเฉย ๆ   ท่อเส้นนั้นต้องอุดด้วย  อุดให้สนิท  ไม่ให้ลมเข้าได้เลย   เบรคเมื่อไม่มีเวคกั้มช่วย  จะหนักมาก  วิ่งบนถนนทั่วไป  ไม่เหมาะ  เครื่องยนต์จะไม่เร่งหลังจากอุดท่อเส้นนั้นแล้วทีนี้ก็ลองวิ่งวนในสนามกว้าง ๆ   สลับเกียร์ เบรค ฯลฯ  เพื่อดูว่ารอบตกหรือไม่  จะได้ตัดไปทีละประเด็น 

  การทำแบบนี้  เราไม่ต้องเสียเงิน  จะรู้ว่ามันเสียจริงหรือเปล่า  ถ้าชุดนี้ไม่รั่ว  ก็เหลือชุดเช็ควาล์ว  เผาไอน้ำมันทิ้งที่ต่อมาจากถังเข้าชาโคล  ตรงนั้นรถผมจะเป็นวาล์วไฟฟ้า  ปกติจะเปิดเมื่อได้รับคำสั่ง  ส่วนรถคุณ  ผมก็ไม่ทราบว่ามันแบบเดียวกันหรือไม่

  บางทีรถคุณไม่ได้มีอะไรเสียหายเลยก็ได้  แค่ท่อไอดีจากกรอง  ผ่านเซนเซอร์(แอร์แมส)มาแล้ว  ช่วงจากนี้- ลิ้นปีก  มีรั่ว เล็กน้อย  ก็เป็นได้เหมือนกัน

   ปัญหาพวกนี้  มันเล็กน้อย  ช่าง  ไม่ว่าอู่  หรือศูนย์  จะไม่หาให้แน่ ๆ    ได้ไม่คุ้ม กับเวลาที่เสียไป  ครับ

คุณ Sukontha ครับ

1. เนื่องจากผมไม่มีความสามารถในด้านการซ่อมรถ (ถ้าซ่อมคอมตั้งโต๊ะ ก็พอได้อยู่)

ดังนั้น ผมจึงต้องนำคำแนะนำที่ผมได้จากเพื่อนสมาชิกใน HLM นั้น
ไปขอให้ช่างของทางอู่ทำให้
แต่ผมไม่สามารถทำให้ช่างของอู่นั้นๆ
ทำตามที่ผมได้รับคำแนะนำทำได้ทั้งหมดครับ


เช่น แค่การถอดสายเช็ควาล์วของหม้อลมเบรค มาตรวจสอบ
ผมต้องขอร้อง อ้อนวอน อู่ (2 แห่ง) ตั้งนาน
กว่าช่างจะยอมถอดสายเช็ควาล์ว มาตรวจสอบให้

2. บางทีรถคุณไม่ได้มีอะไรเสียหายเลยก็ได้  แค่ท่อไอดีจากกรอง  ผ่านเซนเซอร์(แอร์แมส)มาแล้ว 
ช่วงจากนี้- ลิ้นปีก  มีรั่ว เล็กน้อย  ก็เป็นได้เหมือนกัน = ถ้ามันง่ายขนาดนี้ ทำไมไม่มีช่างคนไหนหาเจอเลยครับ
ผมแสนจะปวดใจ


3. ผมว่าคุณ Sukontha โชคดี ที่ได้พบอู่ที่ดี+ช่างที่ดี ในการซ่อมรถให้
รวมทั้งคุณ Sukhontha มีรถใช้หลายคัน
จึงไม่เป็นปัญหา ในการที่จะสลับรถใช้ หากรถคันใดต้องจอดซ่อมที่อู่เป็นเวลาหลายวัน

แต่ตัวผมนั้นมีรถแค่คันเดียว และอย่างที่บอกหลายครั้ง
ตัวผมมีแนวโน้มที่ต้องใช้รถคันนี้ยันหลานบวช
(เว้นถูกหวย 30 ล้าน หรือได้เมียรวยๆ ซื้อ BMW หรือ Lexus ให้ผมซักคัน  ;) )

ดังนั้น ผมจึงพยายามดูแลให้มันอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานมากที่สุด


ผมว่า อันตัวผมก็ดูแลรถดีระดับนึง แต่เมื่อ 28 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา
ผมพาน้องสาวไปไหว้พระที่ จ. นครปฐม

ขาไป   =  แอร์ก็เย็นปกติ

ขากลับ =  เปิดพัดลมแอร์เบอร์ 1 เบอร์ 2 = ไม่มีลมออกมาเลย ต้องเปิดพัดลมแอร์เบอร์ 4 ถึงพอจะมีลมออกมาบ้าง

วันรุ่งขึ้น ผมจึงไปอู่แถวบ้าน แต่แอร์ดันกลับมาเย็น

ผมเลยตัดปัญหา เปลี่ยน โบวเวอร์พัดลมแอร์ของ Denso+คลัทซ์คอมแอร์ของเทียบ+รีเลย์แอร์+ฝาครอบมูเล่ปั๊มน้ำที่ร้าว
(ซึ่งไม่รู้ว่าร้าวได้อย่างไร) = จะได้ไม่ต้องมาลุ้นว่า สตาร์ทรถครั้งนี้ แอร์จะเย็นไหม


4. รถผม อาการเสียเริ่มแรก จากกระทุ้เก่าๆ ที่ผมมาตั้งคำถามไว้ มันก็ไม่เล็กน้อยนะครับ
เพียงแต่ผมพยายามแก้ไขมาเรื่อยๆ (จากคำแนะนำของสมาชิก HLM ส่วนนึง)
จนมาเหลือปัญหาสุดท้ายนี้

และผมก็ยังไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ = ผมจะลองพยายามต่อไปครับ

เป็นมุมมองและความเห็นของผม หวังว่าคุณ Sukhontha จะไม่ขุ่นเคืองกันครับ

My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
8) 8) 8)....อ่านคำแนะนำเพื่อนพ้องซะเบลอไปเลย  HD ตั้งแต่ ปี 2001 เป็นต้นมาเขาใช้ computerize 100 %  ที่ใช้ ECU /PGM signalling ทั้ง input/output รับ/ป้อน สั่งงาน ทั้ง direct coil ไฟจุดระเบิด-control rpm/idling rpm/rev rpm/injector pressure/rich&lean fuel ฯลฯ ถ้ามัน รับ-ส่ง สัญญาน ผิดเพี้ยนจุดใดก็ตาม จะ บันทึกไว้ละเอียดยิบ เช่น ต้นเหตุจากอะไร/จากสูบไหน/หัวฉีดสูบใด/มีผลลงไปถึงสั่งเกียร์ (CVT) solenoid ขุดใดเพี้ยน ฯลฯ
...ผมงงว่า ทั้งช่างศูนย์ฯทั้งช่างอู่เองก็น่าจะมี OBD scanner เรียก และพิมพ์ เจ้าผู้ร้ายตัวต้วต้นเหตุแล้วก็วิเคราะห์ให้ตรงประเด็นตามที่รถ memory เอาไว้ละเอียดอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ไม่โก้เท่ากับการวิเคราะห์ ดิบ เปลี่ยนลองผิดลองถูกไปเรื่อยเปื่อยเพราะมีเจ้าของรถเป็นเจ้ามือลงทุนจ่ายค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตั้งต้นใหม่ครับ เพราะรถคุณถูกวิเคราะห์อาการแบบซ่อมรถรุ่นปี 1950-1960 อยู่ หยุดแล้วตั้งต้นใหม่ครับ !!! :-X


แหม เขียนซะผมเป็นโบราณตกยุคเลยครับ  :'(  :'(

ถ้าเสียบ OBD Scan = มันแจ้งสาเหตุ หรือมี Log File แสดงค่าที่ผิดปกติออกมา รถผมคงซ่อมจบไปนานแล้วครับ

แต่ปัญหาคือ รถผมเสียบ OBD Scan มันไม่มี Error ใดๆ แต่อาการเสียมันมีครับ

อู่ที่ผมเคยไปทำ ใช้ OBD Scan ยี่ห้อ G-Scan



1. ซึ่งมันบอกได้ว่า O2 Sensor ตัวที่ 2 ของผมทำงานผิดปกติ = กราฟการทำงานค้างที่ 0.9 V ไม่มีการขยับเลย

2. แต่คอยล์จุดระเบิดของผมที่มีไฟรั่วนั้น  = OBD Scan บอกไม่ได้ (หรือ OBD Scan ยี่ห้ออื่นๆ บอกได้ ??)
ต้องใช้อุปกรณ์ตัวนี้ ทดสอบไฟรั่วที่คอยล์จุดระเบิด จนพบว่า คอยล์จุดระเบิดตัวที่ 1, 2, 4 ของผมมีไฟรั่ว



3. ผมมองโลกในแง่ดีนะ ว่าอะไหล่ที่ผมเปลี่ยน แม้มันจะไม่เสีย แต่มันก็เสื่อมตามอายุ (12 ปี)
การเปลี่ยนอะไหล่แบบนี้ ผมถือว่าเป็นการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
ซึ่งมันก็ดีกับรถ แต่ไม่ดีกับเงินในกระเป๋าของผมเท่าไร
  :'(  :'(

4. ผมคงไม่ตั้งต้นใหม่ครับ เพราะซ่อมไปพอสมควรแล้ว
ปัญหาก็ถูกแก้ไข คลี่คลายมาเรื่อยๆ แล้ว = ซึ่งปลายทางตอนจบของหัวใจ จะจบอย่างไร เจ็บแค่ไหน ไม่รู้เลย  ;)

แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากเจอช่างที่ใส่ใจ วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง

เพื่อแก้ไขปัญหาให้ผมได้ตรงจุดมากกว่า ซึ่งผมก็ยังหาไม่ได้ = อยากร้องไห้  :'(  :'(  :'(
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
ผมพอเข้าใจ จขกท ในการซ่อมรถแบบนี้นะครับ

ผมเองก็เคยเป็นเหมือนกัน ตอนนั้นผมแก้อาการ misfire อยู่เป็นปีๆ แบบที่เล่ามาเบื้องต้นด้านบน ไปอู่ไหนที่เขาว่าดังๆกันก็ไปมาหมด บางที่ก็ให้คำตอบมาว่าเปลี่ยนเครื่องเถอะ

ลงท้ายก็ต้องมาหาข้อมูลกันเอง ทดลองกันเองกับช่างประจำ ที่ซ่อมรถผม โชคดีที่รอบนั้นลองกันมาจนแก้อาการได้

หลายๆคนอาจจะคิดว่าการซ่อมแบบไล่เปลี่ยนของไป เป็นการไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องควรจะต้องซ่อมแบบเปลี่ยนทีเดียวจบแก้ปัญหาได้เลย

แต่ในความเป็นจริง บางทีมันก็ไม่ใช่ละครับ ถ้าอาการทั่วไปที่เป็นกันบ่อยๆ อันนี้ก็พอไหว ช่างเขาเจอบ่อยพอกะแนวได้อยู่ แต่บางอาการ ช่างเองก็ไม่เคยเจอ ศูนย์ก็ไม่เคยเจอ ในคู่มือการซ่อมของศูนย์ก็ไม่มีข้อมูลพวกนี้ไว้ มันก็มีเหมือนกัน

อย่างล่าสุดของผม

รถผมไฟ EML ขึ้นมา เอาคอมอ่านโค้ดความผิดปกติ โค้ดแจ้งมาเลยว่าเป็นที่ ลิ้นปีกผีเสื้อ ตรงๆเลย ผมก็ไปหา ลิ้นปีกผีเสื้อ มือสอง มาเปลี่ยน เปลี่ยนไปปุ๊บลองใหม่ ขึ้นมาเป็นเหมือนเดิม ช่างเขาก็แปลกใจว่ามันคงไม่ใช่แบบที่คอมแจ้งมาละ มันน่าจะเป็นการแจ้งอาการแบบกว้างๆมา แล้วต้องมาไล่ดู ลงท้ายรอบนั้น รีเลย์เครื่องเสีย เปลี่ยนรีเลย์เครื่องไปก็หาย แบบนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกัน

อย่างไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้หาตัวที่เสียเจอได้ไวไวครับ





M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,044
กลับมาเล่าเรื่องแนวเดียวกับคุณ tom46 ครับ

รถ Subaru Outback เครื่อง 2.0 turbo (เอามาจากฝาแฝด Legacy GT) ของผมเคยมีปัญหา boost ได้แค่ 0.5 บาร์ (ปกติ 0.9 บาร์) ซึ่งเป็นแรงดันของ mechanical wastegate อาการสอดคล้องกับระบบ electronic boost control (ระบบเอาไว้ระบายแรงดันระหว่างท่อร่วมไอดีกับ wastegate เพื่อให้แรงดันในท่อร่วมไอดีจริงสูงกว่า wastegate) มีปัญหา .. กดดู error code ก็แสดงว่าตัว electronic boost control เสีย ถอดเอามาทดสอบก็ปกติดี แต่ของมือสองราคาไม่แพงเลยลองเอามาเปลี่ยนแล้วก็ดีขึ้นแป๊บนึงก็เป็นใหม่ ... หากันอยู่นาน สุดท้ายไปเจอที่ map sensor ส่งสัญญาณแปลกๆไปที่ electronic boost control ทำให้มันทำงานผิดปกติ เปลี่ยน map sensor ใหม่ก็จบ

error code ที่แสดงมันแค่บอกคร่าวๆ บางทีมันก็ "ซื่อบื้อ" การวิเคราะห์ปัญหาจาก error code ต้องอาศัย data log และความเข้าใจเรื่องกลไกของรถและการอ่านข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์มากๆ ... ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมว่าช่างหลายคนไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ผมพอเข้าใจ จขกท ในการซ่อมรถแบบนี้นะครับ

ผมเองก็เคยเป็นเหมือนกัน ตอนนั้นผมแก้อาการ misfire อยู่เป็นปีๆ แบบที่เล่ามาเบื้องต้นด้านบน ไปอู่ไหนที่เขาว่าดังๆกันก็ไปมาหมด บางที่ก็ให้คำตอบมาว่าเปลี่ยนเครื่องเถอะ

ลงท้ายก็ต้องมาหาข้อมูลกันเอง ทดลองกันเองกับช่างประจำ ที่ซ่อมรถผม โชคดีที่รอบนั้นลองกันมาจนแก้อาการได้

หลายๆคนอาจจะคิดว่าการซ่อมแบบไล่เปลี่ยนของไป เป็นการไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องควรจะต้องซ่อมแบบเปลี่ยนทีเดียวจบแก้ปัญหาได้เลย

แต่ในความเป็นจริง บางทีมันก็ไม่ใช่ละครับ ถ้าอาการทั่วไปที่เป็นกันบ่อยๆ อันนี้ก็พอไหว ช่างเขาเจอบ่อยพอกะแนวได้อยู่ แต่บางอาการ ช่างเองก็ไม่เคยเจอ ศูนย์ก็ไม่เคยเจอ ในคู่มือการซ่อมของศูนย์ก็ไม่มีข้อมูลพวกนี้ไว้ มันก็มีเหมือนกัน

อย่างล่าสุดของผม

รถผมไฟ EML ขึ้นมา เอาคอมอ่านโค้ดความผิดปกติ โค้ดแจ้งมาเลยว่าเป็นที่ ลิ้นปีกผีเสื้อ ตรงๆเลย ผมก็ไปหา ลิ้นปีกผีเสื้อ มือสอง มาเปลี่ยน เปลี่ยนไปปุ๊บลองใหม่ ขึ้นมาเป็นเหมือนเดิม ช่างเขาก็แปลกใจว่ามันคงไม่ใช่แบบที่คอมแจ้งมาละ มันน่าจะเป็นการแจ้งอาการแบบกว้างๆมา แล้วต้องมาไล่ดู ลงท้ายรอบนั้น รีเลย์เครื่องเสีย เปลี่ยนรีเลย์เครื่องไปก็หาย แบบนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกัน

อย่างไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้หาตัวที่เสียเจอได้ไวไวครับ

ความเห็นนี้ของคุณ Tom46 = แทนความรู้สึกในใจของผมในการซ่อมรถในช่วงระยะเวลา 2 ปีนี้มากๆ ครับ
ขอบคุณมากๆ ที่มีสมาชิกของ HLM เข้าใจผม แม้ซักคนเดียวก็ยังดีครับ  :'(  :'(


และร่วมยินดีที่คุณ Tom46 ได้พบกับช่างที่สามารถแก้ไขอาการเสียของรถได้สำเร็จครับ

ในความคิดของผมที่ได้ประสบมา อาการเสียของรถ ที่ช่างซ่อมรถไม่ว่าจะศูนย์หรืออู่ไม่เคยเจอ = ยากที่จะวินิจฉัยจุดเสียให้ถูกต้อง

ตัวอย่างรถผมเอง เมื่อ ม.ค. 2559 รถผมตอนเครื่องเย็น เวลาเข้าเกียร์ R มีเสียงดังแกร๊กๆ + รถถอยหลังไปแล้ว
รถหยุดเอง โดยไม่ได้เหยียบเบรค

ครั้งนั้นผมไปมา 4 ที่

ศูนย์ Honda Rama 7 = ตรวจไม่พบ แนะนำให้ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ+เปลี่ยนยางรองแท่นเครื่อง 3 ตัว ก็ไม่หาย

ไปอู่ทั่วไป 2 อู่ = ฟันธงว่า Fly Wheel เสีย

ไปอู่ซ่อมเกียร์โดยตรง = นำ OBD Scanner มาต่อกับรถ ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น จอดรถทิ้งไว้ 1 ชม. จนเครื่องเย็น
จึงพบเสียงดังแกร๊กๆ เวลาเข้าเกียร์ R แต่เจ้าของอู่ก็ไม่ฟันธงว่าเป็นที่ Fly Wheel

ผมเลยกลับมาหาข้อมูลจากหลายๆ ที่ สรุปว่า

ผมเปลี่ยน Fly Wheel ของแท้เบิกศูนย์+ซีลหน้าเครื่อง+ซีลหน้าทอร์ค+ซีลเพลาขับ L & R = อาการเข้าเกียร์ R มีเสียงดังแกร๊กๆ กลับเป็นปกติครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
กลับมาเล่าเรื่องแนวเดียวกับคุณ tom46 ครับ

รถ Subaru Outback เครื่อง 2.0 turbo (เอามาจากฝาแฝด Legacy GT) ของผมเคยมีปัญหา boost ได้แค่ 0.5 บาร์ (ปกติ 0.9 บาร์) ซึ่งเป็นแรงดันของ mechanical wastegate อาการสอดคล้องกับระบบ electronic boost control (ระบบเอาไว้ระบายแรงดันระหว่างท่อร่วมไอดีกับ wastegate เพื่อให้แรงดันในท่อร่วมไอดีจริงสูงกว่า wastegate) มีปัญหา .. กดดู error code ก็แสดงว่าตัว electronic boost control เสีย ถอดเอามาทดสอบก็ปกติดี แต่ของมือสองราคาไม่แพงเลยลองเอามาเปลี่ยนแล้วก็ดีขึ้นแป๊บนึงก็เป็นใหม่ ... หากันอยู่นาน สุดท้ายไปเจอที่ map sensor ส่งสัญญาณแปลกๆไปที่ electronic boost control ทำให้มันทำงานผิดปกติ เปลี่ยน map sensor ใหม่ก็จบ

error code ที่แสดงมันแค่บอกคร่าวๆ บางทีมันก็ "ซื่อบื้อ" การวิเคราะห์ปัญหาจาก error code ต้องอาศัย data log และความเข้าใจเรื่องกลไกของรถและการอ่านข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์มากๆ ... ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมว่าช่างหลายคนไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ

ร่วมยินดีที่แก้ไขปัญหาสำเร็จครับ

และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการวิเคราะห์ปัญหาจาก Error Code = ช่างหลายๆ คน แม้แต่ช่างของศูนย์รถยี่ห้อนั้นๆ เอง ก็ใช่ว่าจะเข้าอย่างแท้จริงครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
สู้ๆครับ

สู้ และ จะมีชีวิตรอดครับ ทั้งรถและคน  ;)
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
8) 8) 8)....อ่านคำแนะนำเพื่อนพ้องซะเบลอไปเลย  HD ตั้งแต่ ปี 2001 เป็นต้นมาเขาใช้ computerize 100 %  ที่ใช้ ECU /PGM signalling ทั้ง input/output รับ/ป้อน สั่งงาน ทั้ง direct coil ไฟจุดระเบิด-control rpm/idling rpm/rev rpm/injector pressure/rich&lean fuel ฯลฯ ถ้ามัน รับ-ส่ง สัญญาน ผิดเพี้ยนจุดใดก็ตาม จะ บันทึกไว้ละเอียดยิบ เช่น ต้นเหตุจากอะไร/จากสูบไหน/หัวฉีดสูบใด/มีผลลงไปถึงสั่งเกียร์ (CVT) solenoid ขุดใดเพี้ยน ฯลฯ
...ผมงงว่า ทั้งช่างศูนย์ฯทั้งช่างอู่เองก็น่าจะมี OBD scanner เรียก และพิมพ์ เจ้าผู้ร้ายตัวต้วต้นเหตุแล้วก็วิเคราะห์ให้ตรงประเด็นตามที่รถ memory เอาไว้ละเอียดอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ไม่โก้เท่ากับการวิเคราะห์ ดิบ เปลี่ยนลองผิดลองถูกไปเรื่อยเปื่อยเพราะมีเจ้าของรถเป็นเจ้ามือลงทุนจ่ายค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตั้งต้นใหม่ครับ เพราะรถคุณถูกวิเคราะห์อาการแบบซ่อมรถรุ่นปี 1950-1960 อยู่ หยุดแล้วตั้งต้นใหม่ครับ !!! :-X


แหม เขียนซะผมเป็นโบราณตกยุคเลยครับ  :'(  :'(

ถ้าเสียบ OBD Scan = มันแจ้งสาเหตุ หรือมี Log File แสดงค่าที่ผิดปกติออกมา รถผมคงซ่อมจบไปนานแล้วครับ

แต่ปัญหาคือ รถผมเสียบ OBD Scan มันไม่มี Error ใดๆ แต่อาการเสียมันมีครับ

อู่ที่ผมเคยไปทำ ใช้ OBD Scan ยี่ห้อ G-Scan



1. ซึ่งมันบอกได้ว่า O2 Sensor ตัวที่ 2 ของผมทำงานผิดปกติ = กราฟการทำงานค้างที่ 0.9 V ไม่มีการขยับเลย

2. แต่คอยล์จุดระเบิดของผมที่มีไฟรั่วนั้น  = OBD Scan บอกไม่ได้ (หรือ OBD Scan ยี่ห้ออื่นๆ บอกได้ ??)
ต้องใช้อุปกรณ์ตัวนี้ ทดสอบไฟรั่วที่คอยล์จุดระเบิด จนพบว่า คอยล์จุดระเบิดตัวที่ 1, 2, 4 ของผมมีไฟรั่ว



3. ผมมองโลกในแง่ดีนะ ว่าอะไหล่ที่ผมเปลี่ยน แม้มันจะไม่เสีย แต่มันก็เสื่อมตามอายุ (12 ปี)
การเปลี่ยนอะไหล่แบบนี้ ผมถือว่าเป็นการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
ซึ่งมันก็ดีกับรถ แต่ไม่ดีกับเงินในกระเป๋าของผมเท่าไร
  :'(  :'(

4. ผมคงไม่ตั้งต้นใหม่ครับ เพราะซ่อมไปพอสมควรแล้ว
ปัญหาก็ถูกแก้ไข คลี่คลายมาเรื่อยๆ แล้ว = ซึ่งปลายทางตอนจบของหัวใจ จะจบอย่างไร เจ็บแค่ไหน ไม่รู้เลย  ;)

แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากเจอช่างที่ใส่ใจ วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง

เพื่อแก้ไขปัญหาให้ผมได้ตรงจุดมากกว่า ซึ่งผมก็ยังหาไม่ได้ = อยากร้องไห้  :'(  :'(  :'(

ตรง O2 นี่หรือเปล่าครับ

O2 เสียก็พารวนไปหมดได้เหมือนกันนะครับ เพราะกล่องเขาจะเอาข้อมูลจาก O2 มาคำนวณด้วย พอมีตัวไหนที่ส่งข้อมูลผิดพลาดไป ก็พาผิดพลาดกันทั้งระบบ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
คุณ Tom46 ครับ

ผมเปลี่ยน O2 Sensor ตัวที่ 1 และตัวที่ 2 เป็นของเทียบยี่ห้อ Walker แล้วครับ
ตามรายการที่ 2 กับ 5 ครับ

O2 ตัวที่ 1 = ยังทำงานปกติ กราฟมีการขึ้นลง ระหว่าง 0.1 - 0.9 Volt
แต่ผมก็เปลี่ยน O2 Sensor ตัวที่ 1 ด้วยครับ

O2 ตัวที่ 2 = ทำงานผิดปกติ กราฟค้างอยู่ที่ 0.9 Volt
แม้ช่างที่อู่จะบอกว่า O2 ตัวที่ 2 ไม่ส่งผลให้เครื่องยนต์สั่น
แต่ส่งผลเกี่ยวกับการปล่อยไอเสีย (ถ้าผมจำไม่ผิด)
และผมก็เปลี่ยน O2 Sensor ตัวที่ 2 ด้วยครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
อ๋อครับ ถ้าเปลี่ยนไปแล้วคงข้ามเรื่องนี้ไปได้อีกเรื่องนึงละครับ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
คุณ Tom46 ครับ

เรื่องที่คุณ JBRC แนะนำให้เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมัน 4 หัว = คุณ Tom46 มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันละครับ เพราะเห็นว่า มีการล้าง เทส เช็ค มาแล้ว

นอกเหนือจากว่าที่ล้างหัวฉีดมา ไม่ได้ทำแบบที่เขาทำๆกัน เพราะ เคยได้ยินมาเหมือนกันว่า บางทีไม่มีการเทส บนแท่นเทส ทำเพียงแค่เอามาต้มๆน้ำทำความสะอาด

ปกติการเทส เขาอัดแรงดันไว้แต่สั่งไม่ให้ฉีด เพื่อเช็คการรั่วของหัวฉีดก่อน ว่ามีการรั่วออกมาไหม แล้วก็มา ฉีด เทสในแท่นที่หลอดแก้วพร้อมกัน ดูปริมาณว่าฉีดมาแล้ว แต่ละหัวฉีดมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร แล้วก็ทำล้างด้วยน้ำยา ใช้น้ำยาสั่งฉีดไปเรื่อยๆตามวิธีของเขา แล้วก็มาเปลี่ยนกรอง โอริงก่อนใส่ ครับ

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่ล้างมาเขาทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่าละครับ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันละครับ เพราะเห็นว่า มีการล้าง เทส เช็ค มาแล้ว

นอกเหนือจากว่าที่ล้างหัวฉีดมา ไม่ได้ทำแบบที่เขาทำๆกัน เพราะ เคยได้ยินมาเหมือนกันว่า บางทีไม่มีการเทส บนแท่นเทส ทำเพียงแค่เอามาต้มๆน้ำทำความสะอาด

ปกติการเทส เขาอัดแรงดันไว้แต่สั่งไม่ให้ฉีด เพื่อเช็คการรั่วของหัวฉีดก่อน ว่ามีการรั่วออกมาไหม แล้วก็มา ฉีด เทสในแท่นที่หลอดแก้วพร้อมกัน ดูปริมาณว่าฉีดมาแล้ว แต่ละหัวฉีดมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร แล้วก็ทำล้างด้วยน้ำยา ใช้น้ำยาสั่งฉีดไปเรื่อยๆตามวิธีของเขา แล้วก็มาเปลี่ยนกรอง โอริงก่อนใส่ ครับ

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่ล้างมาเขาทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่าละครับ

การล้างหัวฉีด ทำตามที่คุณ Tom46 ว่ามาทุกประการครับ (เว้นแต่การเช็คการรั่ว ไม่แน่ใจว่าได้ทำไหมครับ)

ส่วนการเทสการจ่ายน้ำมัน = ทำ 2 ครั้งครับ คือ ก่อนล้างหัวฉีด และ หลังล้างหัวฉีดแล้ว

ซึ่งการจ่ายน้ำมันทั้งก่อน และหลังล้างหัวฉีด = ปกติครับ
ผลคือ ปกติ ครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ

ถ้าปกติส่งหัวฉีดไปล้าง ถ้ามันผิดปกติจริงร้านเทสเขาต้องบอกมาอยู่ ส่วนมากร้านล้างเขามักมีหัวฉีดไว้ขายกันอยู่แล้ว เขาก็คงน่าจะต้องเชียร์มาให้เปลี่ยนกันอยู่ละครับ ถ้าเขาไม่ได้พูดถึง ล้างแล้วเทสแล้ว มันก็น่าจะพอเชื่อถือได้อยู่ในระดับนึงนะครับ

ถ้ายังติดใจเรื่องหัวฉีดอยู่ ผมว่าน่าจะลองดูที่เขามีเครื่องมืออ่านแบบ เรียลไทม์ มีการค่าทำงานของแต่ละกระบอกสูบ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม ถ้าหัวฉีดเวลาอยู่กับเครื่องแล้วมีปัญหาจากสายไฟไม่มีสัญญาณมาสั่งให้ทำ ค่ามันก็น่าจะความแตกต่างอยู่ครับ

อย่างเครื่องผมเขาใช้ INPA อ่านกันมันจะบอกค่าการทำงานแบบเรียลไทม์มา อันนี้น่าจะวิเคราะห์กันได้ง่ายขึ้นกว่าครับ แต่ผมไม่รู้ว่าของฮอนด้าเขาใช้อะไรอ่านกันละครับ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
เคยเจอปัญหานี้กับรถมือสอง รอบตก ไม่นิ่ง ฯลฯ
ล้างปีกผีเสื้อ เปลี่ยนปีกเสื้อ ไม่หาย
สุดท้ายเปลี่ยนเครื่องใหม่ยกชุด หายครับ แน่น ๆ เลย  8)

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
เคยเจอปัญหานี้กับรถมือสอง รอบตก ไม่นิ่ง ฯลฯ
ล้างปีกผีเสื้อ เปลี่ยนปีกเสื้อ ไม่หาย
สุดท้ายเปลี่ยนเครื่องใหม่ยกชุด หายครับ แน่น ๆ เลย  8)

แบบนี้ ต้องเอา K20A มาวางใน City ZX แล้วล่ะ

จะได้ไล่กวด Civic 1.5 Turbo ได้ครับ  ;)
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??