(ยาวหน่อยนะครับ).....เกริ่นก่อนว่าปกติผมจะฟังเพลงในรถผ่าน CD เท่านั้น ไม่ได้ใช้ USB ( Font รองรับเฉพาะ mp3 เมื่อต่อผ่านช่อง USB) และรถคันปัจจุบัน หากเปลี่ยน Font แล้ว มันไม่เข้ากับตัวรถอย่างแรง ผมเลยทำใจฟังเท่าที่ติดรถมาแค่นั้น ในอนาคตอาจเปลี่ยนชุดเล็กๆ ลำโพง หรืออะไรก็ว่ากันไป
จุดเปลี่ยนคือ ผมเพิ่งเปลี่ยนมือถือซึ่งมันไม่มีช่อง 3.5 แล้ว มีแต่ USB-C ....dongle ที่แถมมา พอต่อกับหูฟัง เสียงมันไม่ไหวจริงๆนะ หลังศึกษาเพิ่มเติมจึงไปซื้อ USB-C to Mini 3.5 แบบมี Dac ในตัวมา 2 อัน (700 กับ 1,400 บาท) รู้สึกเสียงดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจครับ
มันเลยต่อยอดมาถึงเครื่องเสียงในรถล่ะ ว่าจะฟังผ่านมือถือได้บ้างหรือเปล่า ซึ่งทางเลือกในรถคันนี้มี 2 แบบ คือ Bluetooth และ Aux...... BT ตัดไปก่อน เพราะผมคิดเอาเองว่าด้วยงบประมาณที่มี เสียงจาก BT รุ่นธรรมดาน่าจะ drop ไปพอสมควร เลยเหลือแต่ Aux ที่เค้าว่าเสียงมันจะ Drop เหมือนกัน แต่คงไม่เท่า BT มั้ง.........ว่าแล้วก็ไปซื้อสาย mini3.5 to mini 3.5 มาเส้นนึง 500 บาท ยาว 15 ซม.พอ เพราะอ่านเจอใน web นี้แหล่ะว่า ยิ่งยาวสัญญาณยิ่งหาย
ปล. ที่ผมลงราคาของแต่ละตัว เพื่อต้องการสื่อว่าไม่ได้ใช้ของที่แถมมา และไม่ได้ใช้สายที่ดีเกินไป แต่ใช้แค่รุ่นเริ่มต้นเท่านั้น
พอของครบ ก็ได้เวลามาลองกันซะที ชุดมีดังนี้ครับ
ไฟล์เพลง .wav (rip จาก CD) > มือถือ Andriod (เร่ง volume 85%) > USB-C (dac) to 3.5> สาย mini to mini (ยาว 15 ซม.)> ช่อง Aux> Font (volume < 50%) >
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผมร้องโอ้โหอยู่คนเดียวในรถ

เพราะดีขึ้นกว่าที่คิดมาก ลำโพงก็ยังเป็นลำโพงติดรถอยู่เลย
ตัดมาที่คำถาม มี 2 ข้อครับ
1.ชุดข้างบนมีอะไรที่ผมทำผิด หรือไม่สมควรทำหรือเปล่าครับ เช่น เร่งเสียงจากมือถือมากเกินไป
2.ในอนาคต หากเพิ่ม Amp ในรถ (ไม่ใช่แบบ Portable สำหรับหูฟัง) แล้วผมเปลี่ยนชุดเป็นแบบข้างล่างนี้ คำถามเหมือนเดิมคือ มีอะไรที่ผมไม่ควรทำในระบบนี้หรือเปล่าครับ เช่นมือถือเจ๊งแน่ถ้าต่อแบบนี้ ฯลฯ
ไฟล์เพลง .wav (rip จาก CD) > มือถือ Andriod (เร่ง volume 85%) > USB-C (dac) to 3.5> สาย mini to RCA (ยาว 1 เมตร.)> Amp ใหม่> ลำโพงใหม่