ผู้เขียน หัวข้อ: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid  (อ่าน 16600 ครั้ง)

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 10:24:12 »
อยากทราบความเห็นของทุกท่านครับ ระหว่าง Honda Civic 1.5T กับ Altis Hybrid
สองรุ่นนี้ คันไหนค่าบำรุงรักษาถูกกว่าและการดูแลง่ายกว่า/จุกจิกน้อยกว่ากันครับ   
และ ถ้าให้เลือกใน2รุ่นนี้ เลือกคันไหนเหรอครับ เพราะเหตุใด 

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 10:38:08 »
2 คันนี้ ใหม่ทั้งคู่ มี FC/FK ที่ออกมาก่อนจน MC แล้ว ระยะเวลาก็ประมาณ 3 ปี เดาว่ารถยังเพิ่งจะหมด warranty ซึ่งมันก็ยังไม่ได้บอกอะไร ยิ่ง Altis เพิ่งจะออกมา ยิ่งยังคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้เลย ไหนจะ warranty ระบบ hybrid อีก

เพราะเรื่องค่าซ่อมบำรุง ว่ากันที่ตอนหมด warranty ไปแล้ว

ถ้าเลือกตาม Life Style ของผมเอง ถ้าต้องเลือก C-Seg ซักคัน ณ ตอนนี้ ยังไงก็เลือก Civic FC หรือ FK เท่านั้นเลย

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,303
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 10:55:06 »
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,303
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 11:02:35 »
(แก้ไข) Altis1.8
รูปบน เบนซิน1.8
รูปล่าง เบนซิน1.8HV
https://www.toyota.co.th/customerservice/maintenance_lookup_50_100000
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2019, 15:30:35 โดย CNX »
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 527
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 11:49:29 »
โดยปกติถ้าเข้า 0 อย่างเดียวผมว่า Honda ถูกกว่า Toyota นะ (แต่ถ้าเข้าอู่นอก Toyota ค่าอะไหล่ถูกกว่า หาคนซ่อมง่ายกว่า)

ส่วนรถเทอร์โบบ้านๆ ถ้าไม่ไปยุ่งอะไรกับมันผมว่าก็ไม่มีค่าบำรุงรักษาอะไรแพงกว่าเครื่องธรรมดาเป็นพิเศษ ยกเว้นจะมีค่าอะไหล่ที่เป็นอุปกรณ์ส่วนควบเทอร์โบทั้งหลายที่อาจจะราคาสูงหน่อยครับ แต่คิดว่าคงไม่เท่าไฮบริด และซับซ้อนน้อยกว่า หาอู่นอกซ่อมง่ายกว่า

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 11:52:18 »
Altis1.8
https://www.toyota.co.th/customerservice/maintenance_lookup_50_100000

รวมค่าMaintenance ทุกอย่างจนครบ 100,000 กม. แล้วนี่ Civic 1.5T แพงกว่าไม่ถึง3,000 นะครับเนี่บ  :-[

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 12:02:47 »
Altis1.8
https://www.toyota.co.th/customerservice/maintenance_lookup_50_100000

อันนี้ อัลติส 1.8 ธรรมดา
ไม่ใช่ไฮบริดนะครับ

ไปส่องมาแระ
อัลติสไฮบริด ฟรีค่าแรง 10รอบ ถึง 1แสนกิโลเลย รวมๆแล้ว ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง เลยถูกกว่าซิวิคแทบจะทุกรอบเลย

แต่อยากเห็นระยะ 2 แสนโล (ซิวิคมี) แต่อัลติสในเว็บไม่มี ไม่รู้ว่าในสมุดคู่มือะมีไหมหนอ

แต่เห็นความต่างชัดๆคือ อัลติส เปลี่ยนกรอง นมค. ให้ทุกรอบ ซิวิค เปลี่ยนข้ามรอบเป็นทุก 1 ปีแทน
แต่พอเป็นกรองอากาศ
ซิวิค เน้นโบ เลยเปลี่ยนทุก 18เดือน  อัลติส 2ปี

กรองแอร์ อัลติส 18 เดือน ซิวิค ปีละครั้ง

ที่ 8หมื่นโล
ซิวิคเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ (เน้นระวังเกียร์เปราะเพราะแรง 555) อัลติสไม่มีแฮะ
แต่อัลติสมาเปลี่ยนอะไหล่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแทน (เน้นน้ำมันสะอาด)

ที่แสนโล เปลี่ยนหัวเทียนทั้งคู่
อัลติส 4พัน ตกหัวละพัน หัวเทียนแมร่งจะเทพไปไหน55
ซิวิค 2440 ตกหัวละ 610บาท

ดูแล้ว ซิวิคน่าจะต้องแก้เกมส์ราคาค่าแรงนะ เล่นแถมมาแค่ 2 ครั้งแรกเอง ส่วนอัลติสไฮบริด ได้ฟรีค่าแรงถึงแสนกิโลเลย ตรงนี้คุ้มสุดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2019, 12:13:18 โดย delete »

ออฟไลน์ adiPureII

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 245
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 12:46:43 »
Altis HV ฟรีค่าแรงถึงแสนโล ไปศูนย์ buzz ไม่ล้างรถ ได้คูปองอีก 500 สำหรับใช้ครั้งต่อไป
สรุปเข้าศูนย์ ไม่เสียค่าแรง แถมได้ลดอีก 500 ทุกรอบ

Civic Turbo ฟรีค่าแรงสองครั้งมั้ง นอกนั้นเสียค่าแรง แถมมี Check A,B ขึ้นอีก
สรุป Civic Turbo น่าจะแพงกว่าเยอะ

แต่คนซื้อ ถ้าใช้เหตุผลด้านความประหยัดเงิน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง คงไป Altis แน่นอน
Civic Turbo นี่ใช้อารมณ์ล้วนๆ ยอมเสียแพงปีละ 2หมื่น (ทั้งค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน) เพื่อตอบสนอง need ความสวยงามของตัวรถ

ปล. ผมก็ตัดสินใจเลือกอยู่ ตอนนี้ใจไปทาง civic สีเทาใหม่ สุดๆ จะไปจองในเดือนนี้ละครับ (แต่เดือนหน้าอาจเปลี่ยนใจอีก เปลี่ยนใจทุกเดือน 555)

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 13:51:51 »
ผมไม่มีรถทั้ง2 รุ่นแต่มีที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันหรือคล้ายกันทั้ง2 รุ่นคือ chr hybrid & Accord turbo เรื่อง

ค่าบำรุงรักษา จริงๆไม่ต่างกันมากราคาพอกันแต่ altis hybrid ก้คือทำทุกอย่างตามระยะที่เราเคยชินๆกัน

คือ 6 เดือนหรือ 10000km แต่ civic turbo เรื่องน้ำมันเครื่องจะใช้ตามจอรถขึ้นโชว์ซึ่งบางคนอาจจะ 5000

Km โชว์หรือบางคนมากกว่านั้นจนถึง 10000km ส่วนใหญ่ที่เตือนเร็วคือวิ่งรถติดๆครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะ

ครับ อย่างรถผม G10 turbo ผมวิ่งในเมือง40% วิ่งไปกลับชลบุรีบูรพาวิถีซะเยอะ รถผมremap มีขึ้น

Dyno 2 รอบ ตอนนี้วิ่งไป 8100 km จอรถขึ้นบอกอีก 2000km ถึงเข้าแต่ผมรู้สึกได้ว่ารถแปลกๆอืดลงไป

นิด ดูน้ำมันเครื่องค่อนข้างเข้มเยอะแล้ว (ผมรู้สึกว่ามันเข้มตั้งแต่ 6000km) ตอนนี้จองเข้าวันอังคารหน้าแล้ว

ครับ ผมเคยถามเพื่อนที่ขับ fk จูนเครื่องคนนึงมันบอก มันเข้า 8000km ตลอด อีกอย่างคือน้ำมันเครื่อง

0w-20 ที่honda ใช้ให้กับเครื่อง 1.5t ไม่เหมาะครับ ผมถ่ายผมเอาน้ำมันเครื่องข้างนอกเข้าไปถ่ายศูนย์

ครับ ลองเปรียบเทียบดูครับว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ถ้าผมเป็น จขกท. ผมเอา civic 1.5t

แน่นอนครับ ขับสนุกกว่าช่วงล่างแค่ได้ยางเกาะๆไป ไม่แพ้ tnga แน่ครับ ขับสนุกไม่อุ้ยอ้ายเท่าด้วย

อยากจูนทำได้อีกไม่น้อยครับ chr hybrid ที่บ้านใช้อัตราเร่งไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ altis จะดีกว่าหน่อย แต่เรื่อง

ประหยัดนี่สุดๆนะครับ ถือว่าดีมาก ลองดูละกันครับ ผมสรุปให้ จขกท. ไปบ้างละกันคือ ถ้า เน้นขับเร็ว แต่ง

ห้องโดยสารนั่งสบายกว่าใหญ่กว่า ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันมากมาย เอา civic 1.5t เลยครับ แต่ถ้าเน้นขับเดิมๆ

ไม่ชอบขับเร็ว ไปเรื่อยๆ เน้นประหยัดน้ำมันแบบดีมากๆ เอา altis hv ครับ ลองนั่งเบาะหลัง altis ด้วยนะครับ

เพราะที่ผมลองนั่งไม่สบายเลยครับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2019, 13:54:38 โดย AkE »

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 14:07:53 »
Altis HV ฟรีค่าแรงถึงแสนโล ไปศูนย์ buzz ไม่ล้างรถ ได้คูปองอีก 500 สำหรับใช้ครั้งต่อไป
สรุปเข้าศูนย์ ไม่เสียค่าแรง แถมได้ลดอีก 500 ทุกรอบ

Civic Turbo ฟรีค่าแรงสองครั้งมั้ง นอกนั้นเสียค่าแรง แถมมี Check A,B ขึ้นอีก
สรุป Civic Turbo น่าจะแพงกว่าเยอะ

แต่คนซื้อ ถ้าใช้เหตุผลด้านความประหยัดเงิน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง คงไป Altis แน่นอน
Civic Turbo นี่ใช้อารมณ์ล้วนๆ ยอมเสียแพงปีละ 2หมื่น (ทั้งค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน) เพื่อตอบสนอง need ความสวยงามของตัวรถ

ปล. ผมก็ตัดสินใจเลือกอยู่ ตอนนี้ใจไปทาง civic สีเทาใหม่ สุดๆ จะไปจองในเดือนนี้ละครับ (แต่เดือนหน้าอาจเปลี่ยนใจอีก เปลี่ยนใจทุกเดือน 555)

คิดคล้ายกันเลยครับ ชอบ FK สีเทาตัวใหม่ ถ้าเลือกก็เพราะอารมณ์ล้วนๆ 555
แต่ค่าบำรุงรักษา Altis Hv ประหยัดกว่าเยอะเลยนะครับ

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 14:27:19 »
ผมไม่มีรถทั้ง2 รุ่นแต่มีที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันหรือคล้ายกันทั้ง2 รุ่นคือ chr hybrid & Accord turbo เรื่อง

ค่าบำรุงรักษา จริงๆไม่ต่างกันมากราคาพอกันแต่ altis hybrid ก้คือทำทุกอย่างตามระยะที่เราเคยชินๆกัน

คือ 6 เดือนหรือ 10000km แต่ civic turbo เรื่องน้ำมันเครื่องจะใช้ตามจอรถขึ้นโชว์ซึ่งบางคนอาจจะ 5000

Km โชว์หรือบางคนมากกว่านั้นจนถึง 10000km ส่วนใหญ่ที่เตือนเร็วคือวิ่งรถติดๆครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะ

ครับ อย่างรถผม G10 turbo ผมวิ่งในเมือง40% วิ่งไปกลับชลบุรีบูรพาวิถีซะเยอะ รถผมremap มีขึ้น

Dyno 2 รอบ ตอนนี้วิ่งไป 8100 km จอรถขึ้นบอกอีก 2000km ถึงเข้าแต่ผมรู้สึกได้ว่ารถแปลกๆอืดลงไป

นิด ดูน้ำมันเครื่องค่อนข้างเข้มเยอะแล้ว (ผมรู้สึกว่ามันเข้มตั้งแต่ 6000km) ตอนนี้จองเข้าวันอังคารหน้าแล้ว

ครับ ผมเคยถามเพื่อนที่ขับ fk จูนเครื่องคนนึงมันบอก มันเข้า 8000km ตลอด อีกอย่างคือน้ำมันเครื่อง

0w-20 ที่honda ใช้ให้กับเครื่อง 1.5t ไม่เหมาะครับ ผมถ่ายผมเอาน้ำมันเครื่องข้างนอกเข้าไปถ่ายศูนย์

ครับ ลองเปรียบเทียบดูครับว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ถ้าผมเป็น จขกท. ผมเอา civic 1.5t

แน่นอนครับ ขับสนุกกว่าช่วงล่างแค่ได้ยางเกาะๆไป ไม่แพ้ tnga แน่ครับ ขับสนุกไม่อุ้ยอ้ายเท่าด้วย

อยากจูนทำได้อีกไม่น้อยครับ chr hybrid ที่บ้านใช้อัตราเร่งไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ altis จะดีกว่าหน่อย แต่เรื่อง

ประหยัดนี่สุดๆนะครับ ถือว่าดีมาก ลองดูละกันครับ ผมสรุปให้ จขกท. ไปบ้างละกันคือ ถ้า เน้นขับเร็ว แต่ง

ห้องโดยสารนั่งสบายกว่าใหญ่กว่า ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันมากมาย เอา civic 1.5t เลยครับ แต่ถ้าเน้นขับเดิมๆ

ไม่ชอบขับเร็ว ไปเรื่อยๆ เน้นประหยัดน้ำมันแบบดีมากๆ เอา altis hv ครับ ลองนั่งเบาะหลัง altis ด้วยนะครับ

เพราะที่ผมลองนั่งไม่สบายเลยครับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจครับ

ขอสอบถามครับ เครื่อง 1.5T ถ้าขับเดิมๆ ไม่ได้แต่งอะไรเพิ่มเติม
ไม่ได้ขับเร็วมากมาย ถ้าโล่งๆก็ 120-140 ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ เช่น น้ำมันเครื่อง ควรจะใช้เกรดไหนครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 14:34:24 »
ผมไม่มีรถทั้ง2 รุ่นแต่มีที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันหรือคล้ายกันทั้ง2 รุ่นคือ chr hybrid & Accord turbo เรื่อง

ค่าบำรุงรักษา จริงๆไม่ต่างกันมากราคาพอกันแต่ altis hybrid ก้คือทำทุกอย่างตามระยะที่เราเคยชินๆกัน

คือ 6 เดือนหรือ 10000km แต่ civic turbo เรื่องน้ำมันเครื่องจะใช้ตามจอรถขึ้นโชว์ซึ่งบางคนอาจจะ 5000

Km โชว์หรือบางคนมากกว่านั้นจนถึง 10000km ส่วนใหญ่ที่เตือนเร็วคือวิ่งรถติดๆครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะ

ครับ อย่างรถผม G10 turbo ผมวิ่งในเมือง40% วิ่งไปกลับชลบุรีบูรพาวิถีซะเยอะ รถผมremap มีขึ้น

Dyno 2 รอบ ตอนนี้วิ่งไป 8100 km จอรถขึ้นบอกอีก 2000km ถึงเข้าแต่ผมรู้สึกได้ว่ารถแปลกๆอืดลงไป

นิด ดูน้ำมันเครื่องค่อนข้างเข้มเยอะแล้ว (ผมรู้สึกว่ามันเข้มตั้งแต่ 6000km) ตอนนี้จองเข้าวันอังคารหน้าแล้ว

ครับ ผมเคยถามเพื่อนที่ขับ fk จูนเครื่องคนนึงมันบอก มันเข้า 8000km ตลอด อีกอย่างคือน้ำมันเครื่อง

0w-20 ที่honda ใช้ให้กับเครื่อง 1.5t ไม่เหมาะครับ ผมถ่ายผมเอาน้ำมันเครื่องข้างนอกเข้าไปถ่ายศูนย์

ครับ ลองเปรียบเทียบดูครับว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ถ้าผมเป็น จขกท. ผมเอา civic 1.5t

แน่นอนครับ ขับสนุกกว่าช่วงล่างแค่ได้ยางเกาะๆไป ไม่แพ้ tnga แน่ครับ ขับสนุกไม่อุ้ยอ้ายเท่าด้วย

อยากจูนทำได้อีกไม่น้อยครับ chr hybrid ที่บ้านใช้อัตราเร่งไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ altis จะดีกว่าหน่อย แต่เรื่อง

ประหยัดนี่สุดๆนะครับ ถือว่าดีมาก ลองดูละกันครับ ผมสรุปให้ จขกท. ไปบ้างละกันคือ ถ้า เน้นขับเร็ว แต่ง

ห้องโดยสารนั่งสบายกว่าใหญ่กว่า ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันมากมาย เอา civic 1.5t เลยครับ แต่ถ้าเน้นขับเดิมๆ

ไม่ชอบขับเร็ว ไปเรื่อยๆ เน้นประหยัดน้ำมันแบบดีมากๆ เอา altis hv ครับ ลองนั่งเบาะหลัง altis ด้วยนะครับ

เพราะที่ผมลองนั่งไม่สบายเลยครับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจครับ

ขอสอบถามครับ เครื่อง 1.5T ถ้าขับเดิมๆ ไม่ได้แต่งอะไรเพิ่มเติม
ไม่ได้ขับเร็วมากมาย ถ้าโล่งๆก็ 120-140 ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ เช่น น้ำมันเครื่อง ควรจะใช้เกรดไหนครับ
แบบนี้นสบายๆครับแต่ถ้ารถติดใน กทม. หนักๆบ่อยๆ รถอาจจะขึ้นให้เข้าศูนย์เร็วขึ้นครับ ส่วนน้ำมันเครื่อง ผมใช้ เบอร์ 40 mobil 1 ครับ อย่างน้อยควร 30 ครับรถ turbo spec อาจจะให้ใช้ 20 ได้แต่ถ้าใช้จริงๆระยะยาวร้อนจัดยังไงก้มีผลครับ

ออฟไลน์ adiPureII

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 245
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 14:45:37 »
ผมไม่มีรถทั้ง2 รุ่นแต่มีที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันหรือคล้ายกันทั้ง2 รุ่นคือ chr hybrid & Accord turbo เรื่อง

ค่าบำรุงรักษา จริงๆไม่ต่างกันมากราคาพอกันแต่ altis hybrid ก้คือทำทุกอย่างตามระยะที่เราเคยชินๆกัน

คือ 6 เดือนหรือ 10000km แต่ civic turbo เรื่องน้ำมันเครื่องจะใช้ตามจอรถขึ้นโชว์ซึ่งบางคนอาจจะ 5000

Km โชว์หรือบางคนมากกว่านั้นจนถึง 10000km ส่วนใหญ่ที่เตือนเร็วคือวิ่งรถติดๆครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะ

ครับ อย่างรถผม G10 turbo ผมวิ่งในเมือง40% วิ่งไปกลับชลบุรีบูรพาวิถีซะเยอะ รถผมremap มีขึ้น

Dyno 2 รอบ ตอนนี้วิ่งไป 8100 km จอรถขึ้นบอกอีก 2000km ถึงเข้าแต่ผมรู้สึกได้ว่ารถแปลกๆอืดลงไป

นิด ดูน้ำมันเครื่องค่อนข้างเข้มเยอะแล้ว (ผมรู้สึกว่ามันเข้มตั้งแต่ 6000km) ตอนนี้จองเข้าวันอังคารหน้าแล้ว

ครับ ผมเคยถามเพื่อนที่ขับ fk จูนเครื่องคนนึงมันบอก มันเข้า 8000km ตลอด อีกอย่างคือน้ำมันเครื่อง

0w-20 ที่honda ใช้ให้กับเครื่อง 1.5t ไม่เหมาะครับ ผมถ่ายผมเอาน้ำมันเครื่องข้างนอกเข้าไปถ่ายศูนย์

ครับ ลองเปรียบเทียบดูครับว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ถ้าผมเป็น จขกท. ผมเอา civic 1.5t

แน่นอนครับ ขับสนุกกว่าช่วงล่างแค่ได้ยางเกาะๆไป ไม่แพ้ tnga แน่ครับ ขับสนุกไม่อุ้ยอ้ายเท่าด้วย

อยากจูนทำได้อีกไม่น้อยครับ chr hybrid ที่บ้านใช้อัตราเร่งไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ altis จะดีกว่าหน่อย แต่เรื่อง

ประหยัดนี่สุดๆนะครับ ถือว่าดีมาก ลองดูละกันครับ ผมสรุปให้ จขกท. ไปบ้างละกันคือ ถ้า เน้นขับเร็ว แต่ง

ห้องโดยสารนั่งสบายกว่าใหญ่กว่า ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันมากมาย เอา civic 1.5t เลยครับ แต่ถ้าเน้นขับเดิมๆ

ไม่ชอบขับเร็ว ไปเรื่อยๆ เน้นประหยัดน้ำมันแบบดีมากๆ เอา altis hv ครับ ลองนั่งเบาะหลัง altis ด้วยนะครับ

เพราะที่ผมลองนั่งไม่สบายเลยครับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจครับ

สอบถาม ใช้น้ำมันที่เอาไปเอง ตัวไหนครับ เครื่อง 1.5T honda

แล้วแบบนี้รถยังอยู่ในประกันไหม

ออฟไลน์ Maestro

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 185
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 14:52:23 »
จริงๆแล้วถ้าเป็นเรื่องเบอร์น้ำมัน นอกจากจะมี 0w20 แล้วในศูนย์ Honda มีเบอร์ 5w40 ด้วยนะ แต่ว่าราคาก็แพงกว่าหลายร้อยอยู่และไม่ทราบว่าเป็นของยี่ห้ออะไรด้วย

ผมไม่มีรถทั้ง2 รุ่นแต่มีที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันหรือคล้ายกันทั้ง2 รุ่นคือ chr hybrid & Accord turbo เรื่อง

ค่าบำรุงรักษา จริงๆไม่ต่างกันมากราคาพอกันแต่ altis hybrid ก้คือทำทุกอย่างตามระยะที่เราเคยชินๆกัน

คือ 6 เดือนหรือ 10000km แต่ civic turbo เรื่องน้ำมันเครื่องจะใช้ตามจอรถขึ้นโชว์ซึ่งบางคนอาจจะ 5000

Km โชว์หรือบางคนมากกว่านั้นจนถึง 10000km ส่วนใหญ่ที่เตือนเร็วคือวิ่งรถติดๆครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะ

ครับ อย่างรถผม G10 turbo ผมวิ่งในเมือง40% วิ่งไปกลับชลบุรีบูรพาวิถีซะเยอะ รถผมremap มีขึ้น

Dyno 2 รอบ ตอนนี้วิ่งไป 8100 km จอรถขึ้นบอกอีก 2000km ถึงเข้าแต่ผมรู้สึกได้ว่ารถแปลกๆอืดลงไป

นิด ดูน้ำมันเครื่องค่อนข้างเข้มเยอะแล้ว (ผมรู้สึกว่ามันเข้มตั้งแต่ 6000km) ตอนนี้จองเข้าวันอังคารหน้าแล้ว

ครับ ผมเคยถามเพื่อนที่ขับ fk จูนเครื่องคนนึงมันบอก มันเข้า 8000km ตลอด อีกอย่างคือน้ำมันเครื่อง

0w-20 ที่honda ใช้ให้กับเครื่อง 1.5t ไม่เหมาะครับ ผมถ่ายผมเอาน้ำมันเครื่องข้างนอกเข้าไปถ่ายศูนย์

ครับ ลองเปรียบเทียบดูครับว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ถ้าผมเป็น จขกท. ผมเอา civic 1.5t

แน่นอนครับ ขับสนุกกว่าช่วงล่างแค่ได้ยางเกาะๆไป ไม่แพ้ tnga แน่ครับ ขับสนุกไม่อุ้ยอ้ายเท่าด้วย

อยากจูนทำได้อีกไม่น้อยครับ chr hybrid ที่บ้านใช้อัตราเร่งไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ altis จะดีกว่าหน่อย แต่เรื่อง

ประหยัดนี่สุดๆนะครับ ถือว่าดีมาก ลองดูละกันครับ ผมสรุปให้ จขกท. ไปบ้างละกันคือ ถ้า เน้นขับเร็ว แต่ง

ห้องโดยสารนั่งสบายกว่าใหญ่กว่า ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันมากมาย เอา civic 1.5t เลยครับ แต่ถ้าเน้นขับเดิมๆ

ไม่ชอบขับเร็ว ไปเรื่อยๆ เน้นประหยัดน้ำมันแบบดีมากๆ เอา altis hv ครับ ลองนั่งเบาะหลัง altis ด้วยนะครับ

เพราะที่ผมลองนั่งไม่สบายเลยครับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจครับ

อาจจะนอกเรื่องนิดนึง
แต่ผมเห็นตัวว่า Hybrid 1.8 ของโตโยต้ากำลังเครื่องน้อยเกินไป ยิ่งบรรทุกเยอะ เจอเนินเขา จะอืดมากๆ

อีกเรื่องที่ Altis กับ Chr มันน่ารำคาญสำหรับผมก็คง ช่องเก็บของน้อย จะวางกุญแจ จะวางโทรศัพท์ ส่วนใหญ่ต้องวางใว้ในช่องวางแก้วน้ำ
ถ้าเดินทางไกลใส่ขวดน้ำ แก้วน้ำ เข้าไปก็ไม่มีที่จะวางของจุกจิกแล้ว
2019 - Toyota Chr 1.8 Hybrid High
2008 - Honda Jazz 1.5 S
2003 - Honda Steam 2.0 S

ออฟไลน์ hack3rb43

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 107
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 14:58:29 »
ขับ FC MC อยู่ครับ โดยปรกติ เข้า code a และ b เปลี่ยนน้ำมันเครื่องราวๆ พันนึงครับ แต่ ต้องเข้า ทุก 6 เดือนอีกรอบ คิดไปรอบละราวๆ 300 ครับ

ส่วน นมค ของผมขึ้นเปลี่ยน ราวๆ 7000Km ต่อรอบ แต่ตอนไกล้ๆจะขึ้น รถก็อึดแล้วครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 15:24:44 »
จริงๆแล้วถ้าเป็นเรื่องเบอร์น้ำมัน นอกจากจะมี 0w20 แล้วในศูนย์ Honda มีเบอร์ 5w40 ด้วยนะ แต่ว่าราคาก็แพงกว่าหลายร้อยอยู่และไม่ทราบว่าเป็นของยี่ห้ออะไรด้วย

ผมไม่มีรถทั้ง2 รุ่นแต่มีที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันหรือคล้ายกันทั้ง2 รุ่นคือ chr hybrid & Accord turbo เรื่อง

ค่าบำรุงรักษา จริงๆไม่ต่างกันมากราคาพอกันแต่ altis hybrid ก้คือทำทุกอย่างตามระยะที่เราเคยชินๆกัน

คือ 6 เดือนหรือ 10000km แต่ civic turbo เรื่องน้ำมันเครื่องจะใช้ตามจอรถขึ้นโชว์ซึ่งบางคนอาจจะ 5000

Km โชว์หรือบางคนมากกว่านั้นจนถึง 10000km ส่วนใหญ่ที่เตือนเร็วคือวิ่งรถติดๆครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะ

ครับ อย่างรถผม G10 turbo ผมวิ่งในเมือง40% วิ่งไปกลับชลบุรีบูรพาวิถีซะเยอะ รถผมremap มีขึ้น

Dyno 2 รอบ ตอนนี้วิ่งไป 8100 km จอรถขึ้นบอกอีก 2000km ถึงเข้าแต่ผมรู้สึกได้ว่ารถแปลกๆอืดลงไป

นิด ดูน้ำมันเครื่องค่อนข้างเข้มเยอะแล้ว (ผมรู้สึกว่ามันเข้มตั้งแต่ 6000km) ตอนนี้จองเข้าวันอังคารหน้าแล้ว

ครับ ผมเคยถามเพื่อนที่ขับ fk จูนเครื่องคนนึงมันบอก มันเข้า 8000km ตลอด อีกอย่างคือน้ำมันเครื่อง

0w-20 ที่honda ใช้ให้กับเครื่อง 1.5t ไม่เหมาะครับ ผมถ่ายผมเอาน้ำมันเครื่องข้างนอกเข้าไปถ่ายศูนย์

ครับ ลองเปรียบเทียบดูครับว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ถ้าผมเป็น จขกท. ผมเอา civic 1.5t

แน่นอนครับ ขับสนุกกว่าช่วงล่างแค่ได้ยางเกาะๆไป ไม่แพ้ tnga แน่ครับ ขับสนุกไม่อุ้ยอ้ายเท่าด้วย

อยากจูนทำได้อีกไม่น้อยครับ chr hybrid ที่บ้านใช้อัตราเร่งไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ altis จะดีกว่าหน่อย แต่เรื่อง

ประหยัดนี่สุดๆนะครับ ถือว่าดีมาก ลองดูละกันครับ ผมสรุปให้ จขกท. ไปบ้างละกันคือ ถ้า เน้นขับเร็ว แต่ง

ห้องโดยสารนั่งสบายกว่าใหญ่กว่า ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันมากมาย เอา civic 1.5t เลยครับ แต่ถ้าเน้นขับเดิมๆ

ไม่ชอบขับเร็ว ไปเรื่อยๆ เน้นประหยัดน้ำมันแบบดีมากๆ เอา altis hv ครับ ลองนั่งเบาะหลัง altis ด้วยนะครับ

เพราะที่ผมลองนั่งไม่สบายเลยครับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจครับ

อาจจะนอกเรื่องนิดนึง
แต่ผมเห็นตัวว่า Hybrid 1.8 ของโตโยต้ากำลังเครื่องน้อยเกินไป ยิ่งบรรทุกเยอะ เจอเนินเขา จะอืดมากๆ

อีกเรื่องที่ Altis กับ Chr มันน่ารำคาญสำหรับผมก็คง ช่องเก็บของน้อย จะวางกุญแจ จะวางโทรศัพท์ ส่วนใหญ่ต้องวางใว้ในช่องวางแก้วน้ำ
ถ้าเดินทางไกลใส่ขวดน้ำ แก้วน้ำ เข้าไปก็ไม่มีที่จะวางของจุกจิกแล้ว
ช่ายครับ ในศูนย์ก้มี 40 แต่ใช้ของยี่ห้อดังๆแล้ว ปสก. ดีกว่าครับ ราคาเบอร์40 ในศูนย์ไม่เบาครับ

สูสีแบรนด์ใหญ่ๆเลย ยี่ห้ออะไรไม่แน่ใจที่honda ให้ผลิตให้เปลี่ยนหลายครั้ง

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 15:28:50 »
ขับ FC MC อยู่ครับ โดยปรกติ เข้า code a และ b เปลี่ยนน้ำมันเครื่องราวๆ พันนึงครับ แต่ ต้องเข้า ทุก 6 เดือนอีกรอบ คิดไปรอบละราวๆ 300 ครับ

ส่วน นมค ของผมขึ้นเปลี่ยน ราวๆ 7000Km ต่อรอบ แต่ตอนไกล้ๆจะขึ้น รถก็อึดแล้วครับ

น้ำมันเครื่องเราซื้อไปเองแต่ให้ศูนย์เปลี่ยนให้ได้มั้ยครับ หรือว่าต้องใช้ของศูนย์อย่างเดียวเลย

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,303
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 15:35:36 »
Altis1.8
https://www.toyota.co.th/customerservice/maintenance_lookup_50_100000

อันนี้ อัลติส 1.8 ธรรมดา
ไม่ใช่ไฮบริดนะครับ

ไปส่องมาแระ
อัลติสไฮบริด ฟรีค่าแรง 10รอบ ถึง 1แสนกิโลเลย รวมๆแล้ว ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง เลยถูกกว่าซิวิคแทบจะทุกรอบเลย

แต่อยากเห็นระยะ 2 แสนโล (ซิวิคมี) แต่อัลติสในเว็บไม่มี ไม่รู้ว่าในสมุดคู่มือะมีไหมหนอ

แต่เห็นความต่างชัดๆคือ อัลติส เปลี่ยนกรอง นมค. ให้ทุกรอบ ซิวิค เปลี่ยนข้ามรอบเป็นทุก 1 ปีแทน
แต่พอเป็นกรองอากาศ
ซิวิค เน้นโบ เลยเปลี่ยนทุก 18เดือน  อัลติส 2ปี

กรองแอร์ อัลติส 18 เดือน ซิวิค ปีละครั้ง

ที่ 8หมื่นโล
ซิวิคเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ (เน้นระวังเกียร์เปราะเพราะแรง 555) อัลติสไม่มีแฮะ
แต่อัลติสมาเปลี่ยนอะไหล่กรองน้ำมันเชื้อเพลิงแทน (เน้นน้ำมันสะอาด)

ที่แสนโล เปลี่ยนหัวเทียนทั้งคู่
อัลติส 4พัน ตกหัวละพัน หัวเทียนแมร่งจะเทพไปไหน55
ซิวิค 2440 ตกหัวละ 610บาท

ดูแล้ว ซิวิคน่าจะต้องแก้เกมส์ราคาค่าแรงนะ เล่นแถมมาแค่ 2 ครั้งแรกเอง ส่วนอัลติสไฮบริด ได้ฟรีค่าแรงถึงแสนกิโลเลย ตรงนี้คุ้มสุดๆ

Altis1.8 แก้ไขข้อมูลแล้วครับ ทั้ง2รุ่น

ALtis น้ำมันเกียร์ศูนย์แกลลอน1,xxx
+ค่าแรง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2019, 15:38:13 โดย CNX »
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 17:02:23 »
ขับ FC MC อยู่ครับ โดยปรกติ เข้า code a และ b เปลี่ยนน้ำมันเครื่องราวๆ พันนึงครับ แต่ ต้องเข้า ทุก 6 เดือนอีกรอบ คิดไปรอบละราวๆ 300 ครับ

ส่วน นมค ของผมขึ้นเปลี่ยน ราวๆ 7000Km ต่อรอบ แต่ตอนไกล้ๆจะขึ้น รถก็อึดแล้วครับ

น้ำมันเครื่องเราซื้อไปเองแต่ให้ศูนย์เปลี่ยนให้ได้มั้ยครับ หรือว่าต้องใช้ของศูนย์อย่างเดียวเลย
Honda ให้เอาไปเปลี่ยนในศูนย์ได้ครับ ถ้า dealer ไหนบอกไม่ได้ ฝากแซวหน่อยว่าศูนย์ของ Honda automobile เค้าให้ครับ 55555 ผมใช้มาหลายศูนย์honda ให้หมดนะ แต่ toyota บางศูนย์ครับ

ออฟไลน์ Arnan_td

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 329
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 17:04:44 »
ผมมาตอบในฐานะคนใช้ hybrid ของโตโยต้านะครับ แล้วก็เข้าศูนย์ทุกรอบตอนนี้รถอายุ 6 ปีครึ่งแล้ว กำลังจะเข้า 7 
Prius MC 2012 ครับ เข้าศูนย์ต่อครั้งก็ประมาณ 2300 ครับเพราะหมดฟรีค่าแรงแล้ว เวลาแจ้งก็แจ้งให้เป็นคือเปลี่ยนตามที่เราต้องการเท่านั้น
ไม่งั้นมันจะมาเจอค่าโน่นนี่นั่นอีกเยอะมากครับ ตอนนี้  130,000 โลแล้ว เปลี่ยนแบตใหญ่ไป 1 ครั้งตอน 98,000 โลเสียค่าใช้จ่ายไป 838 บาท
ใช่ครับแค่นั้นแหละเพราะมีประกัน 10 ปี กับแบตลูกเล็กที่เพิ่งมาเสียตอนรถอายุ 6 ปี อีก 7200 บาท แบตอะไรไม่รู้แต่โคตรจะอึดเลย

นอกนั้นก็ ลูกหมากกันโคลง ทั่วไปครับเหมือนที่รถเขาถึงระยะ ใช้ของศูนย์หมด ก็ไม่แพงนะครับ ตอนนี้ใช้รถเดือนละเฉลี่ย 900 -1000 โล
เติมน้ำมันตามรอบคือ 1 ครั้ง ( ถังนึงผมได้ประมาณ 920 โลแบบปล่อยจนขีดสุดท้าย ) แต่พักหลังๆมาเห็นรถอายุเยอะครับกลัวปั๊มติ๊กจะทำงานหนักไป
ก็เลยเหลือ 3 ขีดเติมแล้ว เติมต่อรอบ โซฮอล 95 ก็จะได้ประมาณ 890 บาทครับ ตอนนี้บันทึกเฉลี่ยตั้งแต่รับรถมามือ 1 จนวันนี้ได้ทั้งหมดคือ 22.3 km/l ครับ
ผมขับขึ้นเหนือบ่อย ลงใต้ก็บ่อย ประหยัดค่าน้ำมันเยอะจริงๆนะครับ มีช่วงนีงเอาไปเคลมสีรอบคัน รอรถ 1  เดือน ศูนย์ใจดีเอาวีออสตัวใหม่มาให้ใช้
เติมอาทิตย์ละถัง เพลียไปเลยครับ 900 * 4 = 3600 ต่อเดือน 

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,004
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 19:31:09 »
อัลติสรถมันเสถียรมากๆ​ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหนักๆให้ได้ยิน​ ส่วนวิคหลังหมดประกันเจอโรคยอดฮิต​ แรค, เกียร์, โบ​ เข้าไปก็คงลมจับหน่อยๆ
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 20:17:42 »
หากเข้าศูนย์ honda มันจะมีโปรแกรมจ่ายล่วงหน้าด้วยนะครับ

หากจ่ายล่วงหน้า ระยะ 100000 กิโล อาจจะถูกกว่า 10000 ได้มั้ง
ผมเคยจ่ายก่อน 2 รอบเช็คระยะ ถูกกว่าจ่ายเป็นครั้ง ๆ ประมาณ 2000 บาท

แต่ตัวไฮบริดพี่โต ดับรถเปิดแอร์นอนสบายอยู่นะครับ  8)

ออฟไลน์ Thanyanon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 329
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 21:06:16 »
altis hybrid  ถ้าใช้ไปนานๆ ค่าบำรุงรักษาแพงกว่า civic ครับ

การดูแลง่ายทั้งคู่ครับ  เข้าศุนยเชคระยะตามปกติครับ 

ถ้าใช้ยาวๆ ผมว่า civic จุกจิกกว่านิดหน่อยครับ  ปกติ honda ชอบมีปัญหาจุกจิกอยู่แล้วครับ บางคันเจอตั้งแต่รถยังใหม่ๆ แต่แก้ไขได้จบครับ

ขอแนะนำอีกเรื่องครับ  civic ช่วงล่างนุ่มกว่าเยอะ   เบาะหลังนั่งสบายกว่า   พวงมาลัย civic น้ำหนักดีกว่ามาก  altis เบาและไวเกินไปครับ ขับทางไกลไม่มั่นใจ  แนะนำให้ไปลองขับดูนะครับ     

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 21:26:18 »
อัลติสรถมันเสถียรมากๆ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหนักๆให้ได้ยิน ส่วนวิคหลังหมดประกันเจอโรคยอดฮิต แรค, เกียร์, โบ เข้าไปก็คงลมจับหน่อยๆ
Altis ไม่ค่อยเห็นปัญหาหนักๆ จริงครับ
ส่วนCivic ไม่รู้ตัว MC แก้ปัญหาที่ว่ามาได้หรือยังครับ

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,303
    • อีเมล์
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 23:00:44 »
หากเข้าศูนย์ honda มันจะมีโปรแกรมจ่ายล่วงหน้าด้วยนะครับ

หากจ่ายล่วงหน้า ระยะ 100000 กิโล อาจจะถูกกว่า 10000 ได้มั้ง
ผมเคยจ่ายก่อน 2 รอบเช็คระยะ ถูกกว่าจ่ายเป็นครั้ง ๆ ประมาณ 2000 บาท

แต่ตัวไฮบริดพี่โต ดับรถเปิดแอร์นอนสบายอยู่นะครับ  8)

เชื่อครับ ไฮบริดToyota ปิดกระจกหลับปลอดภัย
ผมเจอที่ Shellแยกเถิน-ลี้ ตี2 ถึง6เช้า
Camry HV ปิดกระจกหลับจริงๆ ไม่ติดเครื่องยนต์
ส่วนรถผมเปิดกระจกรับอากาศนอน
ตื่น6เช้า ทักทายกันเล็กน้อย แยกย้าย
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,322
Re: ค่าบำรุงรักษา Civic 1.5Turbo กับ Altis Hybrid
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2019, 23:07:37 »
จากประสบการณ์การเอารถเข้าศูนย์ทั้งสองยี่ห้อ
ค่าบริการ honda ถูกกว่าครับ

และจากที่เคยใช้ camry hybrid มา การดูแลรักษาไม่ได้แพงเลย ไม่จุกจิกด้วย แบตเสื่อมเครมเปลี่ยนฟรี แบตลูกเล็ก รถเกือบๆ 7 ปีไม่เคยต้องเปลี่ยน

altis hybrid ตัวนี้ เบาะด้านหลังแคบไปหน่อยนะ แต่คุณภาพ ยังไงๆ ผมให้ toyota ดีกว่า honda แน่นอน จากที่ใช้มาหลายๆรุ่น รถ honda มันสวยบาดใจมากๆ และการออกแบบเพื่อนที่ใช้สอยดีกว่าแบรนด์อื่นๆ