ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่อง Turbo ถ้าขับรอบไม่ถึงช่วงแรงบิดสูงสุด ก็จะไม่ประหยัดหรือเปล่าครับ  (อ่าน 5856 ครั้ง)

ออฟไลน์ Joe Phi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
สงสัย ECO 1.0 Turbo ครับ
สงสัยเกี่ยวกับเรื่องประหยัดน้ำมัน

อ้างถึง City Turbo 1.0

แรงบิดสูงสุดเริ่มต้น 2,000 รอบ
ผมลงคำนวนอัตราทด กับขนาดล้อยาง 185/60/15 ที่ติดมา ถ้าขับรอบ 2,000 ความเร็วน่าจะ 110

เลยสงสัยว่า ขับที่ 90 (รอบเครื่องน่าจะต่ำกว่า 2,000) กับขับ 110 จุดเริ่มต้นของแรงบิดสูงสุด   อันไหน จะประหยัดน้ำมันกว่ากัน

ความสงสัยเกิดจากที่คิดเอาว่าแรงบิดสูงสุด คือประสิทธิภาพ ที่ได้จากน้ำมันสูงสุดหรือเปล่า

ออฟไลน์ Mp4_007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 787
ขับแบบไม่ติดbootมันก็จะกินเท่าเครื่อง1.0ลิตรธรรมดาถ้าขับแบบติดbootตลอดมันจะกินเท่าแรงม้าแรงบิดมันนั่นละครับ
สรุป คือขับแบบไม่ติดbootถึงจะประหยัด  ถ้าขับแบบติดbootตลอดกินนะ เพราะหมายถึงคุณจะต้องขับเร็วคลิกดาวน์ตลอดเวลาเลย ถ้าขับเร็วรถอะไรก็กินครับ
ยกตัวอย่างผม D max 1.9 ที่ผมใช้อยู่ คนอื่นเค้าก็บอกมันประหยัดนะเครื่องเล็กน่าจะกินน้อย
 แต่ผมขับมันไม่เห็นประหยัดเลย กินพอๆกับยี่ห้ออื่นเลย  ได้แค่12-13 ดีสุด15 โลลิตร
ก็พอเข้าใจได้เพราะผมจะเลี้ยงรอบให้อยู่ในช่วงติดbootตลอดคือประมาณ1800-2000รอบ เกียร์6ไม่ใส่เดี๋ยวตอนกดแซงมันช้าขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ไปมา
ถ้าขับติดbootตลอดมันจะเป็นแบบผม คือมันไม่ประหยัด

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
ขับประหยัด ขึ้นกับวิธีขับขี่มากที่สุด มีผลชัดเจนกว่า รถสองคันที่กินน้ำมันต่างกันนิดหน่อยครับ

แต่ถ้ารถคันเดียวกัน เครื่อง Turbo ไม่จำเป็นว่ารอบเครื่องที่ใช้ อยู่ในช่วงไหน ติดบูสต์ หรือไม่ ถึงจะวิ่งในย่านติดบูสต์ แต่ load ของเครื่องน้อย ECU ก็สั่งจ่ายน้ำมันน้อยครับ

เช่น MR16DDT วิ่งลอยลำ ช่วงความเร็ว 100 รอบเครื่องสูงราว 2000-2150 แต่มาตรแสดงสิ้นเปลือง real time บนหน้าจอ ก็อยู่ย่าน 19-21 กม/ลิตรครับ  หรือ ตอนไหลลงเนิน ลงเขา engine brake ดึงรอบเครื่องไปถึง 3-4 พันรอบ ECU ก็ไม่จ่ายน้ำมันครับ เพราะเครื่องไม่มี load   

load ก็มาจากวิธีขับขี่ของเราไงครับ อยู่ที่เท้าขวาเรานั้นเอง จะสั่งให้มากน้อยก็ตามน้ำหนักเท้าเราครับ

ถ้าอ้างถึงความเร็ว 90 ประหยัดกว่า 100-110 แน่นอน เพราะมีปัจจัยอื่นๆที่ให้ load ของรถเยอะขึ้น เช่น แรงต้านลมที่มากกว่าเมื่อทำความเร็ว ไม่น่าจะเกี่ยวกับรอบเครื่องโดยตรงครับ

จากประสบการณ์บอกว่า ถ้าจะเน้นประหยัด ปรับที่คนขับครับ สำคัญที่สุด รถที่กินต่างกันนิดหน่อย มีผลแต่น้อยมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2019, 17:28:03 โดย palma »
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
ทดสอบซิครับ  ควบคุมความเร็วคงที่ ในแต่ละตำแหน่ง  แล้วรีเซ็ทค่าเริ่มต้น  ทำทุก ๆช่วงความเร็วที่ต้องการ  ก็จะได้รู้ว่ารถคุณประหยัดที่ตำแหน่งไหนที่สุด

ออนไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
ติดบูสก็จ่ายน้ำมันเพิ่ม จ่ายบางเขกง่ายๆ

สายกระบะ ผมถึงกับติดวัดบูส  เข็มกระดิกเมื่อใด น้ำมันลงเมื่อนั้น
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,240
Civic 1.5 T ความเร็ว100 รอบเครื่อง1500เองมั้ง ไม่ติดบูส
ขับนิ่งๆได้มากกว่า17km/l อีก

การติดบู้สไม่ได้เป็นตัวบอกการประหยัดน้ำมันสูงสุด แต่มันประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องnaแน่ๆที่ช่วงแรงบิดเดียวกันเพราะรอบเครื่องต่ำกว่า


ออฟไลน์ tense

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
เรื่องกราฟแรงม้าแรงบิดผมว่าไว้ดูอุปนิสัยคร่าวๆของเครื่องก็พอครับ
อย่างเช่น แรงบิดสูงสุด 200Nmที่ 2000-3000rpm คุณต้องเหยียบคันเร่งสุดผ่านช่วงรอบนั้นจึงจะเกิดแรงบิดสูงสุด ถ้าคุณขับลอยๆเหยียบเบาๆมันไม่เกิดแรงบิดสูงสุดหรอกคับ ถ้าอยากประหยัดไม่ต้องสนว่ารอบเท่าไหร่ครับ ค่อยๆเหยียบไหลๆไปเรื่อยๆขับไม่เกินอัตราเร็วที่กฎหมายกำหนด ประหยัดแน่นอนครับ

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
   คำถามคือแรงบิดสูงสุดคือการใช้ประสิทธิภาพน้ำมันสูงสุดหรือป่าว ?
ไม่ใช่ครับ มันเป็นประสิธิภาพของเครื่องยนต์

  ที่นี้ก็มาทำความเข้าใจกับแรงบิดสูงสุด มีและระบุไว้เพื่ออะไร ?
แรงบิดมีหรือบอกไว้ให้รู้ว่า ถ้าเราจะต้องใช้งานมัน คือตอนเร่งแซง หรือขึ้นทางชัน
เราจะต้องกดคันเร่งให้เครื่องยนต์รอบไปถึงตรงไหน มันจะได้พาเราเร่งความเร็วไปได้ไวที่สุด

  ส่วนเรื่องของการประหยัดน้ำมัน รถคันไหนทำรอบได้ต่ำ แต่ได้ความเร็วที่สูงกว่า คันนั้นประหยัดสุดครับ
ยกตัวอย่าง รถยุโรปดีเซลแรงๆ ความเร็วที่ 100+ รอบเครื่องพันกว่าๆเอง ประหยัดกว่า Eco car อีก
เพราะ ECO car ที่ความเร็ว 100+ รอบมันจะสองพันหรือ สองพันกว่าเข้าไปแล้ว
รอบยิ่งเยอะ อัตราการบริโภคน้ำมันก็ต้องเยอะตาม ครับ  :D


ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
ความประหยัดมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรอบเครื่องยนต์ หรือแรงบิด หรือช่วงที่บูสติดเสมอไปครับ
แต่มันอยู่ในช่วงที่เครื่องยนต์มี load หรือภาระต่ำสุด ต่อระยะทางที่วิ่งได้

ซึ่งช่วงที่ว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับรถแต่ละคันด้วย อาจจะวัดค่าโดยการลองวิ่งที่ความเร็วต่างๆแล้ววัดอัตราสิ้นเปลือง หรือขึ้น Dyno อ่านค่าเครื่องยนต์แล้วคำนวณตัวเลขออกมา

คิดเล่นๆว่า แค่ขับให้รอบต่ำๆเข้าไว้มันจะประหยัดจริงหรือไม่?
ให้ลองขับรอบ 1600 ที่เกียร์ 1 หรือ 2 ไปเรื่อยๆกับขับรอบ 1600 แต่ความเร็วอยู่ 110 แบบไหนจะได้ระยะทางต่อน้ำมันที่ใช้ไปมากกว่ากัน
แน่นอนว่าขับ 110 ได้ระยะทางมากกว่าแน่ เพราะมันมี load ภาระที่ไม่มากที่ความเร็วลอยตัวแล้วแต่ทำความเร็วกินระยะทางได้มากกว่านั้นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2019, 09:26:04 โดย akewizard »

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
ถ้าใช้รอบที่อยู่ ณ แรงบิดสูงสุด มันคือ การใช้พลังหรือเชื้อเพลิงคุ้มค่า กับ การตอบสองดีที่สุด

แต่ไม่ใช่ว่า ณ แรงบิดสูงสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุดนะครับ แยกกัน คนละส่วนกันเลย

ต่อให้รถแรงบิดมากน้อย หรือ มารอบต่ำหรือรอบสูง ไม่ได้บอกว่าจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่ากัน

การที่รถแรงบิดมารอบต่ำๆ แล้วประหยัดน้ำมันมากกว่า มากจากกรณีที่เวลาต้องการอัตราเร่ง หรือ แรงบิด ไม่ต้องกดคันเร่งเยอะ รอบไม่ต้องตีสูงๆ ซึ่งเป็น "Zone" ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูง นี่คือ "ผลลัพธ์โดยตรง" ของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงครับ ไม่ว่าจะรถเทอร์โบ และ NA หรือว่ารถแรงบิดต่ำ แรงบิดเยอะ หรือ แรงบิดมารอบต่ำ หรือ มารอบสูง ก็ตาม

ดังนั้น รถที่แรงบิดต่ำ แรงบิดมาไว ตอบสนองดี เขาก็กำหนดอัตราทดของเกียร์ ณ ช่วงความเร็วใช้งาน ให้เหมาะสมรอบได้ดี -> การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงก็ตามมา

เอาแค่การทำงานทั่วไปของเครื่องยนต์ รอบ เกียร์ แรงม้า/แรงบิด ไม่รวมเทคโนโลยีสมัยใหม่หลายๆ อย่างด้วยนะ

คิดง่ายๆ เกียร์ MT ขับใช้งานเรายังอยากขับเกียร์สูงขึ้นมาหน่อย เพื่อให้รอบต่ำ และ รถยังมีกำลังส่งรถวิ่งไปได้ รอบสูงขับสนุกก็จริง แต่แดกฉิปหาย  ::) ::) ::)

ออฟไลน์ Joe Phi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
ขอบคุณทุกท่านครับ
ส่วนตัว เป็นคนเท้าแข็ง เกร็งที่ 90   สนุกดีเวลาเติมน้ำมันแล้วแข่งกับตัวเอง เอาประหยัดที่สุด   เส้นทางทำงาน มันขับยาวๆ 30 โล เลยมีช่วงทำได้

ตอนนี้ รถเดิมก็ 8 ปีละ เริ่มคลอนๆสีเริ่มร่อน เลยมองหาพาหนะคู่ใจใหม่ครับ

ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง