ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความเห็นเกียร์Dual Clutch7จังหวะ กับ Steptronic8จังหวะ ใน Mini Countryman ครับ  (อ่าน 5724 ครั้ง)

ออฟไลน์ gundam_man

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • อีเมล์
ผมกำลังจะจอง countryman แต่ลังเลว่าตัวโปรไฟล์ใหม่ได้เกียร์ Dual Clutch7จังหวะ เห็นว่าเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลกว่า และน่าจะมีอัตราเร่งกับประหยัดกว่าSteptronic8จังหวะ แต่กังวลระยะยาวว่าจะทนมั้ย จะมีปัญหาจุกจิกมั้ยครับ ขอความเห็นเกี่ยวกับเกียร์2ตัวนี้หน่อยครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,190
    • อีเมล์
ผมว่าเกียร์ออโต้ดีๆเดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนเกียร์เร็วไม่แพ้ dct แล้วครับ ยกเว้นเอาไปขับโหดๆจริงๆถึงจะเห็นความต่าง
อีกอย่างเกียร์พวก dual clutch ใช้ไปนานๆแล้วมันจะเริ่มเปลี่ยนเกียร์ไม่นุ่มนวลและไม่เงียบแบบตอนใหม่ๆ คลานตอนรถติดๆก็สู้ auto ไม่ได้
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

พวก Dual Clutch จะใช้ชุดเฟืองเกียร์แบบของเกียร์ธรรมดา (Tradition gear) มันก็จะมี loss หรือ Friction
ในระบบน้อยกว่าเกียร์ออโต้ปกติที่ใช้ชุดเฟืองแบบ Planetary ครับ เกียร์ระบบนี้ชิ้นส่วนมันจะเยอะซับซ้อน และน้ำหนักมาก
ถ้าเทียบกัน ด้วยสถานะอัตราทดทุกอย่างเท่ากัน เกียร์ที่ใช้ชุดเฟืองแบบ Tradition จะประหยัดน้ำมันกว่า ได้ความเร็วมากกว่าครับ
ถึงแม้เกียร์ออโต้ยุคใหม่ๆที่จูนมาเทพๆจะเปลี่ยนเกียร์และตัดต่อเกียร์ได้เร็วพอๆกับคลัตช์คู่ก็จริง แต่ยังไงเรื่อง Friction ในระบบ ก็ยังเสียเปรียบครับ

ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
ขอแจมหน่อยนะครับ เนื่องจากผมใช้อยู่ แต่เป็น dct แบบลดต้นทุน(focus gdi) แต่ก็เคยขับ dct ที่ออกแบบมาดีดีเช่นกัน เรื่องความทนทาน dct เลียนแบบเกียร์ธรรมดาทุกอย่าง ทนทานมากครับ รับแรงบิดได้เยอะด้วย ยกเว้นฟอร์ดที่ตายเพราะชิ้นส่วนยางตัวเดียว
สำหรับผมเกียร์ออโตระบบอื่นอาจให้ความสบาย แต่ไม่ใช่สำหรับ dct มันเป็นเกียร์ที่เกิดมาเพื่อความบันเทิงที่แท้จริง
สับเร็ว กวาดมัน อารมณ์มาเต็ม ข้อเสียก็มี เนื่องจากเลียนแบบแมนวล ถ้าโปรแกรมเกียร์ไม่เทพพอ มันจะมีลักษณะกระตุกเวลาความเร็วต่ำๆ อารมณ์จะสับเกียร์ต่อรึไม่สับดี คนเคยใช่ระบบอื่นมาอาจงงๆ แต่สายแมนวลพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก :)

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
ขอแจมหน่อยนะครับ เนื่องจากผมใช้อยู่ แต่เป็น dct แบบลดต้นทุน(focus gdi) แต่ก็เคยขับ dct ที่ออกแบบมาดีดีเช่นกัน เรื่องความทนทาน dct เลียนแบบเกียร์ธรรมดาทุกอย่าง ทนทานมากครับ รับแรงบิดได้เยอะด้วย ยกเว้นฟอร์ดที่ตายเพราะชิ้นส่วนยางตัวเดียว
สำหรับผมเกียร์ออโตระบบอื่นอาจให้ความสบาย แต่ไม่ใช่สำหรับ dct มันเป็นเกียร์ที่เกิดมาเพื่อความบันเทิงที่แท้จริง
สับเร็ว กวาดมัน อารมณ์มาเต็ม ข้อเสียก็มี เนื่องจากเลียนแบบแมนวล ถ้าโปรแกรมเกียร์ไม่เทพพอ มันจะมีลักษณะกระตุกเวลาความเร็วต่ำๆ อารมณ์จะสับเกียร์ต่อรึไม่สับดี คนเคยใช่ระบบอื่นมาอาจงงๆ แต่สายแมนวลพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก :)

พอนึกภาพออก
ถ้าเป็นงั้นจริง เหมือนได้รถที่แรงขึ้นถึงแม้จะแรงม้าเท่าเดิม และได้ความดิบในการดข้าเกียร์ จะว่าไปมันก็เข้ากัรกับบุคลิกของ mini ดีนะครับ ctw จะดิบแต่มันส์ขึ้น

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
เกียร์ ไม่ได้มีผลกับแรงม้า(ไม่ได้ทำให้เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ในอัตราทดเท่ากัน)

แต่มีผลโดยตรง หรือ เหตุผลหลักๆ เลย คือ กับการตอบสนอง  และ การเปลี่ยนเกียร์(เร็ว-ช้า หรือ เสี้ยววินาที) ระหว่าง AT vs DCT ที่ DCT เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยครับ

เกียร์ออโต้ก็มีแบบทั้งที่เป้นเฟืองปกติ และ Planetary (โครงสร้างคล้ายกับ DCT รุ่นใหม่ๆ) แต่ DCT มันมีชัดครัชเพิ่ม มี Driveshaft เพิ่ม ทำให่ชิ้นส่วนบางอย่างเล็กลง

ถ้าผลิตที่ความคงทน ความแข็ง หรือ วัสดุเท่ากัน ผมว่า เกียร์ออโต้แบบธรรมดาทนกว่าแน่นอน แต่ก็อย่างว่า ผมว่า DCT นี่คงผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีกว่า แข็งกว่า และที่สำคัญ ต้นทุนสูงกว่า ความทนทานถึงจะเอาอยู่ เพราะ DCT อย่างที่เห็น รถกลุ่ม High Performance ใช้งานกันทั้งนั้น  รองรับแรงม้า แรงบิด ที่เพิ่มขึ้นสบาย

ภาพง่ายๆ เลย Goft GTI ทำ Stage3 - Stage4 มี 300-400 ม้า เกียร์เดิม ยังเอาอยู่สบาย เจ๋งโครต ยอมรับเลยว่าเขาทำมาดี

ดังนั้น Mini Countryman ผมคงเอา DCT ครับ ขับสนุกกว่า AT แน่นอน

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
เกียร์ ไม่ได้มีผลกับแรงม้า(ไม่ได้ทำให้เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ในอัตราทดเท่ากัน)

แต่มีผลโดยตรง หรือ เหตุผลหลักๆ เลย คือ กับการตอบสนอง  และ การเปลี่ยนเกียร์(เร็ว-ช้า หรือ เสี้ยววินาที) ระหว่าง AT vs DCT ที่ DCT เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยครับ

เกียร์ออโต้ก็มีแบบทั้งที่เป้นเฟืองปกติ และ Planetary (โครงสร้างคล้ายกับ DCT รุ่นใหม่ๆ) แต่ DCT มันมีชัดครัชเพิ่ม มี Driveshaft เพิ่ม ทำให่ชิ้นส่วนบางอย่างเล็กลง

ถ้าผลิตที่ความคงทน ความแข็ง หรือ วัสดุเท่ากัน ผมว่า เกียร์ออโต้แบบธรรมดาทนกว่าแน่นอน แต่ก็อย่างว่า ผมว่า DCT นี่คงผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีกว่า แข็งกว่า และที่สำคัญ ต้นทุนสูงกว่า ความทนทานถึงจะเอาอยู่ เพราะ DCT อย่างที่เห็น รถกลุ่ม High Performance ใช้งานกันทั้งนั้น  รองรับแรงม้า แรงบิด ที่เพิ่มขึ้นสบาย

ภาพง่ายๆ เลย Goft GTI ทำ Stage3 - Stage4 มี 300-400 ม้า เกียร์เดิม ยังเอาอยู่สบาย เจ๋งโครต ยอมรับเลยว่าเขาทำมาดี

ดังนั้น Mini Countryman ผมคงเอา DCT ครับ ขับสนุกกว่า AT แน่นอน

ที่เครื่องไม่มีผล แต่ที่ล้อมีผลครับ (แรงม้าลงล้อ)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

เกียร์dct การถ่ายกำลังด้วยคลัทช์ ไม่ผ่านTorqur Converter ทำให้ไม่มีLoss ในช่วงต้นครับ เพราะคลัทช์ตรงจับตั้งแต่รอบต้นๆ แต่พวก Torque ต้องเสียแรงปั่นชุดไฮดรอลิกเพื่อกดคลัทข์และรอบในการLock upก็สูง เสียแรงไปราวๆ20-30%เลยทีเดียว

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
เกียร์ ไม่ได้มีผลกับแรงม้า(ไม่ได้ทำให้เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ในอัตราทดเท่ากัน)

แต่มีผลโดยตรง หรือ เหตุผลหลักๆ เลย คือ กับการตอบสนอง  และ การเปลี่ยนเกียร์(เร็ว-ช้า หรือ เสี้ยววินาที) ระหว่าง AT vs DCT ที่ DCT เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยครับ

เกียร์ออโต้ก็มีแบบทั้งที่เป้นเฟืองปกติ และ Planetary (โครงสร้างคล้ายกับ DCT รุ่นใหม่ๆ) แต่ DCT มันมีชัดครัชเพิ่ม มี Driveshaft เพิ่ม ทำให่ชิ้นส่วนบางอย่างเล็กลง

ถ้าผลิตที่ความคงทน ความแข็ง หรือ วัสดุเท่ากัน ผมว่า เกียร์ออโต้แบบธรรมดาทนกว่าแน่นอน แต่ก็อย่างว่า ผมว่า DCT นี่คงผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีกว่า แข็งกว่า และที่สำคัญ ต้นทุนสูงกว่า ความทนทานถึงจะเอาอยู่ เพราะ DCT อย่างที่เห็น รถกลุ่ม High Performance ใช้งานกันทั้งนั้น  รองรับแรงม้า แรงบิด ที่เพิ่มขึ้นสบาย

ภาพง่ายๆ เลย Goft GTI ทำ Stage3 - Stage4 มี 300-400 ม้า เกียร์เดิม ยังเอาอยู่สบาย เจ๋งโครต ยอมรับเลยว่าเขาทำมาดี

ดังนั้น Mini Countryman ผมคงเอา DCT ครับ ขับสนุกกว่า AT แน่นอน

ที่เครื่องไม่มีผล แต่ที่ล้อมีผลครับ (แรงม้าลงล้อ)

อธิบายความเพิ่มหน่อยซิครับ มีผลยังไง

ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

เกียร์dct การถ่ายกำลังด้วยคลัทช์ ไม่ผ่านTorqur Converter ทำให้ไม่มีLoss ในช่วงต้นครับ เพราะคลัทช์ตรงจับตั้งแต่รอบต้นๆ แต่พวก Torque ต้องเสียแรงปั่นชุดไฮดรอลิกเพื่อกดคลัทข์และรอบในการLock upก็สูง เสียแรงไปราวๆ20-30%เลยทีเดียว
ดังคุณ jae ได้อธิบายครับและขออนุญาตเพิ่มเติมในส่วนของเกียร์ dct ที่อัตราสูญเสียกำลังต่ำกว่าเกียร์atมาก ผมมีตัวอย่างสองคัน สองคันบุคลิกต่างกันชัดเจน คันนึง 1.8 5at 141ม้า
อีกคัน 1.6 dct 121 ม้า เชื่อไหมครับขึ้นไดโน ทั้งสองคัน เหลือม้าลงพื้น แตะๆ90ม้า สูสีกัน พอคิดภาพออกไหมครับ :)

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

เกียร์dct การถ่ายกำลังด้วยคลัทช์ ไม่ผ่านTorqur Converter ทำให้ไม่มีLoss ในช่วงต้นครับ เพราะคลัทช์ตรงจับตั้งแต่รอบต้นๆ แต่พวก Torque ต้องเสียแรงปั่นชุดไฮดรอลิกเพื่อกดคลัทข์และรอบในการLock upก็สูง เสียแรงไปราวๆ20-30%เลยทีเดียว
ดังคุณ jae ได้อธิบายครับและขออนุญาตเพิ่มเติมในส่วนของเกียร์ dct ที่อัตราสูญเสียกำลังต่ำกว่าเกียร์atมาก ผมมีตัวอย่างสองคัน สองคันบุคลิกต่างกันชัดเจน คันนึง 1.8 5at 141ม้า
อีกคัน 1.6 dct 121 ม้า เชื่อไหมครับขึ้นไดโน ทั้งสองคัน เหลือม้าลงพื้น แตะๆ90ม้า สูสีกัน พอคิดภาพออกไหมครับ :)

ถ้าตัวอย่างเป็นแค่เรื่องสมมุติก็โอเค แต่ตัวอย่างก็ถือว่าเกินไป ซีวิค 1.8 141แรงม้า เดิมๆไดโน่ได้ 118-120 ประมาณนี้ +- ถ้าลงพื้นได้90ม้าจริง เท่ากับแค่เกียร์ หายไป 50 แรงม้า มันก็เว่อร์เกินไป 1.6 dct เดาว่าเฟียสต้า 1.6 มั้ง ลงล้อ 100 ก็ถือว่าปกติ มากกว่ารถ at ทั่วๆไปเป็นเพราะเกียร์จริงๆนั่นแหละ เคยเอาวีออส 1nz 4at วัดเทียบกับ 5mt จาก110ม้า 4at ได้ 80ปลายๆ ส่วน 5mt แตะๆ 100 ผลห่างกันประมาณ 10%

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
เกียร์ ไม่ได้มีผลกับแรงม้า(ไม่ได้ทำให้เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ในอัตราทดเท่ากัน)

แต่มีผลโดยตรง หรือ เหตุผลหลักๆ เลย คือ กับการตอบสนอง  และ การเปลี่ยนเกียร์(เร็ว-ช้า หรือ เสี้ยววินาที) ระหว่าง AT vs DCT ที่ DCT เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยครับ

เกียร์ออโต้ก็มีแบบทั้งที่เป้นเฟืองปกติ และ Planetary (โครงสร้างคล้ายกับ DCT รุ่นใหม่ๆ) แต่ DCT มันมีชัดครัชเพิ่ม มี Driveshaft เพิ่ม ทำให่ชิ้นส่วนบางอย่างเล็กลง

ถ้าผลิตที่ความคงทน ความแข็ง หรือ วัสดุเท่ากัน ผมว่า เกียร์ออโต้แบบธรรมดาทนกว่าแน่นอน แต่ก็อย่างว่า ผมว่า DCT นี่คงผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีกว่า แข็งกว่า และที่สำคัญ ต้นทุนสูงกว่า ความทนทานถึงจะเอาอยู่ เพราะ DCT อย่างที่เห็น รถกลุ่ม High Performance ใช้งานกันทั้งนั้น  รองรับแรงม้า แรงบิด ที่เพิ่มขึ้นสบาย

ภาพง่ายๆ เลย Goft GTI ทำ Stage3 - Stage4 มี 300-400 ม้า เกียร์เดิม ยังเอาอยู่สบาย เจ๋งโครต ยอมรับเลยว่าเขาทำมาดี

ดังนั้น Mini Countryman ผมคงเอา DCT ครับ ขับสนุกกว่า AT แน่นอน

ที่เครื่องไม่มีผล แต่ที่ล้อมีผลครับ (แรงม้าลงล้อ)

อธิบายความเพิ่มหน่อยซิครับ มีผลยังไง

แสดงว่าท่านยังไม่เข้าใจแรงม้า ระหว่างแรงม้าเครื่องกับแรงม้าลงล้อ
แรงม้าที่เห็นตามโบชัวมักเป็นแรงม้าเครื่องเสมอ ปกติไม่มีใครเอาแรงม้าลงล้อมาโฆษณา

รถทุกรุ่น ไม่มีรุ่นไหนที่แรงม้าลงล้อ จะได้เท่ากับแรงม้าเครื่องครับ ไม่มีทาง
เพราะกว่าเครื่องจะส่งผ่านกำลังมาถึงล้อ มันต้องผ่านชิ้นส่วนของระบบส่งกำลังอยู่หลายชิ้น
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ”เกียร์” ซึ่งตรงนี้มันจะต้องเกิดการสูญเสียแรงม้าขึ้น เนื่องจากแรงเสียดทาน (Loss HP)

ยกตัวอย่างสมมติ (แต่อิงจากความเป็นจริงตามวิศวกรรมยานยนต์)

รถรุ่นหนึ่ง 2 คัน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกัน มีแรงม้า 100 แรงม้าเท่ากัน คือเหมือนกันทั้งหมด แต่คันหนึ่งเกียร์ AT อีกคันหนึ่งเกียร์ MT

โดยปกติเกียร์ AT จะมี Friction ในระบบสูงกว่าเกียร์ MT อันเนื่องจากใช้ระบบเฟืองแบะตัวกลางการส่งกำลังที่ซับซ้อนกว่า ชิ้นส่วนเยอะกว่า ทำให้มี Loss HP สูงกว่า ซึ่ง Loss HP ของคันเกียร์ AT อาจมี 6 HP ส่วนคัน MT อาจมี 3 HP เมื่อเป็นอย่างนี้ ลองเอาแรงม้าเครื่อง(ที่มีเท่ากัน)มาตั้งหักลบ

คันเกียร์ AT จะได้ 100-6 = 94 hp ที่ล้อ หรือแรงม้าลงลงพื้น
คันเกียร์ MT จะได้ 100-6 = 97 hp ที่ล้อ หรือแรงม้าลงลงพื้น

แรงม้าตัวหลังสุดคือแรงม้าที่เราได้เอามาใช้งานจริงๆ
นี่เป็นเหตุผลว่ารถรุ่นเดียวกันแต่เกียร์ต่างกัน ทำไมถึงทำอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองและความเร็วสูงสุดไม่เท่ากัน
คันที่ทำได้แย่กว่า แสดงว่า Loss hp ในระบบส่งกำลังเยอะกว่าครับ

ปล. ลองอ่านเม้น2ท่านด้านบนเพิ่มเติมก็ได้ครับ

ออฟไลน์ Sakutaro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

เกียร์dct การถ่ายกำลังด้วยคลัทช์ ไม่ผ่านTorqur Converter ทำให้ไม่มีLoss ในช่วงต้นครับ เพราะคลัทช์ตรงจับตั้งแต่รอบต้นๆ แต่พวก Torque ต้องเสียแรงปั่นชุดไฮดรอลิกเพื่อกดคลัทข์และรอบในการLock upก็สูง เสียแรงไปราวๆ20-30%เลยทีเดียว
ดังคุณ jae ได้อธิบายครับและขออนุญาตเพิ่มเติมในส่วนของเกียร์ dct ที่อัตราสูญเสียกำลังต่ำกว่าเกียร์atมาก ผมมีตัวอย่างสองคัน สองคันบุคลิกต่างกันชัดเจน คันนึง 1.8 5at 141ม้า
อีกคัน 1.6 dct 121 ม้า เชื่อไหมครับขึ้นไดโน ทั้งสองคัน เหลือม้าลงพื้น แตะๆ90ม้า สูสีกัน พอคิดภาพออกไหมครับ :)

ถ้าตัวอย่างเป็นแค่เรื่องสมมุติก็โอเค แต่ตัวอย่างก็ถือว่าเกินไป ซีวิค 1.8 141แรงม้า เดิมๆไดโน่ได้ 118-120 ประมาณนี้ +- ถ้าลงพื้นได้90ม้าจริง เท่ากับแค่เกียร์ หายไป 50 แรงม้า มันก็เว่อร์เกินไป 1.6 dct เดาว่าเฟียสต้า 1.6 มั้ง ลงล้อ 100 ก็ถือว่าปกติ มากกว่ารถ at ทั่วๆไปเป็นเพราะเกียร์จริงๆนั่นแหละ เคยเอาวีออส 1nz 4at วัดเทียบกับ 5mt จาก110ม้า 4at ได้ 80ปลายๆ ส่วน 5mt แตะๆ 100 ผลห่างกันประมาณ 10%
ยินดีที่แลกเปลี่ยนครับ ไม่อยากทำร้ายจิตใจ แต่ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ซิวิคเป็นของบิดาผมเอง เดิมสนิท สมัยเฟี้ยวอยากลอง เลยจัดไปขึ้น testcar dyno ศรีนครินทร์
เอาแบบไม่หลอกตัวเอง ใส่แฟคเตอร์ต่างๆครบ ไม่ใช่วัดแบบไม่มีแฟคเตอร์ เอาแรงม้ามาหลอกคน ใช้ เกียร์ d3
จัดไป ได้แค่ 89.6 ม้า รถพวกอีกคัน กรอง kn เฮดเดอร  ท่อพักกลาง ปลาย น้ำมัน95 จัดไปเกียร์ 2 ได้ 103 ม้าถ้วน
นอกจากเกียร์แล้ว กว่าจะผ่านมาที่ล้อ ผ่านเหล็กสีกันไม่รู้กี่ทอด ตลับลูกปืนต่างๆ ม้าหายไปเยอะครับ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2020, 20:37:44 โดย Sakutaro »

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
เกียร์ ไม่ได้มีผลกับแรงม้า(ไม่ได้ทำให้เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ในอัตราทดเท่ากัน)

แต่มีผลโดยตรง หรือ เหตุผลหลักๆ เลย คือ กับการตอบสนอง  และ การเปลี่ยนเกียร์(เร็ว-ช้า หรือ เสี้ยววินาที) ระหว่าง AT vs DCT ที่ DCT เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยครับ

เกียร์ออโต้ก็มีแบบทั้งที่เป้นเฟืองปกติ และ Planetary (โครงสร้างคล้ายกับ DCT รุ่นใหม่ๆ) แต่ DCT มันมีชัดครัชเพิ่ม มี Driveshaft เพิ่ม ทำให่ชิ้นส่วนบางอย่างเล็กลง

ถ้าผลิตที่ความคงทน ความแข็ง หรือ วัสดุเท่ากัน ผมว่า เกียร์ออโต้แบบธรรมดาทนกว่าแน่นอน แต่ก็อย่างว่า ผมว่า DCT นี่คงผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีกว่า แข็งกว่า และที่สำคัญ ต้นทุนสูงกว่า ความทนทานถึงจะเอาอยู่ เพราะ DCT อย่างที่เห็น รถกลุ่ม High Performance ใช้งานกันทั้งนั้น  รองรับแรงม้า แรงบิด ที่เพิ่มขึ้นสบาย

ภาพง่ายๆ เลย Goft GTI ทำ Stage3 - Stage4 มี 300-400 ม้า เกียร์เดิม ยังเอาอยู่สบาย เจ๋งโครต ยอมรับเลยว่าเขาทำมาดี

ดังนั้น Mini Countryman ผมคงเอา DCT ครับ ขับสนุกกว่า AT แน่นอน

ที่เครื่องไม่มีผล แต่ที่ล้อมีผลครับ (แรงม้าลงล้อ)

อธิบายความเพิ่มหน่อยซิครับ มีผลยังไง
ความฝืดของเกียร์ครับ เกียร์อะไรก็ตามที่มี Torque Converter จะมีการสูญเสียกำลังเยอะมาก

ม้าที่ถึงล้อจะเหลือแค่ประมาณ 80% ของม้าที่เครื่อง ยกเว้นตอนที่ล็อคอัพจับ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะจับยาก

แต่เกียร์อะไรก็ตามที่ส่งกำลังด้วยคลัทช์ ม้าที่ถึงล้อจะประมาณ 90-95% ของม้าที่เครื่อง

และสเปกที่เราเห็นในโบร์ชัวร์ คือม้าที่ออกจากเครื่องครับ ไม่ใช่ม้าที่ลงถึงล้อ

ดังนั้นสมมติว่ารถที่มีกำลังประมาณ 150 HP ถ้าใช้ Torque Converter จะถึงล้อ 120 hp แต่ถ้าใช้คลัทช์จะถึงล้อ 140 hp

ส่วนต่างประมาณ 20 hp โดยที่ใช้น้ำมันเท่ากันครับ

นี่คือสาเหตุที่รถ High Performance ไม่ใช้ Torque Converter กันครับ ไม่ใช่แค่เรื่องการใช้งาน แต่เรื่องประสิทธิภาพด้วย

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
ด้วยการดีไซน์ของมัน Dual Clutch จะให้ทนเทียบกับ Steptronic8speedคงยากครับ

แอบถามเพิ่มครับ
ความทนทานอาจลดลง แล้วได้อะไรกลับมาทดแทนจากเกียร์ไฟฟ้าบ้างครับ

เกียร์dct การถ่ายกำลังด้วยคลัทช์ ไม่ผ่านTorqur Converter ทำให้ไม่มีLoss ในช่วงต้นครับ เพราะคลัทช์ตรงจับตั้งแต่รอบต้นๆ แต่พวก Torque ต้องเสียแรงปั่นชุดไฮดรอลิกเพื่อกดคลัทข์และรอบในการLock upก็สูง เสียแรงไปราวๆ20-30%เลยทีเดียว

ขอบคุณมากเลยครับ
ตาลุกวาว แต่ก็แอบล้มโครงการไปสักพักแล้วครับ

ออฟไลน์ mochalatte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357
ตอบ จขกท
เกียร์นี้เอามาแทน Aisin ครับ dct7 หรือ zf8 ยังไงก้อดีกว่า

ตอบทุกคน
ระบบเกียร์มีแค่สองระบบ แล้วแต่จะจำกัดความมันยังไง

MT เปลี่ยนเกียร์เอง มีให้บริหารเท้าซ้าย

Auto มีทางเลือกเยอะ การทดสอบและพัฒนาจนถึงขีดสูงกว่า

E36 เริ่ม SMG I
E46 ตามมา
E 60 SMG III
เลยมี DCT และ อื่นๆอีกมากมาย

ฉลาด และ ซื่อสัตย์ ประหนึ่ง ZF8

จองหอง ไม่แคร์ใคร ต้องไป DCT
Dictator comes True


ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
เกียร์ ไม่ได้มีผลกับแรงม้า(ไม่ได้ทำให้เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ในอัตราทดเท่ากัน)

แต่มีผลโดยตรง หรือ เหตุผลหลักๆ เลย คือ กับการตอบสนอง  และ การเปลี่ยนเกียร์(เร็ว-ช้า หรือ เสี้ยววินาที) ระหว่าง AT vs DCT ที่ DCT เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยครับ

เกียร์ออโต้ก็มีแบบทั้งที่เป้นเฟืองปกติ และ Planetary (โครงสร้างคล้ายกับ DCT รุ่นใหม่ๆ) แต่ DCT มันมีชัดครัชเพิ่ม มี Driveshaft เพิ่ม ทำให่ชิ้นส่วนบางอย่างเล็กลง

ถ้าผลิตที่ความคงทน ความแข็ง หรือ วัสดุเท่ากัน ผมว่า เกียร์ออโต้แบบธรรมดาทนกว่าแน่นอน แต่ก็อย่างว่า ผมว่า DCT นี่คงผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีกว่า แข็งกว่า และที่สำคัญ ต้นทุนสูงกว่า ความทนทานถึงจะเอาอยู่ เพราะ DCT อย่างที่เห็น รถกลุ่ม High Performance ใช้งานกันทั้งนั้น  รองรับแรงม้า แรงบิด ที่เพิ่มขึ้นสบาย

ภาพง่ายๆ เลย Goft GTI ทำ Stage3 - Stage4 มี 300-400 ม้า เกียร์เดิม ยังเอาอยู่สบาย เจ๋งโครต ยอมรับเลยว่าเขาทำมาดี

ดังนั้น Mini Countryman ผมคงเอา DCT ครับ ขับสนุกกว่า AT แน่นอน

ที่เครื่องไม่มีผล แต่ที่ล้อมีผลครับ (แรงม้าลงล้อ)

อธิบายความเพิ่มหน่อยซิครับ มีผลยังไง

แสดงว่าท่านยังไม่เข้าใจแรงม้า ระหว่างแรงม้าเครื่องกับแรงม้าลงล้อ
แรงม้าที่เห็นตามโบชัวมักเป็นแรงม้าเครื่องเสมอ ปกติไม่มีใครเอาแรงม้าลงล้อมาโฆษณา

รถทุกรุ่น ไม่มีรุ่นไหนที่แรงม้าลงล้อ จะได้เท่ากับแรงม้าเครื่องครับ ไม่มีทาง
เพราะกว่าเครื่องจะส่งผ่านกำลังมาถึงล้อ มันต้องผ่านชิ้นส่วนของระบบส่งกำลังอยู่หลายชิ้น
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ”เกียร์” ซึ่งตรงนี้มันจะต้องเกิดการสูญเสียแรงม้าขึ้น เนื่องจากแรงเสียดทาน (Loss HP)

ยกตัวอย่างสมมติ (แต่อิงจากความเป็นจริงตามวิศวกรรมยานยนต์)

รถรุ่นหนึ่ง 2 คัน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกัน มีแรงม้า 100 แรงม้าเท่ากัน คือเหมือนกันทั้งหมด แต่คันหนึ่งเกียร์ AT อีกคันหนึ่งเกียร์ MT

โดยปกติเกียร์ AT จะมี Friction ในระบบสูงกว่าเกียร์ MT อันเนื่องจากใช้ระบบเฟืองแบะตัวกลางการส่งกำลังที่ซับซ้อนกว่า ชิ้นส่วนเยอะกว่า ทำให้มี Loss HP สูงกว่า ซึ่ง Loss HP ของคันเกียร์ AT อาจมี 6 HP ส่วนคัน MT อาจมี 3 HP เมื่อเป็นอย่างนี้ ลองเอาแรงม้าเครื่อง(ที่มีเท่ากัน)มาตั้งหักลบ

คันเกียร์ AT จะได้ 100-6 = 94 hp ที่ล้อ หรือแรงม้าลงลงพื้น
คันเกียร์ MT จะได้ 100-6 = 97 hp ที่ล้อ หรือแรงม้าลงลงพื้น

แรงม้าตัวหลังสุดคือแรงม้าที่เราได้เอามาใช้งานจริงๆ
นี่เป็นเหตุผลว่ารถรุ่นเดียวกันแต่เกียร์ต่างกัน ทำไมถึงทำอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองและความเร็วสูงสุดไม่เท่ากัน
คันที่ทำได้แย่กว่า แสดงว่า Loss hp ในระบบส่งกำลังเยอะกว่าครับ

ปล. ลองอ่านเม้น2ท่านด้านบนเพิ่มเติมก็ได้ครับ

อ้อ เรื่องนี้พอเข้าใจละครับ แรงม้าสุดท้ายที่ถ่ายลงล้อ

ผมนึกว่ากล่องเกียร์ หรือ เกียร์ ไปมีผลทำให้รถแรงม้าเพิ่มขึ้น แรงม้ารถ ที่แจ้งมาใบโบร์ชัวร์(แรงม้าที่ flywheel) ครับ

เพราะรถผมแรงม้าที่แจ้งมา 200 กว่า แต่บน dyno ก็ ไม่ถึง 200 ดี อันนี้เข้าใจครับ (เกียร์ AT ZF)

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,021
  • FF1.5SMG
ผมในฐานะที่ใช้ DCT เอื้ออาทร
มาแอบดูเขา Discust DCT ระดับเทพๆกัน 55+
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,368
ผมว่าเกียร์ออโต้ดีๆเดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนเกียร์เร็วไม่แพ้ dct แล้วครับ ยกเว้นเอาไปขับโหดๆจริงๆถึงจะเห็นความต่าง
อีกอย่างเกียร์พวก dual clutch ใช้ไปนานๆแล้วมันจะเริ่มเปลี่ยนเกียร์ไม่นุ่มนวลและไม่เงียบแบบตอนใหม่ๆ คลานตอนรถติดๆก็สู้ auto ไม่ได้

เปลี่ยนเร็วอันนั้นใช่  แต่การกวาดรอบ  Dual Clutch ของ VW เทียบกับ auto ของ BMW   

Dual Clutch ดึงหนักกว่า และดึงตาม teen แบบเกียร์แมนวลเลยครับ   ที่ผมลองคือ Golf  นะครับ ไม่ได้ลอง Audi ด้วยซ้ำ 

Dual Clutch ไปหนักกว่า  อาการ slip น้อยกว่า กวาดไวกว่า  ก็เพราะมันไม่เสีย loss ใน torque comverter ไป   ถ้าใครเคยขับเกียร์ธรรมดา จะเข้าใจอารมณ์กวาดรอบ  ก็คิดดูพวกขับ Vios เกียร์ auto  รอบมันยังกวาดไวและหนักเกิน auto ธรรมดาไปมาก (ไม่พูดถึงการ shift up เกียร์ เพราะอันนั้นอีกเรื่อง)
 
แต่ใน auto 8 speed ของ BMW ที่เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ไว และไหลลื่นมาก แต่ความรู้สึกในการกวาดรอบของคันเร่ง  จะรู้สึกได้เลย ว่า loss มากกว่า Dual Clutchครับ

ความมัน Dual Clutch ยังไงก็ชนะ  เวลาไต่/กวาดรอบในเกียร์เดียวกัน Dual Clutch ไปหนักเหมือนขับเกียร์ manual เลย   ฟินมากๆ กวาดหนักแถมประหยัดน้ำมันด้วย เพราะตอนจะเร่งความเร็ว เอาซัก 60-70%  ถ้าเป็น Auto จะไปไม่พอ ต้องกดอีกให้มัน kickdown  แต่ใน Dual Clutch  กดไปเหอะ  (ไม่กดสุดขนาด 80-100% นะ)   มันไม่ต้อง kickdown แต่รถมันพุ่งพรวดๆ  รอบกวาดขึ้นยังกับขับรถดีเซล  ทั้งๆ ที่ผมขับ Golf เบนซินบ้านๆ (ไม่ GTI หรือ R)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2020, 20:55:08 โดย bingoman »

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,190
    • อีเมล์
ผมว่าเกียร์ออโต้ดีๆเดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนเกียร์เร็วไม่แพ้ dct แล้วครับ ยกเว้นเอาไปขับโหดๆจริงๆถึงจะเห็นความต่าง
อีกอย่างเกียร์พวก dual clutch ใช้ไปนานๆแล้วมันจะเริ่มเปลี่ยนเกียร์ไม่นุ่มนวลและไม่เงียบแบบตอนใหม่ๆ คลานตอนรถติดๆก็สู้ auto ไม่ได้

เปลี่ยนเร็วอันนั้นใช่  แต่การกวาดรอบ  Dual Clutch ของ VW เทียบกับ auto ของ BMW   

Dual Clutch ดึงหนักกว่า และดึงตาม teen แบบเกียร์แมนวลเลยครับ   ที่ผมลองคือ Golf  นะครับ ไม่ได้ลอง Audi ด้วยซ้ำ 

Dual Clutch ไปหนักกว่า  อาการ slip น้อยกว่า กวาดไวกว่า  ก็เพราะมันไม่เสีย loss ใน torque comverter ไป   ถ้าใครเคยขับเกียร์ธรรมดา จะเข้าใจอารมณ์กวาดรอบ  ก็คิดดูพวกขับ Vios เกียร์ auto  รอบมันยังกวาดไวและหนักเกิน auto ธรรมดาไปมาก (ไม่พูดถึงการ shift up เกียร์ เพราะอันนั้นอีกเรื่อง)
 
แต่ใน auto 8 speed ของ BMW ที่เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ไว และไหลลื่นมาก แต่ความรู้สึกในการกวาดรอบของคันเร่ง  จะรู้สึกได้เลย ว่า loss มากกว่า Dual Clutchครับ

ความมัน Dual Clutch ยังไงก็ชนะ  เวลาไต่/กวาดรอบในเกียร์เดียวกัน Dual Clutch ไปหนักเหมือนขับเกียร์ manual เลย   ฟินมากๆ กวาดหนักแถมประหยัดน้ำมันด้วย เพราะตอนจะเร่งความเร็ว เอาซัก 60-70%  ถ้าเป็น Auto จะไปไม่พอ ต้องกดอีกให้มัน kickdown  แต่ใน Dual Clutch  กดไปเหอะ  (ไม่กดสุดขนาด 80-100% นะ)   มันไม่ต้อง kickdown แต่รถมันพุ่งพรวดๆ  รอบกวาดขึ้นยังกับขับรถดีเซล  ทั้งๆ ที่ผมขับ Golf เบนซินบ้านๆ (ไม่ GTI หรือ R)

อันนี้เห็นด้วยครับแต่อยากให้ได้ลอง ZF8 ตัวล่าสุดของ BMW ดู
จากรถผมเอง M2 lci เกียร์ M-DCT เทียบตรงๆกับ GR Supra การกวาดรอบแทบไม่ต่างกันเลยครับ เกียร์ออโต้ซูปร้าเวลาเปลี่ยนเกียร์มีแอบกระชากนิดนึงแบบ DCT ด้วย สิ่งที่ DCT ยังเหนือกว่าคือเวลาสั่งเปลี่ยนเกียร์ผ่าน paddle shift หรือคันเกียร์จะเร็วตามสั่งกว่าครับ และจังหวะเปลี่ยนจะกระชากกว่าให้ความรู้สึกกลไกมากกว่า นอกนั้นผมกลับชอบ ZF8 มากกว่า M-DCT สำหรับรถใช้งานบนถนน
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R