ผู้เขียน หัวข้อ: พรุ่งนี้!! น้ำมันปรับราคาลงทุกชนิด ดีเซล 30สต. เบนซิน 60สต.+E85 30สต. ครับ  (อ่าน 36261 ครั้ง)

ออฟไลน์ BKK777

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
ราคาน้ำมันประเทศเราผิดเพี้ยนอย่างที่สุด ราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดกลายเป็นน้ำมันที่แพงที่สุด ราคาน้ำมัน E85 ที่แพงที่สุดกลายเป็นน้ำมันที่ถูกที่สุด จากน้ำมันเบนซินเพียวๆ ลิตรละ 5 บาทกว่ากลายเป็น 26 บาทกว่า เพราะสาเหตุนึงเกิดจากการนำเงินกองทุนน้ำมันไปจ่ายชดเชยให้คนเติม E85 ลิตรละ 7 บาทกว่า อันที่จริงคือการนำเงินภาษีไปอุ้มโรงงานเอทานอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ถูกต้องครับ ทุกวันนี้กองทุนน้ำมันไม่ได้อุ้มราคาน้ำมันเลยครับ อุ้มเอทานอลล้วนๆครับ ...

ถ้าเลิกใช้โซฮอล หรือ E85 E20 และตระกุล B ทั้งหลาย ราคาน้ำมันหน้าปั๊มบ้านเราถูกกว่านี้อีกเยอะครับ ...

มองในระยะยาว ๆๆๆ ผมคิดว่าควรคงไว้นะครับ เพื่อให้มันยังคงอยู่ในตลาด ทั้งตัวน้ำมันและสเปครถที่ใช้นั้ำมันชนิดนี้

> ในระยะสั้น ๆ แบบนี้ ในราคาที่ชิดกัน ก็ให้ผู้บริโภคเป็นผู้เลือกเติมเอง

> ในระยะยาว ราคาน้ำมันจะไม่ต่ำแบบนี้ตลอดไปแน่  การมีพลังงานทางเลือก การพึ่งพาตนเองได้เป็นเรื่องสำคัญ
กว่าเราจะสร้างระบบ สร้าง facility ให้มันเกิดตรงนี้ได้มันไม่ง่าย ถ้าวันนี้เรายกเลิกไปแล้ววันหน้าราคาน้ำมันกลับไปที่เดิม
ซึ่งมันกลับไปแน่ ๆ  ถึงตอนนั้นก็ต้องกลับมาสร้างระบบให้มันเกิดขึ้นมาใหม่ มันไม่ง่ายครับ

จริงๆถ้าคุณตามราคาน้ำมันหรือราคาเอทานอลมาตั้งแต่ปี 2018 จะเห็นว่า ราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมมาก อย่าง E85 และ E20 ราคาที่หน้าโรงกลั่นแพงกว่าราคาน้ำมันแก็สโซฮอลมานานแล้วครับ ตามตารางนี้ ดูที่ช่องแรกนะครับ



ลองดูที่เดือนมกรา 2018 ราคา E85 ที่หน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 22.5บาท แต่ ULG คือน้ำมันเพียวๆราคาอยู่ที่ 16.4บาทเท่านั้น ...
และลองไล่มาจนถึงปัจจุบันดูครับ (ลิ้งค์เต็มอยู่ด่านล่าง) จะเห็นว่าราคาน้ำมัน E85 ที่หน้าโรงกลั่นแพงกว่าราคาน้ำมันชนิดอื่นมาต่อเนื่อง 2 ปี นั่นหมายถึงอะไร ..

ดังนั้นจากตารางนี้ชัดเจนว่าเราผู้ใช้น้ำมัน กำลังอุ้มเอทานอลกันอยู่มากมาย และเงินที่กองทุนชดเชยอยู่ จะอยู่ในช่อง Oil Fund ซึ่งเฉลี่ยต้องอุดหนุนราคา E85 อยู่ลิตรละ 5-9 บาทโดยเฉลี่ย ... ถามว่าไปชดเชยทำไมครับ .... เพื่ออะไร .... ได้ประโยชน์อะไร ...

ถ้าเราสะท้อนราคาน้ำมันจริงโดยไม่ต้องเอาเอทานอลมาเกี่ยวข้องผมว่ายังไงเราก็ปรับตัวได้และจะเป็นประโยชน์ด้วย ...

ส่วนราคาพืชพันธุ์การเกษตร ไม่ใช่ว่าทั้งหมดผลิตมาเพื่อทำเอทานอลทั้งหมดนะครับ น้ำตาล อ้อย มันสำปะหลัง ฯลฯ เค้าแปลรูปเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ใช่ 100% เอามาทำเอทานอลทั้งหมด ดังนั้นเอทานอลที่เราอุ่มกันอยู่ เราอุ้มโรงงานผู้ผลิตเอทานอล 100% ครับ เกษตรกรคือข้ออ้างครับ เพราะโรงงานที่รับซื้อเช่นโรงงานน้ำตาล จะซื้ออ้อยไปทำน้ำตาล หรือ เอทานอล นั่นก็อยู่ที่โรงงาน เกษตรกรขายแค่อ้อยก็จบแล้ว ... ราคามันก็ไม่ได้เพิ่ม เพราะเค้าก็รับซื้อตามราคาผลผลิตแบบนี้ทุกปี ...

ก็ลองดูตารางแล้ววิเคราะดูครับว่า จริงๆแล้ว เราแบกราคาน้ำมันกันอยู่ หรือแบกเอทานอลกันแน่ ..

http://www.thai-ethanol.com/images/Price/2561/p61.pdf

ทราบครับพี่ว่าเราอุ้มราคาเอทานอลอยู่ แต่อย่างที่ผมบอกแหละว่า
น้ำมันผสมมันเกิดมาเพื่อช่วยตอนน้ำมันแพง ข้อมูลย้อนหลังแค่ 2 ปี
มันสั้นไป เหมือนกับการที่เรามองอะไรสั้นๆ ลองถอยไปยาวๆ ถึงวันที่
น้ำมันประเภทนี้เกิดมาสิครับ จะเห็นภาพอีกแบบนึง แล้วจุดที่ผมมองคือ
มั่นใจหรือว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะไม่กลับมา

อีกอย่างคือ ในข้อมูลไม่มี volume ด้วยนะครับ  ถ้ามีก็จะได้เอามา
คำนวณให้เห็นภาพภาระการอุ้มต่อลิตรที่ชัดเจนกว่านี้ครับ
คุณต้องเข้าใจวัตถุประสงค์การมีกองทุนน้ำมันด้วย ว่ามีไว้เพื่ออะไร กองทุนน้ำมันควรใช้เมื่อราคาน้ำมันแพง ไม่ใช่ใช้ตอนน้ำมันถูก ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์แบบนี้ เงินในกองทุนก็ไม่นิ่งเสียที หากจะใช้เอทานอลก็ควรแสดงให้เห็นต้นทุนที่แท้จริง แต่เดิมมีแค่ E10 โรงกลั่นเอทานอลก็อยู่ได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคง E85 ไว้ ในเมื่อรถคันนั้นสามารถใช้ E10 ได้

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
กองทุนมีไว้เพื่อ leveling ราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวนรวดเร็วและหนักหน่วงเกินไปนัก
คนทั่วไปอย่างเรา ๆ เวลาที่น้ำมันแพงแล้วกองทุนมันมาช่วยหน่วงให้น้ำมันขึ้นราคาช้าลง อันนี้เราชอบ ก็เข้าใจ
แต่การที่จะทำอย่างนั้นได้ มันก็ต้องอาศัยเงินที่เก็บไว้เป็นเหมือน buffer เอาออกมาชดเชยก่อน
ซึ่งเงินตรงนี้มันเก็บเข้ามาตอนที่น้ำมันถูกลงนี่แหละ

ตอนนี้ราคาน้ำมันใกล้กันมาก ๆ ใครไม่อยากเติม E85 ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ จะเติมอะไรก็เติมไป
ยังไง volume การใช้ E85 มันน้อย มันก็ดึงเงินชดเชยจากน้ำมันชนิดอื่นมาน้อยลงอยู่แล้ว
ผมถึงอยากให้ดูเรื่อง volume ประกอบด้วยไงครับ  ซึ่งถ้าเงินชดเชย x volume มันไม่มาก
ต่อให้ยกเลิกไป ราคาน้ำมันที่เหลือก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเยอะอยู่ดี  แต่สิ่งที่จะหายไปเลยคือ
ระบบการกลั่น การขาย และรถ spec นี้จะหายไปจากการผลิต ซึ่งในวันข้างหน้า ถ้าราคาน้ำมัน
กลับไปแพงเหมือนเดิม แล้วเราอยากเอาสิ่งเหล่านี้กลับมาก มันก็เหมือนกับเป็นการไปเริ่มใหม่ไงครับ

ออฟไลน์ BKK777

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
กองทุนมีไว้เพื่อ leveling ราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวนรวดเร็วและหนักหน่วงเกินไปนัก
คนทั่วไปอย่างเรา ๆ เวลาที่น้ำมันแพงแล้วกองทุนมันมาช่วยหน่วงให้น้ำมันขึ้นราคาช้าลง อันนี้เราชอบ ก็เข้าใจ
แต่การที่จะทำอย่างนั้นได้ มันก็ต้องอาศัยเงินที่เก็บไว้เป็นเหมือน buffer เอาออกมาชดเชยก่อน
ซึ่งเงินตรงนี้มันเก็บเข้ามาตอนที่น้ำมันถูกลงนี่แหละ

ตอนนี้ราคาน้ำมันใกล้กันมาก ๆ ใครไม่อยากเติม E85 ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ จะเติมอะไรก็เติมไป
ยังไง volume การใช้ E85 มันน้อย มันก็ดึงเงินชดเชยจากน้ำมันชนิดอื่นมาน้อยลงอยู่แล้ว
ผมถึงอยากให้ดูเรื่อง volume ประกอบด้วยไงครับ  ซึ่งถ้าเงินชดเชย x volume มันไม่มาก
ต่อให้ยกเลิกไป ราคาน้ำมันที่เหลือก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเยอะอยู่ดี  แต่สิ่งที่จะหายไปเลยคือ
ระบบการกลั่น การขาย และรถ spec นี้จะหายไปจากการผลิต ซึ่งในวันข้างหน้า ถ้าราคาน้ำมัน
กลับไปแพงเหมือนเดิม แล้วเราอยากเอาสิ่งเหล่านี้กลับมาก มันก็เหมือนกับเป็นการไปเริ่มใหม่ไงครับ

การที่จะรักษาระบบการกลั่น E85 นั้นสามารถทำได้ แต่ทำไมถึงไม่สะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง  ถ้าทำอย่างตรงไปตรงมาใครจะใคร่ใช้ E85 ก็ใช้ไป  การเบียดเบียนนำเงินจากผู้ใช้น้ำมันชนิดอื่นไปโป่ะให้กับผู้ใช้น่ำมัน E85 ไม่ว่าvolumnจะเป็นเท่าไหร่ก็ไม่สมควร

การใช้เงินกองทุนตั้งแต่ตอนนี้ จำนวนเงินกองทุนน้ำมันก็ร่อยหรอลง แทนที่จะมีเงินเก็บเป็นจำนวนมากนำมาพยุงราคาน้ำมันตอนที่เกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันขึ้นมาจริงๆ เงินที่สามารถจะนำไปใช้บรรเทาปัญหาราคาน้ำมันแพงก็จะมีน้อยลง แทนที่จะสามารถชดเชยราคาน้ำมันในภาวะวิกฤตออกไปได้ 2 ปี ก็อาจจะเหลือแค่ 6 เดือน เป็นต้น ถึงตอนนั้นก็ต้องเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราสูง การlevelling ก็ไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะถ้าเงินมีน้อย รัฐก็ลดราคาลงได้น้อย

สถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนคนเก็บเงินแบบเก็บไปใช้ไป แล้วเมื่อไหร่จะรวย เมื่อไหร่จะมีเงินออมเพือไปใช้แก้ไขชีวิตในวันข้างหน้า

สิ่งที่กระทรวงพลังงานกระทำอยู่นี้คือการบิดเบือนกลไกราคาตลาด ซึ่งการบิดเบือนนี้มันไม่ได้มีประโยชน์กับประชาชน แต่มีประโยชน์กับกลุ่มทุนเอทานอลและน้ำมันปาล์ม  เป็นการเล่นแร่แปรธาตุเพือนำเงินออกจากกองทุนน้ามันอย่างถูกกฏหมาย

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
ด้วยโครงสร้างภาษีและเงินอุดหนุนทำให้ เอทานอลจะราคาเท่าไหร่ก็ขายได้ แต่เรากับไม่เคยเห็นต้นทุนราคาเอทานอลเลย
เป็นเอกชนที่มีรัฐใช้นโยบายอุ้มแต่กำไรขาดทุนต้นทุนการผลิตไม่เคยชี้แจ้ง อย่ามาอ้างเพื่อเกษตรกร เพื่อลดมลพิษ เพื่อลดการขาดุล
เอาต้นทุนมาดูครับ แค่นี้จบเลย

ออฟไลน์ คนขับรถ

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 136
ด้วยโครงสร้างภาษีและเงินอุดหนุนทำให้ เอทานอลจะราคาเท่าไหร่ก็ขายได้ แต่เรากับไม่เคยเห็นต้นทุนราคาเอทานอลเลย
เป็นเอกชนที่มีรัฐใช้นโยบายอุ้มแต่กำไรขาดทุนต้นทุนการผลิตไม่เคยชี้แจ้ง อย่ามาอ้างเพื่อเกษตรกร เพื่อลดมลพิษ เพื่อลดการขาดุล
เอาต้นทุนมาดูครับ แค่นี้จบเลย

+999999999

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
กองทุนมีไว้เพื่อ leveling ราคาน้ำมันไม่ให้ผันผวนรวดเร็วและหนักหน่วงเกินไปนัก
คนทั่วไปอย่างเรา ๆ เวลาที่น้ำมันแพงแล้วกองทุนมันมาช่วยหน่วงให้น้ำมันขึ้นราคาช้าลง อันนี้เราชอบ ก็เข้าใจ
แต่การที่จะทำอย่างนั้นได้ มันก็ต้องอาศัยเงินที่เก็บไว้เป็นเหมือน buffer เอาออกมาชดเชยก่อน
ซึ่งเงินตรงนี้มันเก็บเข้ามาตอนที่น้ำมันถูกลงนี่แหละ

ตอนนี้ราคาน้ำมันใกล้กันมาก ๆ ใครไม่อยากเติม E85 ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ จะเติมอะไรก็เติมไป
ยังไง volume การใช้ E85 มันน้อย มันก็ดึงเงินชดเชยจากน้ำมันชนิดอื่นมาน้อยลงอยู่แล้ว
ผมถึงอยากให้ดูเรื่อง volume ประกอบด้วยไงครับ  ซึ่งถ้าเงินชดเชย x volume มันไม่มาก
ต่อให้ยกเลิกไป ราคาน้ำมันที่เหลือก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเยอะอยู่ดี  แต่สิ่งที่จะหายไปเลยคือ
ระบบการกลั่น การขาย และรถ spec นี้จะหายไปจากการผลิต ซึ่งในวันข้างหน้า ถ้าราคาน้ำมัน
กลับไปแพงเหมือนเดิม แล้วเราอยากเอาสิ่งเหล่านี้กลับมาก มันก็เหมือนกับเป็นการไปเริ่มใหม่ไงครับ

การที่จะรักษาระบบการกลั่น E85 นั้นสามารถทำได้ แต่ทำไมถึงไม่สะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง  ถ้าทำอย่างตรงไปตรงมาใครจะใคร่ใช้ E85 ก็ใช้ไป  การเบียดเบียนนำเงินจากผู้ใช้น้ำมันชนิดอื่นไปโป่ะให้กับผู้ใช้น่ำมัน E85 ไม่ว่าvolumnจะเป็นเท่าไหร่ก็ไม่สมควร

การใช้เงินกองทุนตั้งแต่ตอนนี้ จำนวนเงินกองทุนน้ำมันก็ร่อยหรอลง แทนที่จะมีเงินเก็บเป็นจำนวนมากนำมาพยุงราคาน้ำมันตอนที่เกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันขึ้นมาจริงๆ เงินที่สามารถจะนำไปใช้บรรเทาปัญหาราคาน้ำมันแพงก็จะมีน้อยลง แทนที่จะสามารถชดเชยราคาน้ำมันในภาวะวิกฤตออกไปได้ 2 ปี ก็อาจจะเหลือแค่ 6 เดือน เป็นต้น ถึงตอนนั้นก็ต้องเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราสูง การlevelling ก็ไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะถ้าเงินมีน้อย รัฐก็ลดราคาลงได้น้อย

สถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนคนเก็บเงินแบบเก็บไปใช้ไป แล้วเมื่อไหร่จะรวย เมื่อไหร่จะมีเงินออมเพือไปใช้แก้ไขชีวิตในวันข้างหน้า

สิ่งที่กระทรวงพลังงานกระทำอยู่นี้คือการบิดเบือนกลไกราคาตลาด ซึ่งการบิดเบือนนี้มันไม่ได้มีประโยชน์กับประชาชน แต่มีประโยชน์กับกลุ่มทุนเอทานอลและน้ำมันปาล์ม  เป็นการเล่นแร่แปรธาตุเพือนำเงินออกจากกองทุนน้ามันอย่างถูกกฏหมาย

"การที่จะรักษาระบบการกลั่น E85 นั้นสามารถทำได้ แต่ทำไมถึงไม่สะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง"

ถ้าสะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง มันก็ไม่เป็นการรักษาระบบการกลั่น E85 น่ะสิครับ

แต่เท่าที่ดูจากการขึ้นลงราคาทุกวันนี้เขาก็พยายามที่จะสะท้อนต้นทุนอยู่ถึงแม้จะไม่ 100% ก็ตาม
ดังจะเห็นได้จาก น้ำมันชนิดอื่น ๆ ขึ้นลงกันทีละ 50-60สต. แต่ E85 ขยับครั้งละ 30สต.
แม้ว่าจะไม่ได้สะท้อนต้นทุน 100% ยังมีการอุ้มกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้พยายามที่จะถ่างราคาให้ห่างกัน
อยู่ในระดับเดิมครับ

ส่วนที่ผมเขื่อว่าสิ่งที่ทางพลังงานทำอยู่คือเอา volume มาคิดรวมด้วย
เพราะผมคิดว่า volume E85 เมื่อเทียบกับน้ำมันชนิดอื่นมันน่าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า
ดังนั้นถ้าตัด E85 ออก เอาเม็ดเงินที่ชดเชยกลับมาคืน volume น้ำมันชนิดอื่น
มันอาจทำให้ราคาน้ำมันชนิดอื่นถูกลงได้แค่ไม่กี่สิบสต.ต่อลิตร ก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น
มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรนอกจากได้ความสะใจ

ข้อมูลส่วนใหญ่ที่คนเอามาแชร์กัน มันมักจะเป็นราคาต่อลิตรที่ทำให้คนทั่วไปมักจะคิดว่า
มันเป็นการชดเชยกันลิตรต่อลิตร ซึ่งจะสร้างความไม่พอใจให้คนเสพข้อมูลได้เยอะ 
แต่ผมแทบไม่เคยเห็น volume ที่จะทำให้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเมื่อเอา volume เข้ามาคำนวณด้วยแล้ว
มันถูกดึงจากน้ำมันชนิดอื่น ๆ ไปอุ้มอยู่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ลิตรละเท่าไหร่ครับ

ผมสังเกตว่า การเสพข้อมูลจากสื่อในปัจจุบันนั้น มันต้องมองด้วยว่าสื่อที่นำข้อมูลมาเสนอต้องการอะไร
บ่อยครั้งที่เอามาเผยแพร่กันแบบไม่ครบถ้วนด้วยมีเจตนาแฝงอะไรบางอย่างอยู่

สมัยนี้ เราจะคิดว่าการให้ข้อมูลเท็จเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างเดียวไม่ได้แล้วครับ
เพราะมีคนหัวใสอีกมาก ที่อ้างว่าไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่ให้มานั้นเป็นความจริง
แต่เอาความจริงแค่าบางส่วนมาเผยแพร่ ไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน
เพื่อหวังให้คนรับสารเข้าใจผิดก็มีไม่น้อยทีเดียว
แล้วคนพวกนี้มักจะอ้างว่า ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณการตีความของผู้รับสารครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,948
    • อีเมล์
เห็นด้วยกับคุณ  BKK777 และคุณ  I-PULSE

1.เราควรสะท้อนราคาจริงกันไปเลยครับ ซึ่งที่ผ่านมาก็อ้างว่าสะท้อนราคาตลาดโลก แต่พอน้ำมันถูกกลับไปอุ้มเอทานอลแทน

2.ที่คุณSymphonic บอกว่าต้องดุ volume นั่น จริงๆไม่ต้องดูก็ได้ครับ ดูจากการเก็บภาษีและการชดเชยตามตารางนี้ก็ชัดเจนแล้วครับว่า เขาทั้งอุ้มทั้งอุดน้ำมัน E85 และ E20 แบบสุดโต่ง โดยเก็บภาษีน้ำมัน E10 มากขึ้น เพื่อมาอุด E85 E20 อย่างที่เห็น ... และรถมอเตอร์ไซด์ยี่ห้อไหนเติม E85 กับ E20 ได้บ้างครับ ... ไปอุ้มไว้ทำไม .. ทั้งๆที่ E85 คนใช้น้อย แล้วเหตุได้ถึงต้องไปชดเชยอยู่ ปล่อยมันลอยไปตามภาวะตลาดไปเลย ไม่ดีกว่าหรอ เป็นทางเลือกให้กับประชาชนมากกว่าด้วย

3.ที่คุณ I_AM_M บอกไม่รักโลก คือเทคโนโลยีน้ำมันเชื่อเพลิงเค้าไปถึง EURO6 กันแล้วครับ ปล่อนมลพิษต่ำโดยที่ไม่ได้ใช้เอทานอลด้วย ...มาจากน้ำมันเพียวๆครับ

แต่สุดท้ายก็ยินดีรับฟังความคิดเห็นทุกท่านครับ เราเป็นเพียงประชาชนที่หวังให้ภาพรวมออกมาแล้วประชาชนอย่างเราได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่การน้ำทรัพย์สินของชาติไปอุ้มธุรกิจใดธุรกิจนึงจนชาติและประชาชนเสียประโยชน์มากไปเท่านั้นเอง