ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง  (อ่าน 2908 ครั้ง)

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง

ตลาดรถยนต์เต็มไปด้วยคนที่บอกว่า อยากให้รถคันนี้ ที่อยู่ต่างประเทศเข้ามาขายจัง บางคันมาจริง กลับทำยอดได้ไม่ดี เช่น Nissan Juke อะไรแบบนี้ การจะให้ค่ายรถยนต์มาเสี่ยงกับความต้องการซื้อรถของคนที่ไม่ทราบปริมาณแน่นอน มันเสี่ยงต่อการขาดทุน

ทำไมไม่ใช้วิธีระดมทุน แบบ Kickstarter ไปเลยหละ เช่น สมมุติว่าอยากได้ K Car แบบ Suzuki Lapin มาขายแบบเปิดโรงงานในไทย ก็ระดมทุน Kickstarter เลย ลงเงินคนละ 150,000 ไม่ครบ 10,000 คัน จะโอนเงินคืนหมดทุกคน ตั้งเวลาไว้ครึ่งปีปิดดีล โดยตั้งโปรว่า ใครได้คันระดมทุนจะมีส่วนลด 50000 หรือ Collection ไรพิเศษก็ว่ากันไป พอตั้งไลน์ผลิตได้แล้ว ก็กลับมาราคาปกติ แถมรถล็อตแรกก็ออกสู่ถนนทันที คนที่ขับใช้ในชีวิตประจำวันก็ถือเป็นการโฆษณารถตามท้องถนนไปในตัว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 03, 2020, 10:00:32 โดย Staples »

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,740
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 10:21:48 »
ในมุมของคนซื้อ ต้องเอาเงินก่อนไปวางไว้ 6 เดือน โดยยังไม่เห็นของจริง ซึ่งในเคสปรกติ วางเงินจอง 5000 บาท แล้วรอรถ รถมาส่ง ก็วางเงินดาวน์ ทำสัญญา ได้รถใช้เลย - ซึ่ง 6 เดือนน่าจะเป็นเวลาตัดสินใจว่าจะตั้งไลน์ผลิต แล้วระยะเวลาที่ใช้ในการตั้งไลน์การผลิต แล้วกว่าจะผลิตให้ได้ทุกคน สรุปแล้วอาจยาวไปถึง 9 -12 เดือนเลย

กลุ่มคนที่มีเงินเย็นไปวางเฉยๆได้โดนที่มันไม่งอกเงย ไม่น่าจะมีเยอะ แล้วยิ่งถ้าให้เวลาจองกัน 6 เดือน เดือนแรกๆ คงไม่มีคนจอง มาจองกันเดือนสุดท้ายแทน นอกจากทำโปรล่อใจมากๆ

ส่วนตัวผมว่าที่จะดูเป็นไปได้มากกว่าคือ รวมตัวกันจองหลายๆคัน แล้วให้ บ. นำเข้ามาให้จาก ญี่ปุ่น หรือ อินโด ซึ่งจริงๆ เกรย์ ก็คงทำให้ได้ครับ


ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 10:44:36 »
ช่วงเวลาระดมทุน

ช่วงเวลาตั้งโรงงาน ที่ไม่แน่นอน

ช่วงเวลาการซัพไพเออร์ไม่แน่นอน

ช่วงเวลาการผลิตไม่แน่นอน

ฃ่วงเวลาการส่งรถไม่แน่นอน

ณ ตอนนั้นอาจจะมีคันอื่นออกมาขาย ที่ว๊าวกว่า หรือ คันที่จะซื้อและวางเงินมีการ minor change หรือ model change ไปแล้วอีก

แล้วโรงงานจะตั้งมาเพื่อผลิตรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แล้วต่อจากนั้นละ จะเอาไปทำอะไร ทั้งเครื่องจักรและคนงาน

ผมว่าปัจจัยเยอะครับ มันทำจริงได้ยากมาก หรือ แทบจะทำไม่ได้เลย

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,234
    • อีเมล์
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 10:54:00 »
เงินแสนกว่าบาท กับ รถราคาไม่กี่แสนบาท เทียบเป็น % มันสูงนะครับ คิดว่า คนส่วนใหญ่ที่ซื้อรถราคาไม่กี่แสน จะมีเงินเย็นเป็นแสนไปวางเชียวหรือครับ ?

ต่อให้คนที่มีเงิน เค้าก็มองว่า เงินแสน เค้าเอาไปลงทุนให้ดอกผลมันงอกเงย น่าจะดีกว่า เอาเงินมาจม แลกกับ รถที่ไม่รู้อะไรเลย สเปค ราคา option

...........

เอาแค่ ของที่จะมาแน่ๆ เปิดให้จองก่อนเปิดตัวสัก 1 เดือน อย่างพวกมือถือ หรือ มอไซค์ (อย่าง CT125) แบบไม่รู้ราคา ยังมีคนกล้าจองไม่กี่คนเองครับ

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,255
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 12:10:18 »
บ้านเราก็มีเกร์ยมาร์เกท ที่ทำหน้าที่ตรงนี้แล้วมั้งครับ
อยากได้รถอะไร ก็กำเงินไปหาเกร์ยได้เลย

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,609
    • อีเมล์
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 13:33:19 »

พอจำนวนมันน้อย หรือไม่มากพอ
ก็มีปัญหาเรื่องสต็อกอะไหล่


ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,866
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 14:02:58 »
ถ้าภาษีสรรพสามิต​และการเอากำไรของค่ายรถไม่โหดเกินไป ราคาพอๆกับประเทศต้นกำเนิด ผมว่าโครงการนี้้เกิดแนะนอน

K car สวยๆไม่ถึง 5 แสน
Jinmy คันละ 5 แสน++
และอื่นๆอีกมากมาย

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,706
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 14:07:10 »
เอาชีวิตจริง ๆ เลยนะพี่ 

แค่ตัวรถก็ไม่ใช่ว่า อยากจะผลิตหรือขายรถอะไรก็ทำได้นะครับ  มันมีกฏเกณฑ์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์
ที่ต้องผ่าน สมอ. ของเราด้วยครับ   อันนี้ในใจพี่อาจจะคิดว่า เหยยย รถที่ผ่านมาตรฐานขายในประเทศ
ที่พัฒนาแล้วได้ทำไมมันจะขายในบ้านเราไม่ได้ฟระ  บ้านเรามันมีอะไรที่วิเศษวิโสกว่าประเทศพวกนั้นเหรอ

คำตอบคือ  มันมีสภาพแวดล้อมบางอย่างในบ้านเราที่ไม่มีในที่อื่นครับ
เอาแค่ว่า ต่อให้เกณฑ์มาตรฐานไอเสียไม่ต่างจากประเทศโลกอื่น แต่เจอสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ
คุณภาพ ชนิดน้ำมัน และสภาพการจราจรแบบบ้านเรา มันต้องมี Engineer ที่ต้องเข้ามาจูนและทดสอบครับ
ซึ่งส่วนนี้มีต้นทุน มีโนวฮาว อีกเยอะ ...  พี่ถึงได้เห็นรถรุ่นที่ไม่ได้ใหม่ที่สุดในโลก เปิดตัวขายที่อื่นแล้ว
แต่ยังต้องพรางตัววิ่งทดสอบเก็บข้อมูลและแก้ปัญหาในบ้านเราไงครับ ไม่ใช่วิ่งเอาเท่ห์ เรียกกระแสนะครับ

ดังนั้นการที่จะทำรถอะไรขายสักรุ่น จึงไม่ใช่แค่ลงขันรวมเงินกันไปซื้อมาใช้แบบสหกรณ์โรงเรียนไงครับ

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2020, 18:56:37 »
เอาชีวิตจริง ๆ เลยนะพี่ 

แค่ตัวรถก็ไม่ใช่ว่า อยากจะผลิตหรือขายรถอะไรก็ทำได้นะครับ  มันมีกฏเกณฑ์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์
ที่ต้องผ่าน สมอ. ของเราด้วยครับ   อันนี้ในใจพี่อาจจะคิดว่า เหยยย รถที่ผ่านมาตรฐานขายในประเทศ
ที่พัฒนาแล้วได้ทำไมมันจะขายในบ้านเราไม่ได้ฟระ  บ้านเรามันมีอะไรที่วิเศษวิโสกว่าประเทศพวกนั้นเหรอ

คำตอบคือ  มันมีสภาพแวดล้อมบางอย่างในบ้านเราที่ไม่มีในที่อื่นครับ
เอาแค่ว่า ต่อให้เกณฑ์มาตรฐานไอเสียไม่ต่างจากประเทศโลกอื่น แต่เจอสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ
คุณภาพ ชนิดน้ำมัน และสภาพการจราจรแบบบ้านเรา มันต้องมี Engineer ที่ต้องเข้ามาจูนและทดสอบครับ
ซึ่งส่วนนี้มีต้นทุน มีโนวฮาว อีกเยอะ ...  พี่ถึงได้เห็นรถรุ่นที่ไม่ได้ใหม่ที่สุดในโลก เปิดตัวขายที่อื่นแล้ว
แต่ยังต้องพรางตัววิ่งทดสอบเก็บข้อมูลและแก้ปัญหาในบ้านเราไงครับ ไม่ใช่วิ่งเอาเท่ห์ เรียกกระแสนะครับ

ดังนั้นการที่จะทำรถอะไรขายสักรุ่น จึงไม่ใช่แค่ลงขันรวมเงินกันไปซื้อมาใช้แบบสหกรณ์โรงเรียนไงครับ

เห็นภาพ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
Re: ทำไมตลาดรถยนต์ไทย ไม่ลองใช้วิธีแบบ Kick Starter บ้าง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2020, 09:23:27 »
อยู่ๆ เอาเงินไปลงก่อน คนไทยไม่ทำหรอกครับ กลัวโดนโกง เพราะมีคดีจับการโกงเงินกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว