ผู้เขียน หัวข้อ: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ  (อ่าน 13497 ครั้ง)

ออฟไลน์ Isara

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
โจทย์

1.เน้นใช้งานวิ่งทางไกล ออกต่างจังหวัด ระยะทาง 200-800 กิโลเมตร เฉลี่ยเดือนละ 2-3 ครั้ง บางเดือนต้องพาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาล
2.เน้นช่วงล่างดีเทียบกับคันเดิม กับระบบความปลอดภัย เช่น เบรคกระจายแรง ขึ้นลงภูเขา ฯลฯ
3.เป็นคนเท้าไม่หนัก วิ่งเฉลี่ย 120 ไม่เกิน 140 ส่วนใหญ่ถือพวงมาลัยนิ่ง ไม่หักหลบอะไร
4.เน้นขับคนเดียวหรือคนนั่งไม่เกิน2คน อยากได้ห้องโดยสารนั่งสบายสำหรับตอนหน้า ส่วนเลกรูมให้คนนั่งหลังคงเป็นบางครั้งคราว เต็มที่คงไม่เกิน 4 คน สัมภาระหลังมีเยอะ
5.ความรู้เรื่องรถมีบ้าง แต่ไม่มีอุปกรณ์ มีแนวโน้มส่งช่างทำหมด ภาวนาให้รถซ่อมจบๆ จึงตั้งใจจะเข้าศูนย์สลับอู่นอก ส่วนตัวอาศัยอยู่ในกรุงเทพฝั่งตะวันออก

ปล.เอามาใช้แทน Fiesta MK7 คันเก่าที่ใช้งานมาครบ 6 ปี 1.2 แสนโล ประสบการณ์ใช้งานที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากพัดลมระบายความร้อน 2 ครั้ง
ปล.2 ประทับใจฟอร์ดเพราะเคยใช้เฟียสต้า แต่เห็นคนติเรื่องเกียร์ กับห้องโดยสารแคบ ส่วนวอลโว่บ้างก็ว่าเหมือนฟอร์ดเพราะเป็นเจ้าของก่อนขายให้จีลี่ แต่ระบบความปลอดภัยดี (ประสบการณ์ของเพื่อน) ด้านซาปนั้นเอาจริงชอบที่สุดในสามคัน แต่ไม่มีศูนย์แล้ว ออกต่างจังหวัดก็หวั่นใจ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 04:22:29 »
เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ mrpich

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,197
  • เฮ้อ...อยากจะเหมาทั้งวง
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 07:05:19 »
ซื้อมาใช้ไปโฟกัสดีสุดครับ คุ้มสุด ใช้งานได้จริง อีก2ตัวเลือกเป็นรถที่ซื้อมาเล่นครับ
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,570
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 08:24:23 »
เห็นว่าเน้นใช้งานออกต่างจังหวัดแล้วอยากให้มองตัวเลือกอื่นจังเลยครับ ยิ่ง2เจ้าที่มาจากสวีเดนถ้ามีเหตุต้องได้ซ่อมหรือลากไปซ่อมเรื่องใหญ่แน่ๆ


ถ้าเป็นจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆก็ยังพอทน แต่ถ้าไปเสียตามจังหวัดเล็กๆหรืออำเภอที่ห่างไกลไม่สนุกแน่ๆครับ รับประกัน


โดยเฉพาะซาปคุณต้องทำการบ้านกับตัวรถมาพอสมควร ช่องทางการหาอะไหล่ซ่อมบำรุงต้องศึกษาอย่างละเอียดเลยถ้าจะเล่นจริงๆ

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 09:11:10 »
ผมเห็นต่างจากความเห็นข้างบน  ผมเป็นขาประจำ ซาบ

ผมอยากให้เลือก 95  ปี 03  ขึ้นมา  สังเกต มีพาร์ดเดิลชิพ   กรอบหน้าปัด  สีเงิน   ได้มา  ปรับเฟิร์มแวร์ เป็นใช้เชื้อเพลิงมัลดิ..เติมตั้งแต่ 95 เพียว  ยัน อี 85  ตามสะดวก

แม้ระบบเวคกั้มจะค่อนข้างอ่อนไหว  ต้องดูแลดี   แต่ไปได้ทุกที่  ตายยาก   แม้ไฟเครื่องโชว์  ถ้าไม่สำคัญวิ่งกลับได้สบาย  (ซื้อ odb 2 ตัวหนึ่ง สองสามร้อยบาทไว้อ่านค่า   หรือ

เข้าไปอ่านในหน้าจอหลักของเครื่องได้  ถ้าให้จูนเนอร์เปิดระบบให้อ่าน)     ประกอบกับแถว ๆ ที่คุณอยู่  มีอู่ใกล้ ๆ ที่เก่งใช้ได้อยู่  ราคาก็ไม่ฟัน  เพียงแต่ต้องรอคิวบ้าง 

ส่วนการดูแล  ถ้ามีความรู้อยู่บ้าง  ไม่หนักครับ  ขออย่างเดียวอย่าเปลี่ยนนิสัยในการขับ...ซึ่งส่วนใหญ่  มักจะเป็น...

ส่วนผมเลือกเก็บ 93ss   ชอบมันมากกว่า 95 ...ประกอบกับผมใช้รถแค่ 3 คัน  เลยเหลือไว้คันเดียว....

ส่วนอีกสองคันที่ถาม  ไม่เคยใช้ครับ..

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 10:01:29 »
อยู่ต่างจังหวัด อย่าเล่นรถนอกกระแส เพราะงานซ่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
ซาป นี่เลิกคิดไปเลย รถสภาพดีๆหาค่อนข้างยาก อู่ก็ยิ่งยากเลย
วอลโว่ อู่อาจพอหาได้ แต่อะไหล่ไม่น่าจะหาง่าย และราคาไม่น่าเป็นมิตรแน่ๆ
ฟอร์ด อู่นอก ต่างจังหวัด พอมี แต่ต้องถามว่าจังหวัดไหน หนักๆก็เรื่องเกียร์นะ(ลูกเดียวกับเฟียสต้า ไหวไหม)
มู้ที่แล้วหากระบะ ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วรึคนับ

ผมว่าตัดใจไป อีโคคาร์ 1.0 เทอร์โบ มือ1 จะใช้งานได้ดีกว่า ดาวน์2แสน ผ่อนเพิ่มเอา ตัดปัญหาเรื่องงานซ่อมไปเลย5ปี(ผ่อนหมดพอดี)
ภายในผมว่ามันพอได้นะ city almera กว้างกว่าเฟียสต้า/โฟกัสอ่ะผมว่า

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 10:02:09 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 969
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 11:58:48 »
จากตัวเลือก ไปโฟกัสครับ อาจจะยังพอมีอะไหล่บ้าง

คันอื่น ไม่ชัวร์ว่าจะมีอะไหล่เทียบบ้างหรือไม่

ออนไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 12:07:50 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

น่าจะหมายถึง "ติดตั้ง" Oil Cooler Gear เพิ่ม
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 12:40:40 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

น่าจะหมายถึง "ติดตั้ง" Oil Cooler Gear เพิ่ม
มีแต่ออย นมค. ที่เคยเห็นทำกันคือตัดออยนมค.ออก ถ้าจะติดเพิ่มเปลี่ยนเป็น ออยนคม.ระบายความร้อนด้วยอากาศ

ส่วนออยเกียร์ เข้าใจว่าไม่สามารถติดตั้งออยเกียร์ได้

ออฟไลน์ kail

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 31
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 13:29:38 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

น่าจะหมายถึง "ติดตั้ง" Oil Cooler Gear เพิ่ม
มีแต่ออย นมค. ที่เคยเห็นทำกันคือตัดออยนมค.ออก ถ้าจะติดเพิ่มเปลี่ยนเป็น ออยนคม.ระบายความร้อนด้วยอากาศ

ส่วนออยเกียร์ เข้าใจว่าไม่สามารถติดตั้งออยเกียร์ได้

ขอสอบถามนอกเรื่องครับ
ตัดออย นมคออกแล้วเปลี่ยนเป็นระบายความร้อนด้วยอากาศมันจะดีกว่าเดิมไหมครับถ้ารถติดและความร้อนสะสม
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 15:59:29 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

น่าจะหมายถึง "ติดตั้ง" Oil Cooler Gear เพิ่ม
มีแต่ออย นมค. ที่เคยเห็นทำกันคือตัดออยนมค.ออก ถ้าจะติดเพิ่มเปลี่ยนเป็น ออยนคม.ระบายความร้อนด้วยอากาศ

ส่วนออยเกียร์ เข้าใจว่าไม่สามารถติดตั้งออยเกียร์ได้

ขอสอบถามนอกเรื่องครับ
ตัดออย นมคออกแล้วเปลี่ยนเป็นระบายความร้อนด้วยอากาศมันจะดีกว่าเดิมไหมครับถ้ารถติดและความร้อนสะสม
ขอบคุณครับ
มันตีกันอยู่ 2 ทฤษฎีนะครับ ว่าการที่ฟอร์ด ติดออย นมค. (เดิม)ทำหน้าที่อะไร
1.เชื่อว่าเป็นการเพิ่มความร้อน โดยนำ นมค. ไปอุ่น จากการที่ผ่านน้ำในหม้อน้ำ ให้มีความร้อนสูงพอๆกับห้องเครื่อง
กับ 2. เชื่อว่า เป็นการลดความร้อน โดยนมค.ที่ผ่านห้องเครื่องมาแล้ว มาเจอน้ำหล่อเย็น จะระบายความร้อนลง
(ความเห็นส่วนตัว ผมเชื่อ ทฤษฎีแรก)

และการที่ติดออย แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (แทนระบายด้วยน้ำ เดิม)
การที่อยู่รถกับที่ ก็แทบจะไม่มีผลใดๆ จะมีผลต่อเมื่อรถยนต์วิ่งปะทะลม
ดังนั้น ถ้าเชื่อในทฤษฎีแรก การติดหรือไม่ติดออย ก็จะไม่มีผลใดๆในการลดความร้อน
แต่ถ้าเชื่อในทฤษฎีที่สอง ก็มีผลเป็นการลดความร้อน แต่ในขณะรถวิ่งเท่านั้น
ส่วนใหญ่ที่ทำการคือแค่ตัดออยออก ก็ใช้งานกันปกติครับ

ส่วนน้อยที่เลือกติดออยอากาศ แต่เพราะราคามันสูงอยู่(ราคาราว5-6พัน) เลยไม่ค่อนิยมกันครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 16:46:49 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

น่าจะหมายถึง "ติดตั้ง" Oil Cooler Gear เพิ่ม
มีแต่ออย นมค. ที่เคยเห็นทำกันคือตัดออยนมค.ออก ถ้าจะติดเพิ่มเปลี่ยนเป็น ออยนคม.ระบายความร้อนด้วยอากาศ

ส่วนออยเกียร์ เข้าใจว่าไม่สามารถติดตั้งออยเกียร์ได้

ขอสอบถามนอกเรื่องครับ
ตัดออย นมคออกแล้วเปลี่ยนเป็นระบายความร้อนด้วยอากาศมันจะดีกว่าเดิมไหมครับถ้ารถติดและความร้อนสะสม
ขอบคุณครับ

เทียบจากรถผมที่ตัดออกนะครับ ผมมีจอดูอุณหภูมิเครื่องด้วย คือถ้าไม่ปิดแอร์ความร้อนมากสุดยังไงก็ไม่เกิน 92 องศาครับ มันอยู่แถวๆ 86 - 92 ตอนผมไม่ได้ตัดมันอยู่แถวๆ 92 - 103 บ่อยๆเลย  แต่ถ้าปิดแอร์มันก็กลับมาขึ้น 93 กว่าบ่อยๆครับ   

ส่วนถ้าขับเร็วอันนี้เห็นชัดอยู่ ก่อนตัดมันจะวิ่งอยู่ไม่เกิน 93   แต่หลังตัดผมซัดแบบ 180-190  จะมีขึ้น ไป 96 ถ้าอากาศร้อนๆพอขับมาขับช้าลงมันจะขึ้นไป 100 สักพัก แล้วค่อยลดลงมา 90 ต้นๆครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 18:04:26 »
ผมมี focus 2.0 ตั้งแต่ป้ายแดงจนปัจจุบัน สองแสนกว่าโล

หากmaintenances ตามระยะ. ผมว่ารถดีมากครับ

เด่นกว่ารถญี่ปุ่นชัดเจนมาก
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 19:15:14 »
ผมใช้ Focus MK3 กับเคยมี S80 3.2

รถคนละแบบกันเลยครับ
Focus ช่วงล่างแข็งกว่า เกาะถนนกว่า พวงมาลัยคมกว่า
ภายในเบาะหน้านั่งสบาย แม่ผมสูง 156 นั่งหลังได้ ไม่เคยบ่นอะไร
ทางไกลไว้ใจได้ ขับช่วง 120-140 ไม่มีปัญหา
ค่าบำรุงรักษาไม่แพงเลยครับ ผมเข้าศูนย์ตลอด รถใช้ดี ไม่จุกจิก

ข้อเสีย วัสดุเสื่อมสภาพเร็ว กลอนประตูมีปัญหา ด้านหลังจุของน้อยมาก


S80 รถผู้ใหญ่
จุดเด่น คือ บรรยากาศในรถ เบาะโดยสาร เครื่องเสียง
เหมาะกับขับทางไกล ตรง ๆ ยาว ๆ
ไม่ใช่รถขับสนุกเลย กินน้ำมันพอตัว ช่วงล่างออกไปทางย้วย ๆ ถ้าเอามามุด
ค่าบำรุงรักษา ศูนย์แพงพอสมควร
แต่ไม่จุกจิก

ถ้าสน S80 จริง
ลองมอง D-segment ฝั่งญี่ปุ่นก็ดีครับ
Teana J31 หรือ ACV40

ถ้าจะเอาช่วงล่างดีกว่า Fiesta คงต้องตัว S80 ออกไปเลยครับ
Focus ผมว่าเป็นรถที่ดีคันนึงเลย เมื่อเทียบกับราคาตอนนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 19, 2020, 19:29:54 โดย Odrecranon »

ออฟไลน์ Koolkoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 263
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2020, 22:29:04 »
จากตัวเลือก ผมว่าขึ้นกับ ความเซียนของคยเล่นรถเลยครับ คงต้องมีความรู้พอตัว ถึงจะใช้ได้อย่างมีความสุข

ว่าแต่ไม่มองพวก BMW หรือ BENZ หรือครับ น่าจะเล่นง่ายกว่า

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
Re: Ford Focus 2.0 MK3 5DR / SAAB 9-5 / Volvo S80 กับงบประมาณ 250k (+งบซ่อมบำรุง 30k) เอ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2020, 11:32:45 »
โฟกัส ค่อนข้างเล็ก แต่ยังพอมีความสบายในการโดยสารอยู่บ้างครับ เล่นได้อยู่ครับ S80 ก็น่าสนกว่านิดๆครับ

เอาโฟกัสแล้วไปตัดออยเกียร์ กับเปลี่ยนท่อน้ำต่างๆทิ้ง งบไม่ถึง 5,000 ใช้ยาวๆครับ

มันมีออล์ยคูลเลอร์เกียร์ด้วยหรือครับ  :o

น่าจะหมายถึง "ติดตั้ง" Oil Cooler Gear เพิ่ม

น่าจะหมายถึง ตัวระบายความร้อน(หรือจะเพิ่มให้ร้อน) ให้น้ำมันเครื่องมากกว่าครับ  เพราะถ้าเกียร์ต้องหาทางปั้มมันออกมาครับ  ;)