คิดแบบเชิงตรรกนะครับ
ถ้ามาสด้าไม่จุกจิกจริง บริการหลังการขายก็ไม่ต้องใช้หรอกจริงมั้ยครับ
ถ้ารถไม่เสีย จะเข้าศูนย์ก็แค่เช็คระยะ แค่งานเปลี่ยนถ่ายของเหลว
ต่อให้ศูนย์ที่สกิลต่ำสุดๆ ก็ทำได้ ไม่ต้องใช้ทักษะวิเคราะห์ปัญหาพิศดารอะไร
มาสด้าคันที่ผมใช้ไม่เคยมีปัญหากับตัวรถนะ รถดีใช้แล้วก็ชอบ ทั้งๆที่เป็นรุ่นเสี่ยงรุ่นนึง คือ 2 ดีเซล
แต่ทำไมผมมีบ่นเรื่องหลังการขาย
1.ช่วงปีแรกๆที่ซื้อ มาสด้าขายดีเพราะ skyactiv แต่ ... ยุบโชว์รูมที่ไม่ลงทุนทำ CI ใหม่ โดยที่ไม่รอโชว์รูมใหม่มารองรับ...ช่วงนั้นเคยจองคิวเช็คระยะ รอ 3สัปดาห์ครับ
ครั้งนึงเติมน้ำมัน เด็กปั้มท์เป็นพม่ามัวแต่คุย บอกเติมดีเซล ปรากฎว่าเติม e20 ให้ เรียบร้อย...เราเปิดประตูมาทักก็ไม่ทันแล้ว ยกไปศูนย์...ไม่มีคิวต้องทิ้งรถข้ามปี(ทั้งๆที่แค่ล้างถังไม่ได้อะไรมากเลย เติมผิดยังไม่ได้สตาร์ทด้วย) ปีใหม่ต้องขับ jazz ge อายุ 10ปีไปเที่ยวเชียงราย ขึ้นแม่สลอง(แล้วก็รู้ว่า honda แม้มันจะเก่า มันจะดังทุกอย่างยกเว้นเครื่องเสียง แต่มันก็ไว้ใจได้555)
2.ค่าบริการแพงชิบ...รู้ๆกันอยู่
3.ราคาอะไหล่โหดใช้ได้ แต่มันก็ทนสมราคา(ถ้าไม่นับอันที่มีดีเฟคนะ)
4.ดีเฟคแก้ช้า เอาเคสที่จบแล้วก็ได้ เทียบสมัย 3กับjazz gk ที่มีปัญหา E85 ฮอนด้าจำได้ว่าไม่เกินสองเดือน มาสด้าเล่นไปยันไมเนอร์
........
ก็หวังว่า อะไรๆมันจะดีขึ้นนะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจว่า cx30 รถมันก็เครื่องเดิม ระบบไฟฟ้าแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ มันก็ 3 ยกสูงชัดๆ ทำไมมันมีดีเฟคมาใหม่ก็ไม่รู้นะ
แต่เห็นบ่นมาสด้าอย่างนี้นะ มีอีกค่ายที่ผมใช้แล้วเครียดกว่า คือ นิสสันครับ พี่ผมถึงกับขายอัลเมร่ารุ่นเดิมออกไป ทั้งๆที่มันใหม่กว่า jazz ge ที่บ้านตั้ง 5ปี....อันนี้ไม่ใช่แค่ศูนย์ นี่ยันตัวรถเลย