ผู้เขียน หัวข้อ: อ่านกระทู้ สนิม vs. ปั๊มติ๊ก ข้างล่างแล้วหดหู่จังครับ  (อ่าน 5535 ครั้ง)

ออฟไลน์ Powerpete

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
อย่างที่เข้าใจแหละครับ ธุรกิจคือกำไร ต้นทุนทำให้กำไรน้อย อีกเจ้าลดต้นทุนการผลิต อีกเจ้าลดต้นทุนเรื่องของ after sales 
มุมมองของคนที่เจอปัญหากับตัวกับค่ายสนิม สนิมรอบคันและปัญหาอื่นซึ่งเยอะมาก และได้ตอบกระทู้ก่อนหน้าที่กล่าวถึง แล้วหันมาซบค่ายปั๊มติ๊ก ก็เสียวๆ เหมือนกัน

แต่...ผมมีคำตอบให้ตัวของผมเอง...สำหรับผมนะ ผมเลือก "daily experience" ค่ายไหนตอบโจทย์มากสุดเอาอันนั้น ในใจบอกว่าแก่ๆ จะหันไปซบ T แต่ T ลดต้นทุนจน "good daily experience" หายไปหมด ผมรับไม่ได้กับเสียงดังเข้าห้องโดยสารที่หนักเอามาก วัสด, infotainment เหมือนงานก๊อปเซิ้นเจิ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และทนไม่ได้กับการเจอสิ่งเหล่านี้ในทุกๆวันของการใช้รถวันละ 4 ชม.... ต่างกันสองค่ายที่มีมากกว่า....bad experience ถึงมีก็ไม่ได้มีทั้ง 365 วัน มีแค่ไม่กี่วัน ไม่รวมเรื่อง design ที่แล้วแต่คนจะมอง

ไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผล ถ้าเราวัดจากความพึงพอใจ ผู้บริโภคเองก็มีหลายกลุ่ม รสนิยม ความมีเหตุมีผล ผมว่านี่แหละคือคำตอบของทั้งหมด


ออฟไลน์ polwath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 886
ผมว่าเรื่องนี้คงทะเลาะกันอีกยาว แต่สิ่งที่ค่ายรถควรจะรู้คือ การชั่งน้ำหนักระหว่างคุณภาพในการผลิตรถออกมาขายและลูกค้ากับบริการหลังการขายนะครับ

ถ้าหาสมดุลได้ ก็ลองดู Toyota, Isuzu และ Volvo แม้แต่ Suzuki ดูครับ รถมาปัญหาก็ดูแลดี ไม่ทอดทิ้งลูกค้า ส่วนรถที่ออกมาก็ได้ฟังก์ชันที่ลูกค้ายังพอรับได้กับราคาที่จ่าย แม้จะมีปัญหาอะไรกับรถ ทั้ง Defect และปัจจัยอื่นๆ การแก้ไขปัญหาถือว่าเร็วมาก มีแค่ไม่กี่เคสที่ร้ายแรง แต่ก็จบเร็วเหมือนกัน (แต่ไม่ลบโพสต์หลังแก้นะครับ เหมือนที่พี่จิมมี่เคยด่านในรายการ)

หรือจะต้องรอให้เกิดผลร้ายแรงหรือมีคนเสียชีวิตจากปัญหาเหล่านี้ตอนใช้รถ เหมือนที่เกิดขึ้นกับ GM และ Ford ในสหรัฐฯ แล้วค่อยออกมาแก้ไขเหรอ มันส่งผลกระทบกับความน่าเชื่อถือและแบรนด์ในระยะยาวนะครับ

ออฟไลน์ sixsax

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 159
    • อีเมล์
ก็สนิมกินทั้ง 2 ค่ายนั่นแหละ

กินเยอะ หลายคันด้วย ไม่ได้ใช้ตจว.

เคลมก็ไม่ได้อะไรมาก ตัวถังได้แค่ขัดแล้วพ่นทับเฉยๆ เดี๋ยวก็เป็นอีกจากด้านใน