ถ้ารถเก่าแลกรถถ่านใหม่ได้ถึงสองแสน
คงมีคนอยากลองรถถ่าน
แต่ต้องปรับตัวเหมือนใช้รถngv
ไม่สะดวกแบบน้ำมัน
บ้าน
มิเตอร์ต้องติดตู้ไฟได้
ขั้นต่ำ 1เฟส 30/100
3เฟส จะติดได้หลายตู้
พ่วงจากบ้าน หรือ
ขอมิเตอร์tou แยกเข้าโรงรถ
กลางวัน ยูนิต5บาท
กลางคืน ยูนิต2บาท
ค่าไฟจะถูกกว่าไปอัดตามตู้เสียเงิน
เฉลี่ยกม.ละ 50 สตางค์
ตู้ไฟac ต้องซื้อแยก จะอัดไฟได้เร็วกว่าของแถม
ของยุโรปแพงแต่จบ ปลอดภัย กันน้ำ กันฝน ไม่ทนแดด
ตู้ไฟตามบ้าน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 32amp
1 เฟส 7,000วัตต์ ราคาไม่เกินหกหมื่น
3เฟส 22,000วัตต์ ราคาไม่เกินแสน
กบไฟฟ้า ต้องเสียบสองหัวจ่าย
ต้องใช้สองตู้ต่อพร้อมกัน
ตู้ไฟacเก็บเงิน 50-100 แอมป์
1ตู้2หัวจ่าย สองแสนกว่าขึ้นไป
ตู้อัดไฟdc 40amp 22,000w
สี่แสน ใช้ตามบ้าน มีไฟกระแชก
100ampขึ้นไป สองล้านขึ้น
รถถ่าน รับไฟac dc ต่างกันในแต่ละรุ่น
ค่าชั้นต่ำของรถถ่านที่ควรซื้อ
ac 1เฟส 7,000w 32amp
ac 3เฟส 22,000w 32amp
ถ้าอัดไฟได้น้อยกว่านี้จะรอนานกว่าจะเต็มหลายชม.
ตู้dc ถ้ารถไม่มีแอร์เลี้ยงรางถ่าน ถ่านจะเสื่อมเร็ว
รถถ่านเปิดแอร์ รถติด กินไฟน้อยกว่า
วิ่ง100-120กม.ต่อเนื่อง
ยิ่งวิ่งยาว เร็ว ยิ่งกินไฟ
คลานในเมืองไปมา ประหยัดกว่า
สเปคเขียนวิ่งไกล 330กม.
วิ่ง100-120กม. ไม่เกิน 220กม.
รถจอดในที่เย็นจัด หรือร้อนจัด นานๆ
ควรเปิดระบบปรับอากาศในรางถ่านก่อน
ช่วยยืดอายุถ่านให้นานขึ้น
ถ้าอัดไฟที่บ้านแล้ววิ่งทั้งวันไหว
ซื้อได้คุ้ม
ถ้าต้องไปวัดดวงตู้ที่ต่างๆ ไม่คุ้ม
ถ่านอึดใส่น้อยรถเบา ถ่านเยอะรถหนักกินไฟ
ถ่านพอดีกับมอเตอร์นน.รถประหยัด
ถ่านรุ่นใหม่เบา อึดกว่า
ใช้พื้นที่น้อย ทนร้อนเย็นมากกว่า
รถถ่านตีนต้นแรงเกินจำเป็น ค่ายางแพง
วิ่งอึด อัดไฟเต็มเร็ว
หัวจ่ายป้อนไฟได้เต็มที่สำคัญกว่า
ตู้ไฟ หัวจ่าย ถึงปีเปลี่ยนรุ่น
ซื้อรถถ่าน ต้องรวมค่าตู้ไฟด้วย