ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องยนต์รถไฟฟ้ามันสร้างง่ายกว่ารถสันดาปเยอะเลยหรอครับ  (อ่าน 9653 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
เห็นบ.เครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มมีข่าวเข้ามาแจมตลาดนี้กันหลายแบรนด์ ทั้งแอปเปิ้ล ไดซั่น โซนี่
หลักการมันมีแค่เอามอเตอร์มาหมุนล้อแค่นั้นจบเลยหรือเปล่าครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
เฉพาะระบบเครื่องมันก็ไม่ง่ายหรอกคับ เพียงบริษัทพวกนี้เขามีเทคโนโลยีในมืออยู่แล้ว เอามาต่อยอดก็ไม่น่าจะยาก
อย่าง Dyson นี่ น่าจะเฉี่ยวชาญเรื่องมอเตอร์นะ หุหุ

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 589
ง่ายกว่าจริงครับ เอาเครื่อง ถังน้ำมัน ท่อน้ำมัน  ระบบไอเสีย กับเกียร์ ออก เอาแค่มอเตอร์ กับแบต ใส่ ง่ายกว่าเยอะ

ออฟไลน์ Winmax

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 229
ผมคิดว่าเป็นอะไรที่ง่ายเกินไป ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยี
แล้วเรื่องการประกอบ วัสดุที่ให้ทำรถ ในส่วนต่างๆ

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,037
    • อีเมล์
รถไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ มันเกิดมาก่อนรถสันดาปอีกคับ  แต่มันติดปัญหาเรื่องข้อจำกัดของแบตเตอรี่ ทั้งระยะทางการวิ่ง ทั้งเวลาในการชาร์จ  มันเลยไม่ได้เกิด และปัญหานี้มันก็มีมาจนถึงไม่นานนี้   ที่มีการผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ๆ ออกมา มีความจุสูงขึ้น ชาร์จได้เร็วขึ้น เลยทำให้รถไฟฟ้ากลับมามีที่ยืน

สวนทางกับรถสันดาป ที่มันดันต่อยากละ ด้วยปัญหามลพิษจากการเผาไหม้  PM2.5 และอื่น ๆ อีกเยอะ

จากนี้ไปก็จะเป็นยุคเปลียนผ่านจากรถสันดาปมาเป็นรถมอเตอร์ไฟฟ้าละคับ 

-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
ง่ายกว่าเยอะมากครับ เพราะไม่ต้องออกแบบเครื่องยนต์และเกียร์เอง แค่หาโรงงานที่ผลิตมอเต่อร์และแบต

แล้วสร้างโรงงานประกอบ หรือไปจ้างโรงงานประกอบก็ได้

อันนี้คือภาพรวมคร่าวๆนะ เราถึงเห็นผู้ผลิตรถหน้าใหม่เปิดตัวกันเรื่อยๆช่วงนี้

ออฟไลน์ Sympho

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 996
มันคือรถกล๊อฟ ที่ล้ำขึ้นอะครับ

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
ถ้ามันง่ายขนาดใครหน้าไหนก็ตั้งบริษัทมาขายได้จริง แล้วมันจะมีบริษัทที่เจ๊งอยู่รายวันเหรอครับ?

เคยเห็น Code ของระบบการควบคุมชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่กันไหมครับ? คิดว่ามันเขียนแค่ if(battery=100): stop charge แล้วใช้ได้เลยเหรอครับ?

ถ้าคิดว่ามันคือแค่มอเตอร์พ่วงกับแบตเตอรี่แล้วใช้ได้เลย ก็บอกได้เลยว่ามองตื้นไปเยอะมากครับ

บอกตรง ๆ นะครับ ถ้าผมเป็นวิศวกร Tesla มาเห็นกระทู้นี้ ผมโกรธอะครับ อย่าว่าแต่ Tesla เลย ต่อให้ผมเป็นวิศวกร Tamiya ผมยังโกรธเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2020, 14:27:14 โดย TheRealMeaw »

ออฟไลน์ romeokk

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
ถ้ามันง่ายขนาดใครหน้าไหนก็ตั้งบริษัทมาขายได้จริง แล้วมันจะมีบริษัทที่เจ๊งอยู่รายวันเหรอครับ?

เคยเห็น Code ของระบบการควบคุมชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่กันไหมครับ? คิดว่ามันเขียนแค่ if(battery=100): stop charge แล้วใช้ได้เลยเหรอครับ?

ถ้าคิดว่ามันคือแค่มอเตอร์พ่วงกับแบตเตอรี่แล้วใช้ได้เลย ก็บอกได้เลยว่ามองตื้นไปเยอะมากครับ

บอกตรง ๆ นะครับ ถ้าผมเป็นวิศวกร Tesla มาเห็นกระทู้นี้ ผมโกรธอะครับ อย่าว่าแต่ Tesla เลย ต่อให้ผมเป็นวิศวกร Tamiya ผมยังโกรธเลยครับ

ใจเย็นๆครับ เจ้าของกระทู้เค้ามาถามไม่ได้มาหาเรื่อง

มันไม่ได้ง่ายแค่เอามอเตอร์หมุนล้อ แต่มันก็ง่ายกว่าทำรถสันดาป ซึ่งมี Barrier เยอะมากๆในการเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ (เว้นแต่ว่าไปซื้อบริษัทที่ทำรถอยู่แล้ว มาทำต่อ)

ข้อบังคับของการสร้างรถตอนนี้ เรื่องยากมันไปตกอยู่ที่เทคโนโลยีการจัดการมลพิษ พอเป็นรถไฟฟ้า เรื่องนี้ก็ไม่ต้องไปจัดการอีก มันก็เลยเข้ามาง่ายกว่า

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
ถ้ามันง่ายขนาดใครหน้าไหนก็ตั้งบริษัทมาขายได้จริง แล้วมันจะมีบริษัทที่เจ๊งอยู่รายวันเหรอครับ?

เคยเห็น Code ของระบบการควบคุมชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่กันไหมครับ? คิดว่ามันเขียนแค่ if(battery=100): stop charge แล้วใช้ได้เลยเหรอครับ?

ถ้าคิดว่ามันคือแค่มอเตอร์พ่วงกับแบตเตอรี่แล้วใช้ได้เลย ก็บอกได้เลยว่ามองตื้นไปเยอะมากครับ

บอกตรง ๆ นะครับ ถ้าผมเป็นวิศวกร Tesla มาเห็นกระทู้นี้ ผมโกรธอะครับ อย่าว่าแต่ Tesla เลย ต่อให้ผมเป็นวิศวกร Tamiya ผมยังโกรธเลยครับ

ใจเย็นๆครับ เจ้าของกระทู้เค้ามาถามไม่ได้มาหาเรื่อง

มันไม่ได้ง่ายแค่เอามอเตอร์หมุนล้อ แต่มันก็ง่ายกว่าทำรถสันดาป ซึ่งมี Barrier เยอะมากๆในการเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ (เว้นแต่ว่าไปซื้อบริษัทที่ทำรถอยู่แล้ว มาทำต่อ)

ข้อบังคับของการสร้างรถตอนนี้ เรื่องยากมันไปตกอยู่ที่เทคโนโลยีการจัดการมลพิษ พอเป็นรถไฟฟ้า เรื่องนี้ก็ไม่ต้องไปจัดการอีก มันก็เลยเข้ามาง่ายกว่า

เจ๊งไม่เจ๊ง มันขึ้นอยู่กับการตลาดด้วยนี่ครับ

บริษัทที่จขกท.เค้ายกตัวอย่างมา การตลาดถือว่าแข็งโป๊กเลยนะครับ

แล้วแต่ละบริษัท ก็มีองค์ความรู้ได้ไฟฟ้ากับการเขียนโปรแกรมอยู่พอสมควร แอ้ปเปิ้ลเอง การชาร์จมือถือเค้าก็ถนัดอยู่แล้ว

ไดสันก็ถนัดมอเตอร์นวัตกรรมใหม่ๆ ส่วนโซนี่ ไม่ต้องพูดถึง ถ้าสามารถเขียนโปรแกรมให้หัวอ่านแผ่น cd dvd blue ray ได้แม่นยำขนาดนั้น อย่างอื่นที่อยู่ในรถไฟฟ้าก็ไม่น่าจะยากอะไร แถมระบบอ่านภาพ จับภาพ ในรถอัติโนมัติ ค่ายโซนี่ก็น่าจะเข้าไปคลุกคลีแล้วด้วย ผมแค่ยกตัวอย่างแบบน้ำจิ้มๆนะครับ

แรกเริ่ม Tesla ก็ร่วมมือกับ Toyota ทำตัวถังไม่ใช่เหรอครับ

จริงๆรถไฟฟ้า 1 คัน น่าจะทำได้ง่ายกว่ารถสันดาป​เยอะอยู่

ก่อนเราจะมารู้จักกับระบบคันเร่งของรถไฟฟ้าแท้ๆ รถกอล์ฟของคลับคาร์ กับ ezygo เค้าก็ทำมานานแล้ว แบบลงเขาโดยไม่ต้องเอาเท้าแตะเบรค

ผมไม่เห็นว่าต้องไปโกรธอะไรเจ้าของกระทู้เลย เค้าก็สงสัยของเค้าดีๆนะครับ


ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
ง่ายในส่วนของขั้นตอนการผลิต แต่ในด้านการวิจัยและพัฒนา ให้ใช้งานได้สะดวกเท่ากับรถน้ำมัน ยังต้องใช้เวลา

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 827
ถ้านับเอาจำนวนชิ้นส่วนที่ประกอบกันเป็นเครื่องยนต์เทียบกับมอเตอร์ และเทียบตอนทำงานที่ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่เกิดการเสียดสี ผมว่ามันบอกได้ชัดเจนว่าอันไหนยากง่ายกว่ากัน ความยากอย่างหนึ่งของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าก็คือมันยังเพิ่งเริ่มต้น...การคิดค้นมันยังไม่หยุดนิ่งโดยเฉพาะส่วนของมอเตอร์(และแบตฯ)ที่ยังมีโอกาสให้พัฒนาได้อีก


TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
ต้องขออภัยนะครับถ้าเหมือนตอบแรงไป เข้าใจนะครับว่า จขกท. ไม่ได้มาหาเรื่อง แล้วผมก็ไม่ได้โกรธคนถามนะ ผมแค่เปรียบแค่ว่าถ้าผมเป็นคนพัฒนารถพวกนี้ ผมก็โกรธอะครับ ว่างานที่ลงแรงพัฒนามาอย่างยากลำบากมาเป็นเวลานาน ถูกบอกว่า มันก็ง่าย ๆ ใครก็ทำได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น

ถ้ารถยนต์ไฟฟ้ามันพัฒนาง่ายจริง บริษัทต่าง ๆ ที่มีข่าวว่าจะเปิดนั่นเปิดนี่ เขาเปิดตัวขายจริงกันมานานแล้วครับ สังเกตไหมว่าหลายค่ายมันก็ยังเป็นแค่แผนจะทำ ยังต้องพัฒนากันอีก แน่นอนครับหลายกรณีมันเหมือนว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะเขาแถลงข่าวก็ตอนใกล้จะเสร็จแล้ว ไม่เหมือนหลายบริษัทที่แถลงออกมาก่อน กว่าจะได้ขายจริงนี่นานเกือบ 10 ปี เผลอ ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขายเลย บางเจ้าเจ๊งก่อนที่จะได้ขายอีก

รถไฟฟ้าไม่ต้องผ่านการทดสอบมลพิษ ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องผ่านการทดสอบที่ใช้เวลาและทำยากอะไรเลยนะครับ มันต้องทำการทดสอบมาตรฐานอื่น ๆ เช่นการทดสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้ากำลังสูง ซึ่งรถเครื่องสันดาปก็ไม่ต้องทำ แล้วถ้ามีปัญหาคือจบ บริษัทเจ๊งทันทีเลยนะครับ ไหนจะเรื่องประสิทธิภาพเทียบกับคู่แข่งอีก กว่าจะได้ Range เพิ่มขึ้นมาจนรับได้นี่เขาวิจัยกันนานมาก ทั้งแบตเตอรี่กับมอเตอร์ มันยากจนบริษัทรถจะทำเองยังยากเลยครับ ทุนต้องหนามาก เลยมีซัพพลายเออร์ไม่กี่เจ้าที่ทำได้

หลายคนก็พูดถูกว่าพอเปลี่ยนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ประเด็นเรื่องความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน การบังคับควบคุม ระบบความบันเทิงต่าง ๆ ที่คนออกมาเรียกร้อง แล้วก็พวกระบบ Autonomous Driving ก็ยังต้องทำอยู่ แล้วประเด็นนี้ยิ่งใหญ่กว่ามอเตอร์ไฟฟ้าด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่ามอเตอร์ไฟฟ้ามันจะทำง่ายนะครับ

ถ้าคิดว่า Tesla หรือแม้แต่ MG EP มันจะเหมือนเครื่องดูดฝุ่นหรือเครื่องซักผ้า ทำได้ง่าย ๆ คือหลายท่านต้องใจเย็นครับ ลองรอให้มีคนรื้อให้ดูก่อนนะครับ แล้วจะเข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายกว่าเครื่องยนต์สันดาป แค่มันซับซ้อนในเรื่องที่ต่างกัน

สาเหตุที่บริษัทหลายเจ้าเข้ามาทำตลาดรถไฟฟ้า เพราะมันเป็นตลาดใหม่ ยังขยายได้อีกเยอะ ไม่เหมือนที่ตลาดรถยนต์สันดาปมันกำลังจะตาย แต่ที่เขาเข้ามากันไม่ใช่เพราะมันพัฒนาง่ายกว่าแน่ ๆ เพราะสุดท้ายเรื่องอื่นมันก็ยากเท่ากันหรือยากกว่าอยู่ดี บริษัทใหญ่พวกนี้ไม่ใช่กงสีที่มีแป๊ะเจ้าของบริษัทคนเดียว เห็นว่าเอานั่นนี่มาทำมันง่าย ๆ แล้วก็ทำเลยนะครับ

ถ้าบอกว่าชิ้นส่วนมันน้อยกว่าเลยง่ายกว่า เครื่อง Wankel Rotary ก็ชิ้นส่วนน้อยกว่าเครื่องสันดาปลูกสูบครับ ไม่ได้แปลว่ามันพัฒนาง่ายกว่านะครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์


เทคโนโลยี มอเตอร์พัฒนาไปไกลแล้วครับ
เหลือปัญหาแค่ แบตนั่นละ

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,173
ตามหลักระบบมัน ผมเชื่อว่าง่ายกว่าครับ แต่ทำให้ดีใช้งานได้จริงมันไม่ง่ายแน่ๆ


ถ้ามันง่ายขนาดใครหน้าไหนก็ตั้งบริษัทมาขายได้จริง แล้วมันจะมีบริษัทที่เจ๊งอยู่รายวันเหรอครับ?

เคยเห็น Code ของระบบการควบคุมชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่กันไหมครับ? คิดว่ามันเขียนแค่ if(battery=100): stop charge แล้วใช้ได้เลยเหรอครับ?

ถ้าคิดว่ามันคือแค่มอเตอร์พ่วงกับแบตเตอรี่แล้วใช้ได้เลย ก็บอกได้เลยว่ามองตื้นไปเยอะมากครับ

บอกตรง ๆ นะครับ ถ้าผมเป็นวิศวกร Tesla มาเห็นกระทู้นี้ ผมโกรธอะครับ อย่าว่าแต่ Tesla เลย ต่อให้ผมเป็นวิศวกร Tamiya ผมยังโกรธเลยครับ

เครียดง่ายจังครับ จิบชาใจเย็นๆ เราไม่ใช่เค้าอย่าเพิ่งไปโกรธแทนเค้าครับ เค้าอาจจะชิวๆก็ได้

ออฟไลน์ dt9

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
    • อีเมล์
เบื้องหลังก็มีการซื้อเทคโนโลยีกันด้วย และต่อไปรถก็เหมือนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
เคยประกอบรถ Tamiya มั้ยครับ ประมาณนั้นครับกลไกที่ทำให้รถวิ่งได้ แต่เมื่อมันคือรถที่ขายแล้วขับได้มันก็ต้องทำส่วนที่ต้องวิจัยมากกว่า พวกความปลอดภัย พวกการออกแบบรูปลักษณ์ต่างๆนั่นคือสิ่งที่ยาก
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Firzen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 887
ถ้ามาหลากหลายยี่ห้อเลย ผมว่าดีนะ จะได้เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันต้องใช้งานจริงได้แบบปลอดภัยและไม่มีปัญหานะครับ

ออฟไลน์ jeeper

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 255
ผมว่าอีกประเด็นที่น่าสนใจคือการซ่อมบำรุงรักษาที่ง่ายกว่าเครื่องสันดาปเยอะ สามารถเช็ค code หรือส่งค่าผิดพลาดไปให้ศูนย์ซ่อมเตรียมอะไหล่ได้เลย หรือการถอดเปลี่ยนอัพเกรดส่วนต่างๆเป็นโมดูลง่ายกว่าการ wiring สายของเครื่องสันดาบเยอะ

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,961
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
มันง่ายไหม  มันไม่ได้ง่ายขนาดที่แบบใครมีทุนก็จ้างวิศวกร  แล้วเปิดโรงงานผลิตได้ทันทีแบบนั้นนะครับ
แต่มันง่ายกว่าเครื่องสันดาปไหม  แน่นอนมันง่ายกว่า

เครื่องสันดาปนี่ต้องผ่านมลพิษ การกินน้ำมัน  ความคงทนของเครื่องในระยะยาว  การประสานกับเกียร์  ตำแหน่ง  องศาการวางเครื่อง  บลาๆบลาๆ 
มันเลยเป็นปัญหาว่าทำไม ถึงเป็นการปิดกั้นรายใหม่ๆในเครื่องสันดาป 
ขอแค่แบตยังไม่เสื่อม ตัวแปลงไฟใช้งานได้ปกติ ส่งกำลังได้ก็วิ่งได้     อันนี้เปรียบเทียบเฉพาะการส่งกำลัง  ซึ่งยากต่างกันก็ตรงนี้ 

และอีกส่วนคือโครงสร้างรถ  อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ  พูดกันแค่ บอดี้ออนเฟรม   
ทำไม ฟอร์ดเรนเจอร์ ทำแชสซีย์ได้ทั้งขับดีและความปลอดภัย แต่ไฉนค่ายอื่นทำได้แค่บางด้าน   ต้นทุนการคิดค้นและพัฒนาตรงนี้ก็ไม่ถูกและไม่ง่าย
ไม่งั้น MB จะมาใช้โครง Nissan Np300 ทำไม    รึทำไมMazda เองก็ไม่พัฒนาบอดี้ออนเฟรม

อย่างของไทยเอง  ไม่ว่าจะเป็น TR เองก็ตาม ประกอบบอดี้ได้ แชสซีย์ก็ทำได้(ดีรึเปล่าอีกเรื่อง)  แต่ทำไมในเมื่อพร้อมขนาดนี้กลับยังไม่ทำรถไฟฟ้า ทั้งที่ TR เองจะว่าไปก็ทำรถได้เกินครึ่งคันแล้ว   ::) ::) ::) ก็คงบ่งบอกได้ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 24, 2020, 09:44:29 โดย Weetting »
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออนไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,992
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
โดยพื้นฐานให้รถวิ่งได้ ผมว่าง่ายกว่า
แต่ถ้าพูดถึงระบบการขับขี่ ผมว่าต้องมีประสบการณ์มาช่วย

ส่วนตัวมองว่ารถไฟฟ้าจะต่อยอดได้อีกมาก ถ้าระบบชาร์จทำได้เร็ว หาง่าย และวิ่งได้ไกล
และถ้าโครงข่ายสื่อสารคลอบคลุมทุกพื้นที่ได้จริง ระบบขับขี่อัตโนมัติแบบ 100% ก็น่าจะเกิดขึ้นได้

ปล ไม่รู้จะต้นกำลังของรถไฟฟ้าจะเรียกว่าเครื่องยนต์ได้ไหมนะ เพราะผมเรียก Vary Speed Drive หรือ Inverter กับมอเตอร์ไฟฟ้า
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
ยากนะไม่ใช่ง่ายๆ ทั้งเรื่อง มอเตอร์ และ แบตซึ่งสำคัญมาก เพราะจะต้องมีระบบ bms มาคุมการชาจ ด้วย

ออฟไลน์ Showbiz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
ถ้ามองในภาพใหญ่ก็ต้องบอกตรงๆว่าง่ายกว่าครับ

ออฟไลน์ jkdragon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 178
ทำง่ายกว่า เพราะรถไฟฟ้า มีส่วนประกอบน้อยกว่าเครื่องสันดาป แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทำยาก หรือทำง่าย **ทำให้รถไฟฟ้าวิ่งได้นะไม่ยาก แต่ทำให้ตอบโจทย์คนใช้เพื่อให้ขายได้นี่ โค ตะ ระ ยากครับ**

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 872
เฉพาะระบบเครื่องมันก็ไม่ง่ายหรอกคับ เพียงบริษัทพวกนี้เขามีเทคโนโลยีในมืออยู่แล้ว เอามาต่อยอดก็ไม่น่าจะยาก
อย่าง Dyson นี่ น่าจะเฉี่ยวชาญเรื่องมอเตอร์นะ หุหุ

Dyson หากสร้างรถไฟฟ้าออกมา น่าจะแพงกว่า Tesla นะครับ

ดูจากแค่เครื่องดูดฝุ่น ราคาไปดาวอังคาร  :-X

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,328
เห็นหลายๆแบรนด์กำลังพัฒนารถ EV ที่ทำได้เร็ว เพราะซื้อตัววิศวกรหลายๆคนจากค่ายอื่นๆมาเป็นทีมพัฒนารถ EV

เป็นวิธีลัดที่เร็วสุดแล้ว ถ้าจะมาเอาทีมพัฒนาที่มีอยู่มาเริ่มต้นพัฒนาใหม่หมด คงใช้เวลาหลายปี

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
พัฒนา ยากมาก
ผลิต ง่ายมาก

ออฟไลน์ polwath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 886
ผมมองว่าแบบนี้ การผลิตตามสายพาน หรือแม้แต่ในโรงงานทั่วไป รถไฟฟ้าประกอบและผลิตได้ง่ายกว่า เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า ความซับซ้อนน้อยกว่า และแก้ไขปัญหาได้เร็วกว่า เมื่อเจอปัญหาในการประกอบ
แต่ตัวเทคโนโลยี การบริหารแบตและจ่ายไฟ ระบบความปลอดภัย ระบบอำนวยความสะดวก โครงสร้างตัวถังรถ การกระจายแรงสั่นสะเทือนและน้ำหนัก การปรับแต่งระบบรถให้ใช้งานได้สมบูรณ์ทั้งคัน และระบบอื่นๆ ของพวกนี้ ทำได้ยากครับ

แม้แต่ Tesla ที่เป็นผู้นำด้านรถไฟฟ้า ยังมีปัญหาทั้งการผลิต การประกอบ การพ่นสีรถ การดูแลลูกค้าและบริการหลังการขาย การประชาสัมพันธ์ และเทคโนโลยีที่ยังมีจุดบอด เหมือนข่าวที่ระบบ Autopilot ทำงานไม่สมบูรณ์ ได้ฆ่าคนขับไปหลายคนในสหรัฐฯเนี่ยหละครับ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ผมมองว่าแบบนี้ การผลิตตามสายพาน หรือแม้แต่ในโรงงานทั่วไป รถไฟฟ้าประกอบและผลิตได้ง่ายกว่า เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า ความซับซ้อนน้อยกว่า และแก้ไขปัญหาได้เร็วกว่า เมื่อเจอปัญหาในการประกอบ
แต่ตัวเทคโนโลยี การบริหารแบตและจ่ายไฟ ระบบความปลอดภัย ระบบอำนวยความสะดวก โครงสร้างตัวถังรถ การกระจายแรงสั่นสะเทือนและน้ำหนัก การปรับแต่งระบบรถให้ใช้งานได้สมบูรณ์ทั้งคัน และระบบอื่นๆ ของพวกนี้ ทำได้ยากครับ

แม้แต่ Tesla ที่เป็นผู้นำด้านรถไฟฟ้า ยังมีปัญหาทั้งการผลิต การประกอบ การพ่นสีรถ การดูแลลูกค้าและบริการหลังการขาย การประชาสัมพันธ์ และเทคโนโลยีที่ยังมีจุดบอด เหมือนข่าวที่ระบบ Autopilot ทำงานไม่สมบูรณ์ ได้ฆ่าคนขับไปหลายคนในสหรัฐฯเนี่ยหละครับ
เทสล่าเพิ่งจะผลิตรถในไม่กี่ปีเองมานี้นะครับะมื่อเทียบกับค่ายรุ่นพี่  พวกความองค์ความรู้ความชำนาญในการวิจัย ผลิตและประกอบรถยนต์รวมถึงการไปตรวจสอบและควบคุมคุณภาพจะไปสู้ค่ายรถอื่นคงไม่ได้ครับส่วนเรื่องความเป็นผู้นำผมมองว่ายังไม่สามารถเป็นได้หรอกครับ ในเมื่อการผลิตและการควบคุมการผลิตยังล้าหลังรถยี่ห้อนี้ยังตามหลังค่ายอื่นอยู่เลย ทั้งหลังคาหลุดก็มี  ขนาดMG ยังไท่เคยมีปัญหาหลังคาหลุด การเก็บปัญหาไว้ใต้พรมใรหลายๆส่วนที่อดีตวิศวะกรออกมาแฉ  รวมไปถึงปัญหาการผลิตที่ยังบริหารจัดการให้ทันความออเดอร์ของลูกค้าไม่ให้ช้าจนเกินไปยังไม่ได้เลยครับ

ออฟไลน์ เทียน

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
รถไฟฟ้าผลิตง่ายกว่า แต่กว่าจะคิดค้นให้ประสิทธิภาพดีได้มันก็นานครับ เทคโนโลยีมันเพิ่งจะโตทันแนวคิด