ผู้เขียน หัวข้อ: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย  (อ่าน 10283 ครั้ง)

ออฟไลน์ D Water Law

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 17:17:32 »
30ปีก่อน ใครจะคิดว่าทุกคนจะมีมือถือกันหมด มือถือก้อไม่มีปุ่ม..

ก้อเหมือนกับรถนั่นแหละครับ ก่อนจะก้าวผ่านเทคโนโลยี คงต้องมีการปรับพื้นฐาน ทั้งความเข้าใจ ทั้งองค์ประกอบหลายอย่าง

แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน รถสันดาปคงหมดไปเอง เหมือนที่มือถือแบบมีปุ่มเหลือคนใช้อยู่แค่ไม่กี่คน

และหลังจากนั้นอีกไม่นาน ในอนาคตรถไฟฟ้าก้ออาจจะไม่มีล้อ วิ่งลอยเหนือผิวถนนก้อได้ครับ

+1 ครับ   ผมก็เชื่อว่าเวลาจะเป็นฆาตกรที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปค่อยๆ หายไปจากโลกนี้อย่างช้าๆ เหมือนกับที่รถยนต์เคยฆ่ารถม้ามาแล้ว

เกือบ 20 ปีก่อน  สมัยที่คนยังนิยมใช้โนเกีย 8850  มีบริษัทนึง คิดจะเขียนแอพบนมือถือ จึงไปทำสำรวจตลาดว่า ถ้ามีโทรศัพท์มือถือจอสี หน้าจอสัมผัส ต่อเนตได้  แล้วสามารถใช้โปรแกรมบางอย่างคล้ายๆ คอมพิวเตอร์  ราคาอาจจะแพงกว่าโทรศัพท์แบบเดิมๆ ไปบ้าง   ท่านจะสนใจซื้อมาใช้งานมั้ย   คำตอบเกิน 80% คือไม่สนใจกันเลยครับ  เหตุผลก็ประมาณว่า

- โทรศัพท์มีไว้โทร อย่างมากก็อ่าน SMS   จอสีไม่ใช่เรื่องจำเป็น   ใช้จอสีแล้วกลัวไม่ทน ถ้าจอสีเสียแล้วกลัวค่าซ่อมแพง
- จอสัมผัสไม่เหมือนปุ่มกด   ฟิลลิ่งการใช้งานมันไม่ได้  บางคนก็กลัวไปว่าถ้าเกิดโทรศัพท์แฮงค์ขึ้นมาจะแก้ไขปัญหายังงัย 
- ทำไม่ต้องใช้โปรแกรมบนโทรศัพท์ด้วย  ใช้บนคอมพิวเตอร์ก็สะดวกอยู่แล้ว จอใหญ่ๆ สบายตากว่าตั้งเยอะ
- จะให้ใช้แชท ท่องเวบผ่านมือถือเหรอ ไม่เอาหรอก ค่าดาต้ามันแพง Operator คิดราคาตาม MB สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว   ขอใช้งาน MSN บนพีซีต่อไปดีกว่า
- บางคนที่ Expert ทางด้านไอทีมาก ถึงกับปรามาสว่ามันไม่มีทางเกิดได้เพราะ  โทรศัพท์มือถือที่ดีต้องเครื่องเล็กๆ พกพาสะดวก แบตอึดๆ อยู่ได้หลายๆ วัน และต้องทนทานตกแล้วไม่พังง่ายๆ   จอสีใหญ่ๆ เครื่องจะใหญ่และหนัก แถมต้องกินแบตมาก เบตอยู่ได้ไม่ถึงวัน  ถ้าทำออกมาขายคงไปไม่รอดแน่นอน

ผ่านมา 20 ปี  ตลาดตอบรับกับโทรศัพท์มือถือจอสัมผัสที่มีการใช้งานแอพและเนตผ่านคลื่นมือถือกันอย่างไร คงไม่ต้องบอกแล้ว  ปัญหาที่ Expert หลายๆ คนตั้งประเด็นไว้มันถูกแก้ปัญหาไปหมดแล้ว
- เรื่องขนาดเครื่องที่ใหญ่ พกลำบากก็แทบจะไม่มีใครบ่นกันอีกแล้ว  คนส่วนใหญ่รับกับขนาดของมันได้ ทุกวันนี้รุ่นเรือธงคือรุ่นที่จอใหญ่และมีขนาดและน้ำหนักใหญ่ที่สุดด้วยซ้ำ
- เครื่องตกแล้วหน้าจอแตก พังง่าย ก็มีเคส มีฟิลม์กระจกมาช่วย
- แบตไม่ทน ใช้ได้ไม่ถึงวัน ก็มีพาวเวอร์แบงค์มาช่วย  แถมมีระบบฟาสต์ชาร์จ 30 นาทีได้แบตมา 5-70% ล่ะ
- เครื่องไม่ทนเหมือนปุ่มกดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะเทคโนโลยีใหม่มันมาไวมาก  เด็กรุ่นใหม่ใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมได้ถึง 2-3 ปีก็ถือว่าเก่งมากแล้ว บางคนเปลี่ยนทุก 6 เดือนด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่หาซื้อโทรศัพท์แบบปุ่มกดได้ยากเต็มที    กับเรื่องรถยนต์ผมก็คิดว่าไม่ต่างกันมาก อยู่ที่ว่าจะเมื่อไรเท่านั้นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 17:29:08 โดย kittik25 »

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 18:05:24 »
Fomm เล็กเกิน
ศูนย์ mg แบรนด์ยังน่าเป็นห่วงเรื่องคุณภาพ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 18:39:45 »
30ปีก่อน ใครจะคิดว่าทุกคนจะมีมือถือกันหมด มือถือก้อไม่มีปุ่ม..

ก้อเหมือนกับรถนั่นแหละครับ ก่อนจะก้าวผ่านเทคโนโลยี คงต้องมีการปรับพื้นฐาน ทั้งความเข้าใจ ทั้งองค์ประกอบหลายอย่าง

แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน รถสันดาปคงหมดไปเอง เหมือนที่มือถือแบบมีปุ่มเหลือคนใช้อยู่แค่ไม่กี่คน

และหลังจากนั้นอีกไม่นาน ในอนาคตรถไฟฟ้าก้ออาจจะไม่มีล้อ วิ่งลอยเหนือผิวถนนก้อได้ครับ

+1 ครับ   ผมก็เชื่อว่าเวลาจะเป็นฆาตกรที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปค่อยๆ หายไปจากโลกนี้อย่างช้าๆ เหมือนกับที่รถยนต์เคยฆ่ารถม้ามาแล้ว

เกือบ 20 ปีก่อน  สมัยที่คนยังนิยมใช้โนเกีย 8850  มีบริษัทนึง คิดจะเขียนแอพบนมือถือ จึงไปทำสำรวจตลาดว่า ถ้ามีโทรศัพท์มือถือจอสี หน้าจอสัมผัส ต่อเนตได้  แล้วสามารถใช้โปรแกรมบางอย่างคล้ายๆ คอมพิวเตอร์  ราคาอาจจะแพงกว่าโทรศัพท์แบบเดิมๆ ไปบ้าง   ท่านจะสนใจซื้อมาใช้งานมั้ย   คำตอบเกิน 80% คือไม่สนใจกันเลยครับ  เหตุผลก็ประมาณว่า

- โทรศัพท์มีไว้โทร อย่างมากก็อ่าน SMS   จอสีไม่ใช่เรื่องจำเป็น   ใช้จอสีแล้วกลัวไม่ทน ถ้าจอสีเสียแล้วกลัวค่าซ่อมแพง
- จอสัมผัสไม่เหมือนปุ่มกด   ฟิลลิ่งการใช้งานมันไม่ได้  บางคนก็กลัวไปว่าถ้าเกิดโทรศัพท์แฮงค์ขึ้นมาจะแก้ไขปัญหายังงัย 
- ทำไม่ต้องใช้โปรแกรมบนโทรศัพท์ด้วย  ใช้บนคอมพิวเตอร์ก็สะดวกอยู่แล้ว จอใหญ่ๆ สบายตากว่าตั้งเยอะ
- จะให้ใช้แชท ท่องเวบผ่านมือถือเหรอ ไม่เอาหรอก ค่าดาต้ามันแพง Operator คิดราคาตาม MB สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว   ขอใช้งาน MSN บนพีซีต่อไปดีกว่า
- บางคนที่ Expert ทางด้านไอทีมาก ถึงกับปรามาสว่ามันไม่มีทางเกิดได้เพราะ  โทรศัพท์มือถือที่ดีต้องเครื่องเล็กๆ พกพาสะดวก แบตอึดๆ อยู่ได้หลายๆ วัน และต้องทนทานตกแล้วไม่พังง่ายๆ   จอสีใหญ่ๆ เครื่องจะใหญ่และหนัก แถมต้องกินแบตมาก เบตอยู่ได้ไม่ถึงวัน  ถ้าทำออกมาขายคงไปไม่รอดแน่นอน

ผ่านมา 20 ปี  ตลาดตอบรับกับโทรศัพท์มือถือจอสัมผัสที่มีการใช้งานแอพและเนตผ่านคลื่นมือถือกันอย่างไร คงไม่ต้องบอกแล้ว  ปัญหาที่ Expert หลายๆ คนตั้งประเด็นไว้มันถูกแก้ปัญหาไปหมดแล้ว
- เรื่องขนาดเครื่องที่ใหญ่ พกลำบากก็แทบจะไม่มีใครบ่นกันอีกแล้ว  คนส่วนใหญ่รับกับขนาดของมันได้ ทุกวันนี้รุ่นเรือธงคือรุ่นที่จอใหญ่และมีขนาดและน้ำหนักใหญ่ที่สุดด้วยซ้ำ
- เครื่องตกแล้วหน้าจอแตก พังง่าย ก็มีเคส มีฟิลม์กระจกมาช่วย
- แบตไม่ทน ใช้ได้ไม่ถึงวัน ก็มีพาวเวอร์แบงค์มาช่วย  แถมมีระบบฟาสต์ชาร์จ 30 นาทีได้แบตมา 5-70% ล่ะ
- เครื่องไม่ทนเหมือนปุ่มกดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะเทคโนโลยีใหม่มันมาไวมาก  เด็กรุ่นใหม่ใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมได้ถึง 2-3 ปีก็ถือว่าเก่งมากแล้ว บางคนเปลี่ยนทุก 6 เดือนด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่หาซื้อโทรศัพท์แบบปุ่มกดได้ยากเต็มที    กับเรื่องรถยนต์ผมก็คิดว่าไม่ต่างกันมาก อยู่ที่ว่าจะเมื่อไรเท่านั้นเอง

คุณพี่เปรียบเทียบรถ ICE กับ EV แบบโทรศัพท์ปุ่มกดกับสมาร์ตโฟน มันก็ไม่ถูกซะทีเดียวกรอกครับ

กรณีสมาร์ตโฟน มันไม่ได้มาแทนมือถือแบบปุ่มกด แต่มันมาแทน โทรศัพท์+PC+Compact Digi Came +
เกมพกพา ในตัวเดียว

ถ้าจะมองแบบนั้น EV ต้องเป็นทั้งรถ + PC + Robot + Autonomous Driver + Delivery boy + etc.
ถึงจะแทน ICE แบบโทรศัพท์ปุ่มกดอ่ะครับ

ออฟไลน์ Nuiiii

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
    • อีเมล์
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 19:11:23 »
ผมว่า smart phone กับ EV เทียบกันยาก เพราะ switching cost ต่างกัน มือถือ ราคาช่วงเปลี่ยนยุค ราคาไม่แพงมาก รุ่นถูกๆยังมี samsung pocket ไม่กี่พัน แต่รถ EV ราคาเกือบล้าน แพงกว่า Eco car เยอะ คนจะทดลองเล่น หรือ อยากเปลี่ยนต้องมีเงินล้าน ยังมีไม่มาก แต่ถ้า Good Cat ราคาไม่แรงอาจจะนิยมมากขึ้นก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการชาร์จอยู่ดี ทั้งเวลา และ สถานที่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 19:20:13 โดย Nuiiii »

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 19:46:55 »
ผมว่า smart phone กับ EV เทียบกันยาก เพราะ switching cost ต่างกัน มือถือ ราคาช่วงเปลี่ยนยุค ราคาไม่แพงมาก รุ่นถูกๆยังมี samsung pocket ไม่กี่พัน แต่รถ EV ราคาเกือบล้าน แพงกว่า Eco car เยอะ คนจะทดลองเล่น หรือ อยากเปลี่ยนต้องมีเงินล้าน ยังมีไม่มาก แต่ถ้า Good Cat ราคาไม่แรงอาจจะนิยมมากขึ้นก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการชาร์จอยู่ดี ทั้งเวลา และ สถานที่

ใช่ครับ อย่างกรณี smart phone มันมีบาง features ที่ถ้าไม่ใช้มัน โทรศัพท์ปุ่มกดมันทำให้ไม่ได้
เช่นปัจจุบันจะเห็นชัดจากแอปตระกูลชนะต่างๆ คนที่ต้องการใช้แอป ยังไงก็ต้องมาทาง smartphone

ในขณะที่ EV กับ ICE ในวันนี้ มันยังไม่มีอะไรที่ EV ทำได้ แต่ ICE ทำไม่ได้ แถมยังตรงกันข้ามอีกต่างหากครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 20:12:10 »
ฉะนั้นแล้ว ผมคิดว่า ในวันที่ EV จะแพร่หลายบนโลกนี้  มันคงไม่ได้มาในฐานะที่มันต่างจากรถ ICE ที่ตัวเครื่องยนต์
แต่มันจะมาในฐานะ Gadget หรืออะไรบางอย่างที่รถ ICE มันไปต่อไม่ได้ 

ลองนึกนะครับว่าถ้าในเวลานึง รถยนต์ในวันนั้น มันจะวิ่งด้วยตัวเอง...

 - มันต้องสื่อสารกันตลอดเวลากับศูนย์ควบคุมจราจร
 - มันต้องสื่อสารกับรถบนถนนด้วยกัน ให้สัญญาณหลบหลีกกัน
 - มันต้องติดต่อนัดหมายปลายทางเพื่อจองที่จอดรถ
 - มันจะต้องวิเคราะห์ความบกพร่องในตัวมันเองพร้อมทั้งนัดหมาย สั่งอะไหล่เพื่อเข้าเปลี่ยน
 - ในบางสถานที่หรือบางสถานการณ์บนท้องถนนไม่อนุญาตให้คนขับรถเองยกเว้นรถอัตโนมัติ
 - มันคัดกรอง คัดแยกคนโดยสาร ที่ประสงค์ร้าย มีโรคร้าย หรือเมื่อเกิดเหตุร้าย มันจะวิ่งไปโรงพยาบาล
   หรือสถานีตำรวจที่ใกล้เคียง

อะไรทำนองนี้  ซึ่งในวันข้างหน้ามี feature เหล่านี้เกิดขึ้นที่ไม่มีอยู่ในรถ ICE จะกระตุ้นให้คนอยากใช้
ไปจนถึงอาจมีข้อบังคับ หรือความจำเป็นบางประการที่ทำให้คนหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้มัน เหมือน ๆ กับในวันที่
smartphone เข้ามาถึง แล้วโทรศัพท์ปุ่มกดมันเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ได้ และทำอะไรไม่ได้อีกตั้งหลายอย่าง
อ่ะครับ  จริง ๆ แล้วทุกวันนี้ การมี smartphone และ tablet ทำให้พวกเราต้องพก power bank
เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนด้วยซ้ำ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ก็มีอุปสรรคด้าน battery คล้าย ๆ กับ EV เหมือนกันครับ


ออฟไลน์ D Water Law

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2021, 21:05:33 »
30ปีก่อน ใครจะคิดว่าทุกคนจะมีมือถือกันหมด มือถือก้อไม่มีปุ่ม..

ก้อเหมือนกับรถนั่นแหละครับ ก่อนจะก้าวผ่านเทคโนโลยี คงต้องมีการปรับพื้นฐาน ทั้งความเข้าใจ ทั้งองค์ประกอบหลายอย่าง

แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน รถสันดาปคงหมดไปเอง เหมือนที่มือถือแบบมีปุ่มเหลือคนใช้อยู่แค่ไม่กี่คน

และหลังจากนั้นอีกไม่นาน ในอนาคตรถไฟฟ้าก้ออาจจะไม่มีล้อ วิ่งลอยเหนือผิวถนนก้อได้ครับ

+1 ครับ   ผมก็เชื่อว่าเวลาจะเป็นฆาตกรที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปค่อยๆ หายไปจากโลกนี้อย่างช้าๆ เหมือนกับที่รถยนต์เคยฆ่ารถม้ามาแล้ว

เกือบ 20 ปีก่อน  สมัยที่คนยังนิยมใช้โนเกีย 8850  มีบริษัทนึง คิดจะเขียนแอพบนมือถือ จึงไปทำสำรวจตลาดว่า ถ้ามีโทรศัพท์มือถือจอสี หน้าจอสัมผัส ต่อเนตได้  แล้วสามารถใช้โปรแกรมบางอย่างคล้ายๆ คอมพิวเตอร์  ราคาอาจจะแพงกว่าโทรศัพท์แบบเดิมๆ ไปบ้าง   ท่านจะสนใจซื้อมาใช้งานมั้ย   คำตอบเกิน 80% คือไม่สนใจกันเลยครับ  เหตุผลก็ประมาณว่า

- โทรศัพท์มีไว้โทร อย่างมากก็อ่าน SMS   จอสีไม่ใช่เรื่องจำเป็น   ใช้จอสีแล้วกลัวไม่ทน ถ้าจอสีเสียแล้วกลัวค่าซ่อมแพง
- จอสัมผัสไม่เหมือนปุ่มกด   ฟิลลิ่งการใช้งานมันไม่ได้  บางคนก็กลัวไปว่าถ้าเกิดโทรศัพท์แฮงค์ขึ้นมาจะแก้ไขปัญหายังงัย 
- ทำไม่ต้องใช้โปรแกรมบนโทรศัพท์ด้วย  ใช้บนคอมพิวเตอร์ก็สะดวกอยู่แล้ว จอใหญ่ๆ สบายตากว่าตั้งเยอะ
- จะให้ใช้แชท ท่องเวบผ่านมือถือเหรอ ไม่เอาหรอก ค่าดาต้ามันแพง Operator คิดราคาตาม MB สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว   ขอใช้งาน MSN บนพีซีต่อไปดีกว่า
- บางคนที่ Expert ทางด้านไอทีมาก ถึงกับปรามาสว่ามันไม่มีทางเกิดได้เพราะ  โทรศัพท์มือถือที่ดีต้องเครื่องเล็กๆ พกพาสะดวก แบตอึดๆ อยู่ได้หลายๆ วัน และต้องทนทานตกแล้วไม่พังง่ายๆ   จอสีใหญ่ๆ เครื่องจะใหญ่และหนัก แถมต้องกินแบตมาก เบตอยู่ได้ไม่ถึงวัน  ถ้าทำออกมาขายคงไปไม่รอดแน่นอน

ผ่านมา 20 ปี  ตลาดตอบรับกับโทรศัพท์มือถือจอสัมผัสที่มีการใช้งานแอพและเนตผ่านคลื่นมือถือกันอย่างไร คงไม่ต้องบอกแล้ว  ปัญหาที่ Expert หลายๆ คนตั้งประเด็นไว้มันถูกแก้ปัญหาไปหมดแล้ว
- เรื่องขนาดเครื่องที่ใหญ่ พกลำบากก็แทบจะไม่มีใครบ่นกันอีกแล้ว  คนส่วนใหญ่รับกับขนาดของมันได้ ทุกวันนี้รุ่นเรือธงคือรุ่นที่จอใหญ่และมีขนาดและน้ำหนักใหญ่ที่สุดด้วยซ้ำ
- เครื่องตกแล้วหน้าจอแตก พังง่าย ก็มีเคส มีฟิลม์กระจกมาช่วย
- แบตไม่ทน ใช้ได้ไม่ถึงวัน ก็มีพาวเวอร์แบงค์มาช่วย  แถมมีระบบฟาสต์ชาร์จ 30 นาทีได้แบตมา 5-70% ล่ะ
- เครื่องไม่ทนเหมือนปุ่มกดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะเทคโนโลยีใหม่มันมาไวมาก  เด็กรุ่นใหม่ใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมได้ถึง 2-3 ปีก็ถือว่าเก่งมากแล้ว บางคนเปลี่ยนทุก 6 เดือนด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่หาซื้อโทรศัพท์แบบปุ่มกดได้ยากเต็มที    กับเรื่องรถยนต์ผมก็คิดว่าไม่ต่างกันมาก อยู่ที่ว่าจะเมื่อไรเท่านั้นเอง

คุณพี่เปรียบเทียบรถ ICE กับ EV แบบโทรศัพท์ปุ่มกดกับสมาร์ตโฟน มันก็ไม่ถูกซะทีเดียวกรอกครับ

กรณีสมาร์ตโฟน มันไม่ได้มาแทนมือถือแบบปุ่มกด แต่มันมาแทน โทรศัพท์+PC+Compact Digi Came +
เกมพกพา ในตัวเดียว

ถ้าจะมองแบบนั้น EV ต้องเป็นทั้งรถ + PC + Robot + Autonomous Driver + Delivery boy + etc.
ถึงจะแทน ICE แบบโทรศัพท์ปุ่มกดอ่ะครับ

ใช่แล้วครับ ผมมองแบบนั้นแหละครับ  ผมถึงยกตัวอย่าง Smartphone ขึ้นมา  เพราะถ้าการพัฒนาโทรศัพท์มันแค่เปลี่ยนจากปุ่มกดมาเป็นจอสัมผัส โดยที่ตัวเครื่องยังทำได้แค่รับเข้า-โทรออก โทรศัพท์จอสัมผัสคงจะมาแทนที่โทรศัพท์แบบปุ่มกดไม่ได้หรอกครับ   แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนจากปุ่มกดมาเป็นจอสัมผัสงัยครับมันต่อยอดได้อีกเยอะเลย   เมื่อก่อนก็คงมีแค่น้อยคนที่คิดว่าโทรศัพท์มือถือจะเอามาใช้แทนกล้องถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอ แต่ตอนนี้ มันก็ทำได้แล้วนะครับ แม้กระทั่ง Social Media อย่างเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ไลน์ ตอนนั้นก็ไม่มีใครนึกออกหรอกว่าจะเอาโทรศัพท์มาใช้ยังงัย   

 ในทำนองเดียวกันผมก็เชื่อว่ารถไฟฟ้าจะไม่ใช่แค่มาแทนที่รถยนต์ แค่ในเรื่องของเครื่องยนต์หรือระบบขับเคลื่อน   แต่น่าจะสามารถเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ เข้าไปได้มากกว่านั้น เพราะข้อจำกัดของรถเครื่องยนต์ก็มีไม่น้อย เช่น ต้องมีห้องเครื่องยนต์ ต้องมีเกียร์  ต้องมีล้อเพื่อเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ต้องมีระบบช่วงล่างเพราะล้อต้องสัมผัสพื้น     แต่ถ้ายังคงพัฒนารถไฟฟ้าต่อๆ ไป ยานพาหนะในอนาคตอาจจะไม่จำเป็นต้องยาว 4-5 เมตรเพื่อให้นั่งได้ 5-7 คนแบบปัจจุบันก็ได้  หรือหากมี AI พัฒนาพอที่จะสร้างยานพาหนะไร้คนขับได้ สามารถสื่อสารกับปลายทางสื่อสารกับยานพาหนะคันอื่นๆ ได้  และถ้าหากรถไฟฟ้าสามารถพัฒนาถึงขั้นล้อไม่ต้องสัมผัสพื้นได้    นักพัฒนาก็น่าจะสามารถสร้าง Solution อื่นๆ นอกเหนือจากข้อจำกัดของรถยนต์ในปัจจุบันได้   ถ้าถึงตอนนั้นรถยนต์ที่ต้องใช้ล้อยางวิ่งสัมผัสพื้นจะยังเป็นที่นิยมเหรอครับ
     
เมื่อข้อจำกัดหลายๆ อย่างหายไป นักพัฒนาอาจจะเพิ่มฟีเจอร์อีกหลายๆ อย่างเข้าไปได้  ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่ความต้องการของคนยุคนี้  หรือคนในยุคนี้ก็ยังนึกความต้องการในอนาคตไม่ออก  แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมาจนรถไฟฟ้าทำอะไรได้มากขึ้น   ความต้องการของคนในอนาคตจะบอกเองว่ารถไฟฟ้าจะพัฒนาไปในทางใด

การนำระบบไฟฟ้าเข้ามาแทนเครื่องยนต์น้ำมัน ผมมองว่ามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง

ทั้งหมดทั้งปวงคือความเห็นส่วนตัว ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ถ้าเราถอยห่างออกมาไม่ได้มองแค่ว่ารถคือรถ แต่มองว่ารถคือ Solution ในการเคลื่อนที่คนและสิ่งของจากที่แห่งหนึ่งไปอีกที่หนึ่ง  ถ้าไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นรถมีล้อยางวิ่งบนถนนแบบปัจจุบัน  มันยังมีช่องทางในการพัฒนา Solution ในการเคลื่อนที่คนและสิ่งของได้อีกมากเลยนะครับ



ออฟไลน์ tOntrAnETY

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
    • tontranety
    • อีเมล์
Re: EV ต่ำล้าน ทำไมยังขายไม่ดีในไทย
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2021, 16:30:10 »
ผมว่า ราคาอาจจะยังสุงอยู่

แต่สำหรับผม ที่ขับวันละ 100km  ขับจากย่านละหาร > เข้าเมืองย่านพระราม9 ไป-กลับ

น่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของ EV  ชัดเจน แน่นอนครับ


คันต่อไป ถ้าการเงินเอื้อเฟื้อ ก็คงจะ ใช้บริการ EV ราคาย่อมเยาว์ไว้ใช้เดินทางทำงานสักคัน  คงเลิกซื้อรถน้ำมันแล้ว แต่ก็คงเหมาะกับคนที่มีคันที่ใช้น้ำแล้วด้วย แบบ ซื้อเพิ่มงี้มากกว่า