ผู้เขียน หัวข้อ: ประเด็น discussion: สถาบันอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ภายในประเทศ สำคัญหรือเป็นตัวถ่วง  (อ่าน 16608 ครั้ง)

ออฟไลน์ jkdragon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 178
ผมไม่มองว่าเป็นตัวถ่วงนะ การเปลี่ยนจากยุครถสันดาป ไปยุครถไฟฟ้า มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเปลี่ยนไวเกิน ผลกระทบจะสูงมาก ทั้งแรงงาน ผู้ผลิด รวมทั้งผู้บริโภค จะเปลี่ยนตามไม่ทัน คนรวยอาจไม่กระทบมากนัก แต่คนจน ไปถึงคนฐานะระดับกลางกระทบแน่นอน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือ หรือเอื้อให้กับรถไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบมากเกินไป โดยเฉพาะกับแรงงานระดับล่าง (รวมทั้งตัวผมด้วย) ซึ่งจากที่ดูตอนนี้มันก็เริ่มเปลี่ยนกันแล้ว ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภคที่เริ่มจะไปใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น มันอยู่ในช่วงเปลี่ยนครับ ใจเย็นๆ มันอาจไม่เร็วเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว อาจจะช้าหน่อยเพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด แต่การเปลี่ยนเป็นยุครถไฟฟ้ามันต้องมาแน่นอน

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ

ต้องลองไปดูเคส Quartz crisis กับสวิสคับ  สวิสไม่ได้เมิน quartz มีพัฒนาเครื่อง quartz ดีๆด้วย แต่พลาดอย่างเดียว มองเกมส์พลาด คาดว่า quartz ยังไม่มาในยุค 70s น่าจะ 80s-90s แต่ที่ไหนได้ demand มันพุ่งกระฉูดตั้งแต่ยุค 70s เพราะราคาเทคโน quartz มันลดลงเร็วมากๆ ผลคือยังไงก็เห็นๆ

ออฟไลน์ pim_cute

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 308
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ

นั่นแหละครับ พูดได้ตรงประเด็น
อย่าใช้ความเชื่อ แต่ให้ใช้เหตุผลมากๆ
ในแง่ภาษีแล้ว ev ดูจะได้เปรียบรถน้ำมันด้วยซ้ำ ยังไง green energy ก็ต้องมา หลังจากคนบ้าไป(ทรัมป์)

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
ในวันนี้ EV อาจเหมาะกับ life style ของบางคน
ใช้งานใกล้ๆ ไป ตจว ก็บินเอา
แต่ Live style แบบนี้ มีอยู่ 0.1% ไงครับ

แล้วจะให้ 99.9% ปรับเข้าหา ถ้าไม่ปรับก็ถือเป็นตัวถ่วง?!?

99.9% นี่อุตสาหกรรมผลิตรถหรอคับ

คนซื้อสิ
อุตสาหกรรมเขาก็ผลิตอยู่ เอามาขายอยู่นิ
ซื้อแค่ 0.1 เขาก็เอามาขาย 0.1
ถ้าซื้อ 100 เขาก็ขาย 100 แปลกตรงไหนครับ?

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ในวันนี้ EV อาจเหมาะกับ life style ของบางคน
ใช้งานใกล้ๆ ไป ตจว ก็บินเอา
แต่ Live style แบบนี้ มีอยู่ 0.1% ไงครับ

แล้วจะให้ 99.9% ปรับเข้าหา ถ้าไม่ปรับก็ถือเป็นตัวถ่วง?!?

99.9% นี่อุตสาหกรรมผลิตรถหรอคับ

คนซื้อสิ
อุตสาหกรรมเขาก็ผลิตอยู่ เอามาขายอยู่นิ
ซื้อแค่ 0.1 เขาก็เอามาขาย 0.1
ถ้าซื้อ 100 เขาก็ขาย 100 แปลกตรงไหนครับ?

แล้วยังไง 99.9 ต้องปรับเข้าหาอุตภายในเฒ่าทารก? คนซื้อ 99.9 กับ 0.1 ปรับเข้าหากันเอง? เอ๋ ยังไง?

ปอลิง ผมไม่เห้นผลิตเอามาขายสักคัน มีแต่นำเข้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2021, 17:13:28 โดย Nathal Goldstein »

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,239
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

เห็นออกมาโวยวายต่อต้าน ภาษีนำเข้า 0% จาก FTA กันจุง ตอนนี้ต่อต้านจีน ต่อไปคงอาเซียนด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่มีสกิลจะทำ ev แข่งไม่ได้เอง

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,948
    • อีเมล์
เจ้าของโพส ใช้รถ EV อยู่แล้วและมีแผนจะใช้อีกมากๆ อันนี้ชื่นชมนะ ..อยากให้เกิดก็ต้องช่วยกันซื้อ และรีวิวด้วยยิ่งดี คนจะได้เห็นข้อดี และหันมาใช้กันมากๆ ..

ส่วนประเด็นอุตสาหกรรมรถยนต์ EV อันนี้ ผมขอขยายให้ดูชัดๆดังนี้นะครับว่า ..

ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ในไทย ก็แบรนด์ญี่ปุ่นทั้งนั้นครับ ดังนั้น ถ้ารถ EV ในไทยจะมีขายมากๆ ก็ต้องพึ่งบริษัทรถญี่ปุ่นนี่แหละที่ต้องแข่งกันผลิตออกมา ตอนนี้ EV ที่ขายในประเทศจริงๆก็คงมีแค่ nissan Leaf เท่านั้น ส่วน ฮอนด้า โตต้า มาสด้า ฯ ยังนิ่งกันอยู่เลย ... และไม่ได้นิ่งแค่ในไทยนะ ต่างประเทศเค้าก็มีออกมาขายน้อยมาก

รัฐสนับสนุนแล้วตามเงื่อนไข BOI แต่ถ้าจะนำเข้าภาษี 0% ต้องถามว่าเราได้อะไรจากตรงนั้น ... ประชาชนได้ใช้ และประชาชนกี่คนที่ได้ประโยชน์ มีคนต้องการใช้รถ EV จริงๆกี่คน มันคุ้มที่จะต้องไปยกเว้นภาษีให้คนแค่ไม่กี่คนหรือเปล่า ....

ถ้าอยากให้เกิด ก็ซื้อเยอะๆ รีวิวเยอะๆ เชียร์หนักๆ เดียวก็มา (ถ้าไหวนะ) ...

ออฟไลน์ pim_cute

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 308
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

เห็นออกมาโวยวายต่อต้าน ภาษีนำเข้า 0% จาก FTA กันจุง ตอนนี้ต่อต้านจีน ต่อไปคงอาเซียนด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่มีสกิลจะทำ ev แข่งไม่ได้เอง

ผมเห็นแล้วว่าตรรกะใครเพี้ยนกันแน่
ชี้แจงนะครับ fta 0% มันเป็นการฆ่าตัวตาย คุณไม่ต้องการส่งเสริมให้ ev มาผลิตในประเทศแล้วหรือ? ใครจะมาลงทุนผลิต ev ในประเทศเราเมื่อนำเข้า 0% ทิ้งตรงนี้แล้วใช่ไหม?
แล้วยังเอาเปรียบคนที่มาลงทุนภายในประเทศอีก เอาตรงๆ แข่งกันแฟร์ๆ ไปเลยครับ 0 ก็ 0 เท่ากัน ถ้ารถไฟฟ้าดีจริงเดี๋ยวก็ชนะเอง การมาบิดการแข่งขันแบบนี้ใครเสียเปรียบก็ออกมาโวยเป็นธรรมดา
และการบอกอุตสาหกรรมรถภายในเป็นตัวถ่วง คือภาษี ev มันได้เปรียบไม่ใช่เหรอครับ ตรงกันข้ามรถน้ำมันต่างหากกำลังแย่

ลองคิดดีๆ นะครับ สมมติผมทำร้านกาแฟโบราณ แต่โลกกำลังเปลี่ยนเป็นไฮเทค ถ้าผมไม่เปลี่ยนเป็นไฮเทคตามคือผมเป็นตัวถ่วงอย่างนั้นหรือ? ผมถ่วงอุตสาหกรรมกาแฟไทย? ผมเป็นเอกชนจะถ่วงได้ยังไง ต่อให้เป็นรายใหญ่ครองตลาดก็เถอะครับ กลไกเดียวที่ถ่วงคือภาษีที่ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมต่างหาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2021, 17:58:48 โดย pim_cute »

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
ในวันนี้ EV อาจเหมาะกับ life style ของบางคน
ใช้งานใกล้ๆ ไป ตจว ก็บินเอา
แต่ Live style แบบนี้ มีอยู่ 0.1% ไงครับ

แล้วจะให้ 99.9% ปรับเข้าหา ถ้าไม่ปรับก็ถือเป็นตัวถ่วง?!?

99.9% นี่อุตสาหกรรมผลิตรถหรอคับ

คนซื้อสิ
อุตสาหกรรมเขาก็ผลิตอยู่ เอามาขายอยู่นิ
ซื้อแค่ 0.1 เขาก็เอามาขาย 0.1
ถ้าซื้อ 100 เขาก็ขาย 100 แปลกตรงไหนครับ?

แล้วยังไง 99.9 ต้องปรับเข้าหาอุตภายในเฒ่าทารก? คนซื้อ 99.9 กับ 0.1 ปรับเข้าหากันเอง? เอ๋ ยังไง?

ปอลิง ผมไม่เห้นผลิตเอามาขายสักคัน มีแต่นำเข้า

อุตสาหกรรมเขาผลิตเฉพาะสิ่งที่คนซื้อ
ตอนนี้ซื้อแค่ 0.1 แล้วจะให้ผลิตมาขาย 100 ทำลิงอะไรเล่าครับ

อยากให้ผลิตเยอะ ขายเยอะ ก็ไปโน้มน้าวคนซื้ออีก 99.9 โน่น

ตลาดคนซื้อมันเป็นตัวดึงอุตสาหกรรม เป็น demand pull
ไม่ใช่ให้อุตสาหกรรมยัดเยียด ผลิตมาแล้วก็ต้องซื้ออ่ะ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
มันทั้งถ่วงทั้งดีครับ แต่หลักๆคือนโยบายครับที่ไม่ไปไหนสักที  ถ้าทำได้ดีมันควรบาลานส์ได้ว่าไทยเป็นฐานการผลิตได้ แต่ก็ทำให้ค่ายรถเอารถมาขายได้แบบ CBU โดยที่ไม่โดนกำแพงภาษีแบบเลยเทะแบบนี้
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
เจ้าของโพส ใช้รถ EV อยู่แล้วและมีแผนจะใช้อีกมากๆ อันนี้ชื่นชมนะ ..อยากให้เกิดก็ต้องช่วยกันซื้อ และรีวิวด้วยยิ่งดี คนจะได้เห็นข้อดี และหันมาใช้กันมากๆ ..

ส่วนประเด็นอุตสาหกรรมรถยนต์ EV อันนี้ ผมขอขยายให้ดูชัดๆดังนี้นะครับว่า ..

ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ในไทย ก็แบรนด์ญี่ปุ่นทั้งนั้นครับ ดังนั้น ถ้ารถ EV ในไทยจะมีขายมากๆ ก็ต้องพึ่งบริษัทรถญี่ปุ่นนี่แหละที่ต้องแข่งกันผลิตออกมา ตอนนี้ EV ที่ขายในประเทศจริงๆก็คงมีแค่ nissan Leaf เท่านั้น ส่วน ฮอนด้า โตต้า มาสด้า ฯ ยังนิ่งกันอยู่เลย ... และไม่ได้นิ่งแค่ในไทยนะ ต่างประเทศเค้าก็มีออกมาขายน้อยมาก

รัฐสนับสนุนแล้วตามเงื่อนไข BOI แต่ถ้าจะนำเข้าภาษี 0% ต้องถามว่าเราได้อะไรจากตรงนั้น ... ประชาชนได้ใช้ และประชาชนกี่คนที่ได้ประโยชน์ มีคนต้องการใช้รถ EV จริงๆกี่คน มันคุ้มที่จะต้องไปยกเว้นภาษีให้คนแค่ไม่กี่คนหรือเปล่า ....

ถ้าอยากให้เกิด ก็ซื้อเยอะๆ รีวิวเยอะๆ เชียร์หนักๆ เดียวก็มา (ถ้าไหวนะ) ...
ผมว่านะ เค้าก็ลดหย่อนภาษีเยอะได้เปรียบกว่ารถน้ำมันอยู่แล้วนะครับ จะไม่ให้คนไทยตกงานกันทั้ง 550,000 คนเลยหรอ  ถ้าเค้าตกงานเจ้าของกระทู้กล้าจ้างงานคนในอุตสาหกรรมรถยนต์ 550,000 คนให้หมดมั้ยอีกอย่างคือ รถไฟฟ้ามันไม่ได้รักษ์โลกอะไรเมื่อเทียบกับขยะแบตเตอรี่ที่กำจัดยาก เป็นมลพิษ อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางคนเดียว คนที่ไม่อยากใช้รถไฟฟ้ามีตั้งเยอะ ราคาโคตรแพง แรงม้า แรงบิดเยอะแต่วิ่งได้ไม่ไกล เพราะไฟไปเลี้ยงม้ากับมีแค่เกียร์เดียวภาระโหลดย่อมเยอะแน่นอนในความเร็วเดินทาง 110-120 ชาร์จก็นาน  จะเอาชาร์จเร็วบ่อยๆก็แบตเสื่อมเร็วอีก หาที่ชาร์จยาก ไม่มีพื้นที่ให้เสสียบปลั๊กชาร์จก็มีเยอะ ยิ่งคนที่ชอบขัยรถบางคนคงเบื่อที่มีแค่เกียร์เดียวไม่มีเกียร์ให้เล่น อยากรักษ์โลกจริงๆก็ใช้ขนส่งมวลชนกับปั่นจักรยานครับ  จริงๆนะรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเกิดง่ายกว่านะ ควรจะเริ่มจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟฟ้า ไม่ใช่เอาตู้มเดียวกับรถยนต์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2021, 19:49:41 โดย deertesla »

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

เห็นออกมาโวยวายต่อต้าน ภาษีนำเข้า 0% จาก FTA กันจุง ตอนนี้ต่อต้านจีน ต่อไปคงอาเซียนด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่มีสกิลจะทำ ev แข่งไม่ได้เอง
พูดเถอะรถอีวี ทำง่ายกว่ารถไฟฟ้ามากไม่ได้ทำยากอะไร  แต่ภาษีคือสิ่งที่เอามาใช้ยบริหารประเทศ หากไม่มีภาษีเราคงไม่มีถนนให้วิ่งแล้วครับ  อย่าคิดแต่ตัวเองศูนย์กบางจักรวาล  ทุกประเทศเค้าก็ต้องปกป้องอุตสาหรรมภายในประเทศเหมือนกัน

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
ผมว่าอุตสาหกรรมรถนรต์นี้สำคัญเพราะเดิมในช่วง 10 ปีที่ผ่านเป็นอุตสาหกรรม ที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดของไทยก็ว่าได้มั้ง ในหลายๆปี
แต่ว่า สถาบันอุตสาหกรรมผลิตรถยนค์ภายในประเทศ สำคัญ หรือเป็นตัวถ่วงอย่างไรผมไม่ทราบ เหมือนกัน

แต่ส่วนตัวผมอยากให้ข้อมูลและมุมมองแง่ระหว่างรถยนต์สันดาป (ICE) กับรถไฟฟ้า (EV) แล้วกันนะคับ

แต่ผมข้อตั้งข้อสังเกตุเรื่องคำว่ารถ EV ก่อนแล้วกัน ส่วนใหญ่คนมักพูดว่า EV หมายถึง BEV
แต่ในมิติของผมนะ น่าจะมองว่าแยกระหว่างรถ ICE และ EV ด้วยการขับเคลื่อนรถออกไปมากกว่า ICE คือมาจากเครื่องยนต์ส่งกำลังผ่านไปยังล้อผ่านเพลา หรืออะไรที่เป็น mechanic
ส่วน EV ที่มองคือการใช้ motor ในกับขับเคลื่อนล้อให้เคลื่อนที่เพียงแต่จะเอามอเตอร์แต่ละตัวบังคับข้างหน้า หรือข้างหลังแยกกัน หรือจะขับตรงแต่ละข้อก็แล้วแต่ โดยผมไม่สนใจว่าพลังงานมาขับมอเตอร์มาจากไหนนะ
เพราะถ้ามองแบบนี้จะเห็นชัดว่า ส่วนของ ระบบขับเคลื่อนเน้นใช้ motor หรือ ใช้ การส่งกำลังผ่านกลไก mechanic มาทำงานนะครับ
ดังนัี้นโดยส่วนตัว พวก Series  Hybrid จริงผมอยากเรียกรวมว่าเป็น EV ถึงแม้มันจะใช้น้่ำมันมาเติมเป็นพลังงานได้นะครับ
และส่วนตัวผมว่า ตัวนี้นะเป็น interrim ที่เหมาะสมที่สุดเพราะว่า การซ่อมบำรุงจะต่ำ และใกล้เคียงกับ BEV มากทีสุด แถมไม่ต้องรอสถานีชารต์ไฟด้วย

แต่ขอกลับมาที่ BEV ที่คนเรียกมันว่า EV แบบทั้วไปนะ
ส่วนตัวผมมองว่ามันจะมาไวกว่าที่คิดมากนะครับ  และการที่ไม่ให้ความสำคัญกับมัน เท่ากับการฆ่าอุตสาหกรรรมรถยนต์ ของประเทศไปด้วย และ อุตสาหกรรมที่เคยเป้นอุตสาหกรรมหลักนี้ ก็จะตายจากประเทศไทยไปภายในปี 2035-2040 โดยเหลือเป็นอุตสาหกรรม เล็กๆ
ทำไมผมถึงพูดแบบนั้น เพราะเทคโนโลยีกำลังเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วด้วยอัตราเร่ง ในช่วง ที่ผ่านใน  2-3 ปีนี้อย่างเห็นได้ชัด และจะยิ่งเร่งไปอีกมากในอีกช่วงถัดจากนี้ไป
กลับมาที่  EV ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ใช้เยอะ
ฺBEV Battery Technology ยังไม่พร้อมเช่น ได้แก่
    -  ราคา Battery ยังสูง คือปี 2020 ต้นทุนราคาแบตเตอรี่คือ 145$/kWh (4500บาท) ถ้าจำไม่ผิด Tesla บอกว่า 2025 จะทำให้ต้นทุนลงมาต่ำกว่า 90$/kWh (2700 บาท)
ทำไมราคาแบตเตอรี่สำคัญ สำหรับรถ BEV ในปัจจุบัน ขนาดแบตก็ต้องมีความจุระหว่าง 50-100 kWh  โดยประมาณ  นี่ึคือนับตัวแบตเพียวๆไม่นับการ packaging ที่จะบรรจุติดบนตัวรถและระบบควบคุมแบตอีก ซึ่งอาจต้องคิดรวมไปอีกราว 1.2-1.3 เท่าจากราคาแบต์นะ ดังนั้นแค่ส่วนแบตเตอรี่จาผู้ผลิตสำหรับรถคันๆหนึ่งในปี 2020 ก็อยู่ราวๆ 260,000-570,000 บาทได้แล้วขึ้นอยู่กับขนาดความจุ แต่ในปี 2025 ที่ความจุเท่าๆกันต้นทุนแบตเตอรีจะลดลงเหลือเพียง  160,000-310,000 บาท
    - แต่เดิมใช้เวลาในการชาร์ตค่อนข้างนาน เมื่อ 2 ปีก่อน ชาร์ตแบตรถ EV ขนาด 50 kWh Quick charge อาจใช้เวลาเกิน 1 ชม แต่เวลานี้รถ hyundai iconiq 5 ราว 73.6 kWh Quick  charge อาจใช้เวลาประมาณ แค่ 18 นาที (ใน Europe ถ้าหาหัวชาร์ต ขนาด 350 kW DC ได้) ลองคิดว่าในอีก 5 ปี ไปไหนจอดแวะเข้าห้องน้ำ ซื้อกาแฟ กินข้าวระหว่าง 15-20 นาทีสามารถชาร์ตแบตรถวิ่งไปได้ 200-400 km คนคิดว่าจะจูงใจให้ใช้ไหม
    - ความจุต่อน้ำหนักยังไม่มากพอ ตอนนี้อยู่ราว 160-180 Wh/1kg แต่ทาง CATL บอกจะสามารถทำให้แบตที่ความจุ ได้ถึง 350 Wh/kg  ทำไมถึงต้องกล่าวประเด็นนี้
สมมติรถขนาดความจุแบตเตอรี่ 50/100 kWh จะต้องแบกน้ำหนักแบตเตอรี่ไม่นับรวม packaging เท่ากับ 278-312kg/555-624kg มันก็น้ำหนักไม่น้อยนะครับ ซึ่งจะมีผลต่อ performance หรือความสิ้นเปลืองด้วยเช่น  แต่ถ้าในปี 2025 ไปแล้วที่แบตใหม่ของ CATL ออกมาแล้วนะ ความจุแบตเตอรี 50/100 kwh จะมีน้ำหนักส่วนแบตเตอรีเพียง  142/284 kg ซึ่งส่วนตัวน้ำหนักขนาดนี้ก็จะไม่แตกต่างกับ เครื่องยนต์,ระบบส่งกำลัง, ระบบไอเสีย และถังน้ำมันและเชื้อเพลิงที่หาย   ซึ่งหมายความว่า ระยะทางที่จะวิ่งได้ต่อรถที่มีความจุที่เท่ากันเทียบกับรถไฟฟ้าปี 2021 กับรถไฟฟ้า หลังปี 2025 ที่ใช้แบตของ CATL  รถใหม่หลังปี 2025 น่าจะวิ่งได้ระยะทางที่ไกลกว่า

HEV หรือ PHEV ไม่น่าใช้เพราะ ราคาสูงจากต้นการผลิต และการดูแลรักษาที่ต้องแบบถึงอย่างน้อย 2 ระบบ
จริงถ้าเราพยายามดัน Series  Hybrid ก็จบสำคัญช่วง Interrim แต่ว่า ผู้ขายก็ดันเอาเปรียบตั้งราคาสินค้าแพง แถมโง่ ไม่เข้าใจพฤติกรรม คนในประเทศอื่นๆ คิดว่าคนจะใช้แต่ในเมืองใส่ แบตลูกเล็กเกินเหตุ จนประสิทธิภาพไม่เหมาะเลยถ้าจะไม่ใช้ในเมืองที่รถติด

ในมุมผมนะหลังปี 2025 มีแนวโน้มว่า ราคารถ BEV น่าจะมีราคาถูกว่ารถ ICE ในขนาดและฟังก์ชั่นที่ใกล้เคียงกัน แถมต้นทุนการดูแลรักษารถไฟฟ้าก็จะต่ำกว่ามากๆด้วย

ในแง่ของจะพยุงอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ อยากให้รัฐเลิกคิดแต่จะสนับสนุนนักลงทุนรายใหญ่ได้แล้ว
ให้มองให้ไกล ให้สนับสนุน SME startup  และมองว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ ทีมีชิ้นส่วนน้อยชึ้นแบบนี้ให้มอง model การประกอบรถยนต์ของรายเล็กๆ แบบการซื้อชิ้นส่วนคอมมาประกอบเป้นคอมพิวเตอร์  ที่รัฐต้องทำคือ ให้ภาคการศึกษา ศึกษาหา model หรือ platform ที่สามารถนำมาใช้กำหนดมาตรฐาน เพื่อให้นำมาใช้เป้นจุดเริ่มต้น ของมาตรฐานที่จะให้เกิดการ ประกอบ และจัดตั่้งศูนย์ที่จะกำหนดมาตรฐาน และทดสอบ รถไฟฟ้าทีจะประกอบกันเอง เพียงแต่รถประกอบเองอาจมีการกำหนดข้อจำกัด ในช่วงเริ่มต้นเช่นความเร็วสูงสุด ไม่เกิน เท่าไรใช้ แรงม้าสูงสุดของมอเตอร์ไม่เกินเท่าไร เพื่อความปลอดภัย  และศูนย์ทดสอบกำหนดมาตรฐานต้องสามารถจะทดสอบ ระบบ ต่างของรถที่จดประกอบว่า ทำงานระบบต่างๆที่ติดตั้งในใช้งานได้จรืงและได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป้น ABS, VSC, etc.. มากมายเพื่อให้เกิดการพัฒนาของรายย่อยต่อไปในการพัฒนาชิ้นส่วน และการประกอบในระดับ SME ให้เกิดนะ งั้นอุตสาหกรรมรถยนต์บ้านเราคงจะหายไปในอนาคต ถ้าคิดแต่รอพึ่งรายใหญ่เพียงเท่านั้น

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

เห็นออกมาโวยวายต่อต้าน ภาษีนำเข้า 0% จาก FTA กันจุง ตอนนี้ต่อต้านจีน ต่อไปคงอาเซียนด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่มีสกิลจะทำ ev แข่งไม่ได้เอง

ผมเห็นแล้วว่าตรรกะใครเพี้ยนกันแน่
ชี้แจงนะครับ fta 0% มันเป็นการฆ่าตัวตาย คุณไม่ต้องการส่งเสริมให้ ev มาผลิตในประเทศแล้วหรือ? ใครจะมาลงทุนผลิต ev ในประเทศเราเมื่อนำเข้า 0% ทิ้งตรงนี้แล้วใช่ไหม?
แล้วยังเอาเปรียบคนที่มาลงทุนภายในประเทศอีก เอาตรงๆ แข่งกันแฟร์ๆ ไปเลยครับ 0 ก็ 0 เท่ากัน ถ้ารถไฟฟ้าดีจริงเดี๋ยวก็ชนะเอง การมาบิดการแข่งขันแบบนี้ใครเสียเปรียบก็ออกมาโวยเป็นธรรมดา
และการบอกอุตสาหกรรมรถภายในเป็นตัวถ่วง คือภาษี ev มันได้เปรียบไม่ใช่เหรอครับ ตรงกันข้ามรถน้ำมันต่างหากกำลังแย่

ลองคิดดีๆ นะครับ สมมติผมทำร้านกาแฟโบราณ แต่โลกกำลังเปลี่ยนเป็นไฮเทค ถ้าผมไม่เปลี่ยนเป็นไฮเทคตามคือผมเป็นตัวถ่วงอย่างนั้นหรือ? ผมถ่วงอุตสาหกรรมกาแฟไทย? ผมเป็นเอกชนจะถ่วงได้ยังไง ต่อให้เป็นรายใหญ่ครองตลาดก็เถอะครับ กลไกเดียวที่ถ่วงคือภาษีที่ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมต่างหาก

หึหึหึ ผมเชียร์ free market economy การค้าเสรีอยู่แล้วคับ เพราะผู้บริโภคคนไทยเจ้าของประเทศจะได้ประโยชน์สูงสุด

ถ้าอยากแฟร์มากนัก ทำไมไม่ จัดการ FTA อันอื่นที่เราทำความตกลงอยู่แล้ว กล้าๆลดภาษีนำเข้า BEV 0% ไปเลย เอาให้เหมือน อาเซียน-จีน และภายในอาเซียนไปเลยเช่น

เกาหลีลดจาก 40% เหลือ 0%
ยุ่นลดจาก 20% เหลือ 0%
เมกา และที่อื่นๆ จาก 80% เหลือ 0%

แบบนั้นโคตรฟิน และแฟร์มาก ผมเชียร์เต็มที่  8) เดี่ยวก็รู้ว่าใครเก่ง มีสกิลจิง แต่.....พวกอุตภายในมันร้องไห้เป็นเด็กทารกแน่นอน รับไม่ได้หรอก เพราะพอมีแข่งขันแบบแฟร์ๆ พวกมันก็หง่อย อ่อนแอ ไร้สกิล เนื่องจากวันๆหลบอยู่หลังกำแพงภาษีสูงๆ ไม่ได้พัฒนาตัวเองอะไร แล้วมาอ้างบุญคุณปลอมๆ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ผมว่าอุตสาหกรรมรถนรต์นี้สำคัญเพราะเดิมในช่วง 10 ปีที่ผ่านเป็นอุตสาหกรรม ที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดของไทยก็ว่าได้มั้ง ในหลายๆปี
แต่ว่า สถาบันอุตสาหกรรมผลิตรถยนค์ภายในประเทศ สำคัญ หรือเป็นตัวถ่วงอย่างไรผมไม่ทราบ เหมือนกัน

แต่ส่วนตัวผมอยากให้ข้อมูลและมุมมองแง่ระหว่างรถยนต์สันดาป (ICE) กับรถไฟฟ้า (EV) แล้วกันนะคับ

แต่ผมข้อตั้งข้อสังเกตุเรื่องคำว่ารถ EV ก่อนแล้วกัน ส่วนใหญ่คนมักพูดว่า EV หมายถึง BEV
แต่ในมิติของผมนะ น่าจะมองว่าแยกระหว่างรถ ICE และ EV ด้วยการขับเคลื่อนรถออกไปมากกว่า ICE คือมาจากเครื่องยนต์ส่งกำลังผ่านไปยังล้อผ่านเพลา หรืออะไรที่เป็น mechanic
ส่วน EV ที่มองคือการใช้ motor ในกับขับเคลื่อนล้อให้เคลื่อนที่เพียงแต่จะเอามอเตอร์แต่ละตัวบังคับข้างหน้า หรือข้างหลังแยกกัน หรือจะขับตรงแต่ละข้อก็แล้วแต่ โดยผมไม่สนใจว่าพลังงานมาขับมอเตอร์มาจากไหนนะ
เพราะถ้ามองแบบนี้จะเห็นชัดว่า ส่วนของ ระบบขับเคลื่อนเน้นใช้ motor หรือ ใช้ การส่งกำลังผ่านกลไก mechanic มาทำงานนะครับ
ดังนัี้นโดยส่วนตัว พวก Series  Hybrid จริงผมอยากเรียกรวมว่าเป็น EV ถึงแม้มันจะใช้น้่ำมันมาเติมเป็นพลังงานได้นะครับ
และส่วนตัวผมว่า ตัวนี้นะเป็น interrim ที่เหมาะสมที่สุดเพราะว่า การซ่อมบำรุงจะต่ำ และใกล้เคียงกับ BEV มากทีสุด แถมไม่ต้องรอสถานีชารต์ไฟด้วย

แต่ขอกลับมาที่ BEV ที่คนเรียกมันว่า EV แบบทั้วไปนะ
ส่วนตัวผมมองว่ามันจะมาไวกว่าที่คิดมากนะครับ  และการที่ไม่ให้ความสำคัญกับมัน เท่ากับการฆ่าอุตสาหกรรรมรถยนต์ ของประเทศไปด้วย และ อุตสาหกรรมที่เคยเป้นอุตสาหกรรมหลักนี้ ก็จะตายจากประเทศไทยไปภายในปี 2035-2040 โดยเหลือเป็นอุตสาหกรรม เล็กๆ
ทำไมผมถึงพูดแบบนั้น เพราะเทคโนโลยีกำลังเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วด้วยอัตราเร่ง ในช่วง ที่ผ่านใน  2-3 ปีนี้อย่างเห็นได้ชัด และจะยิ่งเร่งไปอีกมากในอีกช่วงถัดจากนี้ไป
กลับมาที่  EV ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ใช้เยอะ
ฺBEV Battery Technology ยังไม่พร้อมเช่น ได้แก่
    -  ราคา Battery ยังสูง คือปี 2020 ต้นทุนราคาแบตเตอรี่คือ 145$/kWh (4500บาท) ถ้าจำไม่ผิด Tesla บอกว่า 2025 จะทำให้ต้นทุนลงมาต่ำกว่า 90$/kWh (2700 บาท)
ทำไมราคาแบตเตอรี่สำคัญ สำหรับรถ BEV ในปัจจุบัน ขนาดแบตก็ต้องมีความจุระหว่าง 50-100 kWh  โดยประมาณ  นี่ึคือนับตัวแบตเพียวๆไม่นับการ packaging ที่จะบรรจุติดบนตัวรถและระบบควบคุมแบตอีก ซึ่งอาจต้องคิดรวมไปอีกราว 1.2-1.3 เท่าจากราคาแบต์นะ ดังนั้นแค่ส่วนแบตเตอรี่จาผู้ผลิตสำหรับรถคันๆหนึ่งในปี 2020 ก็อยู่ราวๆ 260,000-570,000 บาทได้แล้วขึ้นอยู่กับขนาดความจุ แต่ในปี 2025 ที่ความจุเท่าๆกันต้นทุนแบตเตอรีจะลดลงเหลือเพียง  160,000-310,000 บาท
    - แต่เดิมใช้เวลาในการชาร์ตค่อนข้างนาน เมื่อ 2 ปีก่อน ชาร์ตแบตรถ EV ขนาด 50 kWh Quick charge อาจใช้เวลาเกิน 1 ชม แต่เวลานี้รถ hyundai iconiq 5 ราว 73.6 kWh Quick  charge อาจใช้เวลาประมาณ แค่ 18 นาที (ใน Europe ถ้าหาหัวชาร์ต ขนาด 350 kW DC ได้) ลองคิดว่าในอีก 5 ปี ไปไหนจอดแวะเข้าห้องน้ำ ซื้อกาแฟ กินข้าวระหว่าง 15-20 นาทีสามารถชาร์ตแบตรถวิ่งไปได้ 200-400 km คนคิดว่าจะจูงใจให้ใช้ไหม
    - ความจุต่อน้ำหนักยังไม่มากพอ ตอนนี้อยู่ราว 160-180 Wh/1kg แต่ทาง CATL บอกจะสามารถทำให้แบตที่ความจุ ได้ถึง 350 Wh/kg  ทำไมถึงต้องกล่าวประเด็นนี้
สมมติรถขนาดความจุแบตเตอรี่ 50/100 kWh จะต้องแบกน้ำหนักแบตเตอรี่ไม่นับรวม packaging เท่ากับ 278-312kg/555-624kg มันก็น้ำหนักไม่น้อยนะครับ ซึ่งจะมีผลต่อ performance หรือความสิ้นเปลืองด้วยเช่น  แต่ถ้าในปี 2025 ไปแล้วที่แบตใหม่ของ CATL ออกมาแล้วนะ ความจุแบตเตอรี 50/100 kwh จะมีน้ำหนักส่วนแบตเตอรีเพียง  142/284 kg ซึ่งส่วนตัวน้ำหนักขนาดนี้ก็จะไม่แตกต่างกับ เครื่องยนต์,ระบบส่งกำลัง, ระบบไอเสีย และถังน้ำมันและเชื้อเพลิงที่หาย   ซึ่งหมายความว่า ระยะทางที่จะวิ่งได้ต่อรถที่มีความจุที่เท่ากันเทียบกับรถไฟฟ้าปี 2021 กับรถไฟฟ้า หลังปี 2025 ที่ใช้แบตของ CATL  รถใหม่หลังปี 2025 น่าจะวิ่งได้ระยะทางที่ไกลกว่า

HEV หรือ PHEV ไม่น่าใช้เพราะ ราคาสูงจากต้นการผลิต และการดูแลรักษาที่ต้องแบบถึงอย่างน้อย 2 ระบบ
จริงถ้าเราพยายามดัน Series  Hybrid ก็จบสำคัญช่วง Interrim แต่ว่า ผู้ขายก็ดันเอาเปรียบตั้งราคาสินค้าแพง แถมโง่ ไม่เข้าใจพฤติกรรม คนในประเทศอื่นๆ คิดว่าคนจะใช้แต่ในเมืองใส่ แบตลูกเล็กเกินเหตุ จนประสิทธิภาพไม่เหมาะเลยถ้าจะไม่ใช้ในเมืองที่รถติด

ในมุมผมนะหลังปี 2025 มีแนวโน้มว่า ราคารถ BEV น่าจะมีราคาถูกว่ารถ ICE ในขนาดและฟังก์ชั่นที่ใกล้เคียงกัน แถมต้นทุนการดูแลรักษารถไฟฟ้าก็จะต่ำกว่ามากๆด้วย

ในแง่ของจะพยุงอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ อยากให้รัฐเลิกคิดแต่จะสนับสนุนนักลงทุนรายใหญ่ได้แล้ว
ให้มองให้ไกล ให้สนับสนุน SME startup  และมองว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ ทีมีชิ้นส่วนน้อยชึ้นแบบนี้ให้มอง model การประกอบรถยนต์ของรายเล็กๆ แบบการซื้อชิ้นส่วนคอมมาประกอบเป้นคอมพิวเตอร์  ที่รัฐต้องทำคือ ให้ภาคการศึกษา ศึกษาหา model หรือ platform ที่สามารถนำมาใช้กำหนดมาตรฐาน เพื่อให้นำมาใช้เป้นจุดเริ่มต้น ของมาตรฐานที่จะให้เกิดการ ประกอบ และจัดตั่้งศูนย์ที่จะกำหนดมาตรฐาน และทดสอบ รถไฟฟ้าทีจะประกอบกันเอง เพียงแต่รถประกอบเองอาจมีการกำหนดข้อจำกัด ในช่วงเริ่มต้นเช่นความเร็วสูงสุด ไม่เกิน เท่าไรใช้ แรงม้าสูงสุดของมอเตอร์ไม่เกินเท่าไร เพื่อความปลอดภัย  และศูนย์ทดสอบกำหนดมาตรฐานต้องสามารถจะทดสอบ ระบบ ต่างของรถที่จดประกอบว่า ทำงานระบบต่างๆที่ติดตั้งในใช้งานได้จรืงและได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป้น ABS, VSC, etc.. มากมายเพื่อให้เกิดการพัฒนาของรายย่อยต่อไปในการพัฒนาชิ้นส่วน และการประกอบในระดับ SME ให้เกิดนะ งั้นอุตสาหกรรมรถยนต์บ้านเราคงจะหายไปในอนาคต ถ้าคิดแต่รอพึ่งรายใหญ่เพียงเท่านั้น
ตอนนี้อีวีเน้นแบตเยอะแรงม้าเยอะแต่ไม่มีวิธีการจัดการพลังงานของมอเตอร์ให้ใช้พลังงานไฟฟ้าให้ประหยัดขึ้นกว่านี้ ผมมมองว่าตอนนี้แบกแบตเตอรี่ลูกใหญ่แต่วิ่งได้ไม่ไกบเป็นเพราะการจัดการพลังาน การใช้ไฟของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ยังเปลืองงอยู่ครับ ยิ่งมีเกียร์เดียวยิ่งใ้ไฟเปลืองขึ้น

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
มันกำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนอยู่หนิครับ จาก ICE เป็น Hybrid แล้วก็ค่อยไปเป็น EV ทีละขั้นๆไป รถไฮบริดมาไทยราวๆไม่กี่สิบปีนี้เอง ที่เป็นระดับ Mass (ทั้งพี่โต ฮอน นิส) ก็ยังไม่ถึง 10 ปี
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลาครับ มันไม่ใช่ว่าปุบปับจะเลิกได้ ผลกระทบข้อดีข้อเสียต้องศึกษากันเยอะ ซึ่งทุกประเทศเขาก็ต้องทำกันทั้งนั้น จะใช้เวลามากหรือน้อย ก็ขึ้นกับปริมาณประชากร-ความสามารถของบุคลากร-วิสัยทัศน์

ผมมองว่าสิ่งที่โตโยต้าทำในตอนนี้ (ว่าตามตรงก็คือการยัดเยียด Hybrid มานั่นแหละ) ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐเรื่องภาษีรถพวกนี้เก็บต่ำลง และ Know-How ในการประกอบ (อย่างน้อยๆก็การประกอบนะ)
ระบบไฟฟ้า Hybrid คนไทยก็ทำได้สบายๆในประเทศ ตรงนี้ข้อดีคืออะไร ก็คือการจ้างงานครับ ไม่เฉพาะคนประกอบรถในไลน์ผลิตหรือวิศวกรที่เกทเวย์
แต่รวมถึง Part หลายอย่างในรถยนต์คันนั้น ถ้าท่านไม่ทราบจริงๆ รายได้เข้าประเทศเรา อุตสาหกรรมยานยนตร์นี่ก็เป็นอันดับไม่ต่ำกว่า 3 ของทั้งหมดนะครับ

ถ้าปล่อยให้เอาเข้ามาเสรีแบบใครจะเอามาก็ได้ คำถามคือแล้วดุลการค้าเราจะเอาอะไรไปสู้ครับ? ประเทศที่ซื้ออย่างเดียวขายออกไม่ได้เนี่ย ตายนะครับ
ภาษีไม่ใช่เรื่องเดียวที่คุณจะเอามา Subsidize เม็ดเงินที่หายไปตรงนี้ได้ ประเทศที่ฉลาดในด้านเศรษฐกิจ อย่างนึงที่มีเหมือนๆกันคือ ต้องทำดุลการค้าให้เก่งนะครับ
ไม่มีใครว่าหรอกถ้าคุณอยาก import เยอะ แต่คุณก็ต้องหาทาง Export ไปให้ได้ และทุกประเทศก็เล่นเกมเดียวกับคุณ คือต้องทำให้ได้เหมือนกัน

ถ้าคุณมองแค่ในแง่คนจะซื้ออย่างเดียวว่าจะเอารถ EV เข้ามา จะเอานู่นนี่เข้ามาก็ตายครับ ปัญหาเรื่อง Distrupt มันเป็นเรื่องปกติของยุคนี้จริง แต่คุณจะทำให้มันเปลี่ยนในไม่กี่วันไม่ได้
คุณต้องไม่ลืมว่าประเทศเราเนี่ย อยู่ในตำแหน่ง Manufacturers มาหลายปีแล้ว เจ้าของ Patent ทั้งหลายถ้ามองว่านโยบายเราเป็นภัยต่อเขา ก็แค่ชักปลั๊กกลับบ้าน หาที่ผลิตใหม่แค่นั้นเอง

ผมแนะนำอีกเรื่องนึง ไปศึกษาเรื่องจีนดีๆนะครับ โดยเฉพาะในยุคของคนปัจจุบันเนี่ยแหละ ดูว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับเขาแบบที่เราต่อรองเขาแทบไม่ได้ที่บางประเทศเป็นน่ะ
มันมีข้อเสียยังไงบ้าง โดยเฉพาะนโยบาย RBI (Road Belt Initiative) ของเขาน่ะ มันดูเหมือนเราได้ประโยชน์ แต่ก็ดูๆด้วยนะครับ ท่องไว้เสมอว่า "ไม่มีใครใจดีพอจะให้อะไรฟรี"

ปล. ผมแปลกใจนะ ผมหยุดเล่นเวปนี้ไปน่าจะราวๆ 4-5 ปีได้ ตอนนั้นท่านก็ยังอยู่ (รึผมจำดิสเพลย์ท่านสลับกับอีกคนก็ไม่รู้) ก็พิมพ์อะไรที่ชวนทะเลาะงี้แหละ แต่ก็รอดมาได้ ก็แปลกใจเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ TeletubbiesWithGuns

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 136
    • อีเมล์
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”
'21 BMW 330Li (Mom's ride, my "daily)
' ? (COMING SOONer or later idk)

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

เห็นออกมาโวยวายต่อต้าน ภาษีนำเข้า 0% จาก FTA กันจุง ตอนนี้ต่อต้านจีน ต่อไปคงอาเซียนด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่มีสกิลจะทำ ev แข่งไม่ได้เอง

ผมเห็นแล้วว่าตรรกะใครเพี้ยนกันแน่
ชี้แจงนะครับ fta 0% มันเป็นการฆ่าตัวตาย คุณไม่ต้องการส่งเสริมให้ ev มาผลิตในประเทศแล้วหรือ? ใครจะมาลงทุนผลิต ev ในประเทศเราเมื่อนำเข้า 0% ทิ้งตรงนี้แล้วใช่ไหม?
แล้วยังเอาเปรียบคนที่มาลงทุนภายในประเทศอีก เอาตรงๆ แข่งกันแฟร์ๆ ไปเลยครับ 0 ก็ 0 เท่ากัน ถ้ารถไฟฟ้าดีจริงเดี๋ยวก็ชนะเอง การมาบิดการแข่งขันแบบนี้ใครเสียเปรียบก็ออกมาโวยเป็นธรรมดา
และการบอกอุตสาหกรรมรถภายในเป็นตัวถ่วง คือภาษี ev มันได้เปรียบไม่ใช่เหรอครับ ตรงกันข้ามรถน้ำมันต่างหากกำลังแย่

ลองคิดดีๆ นะครับ สมมติผมทำร้านกาแฟโบราณ แต่โลกกำลังเปลี่ยนเป็นไฮเทค ถ้าผมไม่เปลี่ยนเป็นไฮเทคตามคือผมเป็นตัวถ่วงอย่างนั้นหรือ? ผมถ่วงอุตสาหกรรมกาแฟไทย? ผมเป็นเอกชนจะถ่วงได้ยังไง ต่อให้เป็นรายใหญ่ครองตลาดก็เถอะครับ กลไกเดียวที่ถ่วงคือภาษีที่ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมต่างหาก

หึหึหึ ผมเชียร์ free market economy การค้าเสรีอยู่แล้วคับ เพราะผู้บริโภคคนไทยเจ้าของประเทศจะได้ประโยชน์สูงสุด

ถ้าอยากแฟร์มากนัก ทำไมไม่ จัดการ FTA อันอื่นที่เราทำความตกลงอยู่แล้ว กล้าๆลดภาษีนำเข้า BEV 0% ไปเลย เอาให้เหมือน อาเซียน-จีน และภายในอาเซียนไปเลยเช่น

เกาหลีลดจาก 40% เหลือ 0%
ยุ่นลดจาก 20% เหลือ 0%
เมกา และที่อื่นๆ จาก 80% เหลือ 0%

แบบนั้นโคตรฟิน และแฟร์มาก ผมเชียร์เต็มที่  8) เดี่ยวก็รู้ว่าใครเก่ง มีสกิลจิง แต่.....พวกอุตภายในมันร้องไห้เป็นเด็กทารกแน่นอน รับไม่ได้หรอก เพราะพอมีแข่งขันแบบแฟร์ๆ พวกมันก็หง่อย อ่อนแอ ไร้สกิล เนื่องจากวันๆหลบอยู่หลังกำแพงภาษีสูงๆ ไม่ได้พัฒนาตัวเองอะไร แล้วมาอ้างบุญคุณปลอมๆ
ถ้ามันง่ายขนาดนั้นแต่ละประเทศเค้าจะตังกำแพงภาษีไว้ทำไมครับ  ถ้าคุณเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองตั้งแต่เกิดมันไม่แปลกหรอกครับที่จะตั้งความคิดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวานเหมือนบกบยังไม่อออกจากกะลาแบบนี้ครับ  คุณอยากได้รถอีวีก็ช่างคุณมันคือส่วนน้อย แต่คนส่วนใหญ่เค้าก็ต้องการปกป้องอาชีพเค้าอยู่    การทุ่มตลาดของจีนน่ากลัวกว่าชาติอื่นมาก

มันกำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนอยู่หนิครับ จาก ICE เป็น Hybrid แล้วก็ค่อยไปเป็น EV ทีละขั้นๆไป รถไฮบริดมาไทยราวๆไม่กี่สิบปีนี้เอง ที่เป็นระดับ Mass (ทั้งพี่โต ฮอน นิส) ก็ยังไม่ถึง 10 ปี
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลาครับ มันไม่ใช่ว่าปุบปับจะเลิกได้ ผลกระทบข้อดีข้อเสียต้องศึกษากันเยอะ ซึ่งทุกประเทศเขาก็ต้องทำกันทั้งนั้น จะใช้เวลามากหรือน้อย ก็ขึ้นกับปริมาณประชากร-ความสามารถของบุคลากร-วิสัยทัศน์

ผมมองว่าสิ่งที่โตโยต้าทำในตอนนี้ (ว่าตามตรงก็คือการยัดเยียด Hybrid มานั่นแหละ) ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐเรื่องภาษีรถพวกนี้เก็บต่ำลง และ Know-How ในการประกอบ (อย่างน้อยๆก็การประกอบนะ)
ระบบไฟฟ้า Hybrid คนไทยก็ทำได้สบายๆในประเทศ ตรงนี้ข้อดีคืออะไร ก็คือการจ้างงานครับ ไม่เฉพาะคนประกอบรถในไลน์ผลิตหรือวิศวกรที่เกทเวย์
แต่รวมถึง Part หลายอย่างในรถยนต์คันนั้น ถ้าท่านไม่ทราบจริงๆ รายได้เข้าประเทศเรา อุตสาหกรรมยานยนตร์นี่ก็เป็นอันดับไม่ต่ำกว่า 3 ของทั้งหมดนะครับ

ถ้าปล่อยให้เอาเข้ามาเสรีแบบใครจะเอามาก็ได้ คำถามคือแล้วดุลการค้าเราจะเอาอะไรไปสู้ครับ? ประเทศที่ซื้ออย่างเดียวขายออกไม่ได้เนี่ย ตายนะครับ
ภาษีไม่ใช่เรื่องเดียวที่คุณจะเอามา Subsidize เม็ดเงินที่หายไปตรงนี้ได้ ประเทศที่ฉลาดในด้านเศรษฐกิจ อย่างนึงที่มีเหมือนๆกันคือ ต้องทำดุลการค้าให้เก่งนะครับ
ไม่มีใครว่าหรอกถ้าคุณอยาก import เยอะ แต่คุณก็ต้องหาทาง Export ไปให้ได้ และทุกประเทศก็เล่นเกมเดียวกับคุณ คือต้องทำให้ได้เหมือนกัน

ถ้าคุณมองแค่ในแง่คนจะซื้ออย่างเดียวว่าจะเอารถ EV เข้ามา จะเอานู่นนี่เข้ามาก็ตายครับ ปัญหาเรื่อง Distrupt มันเป็นเรื่องปกติของยุคนี้จริง แต่คุณจะทำให้มันเปลี่ยนในไม่กี่วันไม่ได้
คุณต้องไม่ลืมว่าประเทศเราเนี่ย อยู่ในตำแหน่ง Manufacturers มาหลายปีแล้ว เจ้าของ Patent ทั้งหลายถ้ามองว่านโยบายเราเป็นภัยต่อเขา ก็แค่ชักปลั๊กกลับบ้าน หาที่ผลิตใหม่แค่นั้นเอง

ผมแนะนำอีกเรื่องนึง ไปศึกษาเรื่องจีนดีๆนะครับ โดยเฉพาะในยุคของคนปัจจุบันเนี่ยแหละ ดูว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับเขาแบบที่เราต่อรองเขาแทบไม่ได้ที่บางประเทศเป็นน่ะ
มันมีข้อเสียยังไงบ้าง โดยเฉพาะนโยบาย RBI (Road Belt Initiative) ของเขาน่ะ มันดูเหมือนเราได้ประโยชน์ แต่ก็ดูๆด้วยนะครับ ท่องไว้เสมอว่า "ไม่มีใครใจดีพอจะให้อะไรฟรี"

ปล. ผมแปลกใจนะ ผมหยุดเล่นเวปนี้ไปน่าจะราวๆ 4-5 ปีได้ ตอนนั้นท่านก็ยังอยู่ (รึผมจำดิสเพลย์ท่านสลับกับอีกคนก็ไม่รู้) ก็พิมพ์อะไรที่ชวนทะเลาะงี้แหละ แต่ก็รอดมาได้ ก็แปลกใจเหมือนกันนะ
ถ้าใครได้ทำการค้าขายกับจีนแล้วเหนื่อยจริงครับ  ขี้โกงเอาเปียบทุกอย่าง  ส่วนยูสเซอร์นี้เค้าคาบช้อนเงินทองมาไม่รู้จักความลำบากในการหาเงินหรอกครับ  ภาษีบำรุงประเทศก็คงไม่รู้จักหรอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2021, 21:00:49 โดย deertesla »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2021, 21:26:30 โดย Nathal Goldstein »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าถ้าภายในประเทศผลิตนาฬิกา analog ไม่น่าเกี่ยวกับการเป็นตัวถ่วงในการผลิตนาฬิกา digital นะครับ

เปรียบเปรยเฉยๆ
+1
ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้ห้ามบริษัทรถผลิตev หรือห้ามนำเข้า
แต่demandมันยังไม่มี รัฐไม่ได้อุ้มส่วนต่างแบบบางประเทศ แล้วเขาจะผลิตขายใคร? ขายไม่ออกใครเจ้ง

แล้วอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ มันถ่วงevยังไง ผมไม่เข้าใจ ใครอธิบายตรรกะนี้ที ในเมื่อevมันก็เป็นส่วนนึงในอุตสาหกรรมนี้ จะให้นำเข้า100%ไปเพื่อ??

เห็นออกมาโวยวายต่อต้าน ภาษีนำเข้า 0% จาก FTA กันจุง ตอนนี้ต่อต้านจีน ต่อไปคงอาเซียนด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่มีสกิลจะทำ ev แข่งไม่ได้เอง

ผมเห็นแล้วว่าตรรกะใครเพี้ยนกันแน่
ชี้แจงนะครับ fta 0% มันเป็นการฆ่าตัวตาย คุณไม่ต้องการส่งเสริมให้ ev มาผลิตในประเทศแล้วหรือ? ใครจะมาลงทุนผลิต ev ในประเทศเราเมื่อนำเข้า 0% ทิ้งตรงนี้แล้วใช่ไหม?
แล้วยังเอาเปรียบคนที่มาลงทุนภายในประเทศอีก เอาตรงๆ แข่งกันแฟร์ๆ ไปเลยครับ 0 ก็ 0 เท่ากัน ถ้ารถไฟฟ้าดีจริงเดี๋ยวก็ชนะเอง การมาบิดการแข่งขันแบบนี้ใครเสียเปรียบก็ออกมาโวยเป็นธรรมดา
และการบอกอุตสาหกรรมรถภายในเป็นตัวถ่วง คือภาษี ev มันได้เปรียบไม่ใช่เหรอครับ ตรงกันข้ามรถน้ำมันต่างหากกำลังแย่

ลองคิดดีๆ นะครับ สมมติผมทำร้านกาแฟโบราณ แต่โลกกำลังเปลี่ยนเป็นไฮเทค ถ้าผมไม่เปลี่ยนเป็นไฮเทคตามคือผมเป็นตัวถ่วงอย่างนั้นหรือ? ผมถ่วงอุตสาหกรรมกาแฟไทย? ผมเป็นเอกชนจะถ่วงได้ยังไง ต่อให้เป็นรายใหญ่ครองตลาดก็เถอะครับ กลไกเดียวที่ถ่วงคือภาษีที่ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมต่างหาก

หึหึหึ ผมเชียร์ free market economy การค้าเสรีอยู่แล้วคับ เพราะผู้บริโภคคนไทยเจ้าของประเทศจะได้ประโยชน์สูงสุด

ถ้าอยากแฟร์มากนัก ทำไมไม่ จัดการ FTA อันอื่นที่เราทำความตกลงอยู่แล้ว กล้าๆลดภาษีนำเข้า BEV 0% ไปเลย เอาให้เหมือน อาเซียน-จีน และภายในอาเซียนไปเลยเช่น

เกาหลีลดจาก 40% เหลือ 0%
ยุ่นลดจาก 20% เหลือ 0%
เมกา และที่อื่นๆ จาก 80% เหลือ 0%

แบบนั้นโคตรฟิน และแฟร์มาก ผมเชียร์เต็มที่  8) เดี่ยวก็รู้ว่าใครเก่ง มีสกิลจิง แต่.....พวกอุตภายในมันร้องไห้เป็นเด็กทารกแน่นอน รับไม่ได้หรอก เพราะพอมีแข่งขันแบบแฟร์ๆ พวกมันก็หง่อย อ่อนแอ ไร้สกิล เนื่องจากวันๆหลบอยู่หลังกำแพงภาษีสูงๆ ไม่ได้พัฒนาตัวเองอะไร แล้วมาอ้างบุญคุณปลอมๆ
ถ้ามันง่ายขนาดนั้นแต่ละประเทศเค้าจะตังกำแพงภาษีไว้ทำไมครับ  ถ้าคุณเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองตั้งแต่เกิดมันไม่แปลกหรอกครับที่จะตั้งความคิดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวานเหมือนบกบยังไม่อออกจากกะลาแบบนี้ครับ  คุณอยากได้รถอีวีก็ช่างคุณมันคือส่วนน้อย แต่คนส่วนใหญ่เค้าก็ต้องการปกป้องอาชีพเค้าอยู่    การทุ่มตลาดของจีนน่ากลัวกว่าชาติอื่นมาก

มันกำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนอยู่หนิครับ จาก ICE เป็น Hybrid แล้วก็ค่อยไปเป็น EV ทีละขั้นๆไป รถไฮบริดมาไทยราวๆไม่กี่สิบปีนี้เอง ที่เป็นระดับ Mass (ทั้งพี่โต ฮอน นิส) ก็ยังไม่ถึง 10 ปี
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลาครับ มันไม่ใช่ว่าปุบปับจะเลิกได้ ผลกระทบข้อดีข้อเสียต้องศึกษากันเยอะ ซึ่งทุกประเทศเขาก็ต้องทำกันทั้งนั้น จะใช้เวลามากหรือน้อย ก็ขึ้นกับปริมาณประชากร-ความสามารถของบุคลากร-วิสัยทัศน์

ผมมองว่าสิ่งที่โตโยต้าทำในตอนนี้ (ว่าตามตรงก็คือการยัดเยียด Hybrid มานั่นแหละ) ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐเรื่องภาษีรถพวกนี้เก็บต่ำลง และ Know-How ในการประกอบ (อย่างน้อยๆก็การประกอบนะ)
ระบบไฟฟ้า Hybrid คนไทยก็ทำได้สบายๆในประเทศ ตรงนี้ข้อดีคืออะไร ก็คือการจ้างงานครับ ไม่เฉพาะคนประกอบรถในไลน์ผลิตหรือวิศวกรที่เกทเวย์
แต่รวมถึง Part หลายอย่างในรถยนต์คันนั้น ถ้าท่านไม่ทราบจริงๆ รายได้เข้าประเทศเรา อุตสาหกรรมยานยนตร์นี่ก็เป็นอันดับไม่ต่ำกว่า 3 ของทั้งหมดนะครับ

ถ้าปล่อยให้เอาเข้ามาเสรีแบบใครจะเอามาก็ได้ คำถามคือแล้วดุลการค้าเราจะเอาอะไรไปสู้ครับ? ประเทศที่ซื้ออย่างเดียวขายออกไม่ได้เนี่ย ตายนะครับ
ภาษีไม่ใช่เรื่องเดียวที่คุณจะเอามา Subsidize เม็ดเงินที่หายไปตรงนี้ได้ ประเทศที่ฉลาดในด้านเศรษฐกิจ อย่างนึงที่มีเหมือนๆกันคือ ต้องทำดุลการค้าให้เก่งนะครับ
ไม่มีใครว่าหรอกถ้าคุณอยาก import เยอะ แต่คุณก็ต้องหาทาง Export ไปให้ได้ และทุกประเทศก็เล่นเกมเดียวกับคุณ คือต้องทำให้ได้เหมือนกัน

ถ้าคุณมองแค่ในแง่คนจะซื้ออย่างเดียวว่าจะเอารถ EV เข้ามา จะเอานู่นนี่เข้ามาก็ตายครับ ปัญหาเรื่อง Distrupt มันเป็นเรื่องปกติของยุคนี้จริง แต่คุณจะทำให้มันเปลี่ยนในไม่กี่วันไม่ได้
คุณต้องไม่ลืมว่าประเทศเราเนี่ย อยู่ในตำแหน่ง Manufacturers มาหลายปีแล้ว เจ้าของ Patent ทั้งหลายถ้ามองว่านโยบายเราเป็นภัยต่อเขา ก็แค่ชักปลั๊กกลับบ้าน หาที่ผลิตใหม่แค่นั้นเอง

ผมแนะนำอีกเรื่องนึง ไปศึกษาเรื่องจีนดีๆนะครับ โดยเฉพาะในยุคของคนปัจจุบันเนี่ยแหละ ดูว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับเขาแบบที่เราต่อรองเขาแทบไม่ได้ที่บางประเทศเป็นน่ะ
มันมีข้อเสียยังไงบ้าง โดยเฉพาะนโยบาย RBI (Road Belt Initiative) ของเขาน่ะ มันดูเหมือนเราได้ประโยชน์ แต่ก็ดูๆด้วยนะครับ ท่องไว้เสมอว่า "ไม่มีใครใจดีพอจะให้อะไรฟรี"

ปล. ผมแปลกใจนะ ผมหยุดเล่นเวปนี้ไปน่าจะราวๆ 4-5 ปีได้ ตอนนั้นท่านก็ยังอยู่ (รึผมจำดิสเพลย์ท่านสลับกับอีกคนก็ไม่รู้) ก็พิมพ์อะไรที่ชวนทะเลาะงี้แหละ แต่ก็รอดมาได้ ก็แปลกใจเหมือนกันนะ
ถ้าใครได้ทำการค้าขายกับจีนแล้วเหนื่อยจริงครับ  ขี้โกงเอาเปียบทุกอย่าง  ส่วนยูสเซอร์นี้เค้าคาบช้อนเงินทองมาไม่รู้จักความลำบากในการหาเงินหรอกครับ  ภาษีบำรุงประเทศก็คงไม่รู้จักหรอก

อะช่าย ไม่ง่ายงัยคับ ก้อเลือกทำความตกลงแบบนั่นเอง 0%, 20%, 40% เอย ไม่ได้มีใครห้าม  มาตอนนี้จะโวยวายแล้ว คือยังไง? ผมถึงบอกงัยจะต่อต้าน 0% จีน อย่าลืมไปต่อต้าน 0% อาเซียนด้วย เพราะรถอีวีนำเข้ามาจากอาเซียน คนไทยก็ไม่ได้อะไรเลย ผู้บริโภคไม่ได้อะไรเลย แทนที่จะใช้ของผลิตในประเทศที่ราคาแพงกว่า  มันความตกลงการค้าเสรีนะ bi-lateral เค้าได้ประโยชน์ เราก็ได้ประโยชน์  นี่มาโวยวายอะไร อยากเอาอะไรไปแลกดี สินค้าเกษตรดีไหม? แล้วถ้าตัวเองอยากส่งอีวีไปขายบ้าง อยากโดนเค้าเก็บภาษีบ้างไหม? คิดหน่อย เอาแต่ได้อะพวกอุตภายในพวกนี้           

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D

แสดง ตรรกะเสื่อม อีกละ คิดเอง เออเอง ว่า คนโน้น เป็นยังงั้นอย่างงี้ ถถถถถ
น่าสงสาร จัง

ออฟไลน์ Chitta_P

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 324
ไม่รู้จะมา discuss อะไร แต่ขอแวะมาเล่านิทานสนุกๆละกันครับ
ช่วงปี 59-60 ผมมีโอกาสได้ไปเรียนที่ประเทศจีน พอไปถึงก็เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขี่
ช่วงแรกๆก็ไม่มีอะไรหรอกครับ  ผ่านไปซักสองสามเดือน ขณะที่ชาร์จแบตเต็มมาทั้งคืน พอจะขี่จากมหาลัยฯเข้าไปในเมือง จากแบตที่เต็มๆ ก็กะพริบๆ แล้วรถก็ดับ ดับกลางถนนที่รอบข้างเป็นนาและป่าทับทิมด้วย เอาละสิ เหลียวซ้ายแลขวาก็มีแต่ต้นทับทิม ทีนี้จะชาร์จยังไง คิดไปคิดมา สุดท้ายก็ต้องจูงรถเป็นกิโลๆกลับไปชาร์จที่มอ ระหว่างทางก็มีพวกมอไซน้ำมันขี่ผ่านไปผ่านมาเรื่อยๆ ให้เราหงุดหงิดเล่นกันไป

จะมาบอกว่า เทคโนโลยีทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสียกันไปแหละครับ ไม่ใช่ว่าไอ้นั่นดี แล้วจะดี 100% แล้วก็ไม่ใช่ว่าอะไรที่คิดว่าไม่ดี มันจะไม่ดี 100% เสมอไป

จบการเล่านิทานเพียงเท่านี้ครับ

ปล. แถมภาพประกอบการเล่านิทานเล็กน้อยครับ
Life is short and the world is wide...

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D

แสดง ตรรกะเสื่อม อีกละ คิดเอง เออเอง ว่า คนโน้น เป็นยังงั้นอย่างงี้ ถถถถถ
น่าสงสาร จัง

อ่าว คุณมายอมรับเอง ช่วยไม่ได้คับ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้จะมา discuss อะไร แต่ขอแวะมาเล่านิทานสนุกๆละกันครับ
ช่วงปี 59-60 ผมมีโอกาสได้ไปเรียนที่ประเทศจีน พอไปถึงก็เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขี่
ช่วงแรกๆก็ไม่มีอะไรหรอกครับ  ผ่านไปซักสองสามเดือน ขณะที่ชาร์จแบตเต็มมาทั้งคืน พอจะขี่จากมหาลัยฯเข้าไปในเมือง จากแบตที่เต็มๆ ก็กะพริบๆ แล้วรถก็ดับ ดับกลางถนนที่รอบข้างเป็นนาและป่าทับทิมด้วย เอาละสิ เหลียวซ้ายแลขวาก็มีแต่ต้นทับทิม ทีนี้จะชาร์จยังไง คิดไปคิดมา สุดท้ายก็ต้องจูงรถเป็นกิโลๆกลับไปชาร์จที่มอ ระหว่างทางก็มีพวกมอไซน้ำมันขี่ผ่านไปผ่านมาเรื่อยๆ ให้เราหงุดหงิดเล่นกันไป

จะมาบอกว่า เทคโนโลยีทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสียกันไปแหละครับ ไม่ใช่ว่าไอ้นั่นดี แล้วจะดี 100% แล้วก็ไม่ใช่ว่าอะไรที่คิดว่าไม่ดี มันจะไม่ดี 100% เสมอไป

จบการเล่านิทานเพียงเท่านี้ครับ

ปล. แถมภาพประกอบการเล่านิทานเล็กน้อยครับ

มอไซด์นี่เหมาะกับ battery swapping อย่างยิ่งคับ form factor ยังโอเคให้สลับได้แบบชิลๆ onboard charger มอไซด์ยังห่างไกลในรถมากกกก

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D

แสดง ตรรกะเสื่อม อีกละ คิดเอง เออเอง ว่า คนโน้น เป็นยังงั้นอย่างงี้ ถถถถถ
น่าสงสาร จัง

อ่าว คุณมายอมรับเอง ช่วยไม่ได้คับ
แล้วแต่จะคิดครับ
อย่างที่บอก
Toyota อยากทำ Ev เมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะทำเพื่ออะไร
ในเมื่อ คนซื้อไม่มี 555555

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D

แสดง ตรรกะเสื่อม อีกละ คิดเอง เออเอง ว่า คนโน้น เป็นยังงั้นอย่างงี้ ถถถถถ
น่าสงสาร จัง

อ่าว คุณมายอมรับเอง ช่วยไม่ได้คับ
แล้วแต่จะคิดครับ
อย่างที่บอก
Toyota อยากทำ Ev เมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะทำเพื่ออะไร
ในเมื่อ คนซื้อไม่มี 555555

แล้วเสือกมาต่อต้าน FTA 0% ทำไมหว่า ผมเชียร์ให้ต่อต้าน 0% อาเซียนด้วย เอาให้สุด

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D

แสดง ตรรกะเสื่อม อีกละ คิดเอง เออเอง ว่า คนโน้น เป็นยังงั้นอย่างงี้ ถถถถถ
น่าสงสาร จัง

อ่าว คุณมายอมรับเอง ช่วยไม่ได้คับ
แล้วแต่จะคิดครับ
อย่างที่บอก
Toyota อยากทำ Ev เมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะทำเพื่ออะไร
ในเมื่อ คนซื้อไม่มี 555555

แล้วเสือกมาต่อต้าน FTA 0% ทำไมหว่า ผมเชียร์ให้ต่อต้าน 0% อาเซียนด้วย เอาให้สุด

อุ้ป หยาบจัง ขาประจำบอร์ดเส้นใหญ่เนอะ
ใคร เสือก ต่อต้านครับ ก็เอามาดิ ไอ้นี่ ก็เสือกคิดเอาเองละ 555 ว่าเข้าไปทั่วเลยเนอะ
นี่ มโน เพ้อเจ้อ ว่า ตูเป็น คน Toyota รึไง เหอะๆ  สายมโน จริงๆ
อวยนักหนา แล้ว ไงยอดขาย 0.13 % กิ้วๆ
มันเป็นเรื่อง ผลประโยชน์ มันไม่ใช่ แค่ TOYOTA ที่ต่อต้าน ทุกคน กลุ่ม ที่เสียปผลปีะโยชน์และคิดว่าไม่ยุติธรรม จึงต่อต้านไง

ปล ไม่ edit และไม่ลบ เพราะผมไม่ได้เป็นคนเริ่มด่า หยาบคายก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2021, 18:52:19 โดย mamaman »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
*ลองกดเข้ามาดูคอมเม้น*

*ดูเสร็จ*

“ไม่น่ากดเข้ามาเลย”

รอผมอยู่ ป่าว เข้ามาดู ก่อน แต่คนอื่นจัดให้หมดละ
ไว้อาลัย เจ้าของโพส แปร้บ น่าสงสาร ตรรกะ ป่วยมาก แต่ไม่รู้ตัว 5555
ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วย กิ้วๆๆๆๆ

ไม่มีใครตรรกะเสื่อมเท่ากับคนไทยที่เออออเห็นด้วยกับการปกป้องสถาบันอุตสาหกรรมเฒ่าทารกอายุเกิน 50 ปี หรือ infant industry argument  คับ โดยเฉพาะพวกซาบซึ้งพระคุณของค่ายรถ อยากรู้ว่าจะชาตินิยมแบบปลอมๆ เสี้ยมค่ายรถไปได้ถึงไหน ทุกชาติไปเลยไหม ;D ;D ;D

แสดง ตรรกะเสื่อม อีกละ คิดเอง เออเอง ว่า คนโน้น เป็นยังงั้นอย่างงี้ ถถถถถ
น่าสงสาร จัง

อ่าว คุณมายอมรับเอง ช่วยไม่ได้คับ
แล้วแต่จะคิดครับ
อย่างที่บอก
Toyota อยากทำ Ev เมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะทำเพื่ออะไร
ในเมื่อ คนซื้อไม่มี 555555

แล้วเสือกมาต่อต้าน FTA 0% ทำไมหว่า ผมเชียร์ให้ต่อต้าน 0% อาเซียนด้วย เอาให้สุด

อุ้ป หยาบจัง ขาประจำบอร์ดเส้นใหญ่เนอะ
ใคร เสือก ต่อต้านครับ ก็เอามาดิ ไอ้นี่ ก็เสือกคิดเอาเองละ 555 ว่าเข้าไปทั่วเลยเนอะ
นี่ มโน เพ้อเจ้อ ว่า ตูเป็น คน Toyota รึไง เหอะๆ  สายมโน จริงๆ
อวยนักหนา แล้ว ไงยอดขาย 0.13 % กิ้วๆ

ในมิตติ้งปลายปีก่อนกับพี่ to มีตัวใหญ่ใน to ไทยสองคน พล่ามโวยวายถึง FTA อาเซียน-จีนไม่เลิก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเสี่ยงโดนสินค้าเกษตรไปแลก เลยเงิบซะ 55 ถึงบอกทั้งทีต้องโวยวาย FTA อาเซียนด้วย  ;D ;D ;D   

เห็นคุณอวยแซบซุ้งไอ้ to หนักหนายังกะสมุนทำงานในนั้น ได้กลิ่น vaporware เหม็นๆโชยมายังคับ solid สักอย่างไม่เห็นแม้แต่เงา ;D ;D ;D