ผู้เขียน หัวข้อ: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)  (อ่าน 20630 ครั้ง)

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 10:42:38 »
ผมไม่ได้ปกป้องครับ
ผมพูดตามความจริง
ไม่ได้​ ต่อเติมความรุนแรงของปัญหาแบบคุณ

ผมใช้​ Honda​
และ​ ยังไม่เจอรถผุ
คราบสนิม​ ก้คือคราบสนิม​

ผมบอกแล้วแยกให้ได้ว่าคราบสนิมกับรถผุ​ 

ผมว่าผมใช้หลักเหตุและผลนะ

จากสายงานที่ผมทำ
ผมจะไม่ใช้การ​ มโนปัญหา​ ไปเองงแบบคุณ
คราบสนิมใน​ City.​ 2020.​สามารถแก้ไขหรือ​ ไม่ได้เป้นปัญหาร้ายแรง​ ต่อความปลอดภัยหรือโครงสร้างรถ

เรื่องเกียรพัง​ มันก้ไม่ได้พัง​ ง่ายๆ​ เห้นพังก็​ 100000​+     และไม่ได้พังทุกคันอย่าเหมารวม

คุณรู้หลักการทำงานน้ำมันเกียรไหม​การทนอุณหภูมิจองน้ำมันเกียร์ไหม​

การติดออยเกียรแบบผิด​ๆ ที่​  เคยศึกษาไหม

การทีีี​ อุณหภูมิออยเกียรขึ้นไปถึง​ 100​ โดยที่ระบบระบายความร้อน​ เชื่อมกับหม้อน้ำเคยคิดหา​สาเหตุไหม
ว่ามันขึ้นไปถึง​ 100​ ได้ไง​ เพราะถ้ามันขึ้น​ ไป​100​ ก้แปลว่า​ หม้อน้ำำ​ ขึ้นไป​ 100​ แล้วเมื่อหม้อน้ำขึ้นไป​ 100​ ใครเค้าใช้รถครับ​ คิดนิดนึง
คุณขับรถ​  ด้วยความร้อนหม้อน้ำ​ 100​ องศาเหรอ
โดยปกติ​ ถ้าขับรถจนเกีนรร้อนรถก้มีระบบ​ เตือนให้​ Slowdown.​อยู่แล้ว​ ผมถึงยอกน้อยคนนักที่จะขับจน​ นมก​เฝร้อนจนรถเตือนเนี่ย​ มันต้องขับแบบไหน​ นี่​ CVT.​รถบ้านไม่ใช่รถแข่ง

ผมถึงบอก​ โปรดเลิกมโน​ แล้ว​ คิด​ วิเคราะห์​แยกแยะ
ถ้า​ ออยเกียรมันจำเป้นจริงๆ​ ทำไมเค้าไม่ได้ติดจากโรงงาน​ ในรถยางรุ่น

วิศกรโง่​  ไงเหรอไง

ผมยอกเลยไอ้พวกไปตัดระบบหม้อน้ำติดออยเกียร์โดยที่ไม่มีพัดลมระบายความร้อน​พวกนี้ละ​ โง่แล้วไม่รู้ตัว

รถกว่าจะออกมาขาย​ เค้าวิ่งทดสอบ​ ไม่รู้เท่าไหร่


แค่การมาบอกว่า​ คราบสนิม​ ส่งผลต่อการชน​ นี่ก็​ เก​ินไปละนะ
คูลแลนท์ที่ออกมาจากหม้อน้ำก็80องศาแล้วครับ  และน้ำยาคูลแลนท์มันก็มีจุดเดือที่สูงกว่าน้ำเปล่าอยู่แล้ว  รถที่ระบบระบายความร้อนปกติที่ยังต่อออยแยกก็สูงถึง100อยู่แช้วครับเล่นเอาน้ำร้อนมาต้มน้ำมันเกียร์  และอุณหภูมิสำหรับการทำงานน้ำมันเกียร์เริ่มต้นที่60องศาซี  มีหลายคลิปในยูทูปที่รถเดิมอุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงมากกอยู่แล้ว  ส่วนสนิมผุมันก็มีให้เห็นครับ   รถอายุ2-3ปีมีสนิยังกับรถจอดตากแดดตากฝนเป๋น10ปีมันก็ไม่สมควรนะ
แสดงว่าไม่เคย google เจอ

คันที่เป็นสนิม ผุทะลุ ทั้งคัน

ลองดูครับ มีเคสทำนองนี้มาหลายปี หลายรุ่นแล้ว แต่ก็ไม่เห็นปรับปรุงอะไรนะ อาจไม่ได้เป็นทุกคัน แต่มีเรื่อยๆนะ


คนนี้แกปกป้องฮอนด้าตลอดครับ  ใครพูดถึงฮอนด้าอะไรนี่ไม่ได้

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 10:49:02 »
ผมไม่ได้ปกป้องครับ
ผมพูดตามความจริง
ไม่ได้​ ต่อเติมความรุนแรงของปัญหาแบบคุณ

ผมใช้​ Honda​
และ​ ยังไม่เจอรถผุ
คราบสนิม​ ก้คือคราบสนิม​

ผมบอกแล้วแยกให้ได้ว่าคราบสนิมกับรถผุ​ 

ผมว่าผมใช้หลักเหตุและผลนะ

จากสายงานที่ผมทำ
ผมจะไม่ใช้การ​ มโนปัญหา​ ไปเองงแบบคุณ
คราบสนิมใน​ City.​ 2020.​สามารถแก้ไขหรือ​ ไม่ได้เป้นปัญหาร้ายแรง​ ต่อความปลอดภัยหรือโครงสร้างรถ

เรื่องเกียรพัง​ มันก้ไม่ได้พัง​ ง่ายๆ​ เห้นพังก็​ 100000​+     และไม่ได้พังทุกคันอย่าเหมารวม

คุณรู้หลักการทำงานน้ำมันเกียรไหม​การทนอุณหภูมิจองน้ำมันเกียร์ไหม​

การติดออยเกียรแบบผิด​ๆ ที่​  เคยศึกษาไหม

การทีีี​ อุณหภูมิออยเกียรขึ้นไปถึง​ 100​ โดยที่ระบบระบายความร้อน​ เชื่อมกับหม้อน้ำเคยคิดหา​สาเหตุไหม
ว่ามันขึ้นไปถึง​ 100​ ได้ไง​ เพราะถ้ามันขึ้น​ ไป​100​ ก้แปลว่า​ หม้อน้ำำ​ ขึ้นไป​ 100​ แล้วเมื่อหม้อน้ำขึ้นไป​ 100​ ใครเค้าใช้รถครับ​ คิดนิดนึง
คุณขับรถ​  ด้วยความร้อนหม้อน้ำ​ 100​ องศาเหรอ
โดยปกติ​ ถ้าขับรถจนเกีนรร้อนรถก้มีระบบ​ เตือนให้​ Slowdown.​อยู่แล้ว​ ผมถึงยอกน้อยคนนักที่จะขับจน​ นมก​เฝร้อนจนรถเตือนเนี่ย​ มันต้องขับแบบไหน​ นี่​ CVT.​รถบ้านไม่ใช่รถแข่ง

ผมถึงบอก​ โปรดเลิกมโน​ แล้ว​ คิด​ วิเคราะห์​แยกแยะ
ถ้า​ ออยเกียรมันจำเป้นจริงๆ​ ทำไมเค้าไม่ได้ติดจากโรงงาน​ ในรถยางรุ่น

วิศกรโง่​  ไงเหรอไง

ผมยอกเลยไอ้พวกไปตัดระบบหม้อน้ำติดออยเกียร์โดยที่ไม่มีพัดลมระบายความร้อน​พวกนี้ละ​ โง่แล้วไม่รู้ตัว

รถกว่าจะออกมาขาย​ เค้าวิ่งทดสอบ​ ไม่รู้เท่าไหร่


แค่การมายอกว่า​ คราบสนิม​ ส่วผลต่อการชน​ นี่ก็​ เก​ินไปละนะ

งั้นผมลองเอาความจริงมาเทียบดุ

City , civic เป็นสนิม (หรือคราบสนิม)
mazda  ทุกโมเดล ไม่มีสนิม ...

เกียร์ CVT ขาดพัง ทั้งๆที่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทุกๆ 3-4หมื่นโล ...
Mazda ใช้ได้ยาวๆ ทั้งๆที่ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถึง 1แสนโล ...

ทีนี้พอเป็นเคสฮอนด้า บอกว่ารถไม่ได้พังทุกคัน อย่าเหมารวม .....
แต่พอเป็นเคสมาสด้า ที่มีคนมาโพสที่ผ่านมาไม่ว่าจะเคส ฝาเครื่องแตก หรือ เคสคุณนักข่าว ... เข้ามาสวดยับอย่างกะมันเป็นทุกคัน .... ศูนย์บริการแย่ อย่างกะมันแย่ทุกศูนย์ ... เค้าไม่ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก็ด่าว่ามาสด้าไม่สนใจลูกค้ารอพังแล้วค่อยแก้ บลาๆ แล้วที่มันพังน่ะมีกี่คัน พูดต่อกันไปเหมือนพังทุกคัน

รถเป็นสนิมแก้ไม่หาย เป็นมาตั้งแต่รุ่นเก่าจนรุ่นใหม่ เป็นทั้ง city และ civic ... ลูกค้าฮอนด้ารับได้เฉย ...ไม่โวย หรือโวยแล้วเค้าไม่ทำให้ก็ไม่รู้ ... และศูนย์บอกว่าไม่มีผลกับการใช้งาน ก็ไม่เห็นโวยกันล่ะ
แต่พอเป็นมาสด้า ค่าแรงแพง 750 บอกชาตินี้ไม่คิดใช้มาสด้า .....

 

นี่ยังไม่รวมกรณีเบรคล็อคของ city ด้วยนะ เป็นกันเยอะไม่เห็นพูดกันบ้างล่ะ รถคุณภาพ... ยอดขายอันดับ 1

และก็ออยเกียร์น่ะ .... อัลเมร่า มีให้มาจากโรงงาน แต่ city ไม่ใส่มา ทั้งๆที่ใช้เกียร์ลูกเดียวกัน .... และอัลเมร่า มีปัญหาเรื่องเกียร์น้อยกว่า city ....

คุณคิดว่าไงล่ะ ....
ขอแก้ไขครับ  นิสสันกับฮอนด้าใช้เกียร์คนละoem กันครับ   ส่วนตานี่อวยปกป้องฮอนด้าจนใครว่าอะไรรถสากกะเบือนี่ไม่ได้ครับ  อันไหนแย่ก็ควรด่าอย่าปกป้องว่าสนิมนี้แก้ไขได้  เค้าซื้อรถมาขับไม่ใช่มาปะผุขัดสนิม  อันไหนลดต้นทุนก็อย่ามาปกป้องว่าวิศวกรคิดดีแล้ว   วิศวกรที่ว่านี้อยู่เมืองหนาวมีหิมะไม่ได้อย฿่ประเทศทีามีแต่อากาศร้อนกับร้อนมากแบบประเทศเรา  ขึ้เขาทีน้ำมันเกียร์ไหม้เพราะไม่มีแผงออยแยกครับ

ออฟไลน์ sixsax

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 147
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 10:55:08 »
ทำให้นึกถึงตา ton66 ในเวบพันเทพ สมัยก่อนเลย 55

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 10:57:47 »
ทำให้นึกถึงตา ton66 ในเวบพันเทพ สมัยก่อนเลย 55
ผมก็นึกถึงนะครับ

ออฟไลน์ LapisLazuli

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 11:01:52 »
ในฐานะที่เป็นวิศวกรออกแบบนะครับ (ไม่ใช่สายยานยนต์ เเต่น่าจะคล้ายๆกัน โดนเหมือนกัน)

ผมบอกได้เลย โดนฝ่ายขายตัดของออกไปเยอะ เนื่องจากทำราคาไม่ได้
CVT Oil Cooler ทีมวิศวกรเขาอาจจะบอกจำเป็นก็ได้ เเต่ดันโดนตัดออกเพราะ ลด cost รวมๆ ทีละชิ้นๆ

ยกตัวอย่าง เช่น Teana J32 ที่ขายในไทยไม่ติด Oil Cooler มาให้, เเต่ใน Malay ดันติด Oil Cooler มาให้ (ที่ Malay brand Mazda และ Nissan ดีกว่าในไทย ขายแพงกว่า Honda อีก)
ประเทศเมืองร้อนเหมือนกันครับ


และการติด CVT Oil Cooler ที่ดีควรติดแบบเป็นคอยล์ Heat Exchanger + พัดลม แยกระบบ แยกวงจร
ไปติดรวมกันหม้อน้ำ มันจะกลายเป็น CVT Oil Heater ละ ไม่ใช่ Cooler เพราะมันร้อนกว่าอีก แถมถ้ารั่วขึ้นมานี่ ปนกันเละเทะ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 11:11:53 »
 :-\
แสดงว่าไม่เคย google เจอ

คันที่เป็นสนิม ผุทะลุ ทั้งคัน

ลองดูครับ มีเคสทำนองนี้มาหลายปี หลายรุ่นแล้ว แต่ก็ไม่เห็นปรับปรุงอะไรนะ อาจไม่ได้เป็นทุกคัน แต่มีเรื่อยๆนะ

ผมไม่ได้เชื่อ​ Google.100%. ครับ
รถเป้น​ หมื่น​ เป้น​แสน​ คัน​ มีของจริงให้ดูเยอะไป

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 11:16:47 »
ผมไม่ได้ปกป้องครับ
ผมพูดตามความจริง
ไม่ได้​ ต่อเติมความรุนแรงของปัญหาแบบคุณ

ผมใช้​ Honda​
และ​ ยังไม่เจอรถผุ
คราบสนิม​ ก้คือคราบสนิม​

ผมบอกแล้วแยกให้ได้ว่าคราบสนิมกับรถผุ​ 

ผมว่าผมใช้หลักเหตุและผลนะ

จากสายงานที่ผมทำ
ผมจะไม่ใช้การ​ มโนปัญหา​ ไปเองงแบบคุณ
คราบสนิมใน​ City.​ 2020.​สามารถแก้ไขหรือ​ ไม่ได้เป้นปัญหาร้ายแรง​ ต่อความปลอดภัยหรือโครงสร้างรถ

เรื่องเกียรพัง​ มันก้ไม่ได้พัง​ ง่ายๆ​ เห้นพังก็​ 100000​+     และไม่ได้พังทุกคันอย่าเหมารวม

คุณรู้หลักการทำงานน้ำมันเกียรไหม​การทนอุณหภูมิจองน้ำมันเกียร์ไหม​

การติดออยเกียรแบบผิด​ๆ ที่​  เคยศึกษาไหม

การทีีี​ อุณหภูมิออยเกียรขึ้นไปถึง​ 100​ โดยที่ระบบระบายความร้อน​ เชื่อมกับหม้อน้ำเคยคิดหา​สาเหตุไหม
ว่ามันขึ้นไปถึง​ 100​ ได้ไง​ เพราะถ้ามันขึ้น​ ไป​100​ ก้แปลว่า​ หม้อน้ำำ​ ขึ้นไป​ 100​ แล้วเมื่อหม้อน้ำขึ้นไป​ 100​ ใครเค้าใช้รถครับ​ คิดนิดนึง
คุณขับรถ​  ด้วยความร้อนหม้อน้ำ​ 100​ องศาเหรอ
โดยปกติ​ ถ้าขับรถจนเกีนรร้อนรถก้มีระบบ​ เตือนให้​ Slowdown.​อยู่แล้ว​ ผมถึงยอกน้อยคนนักที่จะขับจน​ นมก​เฝร้อนจนรถเตือนเนี่ย​ มันต้องขับแบบไหน​ นี่​ CVT.​รถบ้านไม่ใช่รถแข่ง

ผมถึงบอก​ โปรดเลิกมโน​ แล้ว​ คิด​ วิเคราะห์​แยกแยะ
ถ้า​ ออยเกียรมันจำเป้นจริงๆ​ ทำไมเค้าไม่ได้ติดจากโรงงาน​ ในรถยางรุ่น

วิศกรโง่​  ไงเหรอไง

ผมยอกเลยไอ้พวกไปตัดระบบหม้อน้ำติดออยเกียร์โดยที่ไม่มีพัดลมระบายความร้อน​พวกนี้ละ​ โง่แล้วไม่รู้ตัว

รถกว่าจะออกมาขาย​ เค้าวิ่งทดสอบ​ ไม่รู้เท่าไหร่


แค่การมาบอกว่า​ คราบสนิม​ ส่งผลต่อการชน​ นี่ก็​ เก​ินไปละนะ
คูลแลนท์ที่ออกมาจากหม้อน้ำก็80องศาแล้วครับ  และน้ำยาคูลแลนท์มันก็มีจุดเดือที่สูงกว่าน้ำเปล่าอยู่แล้ว  รถที่ระบบระบายความร้อนปกติที่ยังต่อออยแยกก็สูงถึง100อยู่แช้วครับเล่นเอาน้ำร้อนมาต้มน้ำมันเกียร์  และอุณหภูมิสำหรับการทำงานน้ำมันเกียร์เริ่มต้นที่60องศาซี  มีหลายคลิปในยูทูปที่รถเดิมอุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงมากกอยู่แล้ว  ส่วนสนิมผุมันก็มีให้เห็นครับ   รถอายุ2-3ปีมีสนิยังกับรถจอดตากแดดตากฝนเป๋น10ปีมันก็ไม่สมควรนะ
แสดงว่าไม่เคย google เจอ

คันที่เป็นสนิม ผุทะลุ ทั้งคัน

ลองดูครับ มีเคสทำนองนี้มาหลายปี หลายรุ่นแล้ว แต่ก็ไม่เห็นปรับปรุงอะไรนะ อาจไม่ได้เป็นทุกคัน แต่มีเรื่อยๆนะ


คนนี้แกปกป้องฮอนด้าตลอดครับ  ใครพูดถึงฮอนด้าอะไรนี่ไม่ได้

คุณ​ รู้​ ปริมาณ  สนิมเหรอ​ หรือมโน​ Google​ อีก
ส่วนรถที่​ ผุ​   หลายๆคัน​ มีนก้มีต้นิิตาสาเหตุต่างกันไป
ถึงบอก​ให้​ วเคราะห์แยกแยะ

ผมปกป้อง​ Honda.​ จากการ  โจมตี​ ที่​ เกินความเป้นจริงครับ

CVT.​ ขาดมีทุกค่ายครับ​ หาจะหาจาก​ Google​นะ​ เพราะมันก้มีคนพังมาโพส​ คนไม่พังก้ไม่โพส
อีกอย่าง​ มันก้ไม่ได้ได้ขาดในรถใหม่​ ดังนั้นอย่า​ โจมตีให้เมินเกินความเป้นจริง

แค่คุณบอกรถหม้อน้ำร​้​อน​ 100​  ปกตินี่​ คุณผิดแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2021, 11:27:06 โดย mamaman »

ออฟไลน์ nnss

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 501
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 11:19:00 »
กลายเป็นมาม่าซะงั้น
ส่วนตัวคิดว่าหากมองจากมุมมองคนไม่รู้เรื่องรถมาก แต่ก็พอตามข่าวอยู่บ้าง ยังไงฮอนด้าก็จริงใจในการแก้ปัญหาให้ลูกค้ามากกว่ามาสด้าเยอะครับ
และแน่นอนไม่ฟ้องลูกค้ากลับ ไม่เอารถ3คันมาเทียบแล้วบอกว่าถ้าเป็นเหมือนกันก็ปกติ (รถมันห่วยนะ จะปกติได้ไง)
cx... ป้ายแดงดับต่อหน้าเกือบชนท้ายเขาผมก็เจอมากับตัว

ส่วนฮอนก็ตามอ่านมาอยู่เหมือนกัน 70%+ ลูกค้าแจ้ง เคลมต่างๆ ยอมเคลมแต่โดยดี บางทีมี recall กลับไปด้วยซ้ำ มาสด้านี่อย่าหวังครับ ได้แต่บ่น รวมตัวฟ้องก็แล้ว

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 11:22:53 »
ในฐานะที่เป็นวิศวกรออกแบบนะครับ (ไม่ใช่สายยานยนต์ เเต่น่าจะคล้ายๆกัน โดนเหมือนกัน)

ผมบอกได้เลย โดนฝ่ายขายตัดของออกไปเยอะ เนื่องจากทำราคาไม่ได้
CVT Oil Cooler ทีมวิศวกรเขาอาจจะบอกจำเป็นก็ได้ เเต่ดันโดนตัดออกเพราะ ลด cost รวมๆ ทีละชิ้นๆ

ยกตัวอย่าง เช่น Teana J32 ที่ขายในไทยไม่ติด Oil Cooler มาให้, เเต่ใน Malay ดันติด Oil Cooler มาให้ (ที่ Malay brand Mazda และ Nissan ดีกว่าในไทย ขายแพงกว่า Honda อีก)
ประเทศเมืองร้อนเหมือนกันครับ


และการติด CVT Oil Cooler ที่ดีควรติดแบบเป็นคอยล์ Heat Exchanger + พัดลม แยกระบบ แยกวงจร
ไปติดรวมกันหม้อน้ำ มันจะกลายเป็น CVT Oil Heater ละ ไม่ใช่ Cooler เพราะมันร้อนกว่าอีก แถมถ้ารั่วขึ้นมานี่ ปนกันเละเทะ

ถ้าคุณเป้นวิศวกร​ คุณจะต้องรู้ว่าเหตุใด​ OEM.​ สามารถ​ OEM.​ ใช้​ น้ำหม้อน้ำมา​ ระบายความร้อนให้​ เกียร์ครับ
แล้วทำไมโจมตีแต่​ ฮอนด้า​ ทัังๆ​ที่​   CVT.​ค่ายอื่นก้ไม่ใส่
 วิศวกร​ โง่สินะ​ ที่ไม่ใส่มา​
เห้นมีแต่คนเก่งกว่า​ วิศวกรผู้ผลิตทั้งนั้น​
รถ​ CVT.ผมทักคันก้ไม่มี​ ออยเกียรแยกนะ
 แต่​ ทุกอย่างล่วนมีอายุการใข้งานของมัน​ พอถึงจุดนึง​มันก้พัง​ ออยเกียรแยกในเทีบน่า​ เป้นระบบ​ ที่มี​ ส่วนนึงเชื่อมหม้อน้ำไปแลกเปลี่ยนความร้อนด้วยครับท่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2021, 11:26:08 โดย mamaman »

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,154
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 11:58:08 »
ในฐานะที่เป็นวิศวกรออกแบบนะครับ (ไม่ใช่สายยานยนต์ เเต่น่าจะคล้ายๆกัน โดนเหมือนกัน)

ผมบอกได้เลย โดนฝ่ายขายตัดของออกไปเยอะ เนื่องจากทำราคาไม่ได้
CVT Oil Cooler ทีมวิศวกรเขาอาจจะบอกจำเป็นก็ได้ เเต่ดันโดนตัดออกเพราะ ลด cost รวมๆ ทีละชิ้นๆ

ยกตัวอย่าง เช่น Teana J32 ที่ขายในไทยไม่ติด Oil Cooler มาให้, เเต่ใน Malay ดันติด Oil Cooler มาให้ (ที่ Malay brand Mazda และ Nissan ดีกว่าในไทย ขายแพงกว่า Honda อีก)
ประเทศเมืองร้อนเหมือนกันครับ


และการติด CVT Oil Cooler ที่ดีควรติดแบบเป็นคอยล์ Heat Exchanger + พัดลม แยกระบบ แยกวงจร
ไปติดรวมกันหม้อน้ำ มันจะกลายเป็น CVT Oil Heater ละ ไม่ใช่ Cooler เพราะมันร้อนกว่าอีก แถมถ้ารั่วขึ้นมานี่ ปนกันเละเทะ
นิสสัน j32 ผมใช้มา มันแย่ตั้งแต่งานออกแบบ ยันการบริหารเลยครับ
ออยเกียร์นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหานะ เพราะเครื่องไม่ทันร้อนเกียร์ก็ออกอาการแล้ว

คนที่โง่อีกคนก็คือผมนี่แหละ ที่ดันไปซื้อ


ส่วน honda กับสนิม ทำได้ก็ทำไปครับถ้ามันก่อปัญหา สักวันกรรมจะตามสนองแบบนิสสันครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 13:02:15 »
ในฐานะที่เป็นวิศวกรออกแบบนะครับ (ไม่ใช่สายยานยนต์ เเต่น่าจะคล้ายๆกัน โดนเหมือนกัน)

ผมบอกได้เลย โดนฝ่ายขายตัดของออกไปเยอะ เนื่องจากทำราคาไม่ได้
CVT Oil Cooler ทีมวิศวกรเขาอาจจะบอกจำเป็นก็ได้ เเต่ดันโดนตัดออกเพราะ ลด cost รวมๆ ทีละชิ้นๆ

ยกตัวอย่าง เช่น Teana J32 ที่ขายในไทยไม่ติด Oil Cooler มาให้, เเต่ใน Malay ดันติด Oil Cooler มาให้ (ที่ Malay brand Mazda และ Nissan ดีกว่าในไทย ขายแพงกว่า Honda อีก)
ประเทศเมืองร้อนเหมือนกันครับ


และการติด CVT Oil Cooler ที่ดีควรติดแบบเป็นคอยล์ Heat Exchanger + พัดลม แยกระบบ แยกวงจร
ไปติดรวมกันหม้อน้ำ มันจะกลายเป็น CVT Oil Heater ละ ไม่ใช่ Cooler เพราะมันร้อนกว่าอีก แถมถ้ารั่วขึ้นมานี่ ปนกันเละเทะ
นิสสัน j32 ผมใช้มา มันแย่ตั้งแต่งานออกแบบ ยันการบริหารเลยครับ
ออยเกียร์นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหานะ เพราะเครื่องไม่ทันร้อนเกียร์ก็ออกอาการแล้ว

คนที่โง่อีกคนก็คือผมนี่แหละ ที่ดันไปซื้อ


ส่วน honda กับสนิม ทำได้ก็ทำไปครับถ้ามันก่อปัญหา สักวันกรรมจะตามสนองแบบนิสสันครับ

J32.​ เกียรตัวเดียวกัย​ Lancer.​EX
ไม่มีออยเกียร​ เหมือนกัน
แต่กำหนด​ ระยะเปลี่ยนถ่ายต่างกัน
แต่ดันใช้​ น้ำมันเกียรคนละตัวกัน

EX.​   เปลี่ยนที่  40000
j32  ใช้​ นมก​ คนละเกรด​ และกำหนด​ ระยะเปลี่ยนถ่ายยาวกว่า​ มันจะรอดไหมครับ​ บอกจนปากเปียกปากแฉะ

การที่เอาน้ำหม้อน้ำอุณภูมิ​ 90​ มาใส่ระบบออยเกียร​ วิศวกรย่อมรู้ดี​ ถึง​ ข้อควรระวัง

ผมถึงบอกออยเกียรนะคือแพะ​  อ้างปกปิดความผิด ค่ายอื่นไม่ติดไม่เห้นจะพัง

ส่วนสนิม
ฮอนด้า​เค้าอธิบายไว้แล้ว​ใครไม่พอใจก้เคลมได้หมด
อยู่​ ที่เราจะเชื่อ​ OEM.

แต่ที่ผมรู้  รถผมชนตัวถังแหกเป้นสนิ​มมา​ 5​ ปีมันก้ไม่ผุถ้าไม่ได้แช่น้ำ จานเบรคก้ไม่ผุถ้าไม่แช่น้ำำ​ หรือ​ ราดน้ำเกลือ​หรือ​ ส่วนซ่อนเร้นในรถ​ ที่ไม่แม้กระทั่งพ่นสีเหล้กเปลือยๆเลยมันก้ไม่ผุถ้าไม่แช่น้ำ
ดังนั่นการ​ มโน​ควรมีขอบเขต​ อย่าโอเวอรกันจนเกินไป

ออฟไลน์ LapisLazuli

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 13:21:42 »
ในฐานะที่เป็นวิศวกรออกแบบนะครับ (ไม่ใช่สายยานยนต์ เเต่น่าจะคล้ายๆกัน โดนเหมือนกัน)

ผมบอกได้เลย โดนฝ่ายขายตัดของออกไปเยอะ เนื่องจากทำราคาไม่ได้
CVT Oil Cooler ทีมวิศวกรเขาอาจจะบอกจำเป็นก็ได้ เเต่ดันโดนตัดออกเพราะ ลด cost รวมๆ ทีละชิ้นๆ

ยกตัวอย่าง เช่น Teana J32 ที่ขายในไทยไม่ติด Oil Cooler มาให้, เเต่ใน Malay ดันติด Oil Cooler มาให้ (ที่ Malay brand Mazda และ Nissan ดีกว่าในไทย ขายแพงกว่า Honda อีก)
ประเทศเมืองร้อนเหมือนกันครับ


และการติด CVT Oil Cooler ที่ดีควรติดแบบเป็นคอยล์ Heat Exchanger + พัดลม แยกระบบ แยกวงจร
ไปติดรวมกันหม้อน้ำ มันจะกลายเป็น CVT Oil Heater ละ ไม่ใช่ Cooler เพราะมันร้อนกว่าอีก แถมถ้ารั่วขึ้นมานี่ ปนกันเละเทะ
นิสสัน j32 ผมใช้มา มันแย่ตั้งแต่งานออกแบบ ยันการบริหารเลยครับ
ออยเกียร์นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหานะ เพราะเครื่องไม่ทันร้อนเกียร์ก็ออกอาการแล้ว

คนที่โง่อีกคนก็คือผมนี่แหละ ที่ดันไปซื้อ


ส่วน honda กับสนิม ทำได้ก็ทำไปครับถ้ามันก่อปัญหา สักวันกรรมจะตามสนองแบบนิสสันครับ

J32.​ เกียรตัวเดียวกัย​ Lancer.​EX
ไม่มีออยเกียร​ เหมือนกัน
แต่กำหนด​ ระยะเปลี่ยนถ่ายต่างกัน
แต่ดันใช้​ น้ำมันเกียรคนละตัวกัน

EX.​   เปลี่ยนที่  40000
j32  ใช้​ นมก​ คนละเกรด​ และกำหนด​ ระยะเปลี่ยนถ่ายยาวกว่า​ มันจะรอดไหมครับ​ บอกจนปากเปียกปากแฉะ

การที่เอาน้ำหม้อน้ำอุณภูมิ​ 90​ มาใส่ระบบออยเกียร​ วิศวกรย่อมรู้ดี​ ถึง​ ข้อควรระวัง

ผมถึงบอกออยเกียรนะคือแพะ​  อ้างปกปิดความผิด ค่ายอื่นไม่ติดไม่เห้นจะพัง

ส่วนสนิม
ฮอนด้า​เค้าอธิบายไว้แล้ว​ใครไม่พอใจก้เคลมได้หมด
อยู่​ ที่เราจะเชื่อ​ OEM.

แต่ที่ผมรู้  รถผมชนตัวถังแหกเป้นสนิ​มมา​ 5​ ปีมันก้ไม่ผุถ้าไม่ได้แช่น้ำ จานเบรคก้ไม่ผุถ้าไม่แช่น้ำำ​ หรือ​ ราดน้ำเกลือ​หรือ​ ส่วนซ่อนเร้นในรถ​ ที่ไม่แม้กระทั่งพ่นสีเหล้กเปลือยๆเลยมันก้ไม่ผุถ้าไม่แช่น้ำ
ดังนั่นการ​ มโน​ควรมีขอบเขต​ อย่าโอเวอรกันจนเกินไป

ผมไม่ได้สายยานยนต์ ผมไม่รู้ตัวเลขเเน่ชัด หรือ Spec ต่างๆของค่ายรถ, ค่ายที่ไม่มี Oil Cooler เขาออาจจะใช้เหล็กเกรดทนความร้อนสูงกว่าก้อได้ หรือน้ำมันเกียร์ที่ทำงานได้ดีที่ Temp สูงกว่าก็ได้
(เเต่ถ้าติด Oil Cooler มาให้ ก้อมีเเต่ผลดีครับ ดีเเล้วๆๆ เพราะยังไงยิ่งอุณหภูมิต่ำ ก้อยิ่งยืดอายุการใช้งาน ไม่ว่าเหล็กเกรดไหนก็ตาม <หมายถึง ไม่ต่ำเกินไปแบบ ติดลบ ไรงี้ เพราะลมเมืองไทยที่ตีเข้าหม้อน้ำมันก้ออยู่ที่ 20-38 C อะเเหละ>)

ผมไม่ได้ว่า Honda นะ ผมใช้ Honda หลายคันด้วย ก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไรใหญ่ๆ
เเต่ที่ผมพยายามจะสื่อ ก็คือ "บางอย่างวิศวกรบอกมันจำเป็น เเต่โดนฝ่ายอื่นตัดออก ให้ทำราคาได้" อันนี้เรื่องจริง โดนมาเเล้ว (เเล้วโทษกูอีกนะ!!!!! !@#$%!)

การเอาน้ำหม้อน้ำมันแลกเปลี่ยนความร้อนกับ Oil Cooler ผมเข้าใจว่า ในเมืองหนาว เขาใส่มาเป็น Oil Heater มากกว่า
เเต่พวกนี้มันต้องมี วาล์ว ควบคุมการไหลอยู่เเล้ว เหมือน Thermostat เเต่ว่าจะโดนตัดออกอีกรึเปล่าเน้อ 55
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2021, 13:25:50 โดย LapisLazuli »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #72 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 13:24:03 »
ผมก้ไม่ได้มาว่า​ มาสด้า​เลยนะ​ 555

แค่รู้สึกว่า  ฮอนด้า​ เจอโจมตี​ เกินความจริงไป

ออฟไลน์ LapisLazuli

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 13:30:06 »
ผมก้ไม่ได้มาว่า​ มาสด้า​เลยนะ​ 555

แค่รู้สึกว่า  ฮอนด้า​ เจอโจมตี​ เกินความจริงไป

เเต่เรื่องสนิม ผมว่ามันผิดปกติ อยากให้รักษาผลประโยชน์ของตัวเองไว้นะครับ ไม่ควรปล่อย
คิดซะว่า "ต่อให้มันไม่เป็นผลเสีย กังวลกันไปเอง กังวลเกินจริง,  อย่างน้อยอนาคตลูกค้า Honda อาจจะได้ให้รถที่เหล็กหนา สีหนา กว่าชาวบ้านเขาก็ได้"

เเต่ที่เขาพูด Honda ทีคนรักผิดปกติ ผมว่าจริงนะ

ตอนพี่ชายซื้อ Jazz GK มาใช้ พูดออกจากปากตัวเองเลย "รถมันก้อไม่ได้ดี เก็บเสียงโคตรเเย่ เข้าโค้งก้อจะล้ม เเข็งก้อเเข็ง ลากรอบ เกียร์เอ๋อๆ" "เเต่ชอบ เเต่รัก ไม่เอาาา จะเอาคันนี้" (function ของ Hatchback ก้อไม่เคยใช้เล้ยยย 55)
ผมก้อไม่ได้ว่าอะไร เขาชอบก็ปล่อยเขา ยังไงเสียเงินไปขนาดนี้ ขอเเค่อย่า regret การตัดสินใจก็พอ
รถพี่ผมคันนี้ยังไม่เจอปัญหาสนิมครับ เเต่รู้สึกได้ว่า สีบาง กว่ารถคันอื่นในบ้าน รู้สึกโดนไรนิดไรหน่อยเป็นสีหลุดเฉยเลย

ปล. รถมันไม่ได้เเย่ขนาดนั้นนะครับ มันก็ดีเเหละๆ ข้อดีก้อมีเยอะเเยะ เเต่ข้อเสียเรื่องการเก็บเสียง กับช่วงล่าง ผมว่าจริงนะ 55
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2021, 13:44:23 โดย LapisLazuli »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #74 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 13:38:33 »
งานประกอบ​  Honda.​ห่วยครับ​ อันนี้จริง
แต่แลกมา​ กับ​ ราคาอะไหล่​ ถูกชัดเจน

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,601
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 14:48:43 »
 อย่าเถียงกันเลยครับข้างบน

  เอาเป็นว่าผมสรุปแบบนี้    ถ้าผมอยากได้รถคันแรกสักคัน   ผมคงชี้ไปที่ TOYOTA  ก่อนดีกว่า  เพราะซ่อมง่าย อะไหล่ถูก รถไว้ใจได้มากกว่า โอกาสเกิดปัญหาน้อย    คุ้มค่าเงินในกระเป๋า   การประกอบเก็บเสียงดีกว่า   ที่สำคัญไม่น่าจะมีปัญหาในด้านการบริการหลังการขาย เหมือนค่าย Mazda   หรือต้องไปถกเถียงกันเรื่องปัญหาเกียร์หรือสนิม เหมือนค่าย Honda 

ถ้า =
      รถ Mazda จะซื้อมาใช้ก็ควรทำใจเรื่องปัญหารถ การบริการหลังการขาย  ค่าบริการ อะไหล่แพงกว่ารถตลาดทั่วไป   รวมถึงต้องมีเบอร์โทรรถสไลด์ฉุกเฉินเอาไว้เลย   วันนึงอาจต้องขึ้นยานแม่  เพราะรถมันไว้ใจไม่ได้ 
       รถ Honda  งานประกอบ อาจไม่ดี ไม่ปราณีต ลดต้นทุนเยอะ  ปัญหาสนิมไม่มีผลต่อการใช้งานหรือความปลอดภัย    แต่เวลาขายต่อถ้าคนซื้อเห็นสนิมทั้งคัน คงไม่มีใครกล้าซื้อ  ถึงซื้อคงราคาต่ำเตี้ยติดดิน   วัสดุ อะไหล่ไม่ทนทาน
 
 ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ  จขกท ที่ถามควรตัดสินขั้นสุดท้ายอีกครั้ง  เพราะเป็นเงินของท่าน แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ซื้อทั้ง 2 ยี่ห้อ เพราะรถซื้อมาใช้งาน ไม่ได้ซื้อมาเป็นภาระ  ประเภทใช้ไปกลุ้มไป จิตตก อย่าซื้อดีกว่า

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,083
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 17:08:07 »
อ่านcommentของแต่ละท่านแล้ว
จขกทไปaltis 1.8sportมั้ยครับ หรือcrossแทนก็ได้


ออฟไลน์ Rollingstones

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: เมษายน 10, 2021, 18:35:23 »
กลายเป็นมาม่าซะงั้น
ส่วนตัวคิดว่าหากมองจากมุมมองคนไม่รู้เรื่องรถมาก แต่ก็พอตามข่าวอยู่บ้าง ยังไงฮอนด้าก็จริงใจในการแก้ปัญหาให้ลูกค้ามากกว่ามาสด้าเยอะครับ
และแน่นอนไม่ฟ้องลูกค้ากลับ ไม่เอารถ3คันมาเทียบแล้วบอกว่าถ้าเป็นเหมือนกันก็ปกติ (รถมันห่วยนะ จะปกติได้ไง)
cx... ป้ายแดงดับต่อหน้าเกือบชนท้ายเขาผมก็เจอมากับตัว

ส่วนฮอนก็ตามอ่านมาอยู่เหมือนกัน 70%+ ลูกค้าแจ้ง เคลมต่างๆ ยอมเคลมแต่โดยดี บางทีมี recall กลับไปด้วยซ้ำ มาสด้านี่อย่าหวังครับ ได้แต่บ่น รวมตัวฟ้องก็แล้ว


เรื่องเอารถ3คันมาเทสนี่เคยได้ยินจากคนรู้จักที่เป็นเจ้าของรถมาเหมือนกันครับ เป็นอินฟูลในไอจี นัดไกล่เกลี่ยเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ผมนี่อึ้งเลย

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 06:04:27 »
อย่าเถียงกันเลยครับข้างบน

  เอาเป็นว่าผมสรุปแบบนี้    ถ้าผมอยากได้รถคันแรกสักคัน   ผมคงชี้ไปที่ TOYOTA  ก่อนดีกว่า  เพราะซ่อมง่าย อะไหล่ถูก รถไว้ใจได้มากกว่า โอกาสเกิดปัญหาน้อย    คุ้มค่าเงินในกระเป๋า   การประกอบเก็บเสียงดีกว่า   ที่สำคัญไม่น่าจะมีปัญหาในด้านการบริการหลังการขาย เหมือนค่าย Mazda   หรือต้องไปถกเถียงกันเรื่องปัญหาเกียร์หรือสนิม เหมือนค่าย Honda 

ถ้า =
      รถ Mazda จะซื้อมาใช้ก็ควรทำใจเรื่องปัญหารถ การบริการหลังการขาย  ค่าบริการ อะไหล่แพงกว่ารถตลาดทั่วไป   รวมถึงต้องมีเบอร์โทรรถสไลด์ฉุกเฉินเอาไว้เลย   วันนึงอาจต้องขึ้นยานแม่  เพราะรถมันไว้ใจไม่ได้ 
       รถ Honda  งานประกอบ อาจไม่ดี ไม่ปราณีต ลดต้นทุนเยอะ  ปัญหาสนิมไม่มีผลต่อการใช้งานหรือความปลอดภัย    แต่เวลาขายต่อถ้าคนซื้อเห็นสนิมทั้งคัน คงไม่มีใครกล้าซื้อ  ถึงซื้อคงราคาต่ำเตี้ยติดดิน   วัสดุ อะไหล่ไม่ทนทาน
 
 ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ  จขกท ที่ถามควรตัดสินขั้นสุดท้ายอีกครั้ง  เพราะเป็นเงินของท่าน แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ซื้อทั้ง 2 ยี่ห้อ เพราะรถซื้อมาใช้งาน ไม่ได้ซื้อมาเป็นภาระ  ประเภทใช้ไปกลุ้มไป จิตตก อย่าซื้อดีกว่า
tOYOTA จากที่มีในบ้านอะไหล่แท้ไม่ถูกกว่ายี่ห้ออื่นครับ บางตัวแพงแบบไม่มีเหตุผลก็มี หลายอย่างแพงกว่าฮอนด้า
 แถมความเห็นส่วนตัวไม่สวยครับ ทั้งกั๊กและแพงไม่มีเหตุผลอะไร ส่วนฮอนด้า สนิมนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้งานความปลอดภัครับปล่อยลามไปถงโครงสร้างตัวถัง บางคันก็ผุ คนออกรถมาใหม่ๆใครอยากใช้รถสนิมขึ้นกันเนาะ
ส่วนมาสด้านี่ศูนย์ในกทม ค่าแรงแพงครับ แต่ ตจว ค่าแรงไม่ได้แพงแบบนนั้น  แล้วเรื่องไว้ใจไม่ได้นั้นผมเหตุญาติพี่น้องหลายคนเค้าออกมาสด้าก็ไม่ได้มีปัญหาจุกจิกอะไร ไม่ได้ดับอะไรหรือมีสนิมขึ้นเหมือนฮอนด้า ปั๊มติ๊กที่ว่าก็ผลิตจกเดนโซ่เครือโตโยต้าแต่ทำไมทำขายให้คนอื่นกับเปราะพังง่ายจัง ถ้ากังวลเรื่องปั๊มติ๊ก ที่เปลี่ยนใช้ของ aftermarket ก็ราคาไม่กี่บาท ปัญหาก็จบแล้ว ไมได้ปัญหาจบยากเหมือนฮอนด้าาหรือฟอร์ดครับ

อ่านcommentของแต่ละท่านแล้ว
จขกทไปaltis 1.8sportมั้ยครับ หรือcrossแทนก็ได้


ครอสมันสวยไม่สู้ CX3 กับซิตี้แฮชแบ็ครับ ถ้าวัยรุ่นซื้อ เป็นใครก็เมิน
ผมก้ไม่ได้มาว่า​ มาสด้า​เลยนะ​ 555

แค่รู้สึกว่า  ฮอนด้า​ เจอโจมตี​ เกินความจริงไป
ไม่ได้โจมตีครับ คนซื้อรถมาไม่ถึงปีสนิมขึ้นถึงจะแก้ได้ยังไงก็ตาม หากคนไม่รู้มันก็ลามไปถึงโครงสร้างครับ ถ้าหากว่าฮอนด้ายอมใส่ใจกับรถ ไม่ลดต้นทุนหนักหน่วงแบบนี้จะไม่โจมตีหรอกครับ

ออฟไลน์ LapisLazuli

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 08:19:04 »
ครั้งเเรกในชีวิต ที่มีปัญหากับศูนย์รถ คือ .... Toyota ครับ, ยังไม่เคยมีปัญหากับ Honda, Nissan เลย

Toyota ที่บ้านผม คุณพ่อใช้ Revo เอาไปเข้าศูนย์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เอากลับมา .... รถเป็นรอย ขูดสีหลุด

เอารถกลับไป ศูนย์บอกว่า น่าจะเป็นตอนล้างรถ ผ้าที่ใช้ล้างรถมีเศษหินติด พ่อไม่รุ้คุยต่อรองได้ถึงไหน สรุปแล้วแก้ให้โดยการลงสีเนียนๆ (ขูดสีออกเป็นรอยหลายจุดอะเนาะ ไม่ทำสีใหม่ทั้งให้คันหรอก) มันก็ไม่ได้เนียนขนาดนั้น ตอนนี้ยังเป็นรอยอยุ่เลย เห็นเเล้วเสียดาย

Vios ของญาติก็เจอแบบเดียวกันครับ

ประสบการคนเราน่าจะไม่เหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2021, 08:21:11 โดย LapisLazuli »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 08:45:19 »
ผมก้ไม่ได้มาว่า​ มาสด้า​เลยนะ​ 555

แค่รู้สึกว่า  ฮอนด้า​ เจอโจมตี​ เกินความจริงไป
ไม่ได้โจมตีครับ คนซื้อรถมาไม่ถึงปีสนิมขึ้นถึงจะแก้ได้ยังไงก็ตาม หากคนไม่รู้มันก็ลามไปถึงโครงสร้างครับ ถ้าหากว่าฮอนด้ายอมใส่ใจกับรถ ไม่ลดต้นทุนหนักหน่วงแบบนี้จะไม่โจมตีหรอกครับ

ผมถึงบอกให้คุณ แยกประเด็น สนิม กับ รถ ผุมันคนละเรื่องกันไง
สนิมนะครับ ไม่ใช้เชื่้อลา จะได้ ลามกันง่าย แล้ว คุณ รู้ไหม ว่า สนิม ที่เจอ ใน รถใหม่ มันเกิดจากอะไร คุณไม่รู้ด้วย ซ้ำ มโน เก่งกว่า ผู้ผลิตไปหมด
การที่ ที่ บอก ลามไปถึงโครงสร้าง นี้ มันคือ การ มโน ล้วนๆ นะครับ
รถผม ชนเหล้กแหก มา หลายปี สนิม มันก็ไม่ลามออกนอกบริเวณครับ ถ้าไม่แช่น้ำ
การผลิตรถ ใช้หลัก วิศกรรม มีการ ทดสอบ ความทนทาน การ กัดกร่อน
แต่อย่าง เดียว ที่ ไม่สามารถ ทดสอบได้ คือ จิตใจ และ ความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด ของ ผู้ใช้นี่ละ

ผมก็ยังยืนยันว่า สนิม ถ้า พิจารณากันดีๆ ต้นเหตุมันมาจาก การเจอน้ำและความชื้นครับ รถใหม่ๆ ที่เจอ อาจเป็นได้ มีข้อผิคพลาดในกระบวนการผลิต และ แน่นอนเคยบอกไปแล้ว Honda ชุบสี ภายในแค่ ชั้นเดียว คือ สีรองพื้นซึ่ง ตอนนี้ ทุกๆ OEM ก็ลดต้นทุนตรงนี้เช่นเดียวกัน

สุดท้าย ผมมองแล้ว คุณก็ไม่ได้ รู้อะไรอยู่ดี เสพแต่ โซเชี่ยว ไม่ได้ รับรู้ ขนาด ปริมาณ ลักษณะ ของ คราบสนิมที่เกิด ว่ามันรุนแรงมากน้อย  แค่ไหน
แต่ก็ฟัน ธง อย่างเดียว ว่า  ลามไปถึงโครงสร้าง ซึ่ง มัน เกินไปมาก ไม่เกินไปหน่อย

ถ้า คุณ จะมาโจมตีเรื่อง สนิมใน City นะครับ
ผมบอกเลย Yaris และ  New Almera ก็ไม่ต่าง กัน กรุณา อย่า ลำเอียงครับ  หา Google ดูได้เลย หรือเข้าไปดูตาม คลับ Facebook ได้เลย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2021, 08:55:41 โดย mamaman »

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,154
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 12:40:02 »
ผมก้ไม่ได้มาว่า​ มาสด้า​เลยนะ​ 555

แค่รู้สึกว่า  ฮอนด้า​ เจอโจมตี​ เกินความจริงไป
ไม่ได้โจมตีครับ คนซื้อรถมาไม่ถึงปีสนิมขึ้นถึงจะแก้ได้ยังไงก็ตาม หากคนไม่รู้มันก็ลามไปถึงโครงสร้างครับ ถ้าหากว่าฮอนด้ายอมใส่ใจกับรถ ไม่ลดต้นทุนหนักหน่วงแบบนี้จะไม่โจมตีหรอกครับ

ผมถึงบอกให้คุณ แยกประเด็น สนิม กับ รถ ผุมันคนละเรื่องกันไง
สนิมนะครับ ไม่ใช้เชื่้อลา จะได้ ลามกันง่าย แล้ว คุณ รู้ไหม ว่า สนิม ที่เจอ ใน รถใหม่ มันเกิดจากอะไร คุณไม่รู้ด้วย ซ้ำ มโน เก่งกว่า ผู้ผลิตไปหมด
การที่ ที่ บอก ลามไปถึงโครงสร้าง นี้ มันคือ การ มโน ล้วนๆ นะครับ
รถผม ชนเหล้กแหก มา หลายปี สนิม มันก็ไม่ลามออกนอกบริเวณครับ ถ้าไม่แช่น้ำ
การผลิตรถ ใช้หลัก วิศกรรม มีการ ทดสอบ ความทนทาน การ กัดกร่อน
แต่อย่าง เดียว ที่ ไม่สามารถ ทดสอบได้ คือ จิตใจ และ ความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด ของ ผู้ใช้นี่ละ

ผมก็ยังยืนยันว่า สนิม ถ้า พิจารณากันดีๆ ต้นเหตุมันมาจาก การเจอน้ำและความชื้นครับ รถใหม่ๆ ที่เจอ อาจเป็นได้ มีข้อผิคพลาดในกระบวนการผลิต และ แน่นอนเคยบอกไปแล้ว Honda ชุบสี ภายในแค่ ชั้นเดียว คือ สีรองพื้นซึ่ง ตอนนี้ ทุกๆ OEM ก็ลดต้นทุนตรงนี้เช่นเดียวกัน

สุดท้าย ผมมองแล้ว คุณก็ไม่ได้ รู้อะไรอยู่ดี เสพแต่ โซเชี่ยว ไม่ได้ รับรู้ ขนาด ปริมาณ ลักษณะ ของ คราบสนิมที่เกิด ว่ามันรุนแรงมากน้อย  แค่ไหน
แต่ก็ฟัน ธง อย่างเดียว ว่า  ลามไปถึงโครงสร้าง ซึ่ง มัน เกินไปมาก ไม่เกินไปหน่อย

ถ้า คุณ จะมาโจมตีเรื่อง สนิมใน City นะครับ
ผมบอกเลย Yaris และ  New Almera ก็ไม่ต่าง กัน กรุณา อย่า ลำเอียงครับ  หา Google ดูได้เลย หรือเข้าไปดูตาม คลับ Facebook ได้เลย

ผมขอพูดเรื่องสนิมนิดนึงนะครับ

อย่าเอารถที่ไม่มีปัญหาเรื่องสนิม มาเป็นบรรทัดฐานว่า คันที่เป็นสนิมจะต้องเป็นแบบนั้นนะครับ
เพราะคันที่ไม่เป็นสนิมมันก็คือไม่เป็น แต่คันที่เป็นก็คือมันเป็นตั้งแต่รถมีรองพื้น เอาอะไรมามั่นใจว่ามันจะไม่ลามครับ

อันนี้อย่าว่าผมโน้นนี้เลยนะครับ อวยชัดๆ
ให้เค้าทำให้ไม่เป็นสนิมเหมือนค่ายอื่นก่อนดีกว่ามั๊ยครับ ถึงบอกว่าไม่ลาม

กลายเป็นมาเถียงกันว่าลามไม่ลาม
ผมว่ามันเกินไป เป็นคือเป็น  จบ

ผมยกเคสให้ฟังนะครับ สมัยก่อนผมสนใจ mazda2 ก็ตัดสินใจว่าจะซื้อดีเซล แต่ข่าวไม่ดี
สมัยนั้นก็แก้ตัวกันเต็มเว็บ โทษน้ำมัน
ก็ไม่ใช่ headlightmag เหรอครับ   สรุปเดี๋ยวนี้ แบะๆๆ  ถ้าผมหลวมตัวซื้อว่าเพราะเชื่อว่าน้ำมันพรีเมี่ยมไม่พอ ใครเสียหาย ใครช่วยผมซ่อม
ดีไม่ดีผมโดนด่าว่าโง่เอง ให้เจ็บใจเล่นอีก
สรุปผมก็ไม่ซื้อ เพราะไม่เชื่อแต่ต้นอยู่แล้วว่าเพราะแค่น้ำมัน อีกอย่างผมก็เห็นปัญหาคาตามาพอควรแล้ว ผมตัดปัญหาไปเลย จบ
สมัยนั้นในเว็บนี้ไม่ใช่เหรอครับที่เถียงกันจะเป็นจะตาย


อันนี้ขอพูดตรงๆแล้วกัน โกธรก็คือโกธร ใครรับฟังเอาไปปรับใช้ก็ได้ประโยชน์ไป
ใครอยากออกรถที่รู้ปัญหาอยู่ก่อนแล้ว ก็ดูแลตัวเองดีๆแล้วกันครับ ขอให้โชคดี

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 13:36:30 »

ผมไม่มีความจำเป้นต้องโกรธอะไรหรอกครับ
แค่พูด​ ปัญหา​ ในระดับ  ความเป้นจริง​ ไม่มีต่อเติม​ เสริม
สนิมมันไม่ลามก้คือมันไม่ลาม​ จะไปพูดมโน​ ว่ามันลามจนตัวถังผุมันก้ไม่ใช่ไง​ เหล้กเปลือยๆ​

กว่ารถมันจะผุ​ มันมีปัจจัยอะไร

สนิมนะมีครับ​
แต่ที่โวยวาย​ ว่า​ รถมันจะผุ​ นี่​ มีคนขับ​ City.สักคนมาพูดไหมเอ่ย

เท่าที่ผมเห็น​ มีแต่ใส่สีตีไข่ให้มันเกินจริง​ มโนปัญหาออกนอกความจริงเกินไป.แค่นั้นละครับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,601
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 14:38:24 »
  ถ้ามีสนิมหรือคราบสนิม     นึกถึงเวลาขายต่อมือ 2 ด้วยนะครับ  คนเห็นก็ไม่มีใครอยากซื้อ ราคาตกมากแน่  ๆ      มีผลชื่อเสียงและราคาตอนมือ 2 แน่ ๆ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 15:04:10 »
  ถ้ามีสนิมหรือคราบสนิม     นึกถึงเวลาขายต่อมือ 2 ด้วยนะครับ  คนเห็นก็ไม่มีใครอยากซื้อ ราคาตกมากแน่  ๆ      มีผลชื่อเสียงและราคาตอนมือ 2 แน่ ๆ

ถ้าแค่คราบ​ มันเช้ดออกได้​ และ​ และไม่มีผลต่อตัวถัง


ผมถึงอยากให้เสพข่าว​ กันแบบมีสติ
ถ้ามีปัญหา​ ไม่สบายใจ​ ก้ไปดูรถคันจริงได้ครับ​ มันไม่ได้​ มีปัญหาอะไร​ ร้ายแรง​ แบบที่วิตกจริตกันเกินไป

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 15:37:10 »
แล้วตกลงสนิม , คราบสนิมเกิดจากอะไรครับ

ถ้ารู้สาเหตุทำไมไม่ทำให้มันไม่มีคราบ ถ้าบอกว่าเช็คออกได้. ทำไมเป็นหลายคัน. ทำไมศูนย์ถึงเคลมทำสีใหม่ ป้ายซิลิโคน

มันเป็นส่วนที่เห็นแล้วไม่สบายใจ แถมยี่ห้ออื่นไม่เป็น. จะไม่ให้กังวลก็แปลกๆนะครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 16:51:42 »
แล้วตกลงสนิม , คราบสนิมเกิดจากอะไรครับ

ถ้ารู้สาเหตุทำไมไม่ทำให้มันไม่มีคราบ ถ้าบอกว่าเช็คออกได้. ทำไมเป็นหลายคัน. ทำไมศูนย์ถึงเคลมทำสีใหม่ ป้ายซิลิโคน

มันเป็นส่วนที่เห็นแล้วไม่สบายใจ แถมยี่ห้ออื่นไม่เป็น. จะไม่ให้กังวลก็แปลกๆนะครับ

การเคลมของศูนย์ก้แค่เช้คคราบออกแล้วพ่นสีทับ
มันก้เป้นหน้าที่​ ที่ต้องรับผิดชอบ
ผู้ผลิตเค้าก้รู้ดี​ ก้ใส่จารบีมาในล้อตหลังๆแล้ว

ถ้าถามว่าคราบนี้เหิดจากอะไร​ ก้ลองย้อนไปอ่านข้อความที่ผมบอกไปแล้ว

CITY​ 2020​ .​ในตลาด​ ตอนนี้​ น่าจะร่วมๆ​ 40000​ คันแล้ว​ ไม่รวม​ HB
 ถ้าสนิมมันเป้นปัญหาใหญ่จริง​ 40000​ คันนี่คงเอาไปเคลมทุกคันละครับ​
อย่างที่บอก​จัดที่เกิดสนิม​ มันเป้นจุด​ อับสายตา​  ทีีอาจเป้นเจตนาของ​  OEM.​   เองที่ปล่อยผ่าน​ QC.​มาโดยไม่คาดคิดว่า​ USER.​ จะมองเห้น

ผมบอกได้แค่ว่า​ คุณภาพรถทุกวัน​ นี้​   ลดต้นทุนลง​ แข่วกันมาก​  น้อย​ OEM.​ทึ่จะลงทุนชุบสีตัวถัง​ 2​ ชั้น​ แบบสมัยก่อน​ หรือให้ซิลิโคนอุดรอยมามาในทุกจุด

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
    • อีเมล์
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 17:10:35 »
แล้วตกลงสนิม , คราบสนิมเกิดจากอะไรครับ

ถ้ารู้สาเหตุทำไมไม่ทำให้มันไม่มีคราบ ถ้าบอกว่าเช็คออกได้. ทำไมเป็นหลายคัน. ทำไมศูนย์ถึงเคลมทำสีใหม่ ป้ายซิลิโคน

มันเป็นส่วนที่เห็นแล้วไม่สบายใจ แถมยี่ห้ออื่นไม่เป็น. จะไม่ให้กังวลก็แปลกๆนะครับ

การเคลมของศูนย์ก้แค่เช้คคราบออกแล้วพ่นสีทับ
มันก้เป้นหน้าที่​ ที่ต้องรับผิดชอบ
ผู้ผลิตเค้าก้รู้ดี​ ก้ใส่จารบีมาในล้อตหลังๆแล้ว

ถ้าถามว่าคราบนี้เหิดจากอะไร​ ก้ลองย้อนไปอ่านข้อความที่ผมบอกไปแล้ว

CITY​ 2020​ .​ในตลาด​ ตอนนี้​ น่าจะร่วมๆ​ 40000​ คันแล้ว​ ไม่รวม​ HB
 ถ้าสนิมมันเป้นปัญหาใหญ่จริง​ 40000​ คันนี่คงเอาไปเคลมทุกคันละครับ​
อย่างที่บอก​จัดที่เกิดสนิม​ มันเป้นจุด​ อับสายตา​  ทีีอาจเป้นเจตนาของ​  OEM.​   เองที่ปล่อยผ่าน​ QC.​มาโดยไม่คาดคิดว่า​ USER.​ จะมองเห้น

ผมบอกได้แค่ว่า​ คุณภาพรถทุกวัน​ นี้​   ลดต้นทุนลง​ แข่วกันมาก​  น้อย​ OEM.​ทึ่จะลงทุนชุบสีตัวถัง​ 2​ ชั้น​ แบบสมัยก่อน​ หรือให้ซิลิโคนอุดรอยมามาในทุกจุด
เข้าใจนะที่แข่งกันลดต้นทุน  แล้วแต่ยี่ห้อไหนจะไปลดอะไร

ฟังแบบนี้ดีเลยครับ  ถ้า oc ปล่อยผ่านโดยไม่คิดว่า user จะมองเห็นยิ่งตัดสินใจง่าย เพราะมีสิ่งที่ user มองไม่เห็นอีกหลายอย่างเลย

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,620
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 17:58:58 »
เคสนี้ถ้าเป็นผมๆ อาจจะเลือก CX-3 ตัว Base หรือ Base+ ครับ

ไม่ใช่ว่ามันทนทานกว่านะครับ แต่เรื่องสนิมนี่ ผมว่ามันไม่ ok จริงๆ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
Re: รถคันแรก ระหว่าง City hatchback vs Mazda CX-3 (หรืออาจจะ CX-30)
« ตอบกลับ #89 เมื่อ: เมษายน 11, 2021, 21:13:57 »
ผมก้ไม่ได้มาว่า​ มาสด้า​เลยนะ​ 555

แค่รู้สึกว่า  ฮอนด้า​ เจอโจมตี​ เกินความจริงไป
ไม่ได้โจมตีครับ คนซื้อรถมาไม่ถึงปีสนิมขึ้นถึงจะแก้ได้ยังไงก็ตาม หากคนไม่รู้มันก็ลามไปถึงโครงสร้างครับ ถ้าหากว่าฮอนด้ายอมใส่ใจกับรถ ไม่ลดต้นทุนหนักหน่วงแบบนี้จะไม่โจมตีหรอกครับ

ผมถึงบอกให้คุณ แยกประเด็น สนิม กับ รถ ผุมันคนละเรื่องกันไง
สนิมนะครับ ไม่ใช้เชื่้อลา จะได้ ลามกันง่าย แล้ว คุณ รู้ไหม ว่า สนิม ที่เจอ ใน รถใหม่ มันเกิดจากอะไร คุณไม่รู้ด้วย ซ้ำ มโน เก่งกว่า ผู้ผลิตไปหมด
การที่ ที่ บอก ลามไปถึงโครงสร้าง นี้ มันคือ การ มโน ล้วนๆ นะครับ
รถผม ชนเหล้กแหก มา หลายปี สนิม มันก็ไม่ลามออกนอกบริเวณครับ ถ้าไม่แช่น้ำ
การผลิตรถ ใช้หลัก วิศกรรม มีการ ทดสอบ ความทนทาน การ กัดกร่อน
แต่อย่าง เดียว ที่ ไม่สามารถ ทดสอบได้ คือ จิตใจ และ ความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด ของ ผู้ใช้นี่ละ

ผมก็ยังยืนยันว่า สนิม ถ้า พิจารณากันดีๆ ต้นเหตุมันมาจาก การเจอน้ำและความชื้นครับ รถใหม่ๆ ที่เจอ อาจเป็นได้ มีข้อผิคพลาดในกระบวนการผลิต และ แน่นอนเคยบอกไปแล้ว Honda ชุบสี ภายในแค่ ชั้นเดียว คือ สีรองพื้นซึ่ง ตอนนี้ ทุกๆ OEM ก็ลดต้นทุนตรงนี้เช่นเดียวกัน

สุดท้าย ผมมองแล้ว คุณก็ไม่ได้ รู้อะไรอยู่ดี เสพแต่ โซเชี่ยว ไม่ได้ รับรู้ ขนาด ปริมาณ ลักษณะ ของ คราบสนิมที่เกิด ว่ามันรุนแรงมากน้อย  แค่ไหน
แต่ก็ฟัน ธง อย่างเดียว ว่า  ลามไปถึงโครงสร้าง ซึ่ง มัน เกินไปมาก ไม่เกินไปหน่อย

ถ้า คุณ จะมาโจมตีเรื่อง สนิมใน City นะครับ
ผมบอกเลย Yaris และ  New Almera ก็ไม่ต่าง กัน กรุณา อย่า ลำเอียงครับ  หา Google ดูได้เลย หรือเข้าไปดูตาม คลับ Facebook ได้เลย
ผมไม่ได้เสพโซเชี่ยลครับ  ผมรู้ว่าสนิมเกิดจากการที่เหล็กหรือโลหะอื่นสัมผัสกับ ออกซิเจนจนทำให้เกิดสนิม  โลหะบางอย่างที่ทำปฏิกริยากับออกซิเจนจนเกิดสนิมหรือคราบออกไซด์ที่ไม่ผุแต่เป็นชั้นฟิล์มด็มีคือ  อลูมิเนียม  เป็นต้น  ทั้งนี้ที่บ้านผมมีรถเก๋า  การที่ปล่อยสนิมจากจุดเล็กๆมันจะลามจนผุได้ครับ  กับอีกอย่างผมด่ามันทุกยี่ห้อนะ มาสด้าก็ด่า  ทั้งการตั้งราคาแพงไปเรื่องความเรื่องมากของการรับประกันรถ  อะไหล่บางอย่างแพง  ส่วนศูนย์  ด่ากราดไม่ได้เพราะหลายศูนย์บริการดีค่าแรงเป็นมิตรแต่หลายศูนย์แถมไม่จบ แต่คุณนี่ปกป้องจนใครว่าฮอนด้าอะไรไม่ได้  หน่อยเถอะซื้อรภมาปีนึงสนิมก็เกิดแล้วใครจะพอใจครับ  ส่งน cvtที่พังแบบขสด  คนที่ขับถนอมดูแลดีก็มีอย่าอ้างเหมาหมดว่าพากันขับไม่เป็นดูแลไม่ดีครับ  ที่ติและแบนบริษัทรถ  เค้าจะได้ปรับปรุงตัวไม่ใช่ปกป้องแบบนี้  สนิมยังไงชั้นก็จะเชียร์  กั๊กและแพงก็จะเชียร์ จะปกป้อง  บริษัทรถมันก็ได้ใจแบบนี้ไงครับ ไม่รู้ผมจะปกป้องบริษัทพวกนี้มันทำไมเค้าไม่ได้ให้เงินเติมน้ำมัน กินข้าว ให้เงินซื้อบ้านสักหน่อย