ท่านคิดว่าโตโยต้าจะลงเอยเหมือนโนเกียหรือเปล่า

Gordon Freeman

ไม่มีทางครับ

อะไรที่ชาวบ้านชาวช่องเค้ามีก่อน เค้าก็มีใน Lexus มาตลอดอยู่แล้ว แค่ยังไม่เอามาลงใน Toyota แค่นั้น
2011 Kawasaki Ninja 650 (Sold)
2012 Ford Fiesta 1.6 Sport Ultimate (Sold)
2013 Suzuki Swift Eco GLX 1.25 (Sold)
2015 Honda Civic 1.8 (Sold)
2017 Toyota Fortuner 2.4 (Sold)
2019 Honda Jazz S MT (Sold)
2020 Nissan Almera VL 1.0T
2022 Isuzu D-Max Cab 4 1.9 AT
2023 Neta V



Symphonic

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical



MacH1

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     



jbrc

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical
ใช่ครับ ช่วง covid นี่แหละ อยู่บ้านนานๆ ขับรถออกจากบ้านไป เติมน้ำมันเต็มถัง กดยาวไปบนถนน  ตอนนี้โล่งมาก ทริป 7-800 กิโลเมตร อยากไปเที่ยวไหน  ก็ไปได้เลย  เครื่องบินเหรอ  ยังระแวงกันอีกนาน  จองตั๋ว แอร์เอเชียบุบเฟ่ไว้ ก็โดเทไปแล้ว  ในไทยตอนนี้ ทางด่วนขึ้นอีกหลายเส้น ภาคอีสานโคราช 250 กม. ก็กดยันยาวๆ แล้ว  ยิ่งระยอง จันทบุรี แถบนั้น ที่เที่ยวเยอะมาก ทางด่วนสะดวกมาก  รถไฟฟ้า ถ้าไม่ได้ 5-600 กิโลเมตรอัพ  แบบกดอัดหนักๆ ได้ ยังไม่น่าซื้อครับ 



mamaman



อ่อ ตามความเห็น ข้างบนไม่ต้อง ซื้อขับรถหรอกครับ
จะไปก็ขึ้นเครื่อง ขึ้นรถไฟครับ ขึ้นแท็กซี่ก็ได้ สบายดีไม่ต้องมาขับ

ปล่อยให้คนที่ชอบขับรถเค้า ขับครับ



deertesla

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical
ใช่ครับ ช่วง covid นี่แหละ อยู่บ้านนานๆ ขับรถออกจากบ้านไป เติมน้ำมันเต็มถัง กดยาวไปบนถนน  ตอนนี้โล่งมาก ทริป 7-800 กิโลเมตร อยากไปเที่ยวไหน  ก็ไปได้เลย  เครื่องบินเหรอ  ยังระแวงกันอีกนาน  จองตั๋ว แอร์เอเชียบุบเฟ่ไว้ ก็โดเทไปแล้ว  ในไทยตอนนี้ ทางด่วนขึ้นอีกหลายเส้น ภาคอีสานโคราช 250 กม. ก็กดยันยาวๆ แล้ว  ยิ่งระยอง จันทบุรี แถบนั้น ที่เที่ยวเยอะมาก ทางด่วนสะดวกมาก  รถไฟฟ้า ถ้าไม่ได้ 5-600 กิโลเมตรอัพ  แบบกดอัดหนักๆ ได้ ยังไม่น่าซื้อครับ
ใช่ครับ  รถไฟฟ้าตอนนี้แบต 500-600  ก็ยัาร์จนาน  ไม่มีใครมาเสียเวลานั่งรอหรอกดไม่คุ้ม ส่วนถนนโล่งอย่ากดเพลินนะครับระวังค่าปรับขับรถเร็วเกินกำหนด  กับอันตรายจากอุบัติเหตุ



อ่อ ตามความเห็น ข้างบนไม่ต้อง ซื้อขับรถหรอกครับ
จะไปก็ขึ้นเครื่อง ขึ้นรถไฟครับ ขึ้นแท็กซี่ก็ได้ สบายดีไม่ต้องมาขับ

ปล่อยให้คนที่ชอบขับรถเค้า ขับครับ
คนชอบขับรถเดินทางมันต่างจากเครื่องบินที่เครื่องบินไม่เห็นวิวทิวทัศน์ และภาพวิถีชุมชนสองข้างทาง  กับอยากแวะไปเทียว2ข้างทางระหว่างก่ารเดินทางไม่ได้  หริออยากเที่ยวแบบสโลไลฟ์ไม่ได้



Symphonic

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     

อยากจะไปไหน มีกุญแจอยู่ในมือก็ขับไปได้เลย
กับอยากจะไป แต่กดจองตั๋ว … อุ๊ย เต็ม
ว้า… มีแต่รอบ … ต้องรอเงกกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง

… อะไรนะ ของฝากเหรอ เดี๋ยวน้ำหนักเกิน อิอิ

ออกรถเดี๋ยวนี้เลย ไม่กี่ ชม. ถึง
จะบินน่ะเหรอ เอิ่มจากบ้านไปสนามบิน กี่นาทีดีน้า…
ต้องเช็คอินก่อนเครื่องออกกี่ชั่วโมง..
.. อ้อ! ลืมอะไรป่าว ไอ่นั่น ไอ่นี่ ขึ้นเครื่องไม่ได้น้าาาา

… ลงเครื่องมา รอกระเป๋ากี่นาทีดี…

เอ… แล้วรถเช่าล่ะ ทำเรื่อง กรอกแบบฟอร์ม ตรวจรับรถ
แหม…. สะดวกจริงจริ๊งงงง

5555++



a601970

เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามในเวปบอร์ดที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์
ย่อมเป็นธรรมดาที่คำตอบจะเป็นไปในทิศทางปกป้องธุรกิจรถยนต์เสมอ
เพราะธรรมชาติของธุรกิจใดๆก็ตามต้องปกป้องผลประโยชน์ของวงการตนเองอยู่แล้ว
ลองตั้งคำถามนี้กับแวดวงอุตสาหกรรมองค์รวมที่ไม่จำเพาะกับรถยนต์ดูครับ
คำตอบที่ได้จะเพิ่มโลกทัศน์กว่าในเวปบอร์ดนี้ครับ



คุณ นมๆ

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     
โคตรจะ practical เลยครับตอนนี้ ไม่มีใครอยากอยู่บ้านกันแล้ว คนกลุ่มที่มีเงินแล้วWFHกันตอนนี้อพยพกันมาWFHตจว.กันทั้งนั้นอย่างผมนี่อยู่หัวเมืองชายทะเลคอนโดเยอะๆ คนกรุงคือเกลื่อน รถที่วิ่งนี่ทะเบียนกทม.ทั้งนั้น



deertesla

เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามในเวปบอร์ดที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์
ย่อมเป็นธรรมดาที่คำตอบจะเป็นไปในทิศทางปกป้องธุรกิจรถยนต์เสมอ
เพราะธรรมชาติของธุรกิจใดๆก็ตามต้องปกป้องผลประโยชน์ของวงการตนเองอยู่แล้ว
ลองตั้งคำถามนี้กับแวดวงอุตสาหกรรมองค์รวมที่ไม่จำเพาะกับรถยนต์ดูครับ
คำตอบที่ได้จะเพิ่มโลกทัศน์กว่าในเวปบอร์ดนี้ครับ
ไม่เกี่ยวหรอก รถไฟฟ้าเอาให้มันตอบคนส่วนใหญ่บนโลกให้ได้ก่อนเถอะ ราคา ระยะทางต่อการชาร์จ ระยะเวลาการชาร์จ. ความจุแบต. จะเอาแต่ความต้องการของคนส่วนน้อยที่มีเงินเป็นถัง ขับไปห้างจ่ายกับข้าวมี่ฝที่ชาร์จในบ้านส่วนตัวมันเป็นไปไม่ได้หรอก. อีกอย่างรถไฟฟ้าตอนนี้รักษ์โลกจริงหรือ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2021, 23:38:31 โดย deertesla »



MacH1

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     

อยากจะไปไหน มีกุญแจอยู่ในมือก็ขับไปได้เลย
กับอยากจะไป แต่กดจองตั๋ว … อุ๊ย เต็ม
ว้า… มีแต่รอบ … ต้องรอเงกกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง

… อะไรนะ ของฝากเหรอ เดี๋ยวน้ำหนักเกิน อิอิ

ออกรถเดี๋ยวนี้เลย ไม่กี่ ชม. ถึง
จะบินน่ะเหรอ เอิ่มจากบ้านไปสนามบิน กี่นาทีดีน้า…
ต้องเช็คอินก่อนเครื่องออกกี่ชั่วโมง..
.. อ้อ! ลืมอะไรป่าว ไอ่นั่น ไอ่นี่ ขึ้นเครื่องไม่ได้น้าาาา

… ลงเครื่องมา รอกระเป๋ากี่นาทีดี…

เอ… แล้วรถเช่าล่ะ ทำเรื่อง กรอกแบบฟอร์ม ตรวจรับรถ
แหม…. สะดวกจริงจริ๊งงงง

5555++

ผมมองว่า บรรยากาศบนไฟล์ท in-cabin ambient วิวมันก็ดีย์ 8) อ๋อ บินดอม ทำไมไม่บิน premier flex กัน จ่ายเพิ่มอีกนิด board ก่อน ออกจากเครื่องก่อน  จิงๆนี่ขั้นตอนหลายอย่างมันรอนานมากขนาดนั้นจน ขับรถเองเร็วกว่า? จิงๆต้องรอ board กี่นาที แลนด์เส็ดรอกระเป๋ากี่นาทีหว่า

ขับรถกันจนตาแพนด้าขึ้นเหนือสุด ปรากฏนั่งเครื่อง low cost ทั้ง 737 (ที่มีลีลาการแลนด์แบบตื่นเต้นเล็กน้อย) กะ 320 (หางแดง's choice) ถึงก่อนนานแล้ว เอารถเช่าออกมาขับไปเที่ยวก่อนตั้งกี่ชั่วโมงแล้วหว่า

คนละมุมมอง   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2021, 23:52:15 โดย Nathal Goldstein »



MacH1

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     
โคตรจะ practical เลยครับตอนนี้ ไม่มีใครอยากอยู่บ้านกันแล้ว คนกลุ่มที่มีเงินแล้วWFHกันตอนนี้อพยพกันมาWFHตจว.กันทั้งนั้นอย่างผมนี่อยู่หัวเมืองชายทะเลคอนโดเยอะๆ คนกรุงคือเกลื่อน รถที่วิ่งนี่ทะเบียนกทม.ทั้งนั้น

ถ้าเมืองชายทะเลไม่มีปัญหานะคับ เห็นประจำ ชิลๆ แต่ยิงยาวขึ้นไปกลับ CNX คุ้มหรอออ ผมมองไม่คุ้มเลย ถึงโควิดจบแล้วก็ไม่คุ้มในยุคที่มี choice ไวกว่าเยอะ 



Teera

อ่านมา 3 หน้า พบว่า หลายๆโพส
 
1 เอาความคิดตัวเอง เป็นที่ตั้ง
2 ไม่ยอมรับความคิดคนอื่น หรือ ดูถูก
3 ตอบไม่ตรงคำถาม

เราสามารถเสนอ ความคิด ความเห็น โดย ไม่ดูถูกความคิดคนอื่นได้ไหมครับ
หรือ มันต้องเป็นแบบนี้

ตอบคำถามครับ

ส่วนตัวคิดว่า ไม่มีทางครับ
ธุรกิจ ที่ ล้มเหลว เพราะ Technology ส่วนใหญ่ จะเป็น ธุรกิจ ที่
1 ผูกกับ Technology 100%
2 ปรับตัวช้า

ตัวอย่างองค์กรก็  Kodak หรือ ตัวอย่างอาชีพ ก็ไกด์นำเที่ยว Kodak โดน คว่ำโดย Digital Technology ทั้งๆที่ตัวเอง เป็นคคิด Immage sensor หรือ ไกด๋ นำเที่ยว ที่ ไมมีงานเพราะ Google map

แต่ ก็มีหลายตัวที่ไปได้ เช่น Garmin รู้ว่า map จะโดน Google สอย ก็เปลี่ยนตัวเองมาทำ Gadget ออกกำลังกาย

ส่วนรถยนต์ การ Tranform เป็นรถไฟฟ้า มาแน่ แต่ มันก็มานานแล้ว นับอายุ เอาที่ออกขาย ก็เป็น 20 ปีแล้วครับ
ปัญหาหลักคือ คอขวดของ ความจุแบ๊ต และ เวลาการชาร์ท มันดีขึ้น แต่ มันไม่ Flexible 100% เหมือนน้ำมัน

อนาคตผมว่า มันก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ จะมาแทนน้ำมันเลย ต้องใช้เวลา หรือ จนกว่าจะมีใคร คิด อะไร ที่มันกำเนิดไฟฟ้า ได้ ดีกว่านี้ ไม่รู้ครับ เป็นเรื่องอนาคต

Toyota Supply Chain มหาศาล เค้าประกาศไม่ได้หรอกครับ ว่าจะไป EV ปีโน้น ปีนั้น เหมือนเจ้าอื่น ประกาศแล้วมันป่วน ประธานเค้า ยังไงก็ต้องพูดแบบนี้

แต่ดูจากหลายๆ Techonogy แล้ว ผมว่า เค้า ซุ่มอยุ่ แน่นอน และ น่าจะดี ทั้งคุณภาพ และราคา ด้วย ตาม Style พี่โต







no7749

คือ เอาจริงๆ มีโครงการทำเรื่องนี้มาเยอะมากที่ TDEM มานานล่ะ

เรื่อง EV ต่างๆ คือทาง Toyota เค้าเตรียมเรื่องนี้มานานล่ะ แต่ต้องดูจังหวะในการให้ข่าวออกมาด้วย เพราะว่าออกข่าวเรื่องหนึ่งก็จะมีผลกระทบเยอะ



mongolias

การพัฒนารถสักรุ่นขึ้นมา มันไม่ใช้โตโยต้า พัฒนาเองทั้งหมดครับ
แต่มันมีหลายองค์ประกอบ หลาย Supplier หลายวิธีการที่เอาทำงานร่วมกันครับ



คุณ นมๆ

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     
โคตรจะ practical เลยครับตอนนี้ ไม่มีใครอยากอยู่บ้านกันแล้ว คนกลุ่มที่มีเงินแล้วWFHกันตอนนี้อพยพกันมาWFHตจว.กันทั้งนั้นอย่างผมนี่อยู่หัวเมืองชายทะเลคอนโดเยอะๆ คนกรุงคือเกลื่อน รถที่วิ่งนี่ทะเบียนกทม.ทั้งนั้น

ถ้าเมืองชายทะเลไม่มีปัญหานะคับ เห็นประจำ ชิลๆ แต่ยิงยาวขึ้นไปกลับ CNX คุ้มหรอออ ผมมองไม่คุ้มเลย ถึงโควิดจบแล้วก็ไม่คุ้มในยุคที่มี choice ไวกว่าเยอะ
ความคุ้มแต่ละคนมันไม่เหมือนกันครับ ใครที่เขาขับไกล600กว่ากิโลได้เขาก็ขับได้ซึ่งคนค่อนประเทศเขาทำกันได้ จะไปตีตราคนที่ทำแบบนี้ไม่ practical ผมว่ามันไม่ถูกครับ

คุณอาจจะเหนื่อยขับไม่ไหวนั่งเครื่องดีกว่า แต่สำหรับอีกหลายๆคนเขามีความสุขกับการนั่งรถครับ



Lammerison

ไม่มีทาง

ปล.โนเกีย แค่หายออกไปจากตลาดขายเครื่องโทรศํพท์ แต่ระบบที่เป็น back bone ของการสื่อสารไร้สาย nokia ก็ยังทำมาหากินปกติ


ไม่ได้กลายเป็นบริษัทล้มละลาย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแบบ KODAK

ส่วนโตโยต้า ยอดขายปีละ 10 ล้านคัน เป็น EV ล้วนซักกี่คัน ขายไม่ EV ล้วนไม่ได้แล้วยังไง ยังมียอดขายมาจากรถเครื่อง ICE อยู่



NS

Kodak กับ​ Toyota ต่างกันมากมาย
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ



PaPaMan


ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     
โคตรจะ practical เลยครับตอนนี้ ไม่มีใครอยากอยู่บ้านกันแล้ว คนกลุ่มที่มีเงินแล้วWFHกันตอนนี้อพยพกันมาWFHตจว.กันทั้งนั้นอย่างผมนี่อยู่หัวเมืองชายทะเลคอนโดเยอะๆ คนกรุงคือเกลื่อน รถที่วิ่งนี่ทะเบียนกทม.ทั้งนั้น

ถ้าเมืองชายทะเลไม่มีปัญหานะคับ เห็นประจำ ชิลๆ แต่ยิงยาวขึ้นไปกลับ CNX คุ้มหรอออ ผมมองไม่คุ้มเลย ถึงโควิดจบแล้วก็ไม่คุ้มในยุคที่มี choice ไวกว่าเยอะ
ความคุ้มแต่ละคนมันไม่เหมือนกันครับ ใครที่เขาขับไกล600กว่ากิโลได้เขาก็ขับได้ซึ่งคนค่อนประเทศเขาทำกันได้ จะไปตีตราคนที่ทำแบบนี้ไม่ practical ผมว่ามันไม่ถูกครับ

คุณอาจจะเหนื่อยขับไม่ไหวนั่งเครื่องดีกว่า แต่สำหรับอีกหลายๆคนเขามีความสุขกับการนั่งรถครับ
เป็นกระทู้กลายพันธุ์ไปล่ะ ... หลังๆเห็นมีเถียงกันเรื่องไปเชียงใหม่นั่งเครื่องบิน (ต้องหางแดงด้วย เพราะตัวเองขับอยู่) ดีกว่าขับรถไปเอง หรือขับรถไปเองดีกว่า


ก็ชอบมองในมุมมองของตนเองกันโดยไม่ได้มองในมุมคนอื่น ทั้งสองวิธีก็เหมาะสมกับแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน ไม่มีทางไหนดีที่สุดครับ


เดินทางคนเดียวหรือ 2 คนอาจมองว่านั่งเครื่องดีกว่า ถึงเร็วกว่า เช่ารถอีก 2-3 วันค่าใช้จ่ายอาจจะไม่มาก


แต่ถ้าไปทั้งครอบครับ 5-6 คน ค่าเครื่องบินเพิ่มอีกเท่าไหร่ล่ะครับ แล้วถ้าไปเที่ยวอีก 1 สัปดาห์ ค่าเช่ารถอีกเท่าไหร่ล่ะครับ ดังนั้นการลงแรงขับรถ MPV ไปซักคัน (ถ้าที่บ้านมีรถอยู่แล้ว) กับระยะทาง 700 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 9 ชม. เทียบกับค่าเครื่องบิน + ค่าเช่ารถ 7 ที่นั่งอีกหลายวัน ไม่นับความสะดวกในการแวะเที่ยวตามรายทางก่อนถึง ชม.อีก แบบนี้ขับรถไปเองน่าจะคุ้มกว่า


เมื่อก่อนผมก็ชอบขับรถเที่ยวทางเหนือแบบไปกันทั้งครอบครับ 5 คน ก็หลายรอบแล้วครับ คุ้มกว่าบินแล้วเช่ารถขับแน่นอน


ส่วนอะไรที่จะมา disruption การบินได้ ผมว่าน่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูงมากกว่าครับ ถ้ามี hispeed train เมื่อไหร่ การบินในประเทศจะเดี้ยงอีกเยอะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2021, 11:12:56 โดย PaPaMan »



SM.

Network ของ Toyota นี่ยิ่งใหญ่มากๆนะครับ เรียกว่ามีครบทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์เลย เค้าไม่ล้มง่ายๆหรอกครับ



mamaman

คุย เรื่อง รถ EV

ไหน ลากไป นั่งเครื่อง กับ รถไฟ ได้ เนี่ย ช่างมีความ พยายามในการเอาชนะอย่างสูงสุด
คำถาม ง่ายๆ รถ EV มันยังไม่เหมาะให้ขับไกล คนจึงยัง ต้องการ Hybrid และ รถน้ำมัน
หากจะโต้แย้งด้วยการ หารถ EV ที่ มันวิ่งได้ไกลเท่าน้ำมัน แล้ว ราคา ไล่เลี่ยกัน ทดแทนกันได้มา
ไม่ใช่ บอก ไปนั่งเครื่องบิน หรือ รถไฟ ไหม มันออกทะเล แบบ นอกคำถามอย่างแรง



Teera

คุย เรื่อง รถ EV

ไหน ลากไป นั่งเครื่อง กับ รถไฟ ได้ เนี่ย ช่างมีความ พยายามในการเอาชนะอย่างสูงสุด
คำถาม ง่ายๆ รถ EV มันยังไม่เหมาะให้ขับไกล คนจึงยัง ต้องการ Hybrid และ รถน้ำมัน
หากจะโต้แย้งด้วยการ หารถ EV ที่ มันวิ่งได้ไกลเท่าน้ำมัน แล้ว ราคา ไล่เลี่ยกัน ทดแทนกันได้มา
ไม่ใช่ บอก ไปนั่งเครื่องบิน หรือ รถไฟ ไหม มันออกทะเล แบบ นอกคำถามอย่างแรง

สังเกตุได้ครับ ว่า มันจะมีคนเปิด หน้าเดิมๆ ตลอดดดดดดครับ



deertesla


ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

นึกอยากไปตอนนี้ แล้วจริงๆไปเที่ยวตอนนี้มัน practical หรอคับ ถึงบินไม่ได้ ผมก็ไม่ขับรถอยู่ดีเพราะ ลงทุนขับยาวขนาดนั่นเพื่อไปเที่ยวในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ practical สำหรับผม  สถานการณ์กลับมาปกติยิ่งโคตรไม่ make sense สู้เสียเวลาบนไฟล์ทแพร๊บๆถึงแล้ว อยากขับรถเที่ยวใน CNX ก็เช่ารถเอา ไม่ต้องกังวล รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุโน้นนี้     
โคตรจะ practical เลยครับตอนนี้ ไม่มีใครอยากอยู่บ้านกันแล้ว คนกลุ่มที่มีเงินแล้วWFHกันตอนนี้อพยพกันมาWFHตจว.กันทั้งนั้นอย่างผมนี่อยู่หัวเมืองชายทะเลคอนโดเยอะๆ คนกรุงคือเกลื่อน รถที่วิ่งนี่ทะเบียนกทม.ทั้งนั้น

ถ้าเมืองชายทะเลไม่มีปัญหานะคับ เห็นประจำ ชิลๆ แต่ยิงยาวขึ้นไปกลับ CNX คุ้มหรอออ ผมมองไม่คุ้มเลย ถึงโควิดจบแล้วก็ไม่คุ้มในยุคที่มี choice ไวกว่าเยอะ
ความคุ้มแต่ละคนมันไม่เหมือนกันครับ ใครที่เขาขับไกล600กว่ากิโลได้เขาก็ขับได้ซึ่งคนค่อนประเทศเขาทำกันได้ จะไปตีตราคนที่ทำแบบนี้ไม่ practical ผมว่ามันไม่ถูกครับ

คุณอาจจะเหนื่อยขับไม่ไหวนั่งเครื่องดีกว่า แต่สำหรับอีกหลายๆคนเขามีความสุขกับการนั่งรถครับ
เป็นกระทู้กลายพันธุ์ไปล่ะ ... หลังๆเห็นมีเถียงกันเรื่องไปเชียงใหม่นั่งเครื่องบิน (ต้องหางแดงด้วย เพราะตัวเองขับอยู่) ดีกว่าขับรถไปเอง หรือขับรถไปเองดีกว่า


ก็ชอบมองในมุมมองของตนเองกันโดยไม่ได้มองในมุมคนอื่น ทั้งสองวิธีก็เหมาะสมกับแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน ไม่มีทางไหนดีที่สุดครับ


เดินทางคนเดียวหรือ 2 คนอาจมองว่านั่งเครื่องดีกว่า ถึงเร็วกว่า เช่ารถอีก 2-3 วันค่าใช้จ่ายอาจจะไม่มาก


แต่ถ้าไปทั้งครอบครับ 5-6 คน ค่าเครื่องบินเพิ่มอีกเท่าไหร่ล่ะครับ แล้วถ้าไปเที่ยวอีก 1 สัปดาห์ ค่าเช่ารถอีกเท่าไหร่ล่ะครับ ดังนั้นการลงแรงขับรถ MPV ไปซักคัน (ถ้าที่บ้านมีรถอยู่แล้ว) กับระยะทาง 700 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 9 ชม. เทียบกับค่าเครื่องบิน + ค่าเช่ารถ 7 ที่นั่งอีกหลายวัน ไม่นับความสะดวกในการแวะเที่ยวตามรายทางก่อนถึง ชม.อีก แบบนี้ขับรถไปเองน่าจะคุ้มกว่า


เมื่อก่อนผมก็ชอบขับรถเที่ยวทางเหนือแบบไปกันทั้งครอบครับ 5 คน ก็หลายรอบแล้วครับ คุ้มกว่าบินแล้วเช่ารถขับแน่นอน


ส่วนอะไรที่จะมา disruption การบินได้ ผมว่าน่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูงมากกว่าครับ ถ้ามี hispeed train เมื่อไหร่ การบินในประเทศจะเดี้ยงอีกเยอะครับ
ผมชอบความเห็นนี้ครับ. ขับรถเองพร้อมครอบครัว จะได้ชมวิวทิวทัศน์สวยๆสองข้างทางด้วยครับ. ไม่งั้น ประชาชนในพันทิปกับยูทูปเบอร์ทั้งหลายทำไมถึงพากันถ่ายทอดออกมาเยอะ เช่นโค้งแม่ฮ่องสอน ขึ้นเขาภูทับเบิกนี่  ขับชมป่าทั้งหลาย



XaNaX

เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามในเวปบอร์ดที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์
ย่อมเป็นธรรมดาที่คำตอบจะเป็นไปในทิศทางปกป้องธุรกิจรถยนต์เสมอ
เพราะธรรมชาติของธุรกิจใดๆก็ตามต้องปกป้องผลประโยชน์ของวงการตนเองอยู่แล้ว
ลองตั้งคำถามนี้กับแวดวงอุตสาหกรรมองค์รวมที่ไม่จำเพาะกับรถยนต์ดูครับ
คำตอบที่ได้จะเพิ่มโลกทัศน์กว่าในเวปบอร์ดนี้ครับ
เวลาจะเป็นเครื่องชี้วัดเองครับ ผมมองว่ามีสิทธิ์โดนกินรวบแน่ๆ



bravo

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

ระยะทางจะไกลแค่ไหน ผมก็ชอบขับรถไปเองครับ
การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์สำหรับผม มันมากกว่าการเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B
แต่...ระหว่างทาง ก็ได้ชมทัศนียภาพของแต่ละจังหวัด
ได้แวะกินของขึ้นชื่อ/ซื้อของฝากของแต่ละพื้นที่ ถ้าหอบของขึ้นเครื่องคงไม่ไหวครับ



deertesla

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

ระยะทางจะไกลแค่ไหน ผมก็ชอบขับรถไปเองครับ
การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์สำหรับผม มันมากกว่าการเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B
แต่...ระหว่างทาง ก็ได้ชมทัศนียภาพของแต่ละจังหวัด
ได้แวะกินของขึ้นชื่อ/ซื้อของฝากของแต่ละพื้นที่ ถ้าหอบของขึ้นเครื่องคงไม่ไหวครับ
ใช่ครับ เครื่องยินมันตอบโจทย์แบบนี้ไม่ได้

 



kiwiwi

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

จริงครับ
สำหรับเครื่องบิน ถ้านึกอยากไปตอนนี้ (ผมเอาตัวอย่างอย่างก่อนมีโควิดนะครับ)

เคยนึกอยากไปไหว้พระธาตุที่เชียงใหม่และลำปาก... วันศุกร์ลางานออกแต่เช้ามืด แล้วก็ขับรถไปกันเลย พ่อ แม่ ลูก อีก 3 คน
น้ำมันไปกลับ 1200x6(ถัง) 7200

ถ้านั่งเครื่องแบบจองปุบๆปับๆ 2500x5(คน) ก็ 12500
เช่ารถอีก รถเช่าอีก 1200x3(วัน) = 3600
แท็กซี่จากบ้านไปสนามบิน 700x2(วัน) = 1400
ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเดินทางก็ 17500 แล้ว

ส่วนต่างประมาณ 1 หมื่น สำหรับคนมีอันจะกิน คงซื้อเวลาได้แบบขนหน้าแข้งอยู่ครบ
แต่สำหรับคนทั่วๆไปนี่ มันเยอะมาก

สำหรับคนทั่วๆไปที่เป็นครอบครัว ถ้าจะเดินทางด้วยเครื่องบิน ต้องรถตั๋วโปรที่ต่ำกว่าพันน่ะ ถึงคุ้มหน่อย แต่ตั๋วโปรสำหรับเทศกาลก็ตัดทิ้งไปได้เลย ไม่มีหรอก 2500



deertesla

ซื้อ tesla คันละ 4ล้านมาขับ ขับแบบกดหนักๆ 150 Up แช่ยาวจาก เชียงใหม่ถึงกรุงเทพยังไม่ได้ ต้องจอดแวะพักชาร์จเป็นชั่วโมง สู้ซื้อรถน้ำมันมาขับดีกว่า  เติมเต็มถัง  กดรวดเดียวยัน กทม. หรือจอดแวะซื้อกาแฟสักแป๊บกดต่อ
ผมรอซื้อรถไฮดรอเจนครับ  รถใส่ถ่านไม่ซื้อ  ขับแล้วถ่านหมดต้องคอยหาที่ชาร์จ  พลังงานมันมีขอบเขตจำกัด  สู้พลังงานน้ำมัน หรือไฮดรอเจนเหลวดีกว่า  เติมที  วิ่งได้ไกล  ไม่ต้องคอยพะวังกับเรื่องพลังงานที่อยู่ในรถ  ค่อยขับรถได้สนุกหน่อย   ประเภทขับไป ดูจอไป  ไฟเหลือเท่าไหร่  กดหนักๆ  แบตหมดไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว   จะถึงแท่นชาร์จหรือเปล่า  ถึงวิ่งประคองๆ มั้ย   ผมว่ามันเป็นรถที่ขับไม่สนุก   ไม่คุ้มค่าเงินที่ลงไปขนาดนั้น  รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับเมืองมากกว่า

Hydrogen ในไทยหน้าหัวจ่ายกิโลกรัมละ 600-700 บาท (ข้อมูล PTT) รถ fuel cell คันนึงเติม 4-5 กิโลกรัม ยังอยากเติมอยู่ไหมคับ

Trip ยาวแบบ BKK-CNX ผมไม่ขับรถคับ เหนื่อยเกิน บินดีกว่า ได้หม้อลูกเรือบนไฟล์ทได้อีก  ;D

Trip ยาว ๆ นึกอยากไปคอนนี้ แล้วมันบินได้เลย เหมือนหยิบกุญแจสตาร์ทรถเหรอครับ ?!?

หึหึหึ … ได้แต่มโน แต่ไม่ practical

จริงครับ
สำหรับเครื่องบิน ถ้านึกอยากไปตอนนี้ (ผมเอาตัวอย่างอย่างก่อนมีโควิดนะครับ)

เคยนึกอยากไปไหว้พระธาตุที่เชียงใหม่และลำปาก... วันศุกร์ลางานออกแต่เช้ามืด แล้วก็ขับรถไปกันเลย พ่อ แม่ ลูก อีก 3 คน
น้ำมันไปกลับ 1200x6(ถัง) 7200

ถ้านั่งเครื่องแบบจองปุบๆปับๆ 2500x5(คน) ก็ 12500
เช่ารถอีก รถเช่าอีก 1200x3(วัน) = 3600
แท็กซี่จากบ้านไปสนามบิน 700x2(วัน) = 1400
ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเดินทางก็ 17500 แล้ว

ส่วนต่างประมาณ 1 หมื่น สำหรับคนมีอันจะกิน คงซื้อเวลาได้แบบขนหน้าแข้งอยู่ครบ
แต่สำหรับคนทั่วๆไปนี่ มันเยอะมาก

สำหรับคนทั่วๆไปที่เป็นครอบครัว ถ้าจะเดินทางด้วยเครื่องบิน ต้องรถตั๋วโปรที่ต่ำกว่าพันน่ะ ถึงคุ้มหน่อย แต่ตั๋วโปรสำหรับเทศกาลก็ตัดทิ้งไปได้เลย ไม่มีหรอก 2500
สำหรับช่วงเทศกาลผมว่าไม่น่าเดินทางเท่าไหร่ครับ ดูวุ่นวายจากการเดินทาง รถเยอะมากเป็นพิเศษที่พักร้านอาหารเต็ม ไปเที่ยวไม่สนุกนัก. แต่ทั้งนี้ครอบครัวที่มีหลายคนเวลาเดินทางไปเที่ยวในประเทศผมว่านั่งรถไปเองสะดวกและประหยัดกว่าเครื่องบินมากครับ. ไปเครื่องบินเห็นแต่เมฆกับท้องฟ้า



Auto Messe

Toyota Global อาจจะยังไม่เจ๊งง่ายๆ แต่ Toyota Thailand นี่ไม่แน่ ด้วยวิสัยทัศน์ชอบกั๊กออพชั่นเอาไว้ก่อนในรถออกใหม่ทุกโมเดล แล้วค่อยๆใส่เข้ามาตอนไมเนอร์เชนจ์ทีหลัง ลูกค้าเขารู้ทันหมดแล้วและลูกค้าคนรุ่นใหม่เขาก็ไม่สนใจรถโตโยต้าแล้ว ดูจากยอดขายรถคู่แข่งได้ ทั้งเก๋งและกระบะ รถที่พอจะอยู่ได้คือเปิด segment ใหม่อย่าง cross ที่เดี๋ยวพอเจอ hrv ใหม่ก็ยอดร่วงอีก

ผลการดำเนินงานของ Toyota ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 24.4% หรือ คิดเป็นจำนวน 117,185 คัน ซึ่งถือได้ว่าดีกว่าอัตราการฟื้นตัวของตลาด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับความยากลำบากมากมายในปีที่ผ่านมา แต่ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 31.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 28.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สืบเนื่องจากกลยุทธ์การขายแบบใหม่ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการเสริมความเข้มแข็งในส่วนกลยุทธ์การขายบนช่องทางออนไลน์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความพยายามในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ของ Toyota ในช่วงแรกของปีนี้

อ้างอิง
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2154306

พูดลอย ๆ กับ พูดบนพื้นฐานความจริง มันต่างกันนะครับ

B segment Eco car ยอดแพ้ แน่นอน โมเดลปลายอายุ แต่ยังขายได้ ถึงแม้ไม่ใช่อันดับหนึ่ง ทำไมไม่คิดกลับกัน  Toyota คือรุ่นแรก ที่ให้ถุงลม 7 ใบ มาคุณบอกกั่ก Option เหรอ แล้วถ้า รุ่นใหม่ Toyota ออก 1.0 T ทีเด็ด ตบ City 1.0T ได้เลย
B Hybrid ยังไม่มีขาย รอดู ทีเด็ด ตบ City E HEV ได้เลย
B Crossover > นำโด่งเป็นทุ่ง
C segment  , ยอด ขาย ก็ ไม่ 1 ก็ 2  เป็นรุ่นเดียวในไทยตอนนี้ ที่มี  Hybrid มาในราคาต่ำล้าน คุณบอกกั่ก
D- segment ,ยอด ขาย ก็ ไม่ 1 ก็ 2

ตรงไหน  ที่บอกคนไม่ซื้อ Toyota ครับ

ตรงนี้ไง https://marketeeronline.co/archives/208878




deertesla

Toyota Global อาจจะยังไม่เจ๊งง่ายๆ แต่ Toyota Thailand นี่ไม่แน่ ด้วยวิสัยทัศน์ชอบกั๊กออพชั่นเอาไว้ก่อนในรถออกใหม่ทุกโมเดล แล้วค่อยๆใส่เข้ามาตอนไมเนอร์เชนจ์ทีหลัง ลูกค้าเขารู้ทันหมดแล้วและลูกค้าคนรุ่นใหม่เขาก็ไม่สนใจรถโตโยต้าแล้ว ดูจากยอดขายรถคู่แข่งได้ ทั้งเก๋งและกระบะ รถที่พอจะอยู่ได้คือเปิด segment ใหม่อย่าง cross ที่เดี๋ยวพอเจอ hrv ใหม่ก็ยอดร่วงอีก

ผลการดำเนินงานของ Toyota ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 24.4% หรือ คิดเป็นจำนวน 117,185 คัน ซึ่งถือได้ว่าดีกว่าอัตราการฟื้นตัวของตลาด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับความยากลำบากมากมายในปีที่ผ่านมา แต่ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 31.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 28.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สืบเนื่องจากกลยุทธ์การขายแบบใหม่ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการเสริมความเข้มแข็งในส่วนกลยุทธ์การขายบนช่องทางออนไลน์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความพยายามในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ของ Toyota ในช่วงแรกของปีนี้

อ้างอิง
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2154306

พูดลอย ๆ กับ พูดบนพื้นฐานความจริง มันต่างกันนะครับ

B segment Eco car ยอดแพ้ แน่นอน โมเดลปลายอายุ แต่ยังขายได้ ถึงแม้ไม่ใช่อันดับหนึ่ง ทำไมไม่คิดกลับกัน  Toyota คือรุ่นแรก ที่ให้ถุงลม 7 ใบ มาคุณบอกกั่ก Option เหรอ แล้วถ้า รุ่นใหม่ Toyota ออก 1.0 T ทีเด็ด ตบ City 1.0T ได้เลย
B Hybrid ยังไม่มีขาย รอดู ทีเด็ด ตบ City E HEV ได้เลย
B Crossover > นำโด่งเป็นทุ่ง
C segment  , ยอด ขาย ก็ ไม่ 1 ก็ 2  เป็นรุ่นเดียวในไทยตอนนี้ ที่มี  Hybrid มาในราคาต่ำล้าน คุณบอกกั่ก
D- segment ,ยอด ขาย ก็ ไม่ 1 ก็ 2

ตรงไหน  ที่บอกคนไม่ซื้อ Toyota ครับ

ตรงนี้ไง https://marketeeronline.co/archives/208878


แต่บริษัทแม่อีผุผุ โตโยต้าก็ถือหุ้นนะครับ  มาสด้า ซูซูกิ โตโยต้าก็ถือหุ้น  ระบบเกียร์ทั้งหลายก็ใช้ของไอซิน ซึ่งก็อยู่ในเครือโตโยต้าเช่นกัน  แต่ทั้งโตโยต้าชอบลกั๊กทุกอย่าง  รถสสวยๆจากโลกที่ 1 ก็ไม่เอามาขาย