^^^
เออ ที่ Mu-x กับ FTN เขาทำแบบนั้นได้ ที่ใช้ 4x4 part time เพราะเขาคือเบอร์ 1 เบอร์ 2 ไม่เใช่เฉพาะตลาด PPV แต่คือตลาดรถรวมของไทย แล้วถามว่า Terra คุณเป็นใครในตลาด ขนาด PPV เบอร์ 3 4 เขายังใช้ full time
PJR > full time ราคาไม่แพง
Everest > full time ราคาแพง แต่เพิ่มคุณค่าด้านอื่นอีกเพียบ
Terra > ของแหวกแนวไม่ตามใคร โดยการเอาจุดด้อย part time ของเจ้าตลาดมาใช้ และออฟชั่นไม่ต้องครบเหมือน เบอร์ 3 4 โดยหลักการก็เห็นแล้วว่า Terra ขอจองที่ 5 นี่ยังไม่รวมที่เบอร์ 3 4 เขาก็ใกล้จะเปลี่ยน model แล้วด้วย ตอนนี้ Nissan เป็นองค์กรที่น่าจับตาเอาไว้ศึกษามาก ว่าจะมีวิธีพลิกฟื้นองค์การอย่างไร หรือจะยอมแพ้ภัยตัวเองที่เคยได้ก่อไว้
ก็เป็นที่1-2 กันไงเลยกั๊ก เพราะรู้ว่ากั๊กยังไงก็ขายได้ครับ
ไม่ใช่หรอกครับ เพราะในชีวิตจริงระบบขับสี่ fulltime ไม่ได้จำเป็นในชีวิตประจำวัน รถในประเทศไทย 99%ก็เป็นขับ 2 ไม่งั่นคนขับรถก็คงตายกันไปแล้วทั้งประเทศ คุณภาพของช่วงล่างไม่ได้วัดกันเพียงแค่ขับสี่หรือขับสอง แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการออกแบบช่งงล่างของแต่ละแบรนด์ ในกรณีของ Terra ก็เทียบได้กับรถรถขับหลังแบบยุโรป หรือรถสปอร์ตขับหลัง ซึ่ง Nissan ก็เก่งเรื่องช่วงล่างอยู่แล้ว ฉะนั้นเค้าถึงออกแแบบขับสี่เอาไว้ตอนเฉพาะ Offroad และข้อดีคือดูรักษาง่ายกว่า และทนทานกว่าแบบ fulltime
ประเด็นที่ผมจะสื่อคือ เจ้าตลาดเลือก part time เพราะยังไงก็ขายได้ เบอร์ 3 / 4 เลือกแบบมี full time เพื่อเพิ่มจุดขาย แต่ Terra เขาคือท้ายตารางที่เลือกทำตัวเหมือนเจ้าตลาด แถมยังไม่มีหลายอย่างที่เจ้าตลาดมี ผมเลยงงไงว่าเขาคิดจะทำอะไร แค่มี ACC / brake hold คนด่าก็หายกว่าครึ่งแล้วครับ แต่พอฟังรายการ drive by jimmy วันนี้ ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า นี่อาจจะเป็น Terra โฉมแรกและโฉมสุดท้ายและต้องลากขายอีกยาว อาจจะมีกั๊กของบางอย่างเอาไว้กระตุ้นตลาดตอนท้ายอายุ คำอธิบายนิสสันที่บอกว่า สามารถปลดเบรคมือไฟฟ้าด้วยการเหยียบคันเร่งออกไปเลยเหมือนจะบอกว่าให้ใช้แทน Auto hold และบอกว่า Terra ติด ACC ไม่ได้เพราะไม่ match กับเครื่องยนต์ 2.3 bi-T ค่ายรถยนต์เขาคิดว่าเรารับประทานหญ้ากันเหรอครับ อีกเจ้ายิ่งให้เหตุผลฆ่าตัวตาย ที่บอกว่า ได้ออกแบบให้แอร์เย็นทั่วถึงทั้งคัน เป็นพิเศษที่เดียวในโลกโดยไม่ต้องมีแอร์หลัง เป็นระบบแอร์สำหรับเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อนมากโดยเฉพาะ แต่ประเทศอื่นๆเขามีกันหมด
สำหรับประเด็น 4x4 เชื่อได้เลยว่า คนที่ออก PPV 4x4 ส่วนใหญ่ไม่ได้เอาไปลุยและ 99% วิ่งถนนดำเป็นหลักในชีวิตประจำวัน และยังมีอีกหลายคนที่คิดว่า 4x4 part time สามารถใช้วิ่งบนถนนดำได้ปกติ รถที่จุดศูนย์ถ่วงสูงกว่าปกติมีโอกาสเสียการทรงตัวได้ง่ายเมื่อเทียบกับรถที่เตี้ยกว่า ดีที่รถรุ่นใหม่ๆให้ระบบควบคุมการทรงตัวมาแทบจะหมดทุกรุ่นแล้ว ตรงนี้ผมว่าสำคัญกว่า full time ในสถานะการณ์ฉุกเฉินหรือคับขันถามว่าใครจะมีโอกาสรอดปลอดภัยมากกว่ากันระหว่าง PPV ยกสูง / PPV full time อะไรที่มันมีในรถเราแล้วช่วยให้เราปลอดภัยแม้แค่ครั้งเดียวก็คุ้มแล้วครับ ใครที่คิดจะออก PPV แล้วไม่คิดจะเอาไปลุยอย่าเอา 4x4 part time มาเป็นภาระ ทั้งการบำรุงรักษา บังคับควบคุมยากกว่า วงเลี้ยวก็กว้าง แบกน้ำหนักเปลื้องน้ำมัน แพงกว่ารุ่นปกติ แถมถ้าใช้ไม่เป็นมีโอกาสพังและเสี่ยงอุบัติเหตุเพิ่มอีก หากเป็นแบบ full time ยังมีประโยชน์ในการขับขี่ทุกวัน
เอาระบบขับหลัง Terra ไปเปรียบเทียบกับกับรถยุโรปขับหลัง นี่มันคนละประเด็นเลยนะครับ พื้นฐานช่วงล่างรถพรีเมี่ยมและจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่าเทียบกับรถที่ดัดแปลงมาจากรถกระบะบรรทุก รถยุโรปทำขับหลังเพื่อเน้นคุณภาพการขับขี่ รถกระบะทำขับหลังเพื่อผลดีต่อการบรรทุก รถยุโรปยกสูงส่วนใหญ่มากับขับสี่ครับ ทั้งนี่ทั้งนั้นรถขับหลังมีโอกาสเสียการทรงตัวได้ง่ายกว่ารถขับหน้าหรือพวกขับสี่ล้อ Benz BMW ขับหลังเตี้ยๆ ฝนตกถนนลื่นหรือพวงมาลัยไม่ตรงแล้วกดคันเร่งหนักๆลงข้างทางก็เยอะครับ เคสแบบนี้ AWD/Full time ช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ ย้ำครับว่า ระบบอะไรก็ตามที่อยู่ในรถถ้าสามารถช่วยได้ 1ชีวิตก็คุ้มค่ามากแล้วครับ