ผู้เขียน หัวข้อ: แน้วโน้ม ผู้ผลิตเครื่องเสียงรถยนต์ และร้านแต่งเครื่องเสียง  (อ่าน 2882 ครั้ง)

ออฟไลน์ spacialcan

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
เกิดความสงสัย จากที่ รถใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ ระบบควบคุมต่างๆ เริ่มจะไปรวม เข้าอยู่ในจอเดียว กับเครื่องเสียง 
แล้วการอัพเกรดระบบเครื่องเสียง ด้วยการเปลี่ยน Front เนี่ย มันจะยังเป็นไปได้ อยู่มั้ย หรือ เขาจะเริ่ม มีแนวทางเปลี่ยนแปลง อย่างไร

ติดตั้ง Front แยก?? มี Front 2 ชุด??

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
ปัจจุบันก็เน้น แอมป์ที่มีdspมาในตัวและมีoutputหลายชุดเพื่อมารับกับระบบinfotainmentของรถใหม่ๆที่รวมมาในจอเดียว รับbtตรงเลยก็มี

ส่วนเรื่องfrontตัวที่สองก็มีทำกันมานานแล้วนี่ครับไม่ใช่เรื่องใหม่  ก็คงเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเน้นคุณภาพแบบที่ฟร้อนท์ติดรถทำไม่ได้  แต่ฟร้อนท์ตัวที่สองในปัจจุบันเห็นไปทางhi resนะครับไม่ใช่cdเหมือนสมัยโบราณ

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

  มันก็เหมือนตอนวิทยุ 1 din แหละ

 ตัวที่ให้ติดรถมา ก็ดีพอประมาณ     ตัว after market  ก็เป็นรุ่นที่ดีกว่า

ออฟไลน์ spacialcan

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
ปัจจุบันก็เน้น แอมป์ที่มีdspมาในตัวและมีoutputหลายชุดเพื่อมารับกับระบบinfotainmentของรถใหม่ๆที่รวมมาในจอเดียว รับbtตรงเลยก็มี

ส่วนเรื่องfrontตัวที่สองก็มีทำกันมานานแล้วนี่ครับไม่ใช่เรื่องใหม่  ก็คงเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเน้นคุณภาพแบบที่ฟร้อนท์ติดรถทำไม่ได้  แต่ฟร้อนท์ตัวที่สองในปัจจุบันเห็นไปทางhi resนะครับไม่ใช่cdเหมือนสมัยโบราณ

แนวโน้น จะไปที่ แอมป์มี dsp รองรับ bt แล้ว Stream Rate BT มันรับไหว อยู่มั้ย 
อย่างเครื่องเสียงบ้านๆ ก็มีบางครั้งที่หงุดหงิด เวลาต่อ bt แล้วมันมีช่วงเสียงสะดุด บ่อย จนต้องถอดใจ กลับไปใช้สาย

ส่วน Front แยก คือเจ้า รถใหม่ ๆ มันก็ดูจะไม่มีที่ ติด แล้วดู สวยๆ พร้อมใช้งานสะดวกๆ บ้างเลย (เลือก way นี้ก็ทำใจไป)

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,863
เกิดความสงสัย จากที่ รถใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ ระบบควบคุมต่างๆ เริ่มจะไปรวม เข้าอยู่ในจอเดียว กับเครื่องเสียง 
แล้วการอัพเกรดระบบเครื่องเสียง ด้วยการเปลี่ยน Front เนี่ย มันจะยังเป็นไปได้ อยู่มั้ย หรือ เขาจะเริ่ม มีแนวทางเปลี่ยนแปลง อย่างไร

ติดตั้ง Front แยก?? มี Front 2 ชุด??

เท่าที่ผมศึกษาดูนะครับ เพราะจากเท่าที่จะหา front เปลี่ยนใน mini r60 ตัวแรกๆ

คือขอให้รถรุ่นนั้นๆได้ขายที่จีนนะครับ จีนเค้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ android+control เดอมของรถ มาแบบครบๆอะไรแบบนั้นเลย

แต่บอกไว้ก่อนนะครับ ไม่ถูกแน่นอน ต่อให้ made in china ก็ไม่ถูกครับ

และอย่างตัวแรกสุดที่เคยเข้าในไทยโดยที่ผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่มีเลย เห็นจะเป็นจอคอมมานด์ของ chev captiva

ตัวที่สองที่ผมเห็นในตลาดบ้านเราคือ alphard anh20 ซึ่งตรงนี้ผมว่าเค้าเหนือมาก เอาที่ปรับแอร์ไปรวมกับ front เป็นแนวตั้งแบบ tesla style(แต่ผมไม่กล้าใช้หรอกนะครับ)​

ผมตามเพจอยู่เพจนึง ที่เกี่ยวกับ android หรือ apple car play ตอนนี้ไปที่ bmw และ benz กันแล้ว ระบบเดิมคงอยู่ครับ

ที่น่าห่วงคือพวกของมีแบรนด์มากกว่า ผมยังงงๆอยู่ว่าเค้าจะเดินเกมส์เหล่านี้ยังไงต่อ ในเมื่อจีนเอาระบบเครื่องเสียงมารวมกับระบบสั่งการในรถได้แล้ว

ทำมาแพง คนก็ใช้น้อย เปิดไลน์ผลิตเฉพาะรุ่นก็ไม่ไหว
อนาคตจะเป็นยังไงต่อ น่าติดตามนะครับ


ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้เอาชุดควบคุมแอร์ ไปแสดงผลบนหน้าจอเครื่องเสียง พวกนี้ ยังไงก็หาหน้ากากเปลี่ยน เพื่อใส่ front ปกติได้ครับ แต่ถ้า เอาชุดควบคุมแอร์ หรือ การปรับค่าต่างๆไปอยู่บนจอเครื่องเสียงหมด แบบนี้อด (เช่น Volvo รุ่นใหม่ๆ)

ทางออก ก็จะเป็นเรื่องของการใช้ DSP ที่สามารถรับ hi-level input ได้ หรือ ใช้ตัวแปลง high to low เพื่อนำสัญญาณมาเข้าแอมป์ หรือ DSP ตลอดจนใช้ DSP ที่รองรับการ streaming (ตัดปัญหาเรื่องคุณภาพ front ห่วย)

ดังนั้น สำหรับคนเล่น พวกนี้ไม่ใช่ปัญหาหรอก

..................

ปัญหา จะไปอยู่ที่ผู้ผลิต front ที่คนเปลี่ยนน่าจะน้อยลงเรื่อยๆ สังเกตว่า ปัจจุบัน front ระดับ hi-end พวก clarion hx-d3 / mcintosh mx5000 / denon อะไรทั้งหลาย ไม่มีให้เห็นมาเป็นสิบปีละ

เท่าที่สังเกต หลายค่ายก็เริ่มไม่ผลิตรุ่นที่เล่น CD ได้ละ ไปผลิตพวกที่รองรับการ streaming แทน ซึ่งก็ส่งผลให้ front มีขนาดเล็กลง จนสามารถเอาไปหลบ เอาไปแปะที่ไหนก็ได้ อย่าง alpine ก็เหลือตัวนิดเดียว ผมมองว่า เป็นทางรอดของเค้านะ

..................

ส่วนผมนี่ ยังคิดอยู่ว่า ถ้าวันนึง Clarion HX-D2 ในรถทั้ง 2 คัน มันลากลับญี่ปุ่น ผมจะหาตัวไหนมาแทนมันนะ (จริงๆตัวใน Pulsar ก็เริ่มแลบลิ้นละ บางทีใส่ไป ก็เด้งออก)

ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
สิ่งหนึ่งที่ พ่อค้าทั่วโลก รับทราบคือ
การค้าที่รวยสบายๆที่สุด คือการค้าผูกขาด ครับ
ดูบริษัท apple สิ สร้างระบบ eco system ตัวเองขนาดไหน 
ยังดีนะ ช่วงที่ สตีฟ จ๊อบส์ โดนไล่ออก  บริษัท apple ขายหุ้นบริษัท ARM ออก
ไม่งั้น โลก smart phone จะผูกขาดหนักกว่านี้อีก
Iphone 13 ราคา 29900 ฿  spect ฝั่ง android ดีกว่าเยอะ
นอกเรื่องไปแล้ว  เพียงแต่ยกตัวอย่าง  ให้เห็น ว่า
 บริษัทผูกขาด ขายได้กำไรกว่า บริษัทที่ไม่สามารถผูกขาด

การที่บริษัทรถ ทำให้ทุกอย่าง มันต้องเข้าศูนย์อย่างเดียว
มันคือกำไร ของบริษัท
สมัยก่อน เฟื่องฟู ร้านติดเครื่องเสียง เยอะมาก ไม่ได้ซับซ้อนในการรื้อมาทำ
เครื่องเสียงสมัยเก่า ก็ห่วยกว่า ลำโพง bluetooth 3000฿สมัยนี้
ปัจจุบัน คนก็ไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนเหมือนก่อนแล้ว  จึงทยอยปิดตัวไปตามกาลเวลา
ตลาดคงแคบลงเรื่อยไปครับ
เข้าทางบริษัทรถ   เขาไม่แคร์ให้ทำง่ายๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,382
นึกถึงเรื่องสาย LAN เส้นละแสน  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
มันทำยากขึ้นแน่นอน ก็เลยมีหลายคนไม่ทำ
เริ่มตั้งแต่ยุค built in แล้วครับ

ส่วนผมก็เคยทำครับ แต่ผมว่าได้ไม่คุ้มเสีย หลังๆเลยไม่ทำเหมือนกัน สุดจะทนก็แค่เปลี่ยนลำโพงพอแล้วครับ

ออฟไลน์ sudlor_gang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 565
ผมก็อยากได้เครื่องเสียงใหม่ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนหน้ากากไรแบบนี้ เหมือนกัน แต่เหมือนมันทำไม่ได้ ถ้าทำได้ผมว่าตลาดประดับยนต์ไปได้อีกไกล

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
ผมว่ามันไม่ถึงกับจะทางตันนะครับ อยากให้ดูอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆด้วย

อุปกรณ์แต่งรถ มีทุกชิ้น ตั้งแต่หน้า-ท้ายรถ ล้อ เบรค โช๊ค สายไฟ มันมี aftermarket ที่สามารถทดแทน หรือ อัพเกรดให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ตลอดนะครับ

ออฟไลน์ mark_pro

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
    • อีเมล์
คงเปลี่ยนแต่ ลำโพง กับ Amp dsp ละ เพราะการตั้งค่ารถยนต์ อะไรเยอะแยะ
ดันเอาใส่ตรงหน้าจอหมดเลย จอเสียไปไม่เป็นแน่นอน

ออฟไลน์ yodmanoot

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 333
ถ้า Front เดิมติดรถที่รวมทุกอย่างไว้แล้ว คงไม่น่าไปเปลี่ยน ให้ส่งแค่สัญญาณเอาต์พุตมายังตัวรับ
ส่วนร้านคงเพิ่ม/ปรุงแต่งระบบเสียงในรถแทน เช่น พาวเวอร์แอมป์ ลำโพงกลางแหลม ซับวูฟเฟอร์
รวมถึงแดมป์รถเพื่อให้เสียงดีขึ้น ยังไงก็ต้องร้าน
2013 - 2021 : Toyota Collora EE101 ปี 1993 1,300cc AT
2020 - Present  : Chevrolet Colorado 4wd ปี 2005 3,000 MT
2021 - Present  : Toyota Sienta V mc ปี 2019 1,500 CVT

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ถามว่าซบเซาไหม ผมว่า แน่นอน

แต่ก่อน รถเครื่องเสียงม้วนเทป ก็หาเปลี่ยนฟร้อน เป็น CD กัน

พอรถเครื่องเสียงติดรถเป็น CD  ก็หาเปลี่ยนฟร้อนที่มีจอ มีลูกเล่น เชื่อม Bluetooth ได้

พอรถเครื่องเสียงติดรถ มีลูกเล่น เชื่อม Bluetooth ได้ ก็หาเปลี่ยนฟร้อน เป็นจอ Android จอ Touch screen กัน

แต่มันจะมี 2-3 กลุ่ม ในพวกนี้
1. กลุ่มที่แค่อยากได้ลูกเล่นจากฟร้อน ที่เดิมๆ ไม่ชอบ ก็หาเปลี่ยน หรือ อยากอัพเกรดไปหาฟร้อน SONY, JVC, ALPINE, POINEER, KENWOOD นีห้อพวกนี้แต่ก่อนถือว่าฮิตมาก(ผมก็ใช้ JVC)
2. กลุ่มที่ติดเครื่องเสียงไว้เปิดเล่น ไว้คุย ไว้ฟัง สนุกๆ ตึ๊บๆ แด๊นซ์ๆ
3. กลุ่ม sound quality จริงๆ

ผมว่า กลุ่ม 1 ตอนนี้แทบน้อยลงมาก จะมีแค่กลุ่มที่เปลี่ยนจากฟร้อนเดิม เป็น ฟร้อน android แล้ว เพราะเครื่องเสียงติดรถ ผมถือว่าดีกว่าแต่ก่อนเยอะมาก

ส่วนกลุ่มที่ 2 ก็ยังพอมี เพราะยังไงซะ เครื่องเสียงเดิม มันก็ไม่ตอบโจทย์ ต้องหา Bass หรือ Amp มาถมเยอะๆ หน่อย

ส่วนกลุ่มที่ 3 ผมว่าตอนนี้แทบไม่มีแล้ว เพราะเขาไปเล่นเครื่องเสียงบ้านกันหมดแล้ว เพราะในรถฟังจริงๆ แค่เครื่องเสียงปัจจุบัน มันก็ฟังได้โอเคแล้ว

ออฟไลน์ zumo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
    • อีเมล์
ผมว่าคนเข้าร้านเครื่องเสียงน้อยลงแน่ละ หน้าจอรถใหม่ๆ มันควบคุมอะไรไว้หลายอย่าง
ผมก็ชอบฟังเพลงทำเครื่องเสียงกับรถมาตลอด รถคันปัจจุบัน ขึ้นเสา A ตีตู้ไว้ ยังคิดอยู่ถ้าเปลี่ยนรถ
จะรื้อออกแล้ว เอาไปใส่คันใหม่หรือให้ติดกับรถไปดี
 ถ้าเปลี่ยนรถใหม่ ถ้ามันพอฟังได้ จะไม่ทำแล้วเหมือนกันครับ ไม่อยากรื้อรถแล้ว แต่ถ้าจะทำคงเปลี่ยนลำโพง
กับชุดซับสำเร็จที่มันวางตรงไหนก็ได้ ก็น่าจะพอ แอมป์ก็ไม่เอา และให้มันดูเดิมๆ มากที่สุดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2021, 11:39:23 โดย zumo »