ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนถามเกี่ยวกับช่วงล่างรถ Lexus เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว เทียบกับรถสมัยนี้  (อ่าน 3413 ครั้ง)

ออฟไลน์ YZA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
คำถามนี้อาจจะแปลกๆนะครับ  แต่คาใจผมมานานแล้ว  แต่ไม่กล้าถาม

เกริ่นคือ เวลาใครมาถามผมว่ารถในฝันที่อยากได้คือคันไหน.....คำตอบคือ "ไม่มี" (ถ้ารถที่อยากได้ก็มีนะครับ   แต่ไม่ถึงขนาดรถในฝัน)

แต่จะมีเหตุการณ์นึงที่ประทับใจผมมากตอนวัยรุ่น  คือเคยได้ไปนั่งรถ Lexus ของเพื่อนแม่เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน

เค้าขับด้วยความเร็วน่าจะ 80-120 ผ่านลูกระนาดเล็กๆ  คือแบบมันนิ่มมากๆ (ไม่รู้ใช้คำถูกมั้ย)  แต่แทบจะไม่มีแรงสะเทือนส่งมาถึงผู้โดยสารเลย
มันต่างจากรถของที่บ้านราวฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้

ด้วยความที่เมื่อก่อนผมไม่สนใจเรื่องรถเลย  จำได้แค่ว่ารถคันนั้นคือ Lexus ซีดานเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วแค่นั้น  ช่วงล่างเป็นแบบไหนไม่รู้


คำถามคือ ถ้าเทียบกับรถ Lexus ที่มีข้อมูลน้อยนิดนี้ (ขอสมมุติว่าเป็นรถ Lexus เดิมๆ รุ่นที่ช่วงล่างดีสุดที่จะหาได้ในโลกช่วงนั้น) กับคันที่ผมเคยนั่งมา 3 รุ่นต่อไปนี้  Lexus คันที่ว่า จะอยู่ในลำดับที่เท่าไหร่ในแง่ของช่วงล่างความนั่งสบายครับ

1) Teana J31 (เคยขับ 1 ปี)
2) XV โฉมปัจจุบัน (ใช้มาเกือบ 4 ปี)
3) Benz S350 ดีเซล (แค่เคยนั่งอยู่ 1 ชม. แต่ไม่รู้ทำไมไม่รู้สึกประทับใจเท่าไหร่)

......หรือคันไหนก็ได้ครับในสมัยนี้ที่น่าจะนั่งสบายเทียบเท่ากัน

ขอบคุณมากๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 12, 2021, 13:23:10 โดย YZA »

ออฟไลน์ mobgang33

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
10ปีก่อน เคยนั่งกับเพื่อนในงาน motorshow lexus LS สบายมากๆครับ มารู้ราคาทีหลัง สิบกว่าล้าน ตามราคารถเลยครับ ประทับใจมาก รอผู้ใช้จริงมาตอบครับ อยากทราบเหมือนกันครับ

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าบอกว่าเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว มันก็มีรุ่นเดียวคือ Lexus LS400 ซึ่งถ้านับแค่ความสบายก็ยืนยันได้ว่าต่อให้รถใหม่ก็สู้ยาก นุ่มเหมือนนอนอยู่บนเตียง ลองไปหาภาพบนอินเตอร์เน็ตดูละกันครับ แล้วดูขนาดของแก้มยาง และนุ่มแบบใช้ช่วงล่างเป็นแบบธรรมดา ไม่ได้ต้องใช้ถุงลมหรือไฮดรอนิวเมติกด้วย

Toyota ซุ่มพัฒนารถรุ่นนี้อยู่เกือบ 10 ปี ลงงบไปมหาศาลเพื่อมาฆ่ารถหรูรุ่นอื่น ๆ ในตลาดทุกรุ่น แม้แต่ทุกวันนี้คนก็ยังพูดถึงกันอยู่ถึงความหรู ความสบาย คุณภาพตัวรถกันอยู่ แล้วมันนุ่มแบบไม่ย้วยด้วยนะ มันยังขับดีใช้ได้เลย ว่าง่าย ๆ ก็เป็นรถญี่ปุ่นระดับตำนานรุ่นนึงละครับ

ออฟไลน์ PetchPP

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225
ใช่ที่โฆษณาเอาแก้วก้านมาตั้งเรียงๆปะครับ
2012 Volvo S60 T4F (Discharged)
2015 Mazda 2 1.3
2019 Benz C220D (W205)
2020 BMW X1 18D (F48)
2022 Honda Civic Turbo RS (FE)

ออฟไลน์ YZA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
ถ้าบอกว่าเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว มันก็มีรุ่นเดียวคือ Lexus LS400 ซึ่งถ้านับแค่ความสบายก็ยืนยันได้ว่าต่อให้รถใหม่ก็สู้ยาก นุ่มเหมือนนอนอยู่บนเตียง ลองไปหาภาพบนอินเตอร์เน็ตดูละกันครับ แล้วดูขนาดของแก้มยาง และนุ่มแบบใช้ช่วงล่างเป็นแบบธรรมดา ไม่ได้ต้องใช้ถุงลมหรือไฮดรอนิวเมติกด้วย

Toyota ซุ่มพัฒนารถรุ่นนี้อยู่เกือบ 10 ปี ลงงบไปมหาศาลเพื่อมาฆ่ารถหรูรุ่นอื่น ๆ ในตลาดทุกรุ่น แม้แต่ทุกวันนี้คนก็ยังพูดถึงกันอยู่ถึงความหรู ความสบาย คุณภาพตัวรถกันอยู่ แล้วมันนุ่มแบบไม่ย้วยด้วยนะ มันยังขับดีใช้ได้เลย ว่าง่าย ๆ ก็เป็นรถญี่ปุ่นระดับตำนานรุ่นนึงละครับ

ขอบคุณครับ ตอบเคลียร์มาก น่าจะใช่รุ่นนี้แหล่ะครับ

เมื่อกี้นั่งอ่านกระทู้เก่ารุ่น LS เพลินเลย
ตอนแรกผมก็นึกว่ารถสมัยนี้น่าจะทำช่วงล่างได้ดีไม่แพ้กันแล้ว  แต่ผิดคาดจริงๆ

มานึกๆดู  แบบนี้คงเรียกรถในฝันได้แล้ว  เพราะผมคงไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ  555

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,188
คือมันแล้วแต่รุ่นอะครับ แปะ lexus หมดไม่ได้แปลว่านุ่มทุกคันนะครับ IS/GS หรือตระกูล suv สำหรับผมก็ไม่ได้นุ่มเท่าไหร่ ด้วยความที่ lexus ค่อนข้างมีจุดด้อยเยอะในไทย เลยติดปากหลักๆเรื่อง ซ่อมงายหายห่วง กับนุ่ม

ก่อนจะซื้อ gs ผมขับเทียบกับ is และตอนนั้นใช้ rx อยู่ คือ 2 คันที่บอกไม่ได้นุ่มเลยอะครับ ยิ่ง IS ผมว่าแข็งกว่า 3series ที่ใช้ตอนนั้นด้วยซ้ำ แต่ยังมีหลายๆคนบอกว่ามันนุ่มเว่อๆ ก็งงๆกันไป

ทีนี้คันที่นั่งเมื่อ 30 ปีที่แล้วคือ LS มันเป็น flagship ฉะนั้นของเล่นมันเยอะมากครับ ถ้านั่ง LS ตอนนี้ผมก็ว่านุ่ม แต่บุญไม่ถึงเลยไม่ได้ลองซะที แปะป้าย 10ล้านก็เขินที่จะไปขอลองขับแระ

ถ้าจะมีคันไหนเทียบได้ผมมองว่า flagship รถยุโรปก็เทียบได้ครับ แต่ต้องดู trim หรูนุ่ม s350d ที่เคยลองอาจจะเป็นตัวเริ่มรึเปล่า ช่วงล่างถุงลมไม่มีอ่ะครับ ก็เด้งดึ๋งตามสภาพ ส่วนใหญ่จะกลัว option นี้กันเพราะซ่อมแพง ทำให้ราคารถตั้งแพงขึ้นด้วย เค้าเลยถอดออกอะครับ เน้นทำราคา ใครอยากได้นุ่มจิงๆ อาจจะต้องเขยิบไป maybach

ส่วนตัวไม่ใช่คนที่นั่งรถแบบพร้อมคนขับ เท่าที่ลองมา XC90 ตัวถุงลมนุ่มมากครับสำหรับ suv มันสะเทือนนิดๆ แต่นิ่งขั้นพอใจเลย ทำให้ตัดสินใจซื้อ xc60 ตัวมีถุงลมเหมือนกันก็นิ่มไม่แพ้กันครับ แต่เทียบ LS 30ปีก่อนได้มั้ยก็ไม่รู้แหะ

แต่สมัยก่อน lexus สุขุมวิทเวลาเอารถไป service เค้ามี LS มาส่งเดินเล่นที่ terminal21 ก็นุ่มไม่ได้แตกต่างจาก xc90 ที่เคยลองนะครับ อาจจะช่วงเวลาสั้นๆแล้วถนนก็ไม่ได้ดวงจันทร์มากด้วย

ถ้าบอกรถสมัยนี้ยังเทียบ 30ปีก่อนไม่ได้ผมว่าไม่ถูกนะครับ รถเค้าทำมาเพื่อคนหลายกลุ่ม บอกว่า bugatti นั่งสบายยังไม่เท่า lexus ES เลย มันก็ไม่น่าใช่

จะเทียบนั่งสบายก็ลองดู A8 7series S-Class maybach ที่เป็น trim ช่วงล่างถุงลม หรือ xc90 ก็ยังพอไหว

อ้อมีอีกตัวที่นั่งแล้วรู้สึกนิ่งมากคือ a8 นิแหละครับ เมื่อไม่นานมานี้ตัวโมเดลล่าสุด แต่นั่งแค่สั้นๆที่ยุโรป สนามบินไป รร. บางช่วงมี pothole เยอะมาก แต่นิ่งแบบตัวไม่โยกเลยครับ แต่พื้นฐานถนนที่นั่งตอนนั้นดีกว่าบ้านเรามากเลยไม่รู้จะเทียบได้มั้ยนะ

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,188
    • อีเมล์
สมัยเกือบ 20 ปีก่อนผมเคยจะซื้อ LS400 มือสอง ไปลองตัว gen2 ทั้งตัวก่อนและตัวไมเนอร์เชนจ์ ขับตัวช่วงล่างธรรมดาก็ถือว่านุ่มมากครับ นุ่มกว่า S-Class กับ ซีรี่ย์ 7 ตัวช่วงล่างธรรมดาในยุคเดียวกัน
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,737
ถ้าบอกว่าเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว มันก็มีรุ่นเดียวคือ Lexus LS400 ซึ่งถ้านับแค่ความสบายก็ยืนยันได้ว่าต่อให้รถใหม่ก็สู้ยาก นุ่มเหมือนนอนอยู่บนเตียง ลองไปหาภาพบนอินเตอร์เน็ตดูละกันครับ แล้วดูขนาดของแก้มยาง และนุ่มแบบใช้ช่วงล่างเป็นแบบธรรมดา ไม่ได้ต้องใช้ถุงลมหรือไฮดรอนิวเมติกด้วย

Toyota ซุ่มพัฒนารถรุ่นนี้อยู่เกือบ 10 ปี ลงงบไปมหาศาลเพื่อมาฆ่ารถหรูรุ่นอื่น ๆ ในตลาดทุกรุ่น แม้แต่ทุกวันนี้คนก็ยังพูดถึงกันอยู่ถึงความหรู ความสบาย คุณภาพตัวรถกันอยู่ แล้วมันนุ่มแบบไม่ย้วยด้วยนะ มันยังขับดีใช้ได้เลย ว่าง่าย ๆ ก็เป็นรถญี่ปุ่นระดับตำนานรุ่นนึงละครับ

ขอบคุณครับ ตอบเคลียร์มาก น่าจะใช่รุ่นนี้แหล่ะครับ

เมื่อกี้นั่งอ่านกระทู้เก่ารุ่น LS เพลินเลย
ตอนแรกผมก็นึกว่ารถสมัยนี้น่าจะทำช่วงล่างได้ดีไม่แพ้กันแล้ว  แต่ผิดคาดจริงๆ

มานึกๆดู  แบบนี้คงเรียกรถในฝันได้แล้ว  เพราะผมคงไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ  555

อันนี้เป็นปัญหาโลกแตกเลยครับ เหมือนเทรนการ set รถ ของรถขนาดใหญ่มันค่อยๆเปลี่ยนไป จากเน้นนุ้มๆ
มาเพิ่ม driving dynamic ที่ดีขึ้นเข้าไป พวกรถเก่าที่นุ่มเหมือนนั้งเรือเลยเรื่มหายไป

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
ls400 มีสามโฉม ลอกสามแฉกw140
รถยาว4.9ม. สั้นกว่า w140,e38 ยาว5.1-5.2ม.
ฝรั่งถือว่าเป็นรถเกรดรอง ราคาถูกกว่า ทนทาน ขับดีสมราคา
เมื่อเทียบกับคราวน์ มาเจสต้า วี8 ls400จะหนึบกว่า
ขับมันกว่า ไม่นุ่มนวลแบบคราวน์ หรือ เซนจูรี่







จากที่ขับเทียบกับ คราวน์jz175 รุ่นสุดท้ายที่สามห่วงนำเข้า
ห้องโดยสาร คราวน์กว้างกว่า เบาะกำมะหยี่นั่งสบายกว่าทั้งหน้าหลัง
เครื่องแรงสู้ls400ไม่ได้ แต่รถซ่อมง่ายกว่า อะไหล่ถูกกว่า
ช่วงล่างทนทานเหมาะกับถนนเมืองไทนมากกว่า
แต่ราคามือสองแพงไม่ยอมลง ls400สวยๆถูกกว่า





โฉมแรก วงเลี้ยวกว้างสุด ฝาท้ายเปิดไม่สูง ฝรั่งหัวโขก ไฟหน้ายาว
โฉมสอง แก้ข้อพกพร่องหลายจุด แต่เกียร์ยัง4at
โฉมสาม รถเข้ามาน้อย ไฟหน้าตาเพชร เกียร์5at  แม็กลายใหม่
มือสองราคาเคยพอๆกับ w140 s500me
,600me e38 740il คนส่วนใหญ่จะเล่นยุโรปมากกว่า



จุดอ่อนls400,430
จอlcdใต้หน้าปัดเสียง่าย เบิกทีหมื่นกว่า
กระจกบานท้าย ลวดละลายฝ้าขาดเวลาลอกฟิล์ม เบิกห้างสี่หมื่น
ลูกหมาก บูชยาง ต้องเบิกห้าง ของเทียบมีน้อย ราคาลงยาก
อะไหล่เก่ามีนำเข้าน้อยกว่า รถยุโรป น้อยเจ้าขายประจำ
เบาะหนังแกะ ยืดง่าย สีลอกไว ทนสู้หนังกระทิงของสามแฉกไม่ได้
เบาะหน้าไม่มีรองน่อง ปรับทิศทางด้อยกว่า w140 e38
ถุงลมเบิกห้าง ไม่มีเทียบ แพงว่าบิลถุงลมเทียบร้านนอก แต่มีร้านซ่อม
วิทยุแกะเปลี่ยนยาก ใส่กล้องมองหลังลำบาก ไม่มีของจีนทำตรงรุ่น
คอนโซล พวงมาลัย วัสดุด้อยกว่า w140 e38



ช่วงล่างด้อยกว่า w140 500me,600me ไฮดรอลิกและสปริงหลอด
ย้วยกว่า ขับเกิน150กม.มั่นใจน้อยกว่า เบรกยาวกว่า
เครื่อง1uz แรงน้อยกว่า m119
,m120
เครื่อง3uz แรงเท่ายุโรป แต่ไม่นิยมรื้อมาซ่อม
ซื้อเครื่องเก่ามาใส่ถูกกว่า เปลี่ยนหัวฉีดเองได้รุ่นสุดท้าย
ค่าฟิตเครื่องใหม่อะไหล่เบิกห้างแพงกว่า อะไหล่เทียบยุโรป



ไม่มีชุดซ่อมจุกจิก เสียเบิกยกชิ้น เช่น บูชคันเกียร์ ลูกยางลูกสูบเบรค
ซีลแร็คพวงมาลัยไฮดรอลิค(ส่งร้านซ่อมเทียบอะไหล่)
ตู้แอร์ วาล์วแอร์ ไดเออร์ โบลเออร์ เบิกเด็นโซ่ได้บางชิ้น
คอมแอร์ส่งเด็นโซ่บิ้วใหม่ เหมือนw140 ดีกว่าซื้อลูกใหม่ที่เปราะกว่าเดิม


ls460 มีกันโครงไฟฟ้าแปรปัน แบบเดียวกับ ซีตรอง ซองเตีย แอ็คติว่า
ทำให้หักหลบกระทันหันด้วยความเร็วที่สูงกว่าคันอื่น


เสื้อเครื่องตรวจวัดละเอียด สร้างเรื่องให้ดูแพงแบบม้า
แต่ขายราคาถูกกว่า ได้รถเร็วกว่า ทนทานกว่า
ผู้ดีญี่ปุ่นเคร่งครัดคำสอนลัทธิหยู
แตกฉานในน้ำสาม ชา เหล้า น้ำแกง
ตำราหกตามจารีตต้าโจว ได้แก่
หลี่ 礼 จารีต ธรรมเนียม พิธีการ
เล่อ 乐 คีตะ
เส้อ 射 เกาทัณฑ์
อวี้ 御  รถศึก ขี่ม้า
ซู 书  อักษร
ซู่ 数  คำนวน ดาราศาสตร์ ปฏิทิน
จึงอ่อนนอกแข็งในตามวิสัยบัณฑิตจีนโบราณทุกประการ
การที่กล้าสำแดงซึ่งหน้า อาจเพราะความหมั่นไส้

ls460 เบิกห้างอย่างเดียว ขับดีมาก ซ่อมแพง
sc430 ประทุนเหล็ก ซื้อไหวควรหามาสะสม อมตะเหมือนr129 ซ่อมแพงพอกัน
ขับดีกว่า หรูกว่ารถยุ่น90 ราคาถูกกว่า รถมีน้อย ที่เมกาเกลื่อนราคาเลยไม่ขึ้น
gs400 ไม่มีเข้ามา aristoมือสองเลยแพง ทั้งที่เบรกเอารถไม่อยู่



ลูกศร ปากแบะ ตาเฟี้ยว ออกแบบต่างจากเดิมมาก จึงไม่กล่าวถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2021, 21:24:16 โดย bahamu »

ออฟไลน์ Minister of Joy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 295
LS400 กับ LS430 นุ่มจริงๆ ครับ เท่าที่เคยลอง

แต่ผมว่า body control และ ride quality โดยรวมสู้รถ full-size สมัยนี้ไม่ได้

ถ้าเอา S-class หรือ serie 7 รุ่นใหม่ไปใส่ล้อ 15 หรือ 16 นิ้วเหมือนสมัยก่อนผมว่าจะลอยอยู่บนเมฆยิ่งกว่า LS ตัวแรกกับตัว 430 แน่นอน

ออฟไลน์ Niti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
  • Live is short. Live it!
LS400 นั้งสบายจริงๆครับ 460 มาแพรวพราวกว่าตามยุค ผมยังติดว่าจะหามาใช้สำรองซักคันอยู่เหมือนกัน
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Medkanoon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • อีเมล์
ใช้ LS400 1995 (UCF20)อยู่ครับ
ซื้อมือสองมาทำนุบำรุง ให้ใช้ได้ใกล้เคียงปกติ

เครื่องยนต์
คันที่ผมใช้ จะเป็น เครื่อง 1UZ-fe ไม่มี VVTi เกียร์ออโต้ 4 สปีด อัตราทดเกียร์ไม่กระโชกโฮกฮากครับ เครื่อง4ลิตรแต่ไม่ได้ออกตัวพุ่ง ออกแนวยานๆ เนิบๆ
มีปุ่ม Ect ให้เล่น กับคันเกียร์ขั้นบันได ให้พอช่วยเร่งได้ในรอบต้นๆ ถ้าไม่อยากเหยียบคันเร่งลึกๆ แรงดึงมาช่วงรอบ 4พัน+
โดยรวมคือเครื่องใหญ่แบกรถน้ำหนักเยอะ ไม่ได้ออกตัวแรง แต่น่าจะไวกว่า W140 S280 S320
ความสบายผมว่าเบาะ W140 เจ๋งกว่า มีเบาะรองน่องปรับได้ แต่เบาะเดิม LS400 ก็สัมผัสดี เบาะมีขนาดใหญ่ นั่งสบายมาก ถ้าผญตัวเล็กๆคือนั่งขัดสมาธิได้สบายๆ
 รถ26ปีเบาะยังนิ่ม นั่งสบายกว่ารถแบรนด์toyota ปัจจุบัน 

ช่วงล่าง
อะไหล่ช่วงล่างถ้าแท้ตรงรุ่นหายาก ถ้าเทียบแบรนด์ตอง5 พอหาได้ ช่วงล่างโดยรวมค่อนไปทางนุ่ม โช้คถุงลมจะอยู่ใน Celsior ตัวที่ทำตลาดญี่ปุ่น
ความนุ่มนวลจากช่วงล่างจะไม่เหมือนกับรถโตโยต้าเลย จะเป็นลักษณะ นุ่มลึก แล้วหนึบ ไม่เด้งหยอยๆ ช่วงฐานล้อยาว ทำให้รถไม่ค่อยมีอาการดีดดี้นท้ายเด้ง
ขับทางไกลยาวๆ มีหลับแน่นอน
เสริมเรื่องช่วงล่าง หลายคนเอาไปแต่งใส่ล้อโตๆ แต่งแนว VIP รถผมเคยใส่ล้อ20" ขับขี่แย่มากเลยช่วงล่างยุบเยอะแต่ล้อแข็งทำให้ไม่เข้ากัน ใครอยากหล่อ จำเป็นต้องสละชุดโช้คเดิมออก แต่ก็จะเสียเอกลักษณ์ช่วงล่างนุ่มสบายไป อีกเรื่องนึงคือรอบขึ้นช้าจากล้อใหญ่
ตอนนี้ใส่ล้อเดิมขอบ16x7 ยาง225/60/16 พอช่วงล่างสมบูรณ์ก็เหมือนลอยๆ เก็บรอยต่อถนนได้ดี ขึ้นลงสะพาน ไม่ต้องเกร็งเยอะ ต้องลงคอสะพานไม่ตึงตัง อย่างที่บอก ยุบนุ่ม แล้วเด้งกลับแบบหนึบ เดียวอยู่


การควบคุม
พวงมาลัยจะเป็นไฮดรอลิก ความหนืดช่วงรถออกตัว หรือจอดในซองมีน้ำหนักพอประมาณ แต่วงพวงมาลัยมีขนาดใหญ๋ อาจจะต้องมีการสาวกันบ้าง ช่วงความเร็ว 80-120น้ำหนักจะเบาลง แต่ไม่ได้เบาหวิว...แต่ก็ไม่ได้กระชับแบบรถเยอรมันแน่ๆ
การแซงซ้าย/ขวาแบบกระทันหันจะเกิด Body Roll ชัดมาก ถ้าเป็นยางเดิม

การซ่อมบำรุง
รถ26ปี เครื่องเดิม แต่เกียร์ไม่เดิม รถเก่าแล้ว แถมเป็นมือสองมายังไงก็ต้องมีซ่อม มีซ่อมมาก กับ ซ่อม ม้ากมาก
อะไหล่เครื่อง เกียร์ หามือสองที่เชียงกง สภาพดีๆหายากและไม่ได้ถูกขนาดนั้น อยากได้ถูกปลั๊กใหม่ น้ำมันใส ไม่มี
ซีลเครื่อง ซีลหัวเกียร์ อ่างน้ำมันเครื่อง อ่างเกียร์ แอร์ กระปุกปั๊มพาวเวอร์ต้องมีไปแน่ๆ
ชุดสายพานไทม์มิ่ง ปั๊มน้ำ ท่อน้ำบน-ล่าง เบิกศูนย์ของมีน้อย และไม่ถูก อาศัยเดินวรจักร
ต่อให้วิ่งน้อย พวกวัสดุที่เป็นยางก็ลาโลกไปแล้ว

พวกกล่องECU/กล่องแอร์/กล่องCentral lock/กล่องคอนโทรลใดๆ มันคือคอมพิวเตอร์อายุร่วม30ปี เหมือนระเบิดเวลา ขับอยู่ดีๆก็ลาโลกได้เหมือนกัน
รถติดแก๊ส ถ้าอาการหนักๆ กล่องECU จะลาโลกไวกว่า หาเปลี่ยนก็ไม่เหมือนเดิม

บอดี้พาร์ท...หายากมากถึงมากที่สุด อะไหล่จากญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเข้าเพราะรถในไทยมีน้อย เค้าตัดมาส่วนใหญ่จะมีแต่เครื่องกับเกียร์ ต้องหาร้านเฉพาะLexus
กรอบช่องแอร์หักทุกคัน

อัตราสิ้นเปลือง
ในเมือง 5-5.5km/L นอกเมือง 8-9km/L เปลืองมาก สามารถกินแก๊สโซฮอล์95ได้

ตอนตัดสินใจซื้อ ผมขับ Altis 2011 1.8 ไปลอง ตอนนั้นเทียบ Camry ACV40, W140, Teana J32
เหตุผลที่ตัดสินใจเลือก
LS400 vs D-Segment ญีปุ่่น
ความหรูหรา ความพรีเมี่ยมต่างชั้นกันเยอะ ความ comfort ที่ได้ รถเก่าแต่รุ่นสูงกว่าให้ได้มากกว่าค่อนข้างเยอะ
ตอนเทียบกับ ACV40นี่ เหมือนอัลติสยาวขึ้น ไม้เยอะขึ้นหน่อย และแค่นั้น แต่LS400 มีข้อด้อยเรื่องที่วางแก้ว(เล็กและง้องแงง)
และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยไม่ครอบคลุมสมัยนิยม เช่นที่ชาร์ตมือถือ/ที่วางแก้ว ม่านบังแดดกระจกคู่หลัง/บานหลังไม่มีให้

LS400 vs W140
ตอนที่ไปดู สภาพไม่ได้กริ๊บๆทั้งคู่ แต่พบว่าโทนไม้ W140 ดูแก่และเก่ากว่า พลาสติกของปุ่มW140ดูเก่า ออพชั่น W140เยอะและฟรุ้งฟริ้งกว่า ขนาดภายในกว้างกว่าและรถมีมิติยาวกว่า
แต่ชอบความละมุนของหนังและไม้ LS400มากกว่า ดูใหม่กว่ากันนิดนึง

โดยรวม LS400 ไม่ได้มีกลไกไฟฟ้าที่ซับซ้อนมาก และเป็นรถที่ Mechanic ดี ออกแบบมาดี แต่อะไหล่ในไทยไม่เอื้ออำนวย จากยอดขายและความนิยมที่ห่างไกลตราดาว
จะปั้นสักคันต้องใจรักจริงๆ เพราะปั้นแพงกว่าเบนซ์ และไม่เป็นที่นิยมเท่า
ไม่เหมาะจะเป็นรถคันเดียวในบ้าน เพราะรถแก่ ต้องหาหมอบ่อย รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองเลวร้ายมาก
เหมาะกับการใช้งานไม่บ่อย เดิมๆ นั่งนุ่ม สบาย อัตราเร่งสู้รถ C-D Segment ญี่ปุ่น ได้ (แต่ต้องเหยียบลึกหน่อย)

ราคารถปัจจุบัน เคยเจอรถสภาพกริ๊บๆ ไมล์ 7-8หมื่นโล ราคา 3 แสนบาท สภาพแทบไม่ต้องเก็บงานแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีบ่อยๆ
ในขณะเดียวกัน เจอรถราคา2แสน สภาพคือเครื่องติดแก๊สจนเยิน เปลี่ยนกล่องก็ไม่หายถูกเปลี่ยนมือ3เจ้า ในช่วงเวลา2ปี