Review BMW 750e X Drive M Sport

[V221]

สวัสดีชาวHLMทุกท่าน วันนี้ก็ได้เวลามาลงรีวิวรถBMW 750eซึ่งใช้มาุ6เดือนแล้วครับ

[V221]

เนื่องด้วยBenz S350D Exclusive W222ซึ่งใช้งานมาเป็นเวลา4ปีกว่าด้วยระยะทางเกือบ8หมื่นกิโลเมตร จึงได้มองหารถคันใหม่มาแทน จากการเปรียบเทียบออปชั่นและราคาระหว่างBenz W223กับBMW G70 ส่วนตัวคิดว่าทางค่ายใบพัดให้คุ้มกว่าพร้อมทั้งเทคโนโลยีไฮบริดที่ติเตั้งแบตที่พื้นรถน่าจะให้ไดนามิคในการขับขี่ดีกว่าคู่แข่งที่ติดตั้งไว้ท้ายรถ
BMW 750eที่ขายในไทยจะได้ออปชั่นDRL Crystal Swarovskiและไฟเรืองแสงที่กระจังหน้าแบบIconic Glowในรูป

[V221]

ตอนแรกผมอยากจะเลือกสีภายนอกเป็นสีเทาDravit Grey Metallicเหมือนคันที่จอดในงานมอเตอร์โชว์ แต่สเปครถประกอบไทยสำหรับสีเทาและOxide Greyจะมากับเบาะสีดำเท่านั้น ด้วยความอยากได้เบาะสีน้ำตาลจึงมีให้เลือกเฉพาะสีดำหรือขาว สุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกสีดำBlack Sapphire Metallic รถรุ่นนี้มีรหัสประจำรุ่นคือG70 มิติตัวถังค่อนข้างใหญ่ ใหญ่กว่ารุ่นเดิมและใหญ่กว่าคู่แข่งอย่างBenz S Class ตัวรถมีขนาดค่อนข้างยาวถึง5.391เมตร กว้าง1.95เมตร สูง1.544เมตร โดยมีเพียงรุ่นฐานล้อยาวอย่างเดียว ไฟหน้าออกแบบให้ไฟDRLแยกออกจากไฟหน้าตามสมัยนิยมที่หลายๆค่ายนำมาใช้กัน ราคาไฟDRLแรงไม่เบาเพราะมีโอกาสเคลมไฟด้านขวาน้ำเข้า ศูนย์เอาใบเสร็จให้ดูราคาไฟDRLดวงละ7หมื่นบาท โหดได้ใจ

[V221]

คันนี้เป็นรถยนต์ระบบไฮบริดที่มีเครื่องยนต์เบนซินขนาด3.0ลิตร เทอร์โบ 313แรงม้า แรงบิด450นิวตัน เมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า197แรงม้า กำลังรวมสูงสุด489แรงมัา แรงบิดรวม700นิวตัน เมตร แบตความจุ22.1kwh เกียร์ZF 8HP สามารถวิ่งไฟฟ้าล้วนได้ถึง140กม./ชม.ด้วยระยะทาง80กม. บวก ลบ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผมมากเนื่องด้วยระยะทางการใช้งานแต่ละวันอยู่ที่ไม่เกิน70กม. จะมีบางครั้งที่ต้องไปส่งลูกสาวที่เรียนแพทย์ที่หอพักก็อาจจะต้องวิ่งด้วยเครื่องยนต์เมื่อไฟในแบตหมด แต่ก็ไม่เกิน100กม. จุดชาร์จไฟจะอยู่ที่บังโคลนด้านซ้ายข้างประตูหน้าตามรูป รับกำลังไฟสูงสุดแบบAC ที่7.4kw

[V221]

เมื่อรับรถตอนกลางปีใหม่ๆ ระบบปฎิบัตการยังเป็นOSหรือI Level8.0 อยู่ ซึ่งสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ผมค่อนข้างมาก เนื่องด้วยแรกๆจะไม่สามารถเชื่อมต่อInternetผ่านSIM Readerที่ให้มา และยังมีปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อBluetooth กับมือถือไอโฟน12ของผมบ่อยครั้ง ทำให้การใช้งานไม่สะดวกเพราะผมขับรถคันนี้เองจึงมีความจำเป็นต้องใช้งานBluetooth ทุกครั้ง เมื่อใช้งานไม่ได้CarPlayก็จะใช้ไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถใช้Google mapได้ จำเป็นต้องใช้NaviของBMWเท่านั้น ซึ่งMapของรถค่อนข้างดีมากเพราะสามารถส่งลูกศรแจ้งเตือนในHead up display เมื่อมีการใช้งาน แต่ข้อเสียคือจุดตำแหน่งที่อยู่จะไม่ครบถ้วนเหมือนกับGoogle map

[V221]

หลังจากมีการออกอัพเดทเป็นOS8.5 ปัญหาดังกล่าวก็หมดไป การใช้งานเชื่อมต่อInternetและBluetoothก็ทำได้อย่างราบรื่น รวมถึงสามารถนำFunctionที่ใช้งานบ่อยๆขึ้นมาบนหน้าแรกของShortcutตามรูป

[V221]

อย่างไรก็ดี ทางBMW Thailandได้ตัดสินใจแก้ปัญหาSIM ReaderโดยการแจกMi stickและPocket wifi และนำSIM Cardซึ่งใส่ในSIM Readerที่ให้มาพร้อมกับตัวรถย้ายมาใส่ในPocket wifiเพื่อที่จะทำให้จอหลังTheatre screenเชื่อมสัญญาณInternetจากPocket wifiแทน แต่ผมเลือกที่จะติดตั้งMi stickอย่างเดียวและไม่ย้ายSIM CardออกจากSIM Reader ดังนั้นทำให้จอด้านหน้ารถยังคงเชื่อมสัญญาณเพื่อดูหนังผ่านSIM Readerได้เช่นเดิม แต่ให้Mi stickiรับสัญญาณInternetจากมือถือของผมแทน ระบบการเชื่อมของG70จะค่อนข้างเข้าใจยากโดยเฉพาะแรกๆผมค่อนข้างสับสนมากๆ

[V221]

สัญญาณเสียงจากจอหลังสามารถเลือกได้ว่าจะให้ออกที่ลำโพงBower and Wilkins surround sound ในรถหรือถ้าไม่อยากรบกวนผู้ขับขี่ก็สามารถส่งไปยังหูฟังผ่านระบบBluetoothได้เช่นกัน ซึ่งผมลองเอาJBL headphoneมาเชื่อมก็สามารถเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดี เสียงชัดเจนมาก

[V221]

จอTabletที่อยู่ตรงประตูด้านหลังเป็นที่ควบคุมทุกสิ่งอย่างไม่ว่าปรับแอร์ แสงAmbient light ม่าน เบาะหลังและด้านหน้า จอหลังและเสียง ช่องแอร์หลังมีเพียงปุ่มเปิดปิดและปรับทิศทางลมเท่านั้น

[V221]

กุญแจรถให้มาทั้งหมด3ดอก เป็นกุญแจรีโมท2 คีย์การ์ด1 ตามรูป ส่วนอีกชิ้นคือSIM Readerพร้อมSIM internet unlimited ของAISที่ให้ใช้ฟรี1ปี ตามความเข้าใจของผมคือBMWกังวลความปลอดภัยของระบบปฎิบัตรการของตนเองจึงไม่ยอมให้Appของคนอื่นมายุ่งเกี่ยวกับAppของตนเองเพราะมีการUpdateแบบOver the airด้วย จึงต้องมีReader โดยมือถือของเราใช้สำหรับต่อเชื่อมBluetooth Apple CarPlayหรือAndroid autoเท่านั้น

[V221]

และทราบจากBMW genius ว่า I7รุ่นแรกๆยิ่งมีปัญหาหนักเพราะใช้เครือข่ายTrue พอเปลี่ยนมาใช้AISก็ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะเมื่อใดที่อยู่ในจุดอับสัญญาณหรือเปลี่ยนเป็น3G ระบบในรถก็จะค้าง ทำให้ต่อเชื่อมกับInternetไม่ได้ ปัจจุบันทางBMW Thailand จึงตัดสินใจแถมMi StickและPocket WiFiให้กับSeries 7 ทุกคัน นอกเหนือจากสมาชิกคลับBMW excellenceที่ให้กับเจ้าของรถรุ่นนี้  สิทธิประโยชน์ค่อนข้างดีมาก เหนือกว่าBenz S Classที่ไม่มีอะไีรให้เลย

[V221]

เอกสารที่ให้มาก็คือคู่มือการใช้งาน สมุดรับประกันและBSI 6ปี ใบแนะนำการใช้Emergency chargerที่แถมมากับตัวรถ

[V221]

สิ่งที่แปลกใจสำหรับรถราคา7ล้านบาทคือ ไม่แถมHome charger มาให้ มีแต่Emergency chargerเท่านั้น ตามรูปคือถุงที่มีสายไฟสีเหลือง การชาร์จด้วยEmergency chargerค่อข้างช้ามากๆ ถ้าแบตหมดจะใช้เวลาประมาณ12ชั่วโมงจึงเต็ม

[V221]

มาดูที่รายละเอียดการใช้พลังงานไฟฟ้าของ750E ถือว่ากินไฟเปลืองคันนึงทีเดียว โดยเฉพาะถ้าเทียบกับTeslaที่เป็นผู้นำด้านประหยัดพลังงาน รถคันนี้วิ่งจริงในการจราจรแบบผสมได้เพียง4kmต่อkWh ซึ่งถือว่ากินไฟฟ้าค่อนข้างมาก อาจจะมาจากขนาดและน้ำหนักตัวรถส่วนหนึ่งและระบบInfotainment ที่ให้มาเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดด้วย

[V221]

กุญแจดอกที่4คือโทรศัพท์มือถือที่Pairกับตัวรถ สามารถใช้ปิด เปิด หน้าต่าง ม่าน ปลดล็อครถจากระยะไกลหรือจ่อที่ประตูด้านหน้าด้วยNFCได้ สามารถบันทึกProfileผู้ขับขี่รวมถึงจดจำผู้โดยสารทั้งตำแหน่งความจำ อุณหภูมิที่ใช้งานประจำได้ และสามารถสั่งให้บันทึกภาพรอบด้านตัวรถขณะจอดได้ สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานในอดีตต่างๆในโทรศัพท์มือถือได้

[V221]

สามารถดูสถานะรถยนต์ของเรารวมทั้งแรงดันลมยาง

[V221]

ดูกำหนเข้ารับบริการรวมถึงนัดหมายเข้าบริการล่วงหน้า รวมถึงการอัพเดทSoftwareแบบOTA

[V221]

กรณีที่จอดรถแคบๆจนเปิดประตูลำบากก็สามารถสั่งการให้เข้าจอดหรืออกจากที่จอดรถผ่านมือถือ

[V221]

สามารถดูประวัติการชาร์จได้

[V221]

ประวัติการใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงในอดีต

[bmwmania]

รออ่านต่อนะครับ

[V221]

ต่อครับ ทางBMWไม่ได้แถมWall boxให้สำหรับรุ่นนี้ ผมจึงได้ดำเนินการหาซื้อWall chargerเอง พอดีทางร้านWall boxมีโปรลดราคา50%สำหรับBMW Wall box จากราคาแสนต้นๆลงมาเท่าๆกับยี่ห้อWall box ผมจึงตัดสินใจสั่งซื้อมาติดตั้งโดยติดตั้งเป็นวงจรที่2เพราะการไฟฟ้านครหลวงไม่ยอมให้ติดมิเตอร์ชาร์จรถไฟฟ้าแยกเหมือนกับของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เท่่าที่ใช้งานมาหลายเดือนก็ใช้งานง่ายไม่ได้มีปัญหาใดๆนอกจากเครื่องเพิ่งเสียแบบดับไปไม่ติดเอง ทางผู้ขายก็เคลมเปลี่ยนใหม่ให้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไฟที่บ้านเป็นแบบ3เฟสอยู่แล้วจึงต่อแบบ3เฟส เพื่อให้ได้กำลังจ่ายไฟสูงสุด22KW แต่750eรับไฟได้ไม่เกิน7.4KWเท่านั้น ส่วนตัวคิดว่าถ้าเลือกใหม่ได้จะไปเลือกยี่ห้อAftermarketหรืออื่นๆดีกว่าของBMWเพราะBMWจะไม่สามารถตั้งเวลาหรือวันที่ต้องการชาร์จได้ ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ในกรณีที่เราใช้ไฟแบบTOU แอปที่ตัวรถก็ไม่สามารถตั้งเวลาของแต่ละวันการชาร์จได้ ตั้งได้แต่จำกัดกระแสและให้หยุดที่เวลาที่ต้องการเท่านั้น

ขณะที่ชาร์จ ไฟIntertaction barจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าให้ทราบว่ากำลังชาร์จอยู่

[V221]

ช่องสำหรับชาร์จไฟจะอยู่บังโตลนหน้าด้านซ้าย รับหัวจ่ายAC แบบ CCS2 ส่วนตัวขอติที่ฝาปิดแบบเปิดตามรูปซึ่งดูธรรมดามากไม่สมราคา ถ้าเป็นฝาแบบเลื่อนเปิดเหมือนของAudi ตระกูลE-TronหรือLotusจะดูดีกว่า รวมทั้งไม่เกะกะกินที่กรณีจอดรถในบ้านชิดผนังเหมือนบ้านผม ทำให้ต้องจอดห่างจากผนังตัวบ้าน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเปิดฝาช่องชาร์จได้เลย

[V221]

ช่องเติมน้ำมันเบนซินจะอยู่ด้านหลังขวาเหมือนรถยุโรปทั่วไป รองรับน้ำมันผสมเอทานอลสูงสุดที่E25

[V221]

ล้อติดรถเป็นลาย5ก้านคู่แบบ M Aerodynamic ขนาดยางหน้า 255/45R20 ยางหลัง 285/40R20 ยางเป็นยี่ห้อ Pirelli P Zero Runflat

[V221]

เปรียบเทียบให้ดูระหว่างApp OS8 รูปบนและOS8.5 รูปล่าง Interfaceจะไม่เหมือนกันและมีShortcut เพิ่มมา ใช้งานได้สะดวกขึ้น

[ปัน_pun]

ล้อติดรถเป็นลาย5ก้านคู่แบบ M Aerodynamic ขนาดยางหน้า 255/45R20 ยางหลัง 285/40R20 ยางเป็นยี่ห้อ Pirelli P Zero Runflat

พี่เติมลมยางเท่าไหร่ครับ?

[V221]

ล้อติดรถเป็นลาย5ก้านคู่แบบ M Aerodynamic ขนาดยางหน้า 255/45R20 ยางหลัง 285/40R20 ยางเป็นยี่ห้อ Pirelli P Zero Runflat

พี่เติมลมยางเท่าไหร่ครับ?

เติมตามที่รถแนะนำเลยครับ 38PSI แต่ผมเผื่อไปอีก1ปอนด์เป็น39ครับ

[V221]

เมื่อวานเพิ่งนำรถเข้าServiceภายใต้BSIครั้งแรก ไม่เสียเงินแต่ได้บิลมาดูตามราคานี้ครับ

[V221]

สิ่งที่สังเกตเห็นว่าเปลี่ยนไปจากปีที่แล้วคือ มีการส่งLinkและUpdateสถานะการซ่อมมาให้ทางมือถือ