เนื่องจาก Endurapro กับสปริงโหลด S tech ใช้ไป 37,xxx กม. เกิดเหตุโช๊คหน้าขวารั่ว...(จริงๆ ตอนแรกก็ว่าจะขายรถละก็ไป Lexus es300h แต่รับราคาขายเข้าเต็นท์ไม่ได้
เลยทำเก็บไว้ใช้ต่อยาวๆ ซะเลย
) กับมีเงื่อนไขชีวิตคือลูกอายุ 5 เดือน กับคุณแฟนแนวคุณแม่สายซิ่ง (ขับเร็วกว่าผมอีกให้ตายเถอะ) จึงเป็นเหตุให้ต้องทบทวนช่วงล่าง Accord 2.4 el 2015 ใหม่อีกครั้ง
ปัจจุบันกลับมาที่ RSR Best i (ผมลงตัวที่ปรับหนืดหน้า 18 หลัง 20) + ยาง pilot super sport (ที่เคยรีวิว) + กันโคลงหน้า hardrace + สายเบรคถัก Hell กับน้ำมันเบรค Dot 5.1 + จานเบรค Nexter + ผ้าเบรค Dixcel
[img width= height= alt=thumbnail_IMG_843667a4112ab0699319.jpeg" border="0]https://cdn.pic.in.th/file/picinth/thumbnail_IMG_843667a4112ab0699319.jpeg[/img] [img width= height= alt=thumbnail_IMG_8444f400c6373a2d63ad.jpeg" border="0]https://cdn.pic.in.th/file/picinth/thumbnail_IMG_8444f400c6373a2d63ad.jpeg[/img] [img width= height= alt=thumbnail_IMG_84456bed2058d40fb6ec.jpeg" border="0]https://cdn.pic.in.th/file/picinth/thumbnail_IMG_84456bed2058d40fb6ec.jpeg[/img]
(1) ถนนยางมะตอยราดใหม่+ถนนยางมะตอยสภาพดี => เนียนมาก วิ่งบนพรมตามคำคุย 160++ ไม่รู้ตัว นิ่งกริบ (พิสูจน์มาแล้วด้วยใบรับรองความเร็ว 1 ใบ ขากลับจากกรุงเทพ-บ้านที่เชียงใหม่ โดนใบ cert. แถวๆ กำแพงเพชร จ่ายและรับใบเสร็จเรียบร้อยตามกฎหมาย)
(2) ถนนคอนกรีต => ถ้าเป็นถนนคอนกรีตที่เทดีๆ ความรู้สึกแทบไม่ต่างจาก (1) ผ่านรอยต่อถนนคอนกรีตก็จะมีแค่เสียงตึกๆๆ เท่านั้น
(3) ถนนขรุขระ เป็นหลุม => มันนุ่มกว่าที่คิดแฮะ ขับความเร็วฟิลลิ่งรถมันจะสะเทือนแบบแน่นๆ ถ้าขับช้าจะมีกระแทกเบาๆ ตามนิสัยของระบบ monotube แต่รถและพวงมาลัยจะไม่เสียอาการ แต่ก็นะ...ผมว่าถ้าได้ยาง comfort คงสบายหูสบายตัวกว่านี้แหละ (เอาไว้ลองกับยางชุดต่อไปละกัน) ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ Tein ก่อนหน้านี้ ถือว่าดีกว่ากันเยอะ เพราะชุดก่อนนี้หลังความเร็ว 100 ขึ้นไปมันชักจะไม่นิ่งละ หรือสาดโค้งเยอะๆ มันย้วย (แต่มันก็จะไม่นุ่มนวลเท่า Tein)
(4) การเก็บรอยต่อถนนหรือหมุดกลางถนน => ดีมาก มันจะมีเสียงตึกๆ แบบแน่นๆ แต่เราจะรู้สึกเหมือนรถมันวิ่งผ่านไปเลย แรงสะเทีอนแทบจะไม่ขึ้นมาที่พวงมาลัย
(5) อาการพวงมาลัยเบาหรือหวิวๆ ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของ g9 => หายไปหมดเลยเช่นกัน สตรัทชุดนี้ทำให้พวงมาลัย g9 มันแน่นมันดีขึ้นโดยเฉพาะในความเร็วสูงๆ ซึ่งแปลกใจว่า RSR ตัวนี้ทำให้ฟิลลิ่งพวกมาลัยดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ได้ยังไงกันหว่า?? มันเหมือนรถคนละคัน
(6) การเข้าโค้ง ถนนบนภูเขา => หายห่วง ยิ่งรวมกับยาง pilot super sport อย่างเกาะอย่างนิ่ง อาการเอียงหรือย้วยแทบจะไม่มี
(7) ข้อเสีย (รึเปล่า)?? => จะรู้สึกว่าล้อมันยึดติดกับถนนมากๆ ดังนั้นถ้าถนนเป็นคลื่น มันก็จะหนึบๆ แน่นๆ เป็นคลื่นตามถนนไปด้วย (ไม่ใช่อาการเด้ง) แต่รถไม่เสียอาการ
สรุป : ถ้าเป็นคนขับรถเร็ว หรือชอบสาดชอบเล่นกับโค้งเยอะๆ (เช่น ถนนวิ่งข้ามภูเขา แบบที่ผมต้องวิ่งเป็นประจำ) ชอบช่วงล่างแน่นๆ เฟิร์มๆ (แต่มันไม่แข็ง) ไม่ย้วยในความเร็วสูง ฟิลลิ่งพวงมาลัยที่ดี แต่ต้องรับได้กับความสะเทือนบ้างในความเร็วต่ำไม่เกิน 60 กม.ชม. สตรัท RSR Best i ถ้ามีงบประมาณถึง (ส่วนลดแล้วแต่ร้าน
) มันคือคำตอบสุดท้ายจริงๆ สำหรับ g9 ที่ต้องการโหลด (สตรัท RSR ควรโหลดหน้าลงอย่างน้อย 30 มม. หลัง 25 มม. เพราะผมลองเอาหน้าลงแค่ 25 มม. ละมันไม่เวิร์ค หน้ามันดูลอยๆ ไม่สวย กับมันเด้งๆ ด้วย) แต่ถ้าเป็นคนที่ยังกังวลเรื่องความนุ่มนวล และต้องการโหลดรถลงไม่เตี้ยมาก และรับได้กับความย้วยในความเร็วสูงๆ ก็จบที่ Tein Street Advance Z ก็น่าจะพอ (ผมไม่ขอเปรียบเทียบกับตัวอื่นยี่ห้ออื่นนะ เพราะไม่เคยใช้)
ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกจากการกลับมาใช้สตรัท RSR Best i มาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ระยะประมาณ 2,500 กม. (ในกรุงเทพ, กรุงเทพ-เชียงใหม่, เชียงใหม่-เชียงราย, และในตัวเมืองเชียงใหม่) หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจสตรัท RSR Best i และที่สำคัญ ***ควรใส่กับร้านที่เซ็ทสตรัทชุดนี้เป็น กับรหัสในสติ๊กเกอร์ที่ติดกับตัวสตรัทต้องเป็นตัวที่แสดงว่าผลิตสำหรับถนนในประเทศไทยนะครับ (ตามภาพเข้าใจว่าที่สติ๊กเกอร์ตัวกระบอก รหัสจะขึ้นต้นด้วย TH....)***
