ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้  (อ่าน 3837 ครั้ง)

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 525
    • อีเมล์
นี่เป็นรายการตอบปัญหาของผู้ฟัง คล้ายรายการของพี่จิมมี่


ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,188
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 09:16:31 »
เอ... ยังไ่ม่ได้ฟังนะครับ แต่หัวข้อรายการมันคือ ซื้อ ev เผื่อลดค่าน้ำมัน อาจจะไม่คุ้มไม่ใช่หรอ

หรือเนื้อในพูดถึงนโยบายเงินอุดหนุน ถ้าเป็นอันนี้แต่ละประเทศก็ไม่เท่ากัน

ฟิลรถคันแรกอะครับ ลดสูงสุด 1 แสน เปลี่ยนจากมอไซมายังไงก็ไม่คุ้ม

แบบนี้หรอพยายามหาจุดเกี่ยวข้องอยู่

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 09:28:53 »
รถ EV นี่นอกจากลดค่าน้ำมันแล้ว เราคาดหวังลดค่าซ่อมได้ด้วยมั้ยครับ

ผมเห็นรถน้ำมันพอเกินแสนโลแล้ว พวกน้ำมันชอบซึม เปลี่ยนทีอะไหล่โคตรเยอะเลย ทั้งแหวนรอง ทั้งประเก็น ทั้งซีล มาแต่ล่ะดอกขนาดโตต้ายังเป็นหมื่นเลยครับ

ถ้าเป็นพวกรถไฟฟ้าแบบบ้านๆอย่าง Goodcat หรือ ZSEV จะซ่อมเยอะแบบนนี้มั้ยครับ

ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 786
    • อีเมล์
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 09:55:17 »
น้ำมันขึ้นเอ้าขึ้นเอา
แต่ใจผมอยากให้มันวิ่งได้พอๆกับน้ำมัน1ถังต่อการชารต์1ครั้ง กับที่ชารต์เร็วมีเยอะ ถึงตอนนั้นคงได้เลิกใช้รถน้ำมันแน่ ตอนนี้ขอเป็น hybrid ไปก่อนละกัน

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 10:03:00 »
รถไฟฟ้ายังไงก็คุ้มกว่าครับ หมดยุคที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นของเล่นคนรวยแล้ว (แต่ก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกคนจน)

เพราะน้ำมันขึ้นพรวดๆ หรือต่อให้น้ำมันถูกกว่านี้ครึ่งนึง ก็ยังไม่ประหยัดเท่ารถไฟฟ้าในแง่ของ running cost

ค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่ามาก ความทนทานก็มากกว่าในรุ่นเดียวกัน

สิ่งที่ยังต้องกังวลก็คือเรื่องแท่นชาร์จตามชนบท เพราะในเมืองแท่นชาร์จผุดเป็นดอกเห็ด จบปัญหาไปสักพักแล้ว

กับเวลาเกิดอุบัติเหตุยังซ่อมนานเพราะนำเข้า CBU เลยไม่ค่อยมีสต็อคอะไหล่

แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นผลิตในประเทศ มีการอุดหนุนจากภาครัฐ อย่างน้อยๆ ตามหัวเมืองใหญ่คนจะหันมาใช้ EV มากขึ้นหลายเท่าครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 10:07:43 »
ผมก็คงยืนยันและตอบเหมือนที่เคยคอมเม้นในโพสต์อื่น ว่า ผมไม่เคยปฏิเสธรถไฟฟ้า หรือ BEV เลย

แต่ ข้อจำกัดที่ว่า

1. ระยะวิ่งไม่ถึง 500 km ซึ่งผมเป็นคนที่ขับรถออกต่างจังหวัดบ่อย มันเลยทำให้ผมไม่มีเวลามากพอที่จะจอดชาร์จระหว่างทางได้

2. การชาร์จต่อครั้งนานเกินไป มันทำให้การจะมีรถคันเดียวและเป็น BEV แทบจะไม่ตอบโจทย์ข้อนี้เลย

3. สังคมคอนโดอย่างผม ไม่มีช่องจอดส่วนตัว(เป็นส่วนรวม ไม่ 100% และ 1 ห้องได้เพียง 1 คัน) ไม่มีที่ชาร์จภายในคอนโด จะติดตั้งเองก็ไม่ได้ แทบจะไม่มีอะไรดีเลย ถ้าต้องไปจอดชาร์จตาม station หรือ ห้าง หรือ ที่บริการอื่นๆ

สุดท้าย ความคุ้ม คือ การจะต้องใช้งาน และ ตอบโจทย์ ไม่ใช่เฉพาะเรื่อง เปลี่ยนค่าน้ำมัน->ค่าไฟฟ้า หรือ ค่าบำรุงรักษา หรือ แม้กระทั้งความคุ้มในมุมความพึงพอใจต่อการใช้งานด้วยก็ตาม

สำหรับโจทย์ ตอนนี้ไม่คุ้มเลย

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,954
    • อีเมล์
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 10:12:09 »
แปลกใจครับ ทำไมหลายคนเชื่อว่า ค่าบำรุงรักษารถ EV จะถูกกว่ารถน้ำมัน ทั้งในระยะส้น และระยะยาวล่ะ ...

ผมไม่เคยใช้นะ EV และก็ยังไม่เคยเจอข้อมูลเรื่องค่าดูแลรักษา ....

แต่ที่แน่ๆ ประกันภัยรถ EV แพงกว่ารถน้ำมันมากครับ ดังนั้นมันน่าจะสะท้อนถึงราคาอะไหล่โดยรวมได้ ....

ค่าบำรุงรักษาถูก นี่คาดคะเนกันเองหรือเปล่า ... อาจจะถูกจริง แต่ค่าใช้จ่ายรายปี แพงกว่าเท่าไรล่ะ ... มันคุ้มหรอ ...

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 10:28:12 »
แปลกใจครับ ทำไมหลายคนเชื่อว่า ค่าบำรุงรักษารถ EV จะถูกกว่ารถน้ำมัน ทั้งในระยะส้น และระยะยาวล่ะ ...

ผมไม่เคยใช้นะ EV และก็ยังไม่เคยเจอข้อมูลเรื่องค่าดูแลรักษา ....

แต่ที่แน่ๆ ประกันภัยรถ EV แพงกว่ารถน้ำมันมากครับ ดังนั้นมันน่าจะสะท้อนถึงราคาอะไหล่โดยรวมได้ ....

ค่าบำรุงรักษาถูก นี่คาดคะเนกันเองหรือเปล่า ... อาจจะถูกจริง แต่ค่าใช้จ่ายรายปี แพงกว่าเท่าไรล่ะ ... มันคุ้มหรอ ...

ผมอยู่ในช่วงศึกษาหาข้อมูลนะครับ ข้อมูลส่วนใหญของผมมาของคนใช้จริงๆ และของจริงทั้งหมดครับ

ประกันรถชั้น 1 Forester ผมปีล่ะ 22,000 ส่วนเจ้า Goodcat กับ ZSEV ประมาณ 23,000 (ตรงนี้เทียบรถที่ราคาพอๆกันคือล้านต้นๆนะครับ อย่าเอาไปเทียบกับเทสล่านะอันนั้นมันแพงเว่อไปจริงๆ) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้แพงกว่าอะไรครับ

ค่าซ่อมผมมี Ref คนเดียวเป็นของพ่อผม แกใช้ BYD E8 มา น่าจะ 7 ปีแล้ว ใช้ทุกวันจากที่ทำงานในเมืองบ้านอยู่พุทธมณฑลสาย 2 ตลอดเวลาที่ผ่านมา 7 ปี แกบอกผมว่าไม่ได้ซ่อมอะไรเลยที่เกี่ยวกับมอเตอร์และแบต เปลี่ยนแค่ยางกับพวกบูชและลูกหมากแค่นั้น พวกแอร์ก็ล้างเอา คอมยังไม่พังเลย ณ ปลายปี 64 แบตแก Health ประมาณ 60% ครับ ซึ่งถ้ารวบยอดค่าบำรุงรักษา แกเปิดให้ดูไม่ถึงหมื่นเลยครับกับระยะทางที่แกวิ่งไป ประมาณ 150,000 กิโล (ซึ่งอันนี้ก็คือของจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่มาจากบริษัทรถประมาณการนะครับ) ซึ่งถ้าเทียบกับรถน้ำมันอย่างซูบารุผม หมื่นโลแรกก็หมื่นนึงแล้วครับ ถ้าเป็นพวฮอนด้าโตต้า ก็ไม่น่าเกิน 2-3หมื่นโล ก็น่าจะต้องจ่ายประมาณหมื่นนึง

แต่....ผมยังคงต้องหาข้อมูลจากคนใช้ที่ใช้มานานๆแล้วเพิ่มอีกครับ เพราะข้อมูลแค่นี้ยังไม่พอ

และสิง่ที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ ณ วันที่ จะขายรถ จะขายได้เท่าไหร่ สำคัญกว่านั้นจะมีคนซื้อมั้ย ถ้าเทียบกับรถน้ำมัน อายุ 7 ปี ตอนนี้ยังขายได้ 30-40% ของราคาซื้ออยู่ และหาคนซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งถ้า EV เหลือราคาไม่ถึง 20% อันนั้ต้องคิดหนักมาก เพราะมันประหยัดระหว่างทาง แต่ปลายทางขาดทุนเละก็ไม่น่าจะคุ้มล่ะครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,598
  • may the force lead your way ...
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 11:36:40 »
โมเดลราคารถ BEV หลายแห่งจะตั้งไว้ว่าราคาแบตประมาณ 30% ราคารถ

ดังนั้นถ้ามาตรฐานแบตรถตลาดยุคนี้ พอเกินระยะประกันแบต หลายคนคงต้องตี 0 ไว้ก่อน
อีกทีั้งต้องหาวิธีเปลี่ยนแบตกลับอีก 30% ราคารถ

ผมคิดกลมๆ ถ้าปลายรับประกันหรือหมดประกันแบตแล้ว ต้องหายไปอย่างน้อยๆ 60%
ยังไม่รวมความเสี่ยงประจำรุ่นพอผ่านการใช้จริงสักระยะถึงจะโผล่อีกพวกอินเวอร์เตอร์ มอเตอร์ ก็น่าจะอีก 10-20%

ก็คือหมดประกันแล้วน่าจะเหลือไม่เกิน 20% ราคารถเลยครับ  :-\

-----

แต่ถ้าแบตยุคใหม่อย่างที่หลายๆเจ้าเคลมว่า 10 ปีเสื่อมแค่ 10%
และใช้จริงก็เป็นตามนี้ ราคาก็น่าจะดีขึ้น .. อีกนิดครับ  :-[
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 11:48:58 »
แปลกใจครับ ทำไมหลายคนเชื่อว่า ค่าบำรุงรักษารถ EV จะถูกกว่ารถน้ำมัน ทั้งในระยะส้น และระยะยาวล่ะ ...

ผมไม่เคยใช้นะ EV และก็ยังไม่เคยเจอข้อมูลเรื่องค่าดูแลรักษา ....

แต่ที่แน่ๆ ประกันภัยรถ EV แพงกว่ารถน้ำมันมากครับ ดังนั้นมันน่าจะสะท้อนถึงราคาอะไหล่โดยรวมได้ ....

ค่าบำรุงรักษาถูก นี่คาดคะเนกันเองหรือเปล่า ... อาจจะถูกจริง แต่ค่าใช้จ่ายรายปี แพงกว่าเท่าไรล่ะ ... มันคุ้มหรอ ...

ผมอยู่ในช่วงศึกษาหาข้อมูลนะครับ ข้อมูลส่วนใหญของผมมาของคนใช้จริงๆ และของจริงทั้งหมดครับ

ประกันรถชั้น 1 Forester ผมปีล่ะ 22,000 ส่วนเจ้า Goodcat กับ ZSEV ประมาณ 23,000 (ตรงนี้เทียบรถที่ราคาพอๆกันคือล้านต้นๆนะครับ อย่าเอาไปเทียบกับเทสล่านะอันนั้นมันแพงเว่อไปจริงๆ) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้แพงกว่าอะไรครับ

ค่าซ่อมผมมี Ref คนเดียวเป็นของพ่อผม แกใช้ BYD E8 มา น่าจะ 7 ปีแล้ว ใช้ทุกวันจากที่ทำงานในเมืองบ้านอยู่พุทธมณฑลสาย 2 ตลอดเวลาที่ผ่านมา 7 ปี แกบอกผมว่าไม่ได้ซ่อมอะไรเลยที่เกี่ยวกับมอเตอร์และแบต เปลี่ยนแค่ยางกับพวกบูชและลูกหมากแค่นั้น พวกแอร์ก็ล้างเอา คอมยังไม่พังเลย ณ ปลายปี 64 แบตแก Health ประมาณ 60% ครับ ซึ่งถ้ารวบยอดค่าบำรุงรักษา แกเปิดให้ดูไม่ถึงหมื่นเลยครับกับระยะทางที่แกวิ่งไป ประมาณ 150,000 กิโล (ซึ่งอันนี้ก็คือของจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่มาจากบริษัทรถประมาณการนะครับ) ซึ่งถ้าเทียบกับรถน้ำมันอย่างซูบารุผม หมื่นโลแรกก็หมื่นนึงแล้วครับ ถ้าเป็นพวฮอนด้าโตต้า ก็ไม่น่าเกิน 2-3หมื่นโล ก็น่าจะต้องจ่ายประมาณหมื่นนึง

แต่....ผมยังคงต้องหาข้อมูลจากคนใช้ที่ใช้มานานๆแล้วเพิ่มอีกครับ เพราะข้อมูลแค่นี้ยังไม่พอ

และสิง่ที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ ณ วันที่ จะขายรถ จะขายได้เท่าไหร่ สำคัญกว่านั้นจะมีคนซื้อมั้ย ถ้าเทียบกับรถน้ำมัน อายุ 7 ปี ตอนนี้ยังขายได้ 30-40% ของราคาซื้ออยู่ และหาคนซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งถ้า EV เหลือราคาไม่ถึง 20% อันนั้ต้องคิดหนักมาก เพราะมันประหยัดระหว่างทาง แต่ปลายทางขาดทุนเละก็ไม่น่าจะคุ้มล่ะครับ

Batt health เหลือ 60% แล้ว น่าจะต้องคิดถึงราคาเปลี่ยนแบตใหม่
หรือถ้าไม่วั้นก็น่าจะตีค่าเสื่อมของตัวแบตลงไปในค่าใช้จ่ายด้วยครับ

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 12:00:00 »
แปลกใจครับ ทำไมหลายคนเชื่อว่า ค่าบำรุงรักษารถ EV จะถูกกว่ารถน้ำมัน ทั้งในระยะส้น และระยะยาวล่ะ ...

ผมไม่เคยใช้นะ EV และก็ยังไม่เคยเจอข้อมูลเรื่องค่าดูแลรักษา ....

แต่ที่แน่ๆ ประกันภัยรถ EV แพงกว่ารถน้ำมันมากครับ ดังนั้นมันน่าจะสะท้อนถึงราคาอะไหล่โดยรวมได้ ....

ค่าบำรุงรักษาถูก นี่คาดคะเนกันเองหรือเปล่า ... อาจจะถูกจริง แต่ค่าใช้จ่ายรายปี แพงกว่าเท่าไรล่ะ ... มันคุ้มหรอ ...

ผมอยู่ในช่วงศึกษาหาข้อมูลนะครับ ข้อมูลส่วนใหญของผมมาของคนใช้จริงๆ และของจริงทั้งหมดครับ

ประกันรถชั้น 1 Forester ผมปีล่ะ 22,000 ส่วนเจ้า Goodcat กับ ZSEV ประมาณ 23,000 (ตรงนี้เทียบรถที่ราคาพอๆกันคือล้านต้นๆนะครับ อย่าเอาไปเทียบกับเทสล่านะอันนั้นมันแพงเว่อไปจริงๆ) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้แพงกว่าอะไรครับ

ค่าซ่อมผมมี Ref คนเดียวเป็นของพ่อผม แกใช้ BYD E8 มา น่าจะ 7 ปีแล้ว ใช้ทุกวันจากที่ทำงานในเมืองบ้านอยู่พุทธมณฑลสาย 2 ตลอดเวลาที่ผ่านมา 7 ปี แกบอกผมว่าไม่ได้ซ่อมอะไรเลยที่เกี่ยวกับมอเตอร์และแบต เปลี่ยนแค่ยางกับพวกบูชและลูกหมากแค่นั้น พวกแอร์ก็ล้างเอา คอมยังไม่พังเลย ณ ปลายปี 64 แบตแก Health ประมาณ 60% ครับ ซึ่งถ้ารวบยอดค่าบำรุงรักษา แกเปิดให้ดูไม่ถึงหมื่นเลยครับกับระยะทางที่แกวิ่งไป ประมาณ 150,000 กิโล (ซึ่งอันนี้ก็คือของจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่มาจากบริษัทรถประมาณการนะครับ) ซึ่งถ้าเทียบกับรถน้ำมันอย่างซูบารุผม หมื่นโลแรกก็หมื่นนึงแล้วครับ ถ้าเป็นพวฮอนด้าโตต้า ก็ไม่น่าเกิน 2-3หมื่นโล ก็น่าจะต้องจ่ายประมาณหมื่นนึง

แต่....ผมยังคงต้องหาข้อมูลจากคนใช้ที่ใช้มานานๆแล้วเพิ่มอีกครับ เพราะข้อมูลแค่นี้ยังไม่พอ

และสิง่ที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ ณ วันที่ จะขายรถ จะขายได้เท่าไหร่ สำคัญกว่านั้นจะมีคนซื้อมั้ย ถ้าเทียบกับรถน้ำมัน อายุ 7 ปี ตอนนี้ยังขายได้ 30-40% ของราคาซื้ออยู่ และหาคนซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งถ้า EV เหลือราคาไม่ถึง 20% อันนั้ต้องคิดหนักมาก เพราะมันประหยัดระหว่างทาง แต่ปลายทางขาดทุนเละก็ไม่น่าจะคุ้มล่ะครับ

Batt health เหลือ 60% แล้ว น่าจะต้องคิดถึงราคาเปลี่ยนแบตใหม่
หรือถ้าไม่วั้นก็น่าจะตีค่าเสื่อมของตัวแบตลงไปในค่าใช้จ่ายด้วยครับ

ใช่ครับ ซึ่งพอมันเอาหลายๆ factor มาคิด ชักไม่แน่ใจว่ารวมออกมาแล้ว 7-10 ปี EV ถูกกว่าจริงๆหรือเปล่าครับ

ณ วันนี้ แบต 60% เค้าก็ยังไม่เปลี่ยนนะครับ เพราะระยะทาง ขาเดียวแค่ 30 กม แกลงทุนติดที่ชาร์จไว้ที่บริษัทด้วยเลย ซึ่งก็ไม่กี่หมื่น มาก็ชาร์จ กลับก็ชาร์จ ไม่ต้องเปลี่ยนแบตครับ คงลากไปได้ยัน 40-50% อีกหลายปีเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,633
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 14:24:38 »
รถ EV  ไม่ได้มีราคาถูกกว่าน้ำมัน หมายถึงราคารถนะครับ  รออีก 10 ปีราคาก็ไม่ถูกกว่ารถใช้น้ำมันอยู่ดี     
   ส่วนเรื่องค่าซ่อมนั้นน้อยลงจริง   แต่.... เคยคิดถึงค่าเสื่อมเมื่อถึงคราวซ่อมต้องเปลี่ยนแบตหรือต้องขายทิ้งเป็นซากรถหรือไม่    ให้ดูรถไฟฟ้าพวกรถกอล์ฟ รถ Fork lift ในโรงงานได้เลย  ตอนซื้อราคาหลายแสน ตอนขายแทบเป็นเศษเหล็ก 
    อนาคตรถไฟฟ้ามันจะพ่วงมาด้วยโปรแกรม อัพเดทซอฟแวร์ที่ทันสมัยมากขึ้น   อาจต้องเสียค่าบริการรายเดือนในการใช้รถด้วยก็ได้ หรือเสียค่าอัพเดทซอฟแวร์เมื่อถึงระยะที่กำหนด     ไม่งั้นบริษัทและศูนย์บริการรถยนต์ไม่มีรายได้จากค่าบริการเซอร์วิส   ดีลเลอร์จะล้มหายตายจากไปหมด เพราะโฉมหน้าธุรกิจมันจะเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า

   ถ้าสรุปความคุ้มของรถ EV  ถ้ามองเป็นตัวเงินไม่มีทางคุ้มยังไงก็จ่ายแพงกว่า แม้อีก10 ปีข้างหน้าผมว่ายังไม่คุ้มถ้าเทียบกับรถสันดาป   
  แต่ถ้าให้มองถึงรักษ์โลก พลังงานสะอาด และมองเป็นพลังงานทดแทนน้ำมัน อันนี้ตอบโจทย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 28, 2022, 14:26:30 โดย Auto »

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 14:27:20 »
แปลกใจครับ ทำไมหลายคนเชื่อว่า ค่าบำรุงรักษารถ EV จะถูกกว่ารถน้ำมัน ทั้งในระยะส้น และระยะยาวล่ะ ...

ผมไม่เคยใช้นะ EV และก็ยังไม่เคยเจอข้อมูลเรื่องค่าดูแลรักษา ....

แต่ที่แน่ๆ ประกันภัยรถ EV แพงกว่ารถน้ำมันมากครับ ดังนั้นมันน่าจะสะท้อนถึงราคาอะไหล่โดยรวมได้ ....

ค่าบำรุงรักษาถูก นี่คาดคะเนกันเองหรือเปล่า ... อาจจะถูกจริง แต่ค่าใช้จ่ายรายปี แพงกว่าเท่าไรล่ะ ... มันคุ้มหรอ ...

ผมอยู่ในช่วงศึกษาหาข้อมูลนะครับ ข้อมูลส่วนใหญของผมมาของคนใช้จริงๆ และของจริงทั้งหมดครับ

ประกันรถชั้น 1 Forester ผมปีล่ะ 22,000 ส่วนเจ้า Goodcat กับ ZSEV ประมาณ 23,000 (ตรงนี้เทียบรถที่ราคาพอๆกันคือล้านต้นๆนะครับ อย่าเอาไปเทียบกับเทสล่านะอันนั้นมันแพงเว่อไปจริงๆ) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้แพงกว่าอะไรครับ

ค่าซ่อมผมมี Ref คนเดียวเป็นของพ่อผม แกใช้ BYD E8 มา น่าจะ 7 ปีแล้ว ใช้ทุกวันจากที่ทำงานในเมืองบ้านอยู่พุทธมณฑลสาย 2 ตลอดเวลาที่ผ่านมา 7 ปี แกบอกผมว่าไม่ได้ซ่อมอะไรเลยที่เกี่ยวกับมอเตอร์และแบต เปลี่ยนแค่ยางกับพวกบูชและลูกหมากแค่นั้น พวกแอร์ก็ล้างเอา คอมยังไม่พังเลย ณ ปลายปี 64 แบตแก Health ประมาณ 60% ครับ ซึ่งถ้ารวบยอดค่าบำรุงรักษา แกเปิดให้ดูไม่ถึงหมื่นเลยครับกับระยะทางที่แกวิ่งไป ประมาณ 150,000 กิโล (ซึ่งอันนี้ก็คือของจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่มาจากบริษัทรถประมาณการนะครับ) ซึ่งถ้าเทียบกับรถน้ำมันอย่างซูบารุผม หมื่นโลแรกก็หมื่นนึงแล้วครับ ถ้าเป็นพวฮอนด้าโตต้า ก็ไม่น่าเกิน 2-3หมื่นโล ก็น่าจะต้องจ่ายประมาณหมื่นนึง

แต่....ผมยังคงต้องหาข้อมูลจากคนใช้ที่ใช้มานานๆแล้วเพิ่มอีกครับ เพราะข้อมูลแค่นี้ยังไม่พอ

และสิง่ที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ ณ วันที่ จะขายรถ จะขายได้เท่าไหร่ สำคัญกว่านั้นจะมีคนซื้อมั้ย ถ้าเทียบกับรถน้ำมัน อายุ 7 ปี ตอนนี้ยังขายได้ 30-40% ของราคาซื้ออยู่ และหาคนซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งถ้า EV เหลือราคาไม่ถึง 20% อันนั้ต้องคิดหนักมาก เพราะมันประหยัดระหว่างทาง แต่ปลายทางขาดทุนเละก็ไม่น่าจะคุ้มล่ะครับ

Batt health เหลือ 60% แล้ว น่าจะต้องคิดถึงราคาเปลี่ยนแบตใหม่
หรือถ้าไม่วั้นก็น่าจะตีค่าเสื่อมของตัวแบตลงไปในค่าใช้จ่ายด้วยครับ

ใช่ครับ ซึ่งพอมันเอาหลายๆ factor มาคิด ชักไม่แน่ใจว่ารวมออกมาแล้ว 7-10 ปี EV ถูกกว่าจริงๆหรือเปล่าครับ

ณ วันนี้ แบต 60% เค้าก็ยังไม่เปลี่ยนนะครับ เพราะระยะทาง ขาเดียวแค่ 30 กม แกลงทุนติดที่ชาร์จไว้ที่บริษัทด้วยเลย ซึ่งก็ไม่กี่หมื่น มาก็ชาร์จ กลับก็ชาร์จ ไม่ต้องเปลี่ยนแบตครับ คงลากไปได้ยัน 40-50% อีกหลายปีเหมือนกันครับ
พอแบตเสื่อมแล้วจะทำให้คิดถึงราคาแบตเลยนะครับ  ต่อมาการเกิอุบัติเหตุไฟหม้ เห็นว่าดับยากกว่ารถบรรทุกน้ำมันไฟไหม้เสียอีก ใช้เวลาดับนานมากครับ  แถมประทุเองซ้ำได้ครับ

ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 14:36:42 »
คนที่ใช้เระยะทางเยอะๆ  ราคาไฟฟ้าถูกกว่าน้ำมัน
แถมมีเงินอุดหนุนจากรัฐ  อาจจะทำให้คืนทุนได้เร็วกว่าการซื้อรถน้ำมัน จนคุ้มค่าในการซื้อ BEV ก็ได้
อาจจะคุ้มค่าเพราะได้ใช้งานเยอะๆ
แต่อย่าไปคิดเรื่องขายต่อ  เพราะรุ่นใหม่ๆในอีก 5ปีข้างหน้า ประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดดกว่า
ยังไงราคาขายต่อรุ่นเก่า ก็ตกมากอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 15:12:09 »
ค่าบำรุงรักษาเชคระยะต่อครั้งถูกกว่ารถน้ำมันแน่นอนครับ  ของเหลวน้อยลงเยอะเหลือแค่น้ำมันเบรคกับคูลแลนต์ นอกนั้นสลับยาง เปลี่ยนยางตามอายุ เชตช่วงล่าง
แต่ระยะยาวยังไม่มีใครตอบได้ว่าถ้าชิ้นส่วนที่สำคัญมีปัญหาราคาจัยังไงบ้างหรือจะเหมือนสมาทโฟนเวลาพังอาจะต้องขายทิ้งทันที รวมถึงค่าป.1อีกด้วย

ค่าไฟถ้าชาร์จไฟบ้านต่อหน่วยอาจจะถูกว่าน้ำมัน ส่วนควิกชาร์จตามปั้มเท่าที่คำนวณดูไม่ถูกกว่าน้ำมันมาก แถมระหว่างรอบางครั้งเราอาจะซื้อน้ำขนมระหว่างรอ

ถ้าคิดแง่เศรษศาสตร์อาจไม่ได้ประหยัดกว่ารถน้ำมันเท่าไหร่ในวันนี้ แต่ถ้าอนาคตก็ไม่แน่วันนึงอาจจะชาร์จได้เร็วขึ้น ราคาน้ำมันไปไกลขึ้น มีอู่นอกที่รับซ่อมชิ้นส่วนระบบต้นพลังได้มากขึ้น ก็น่าจะเป็นชอยส์ที่ดีสำหรับรถคันเดียวในบ้านครับ


ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,866
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 15:39:32 »
ผมว่าจะเรียกว่าค่าบำรุงรักษาถูกกว่ารถน้ำมันก็ไม่ถูกนะครับ ตราบใดที่ยังไม่รวมค่าเปลี่ยนแบตลูกใหญ่ที่เสื่อมแน่ๆเมื่อใช้ไปนานๆ
คือถ้าเทียบกันในช่วง5-10ปีแรกมันคงถูกกว่าแหละเพราะแบตยังไม่เสื่อม แต่ถ้าลองเทียบกันหลังใช้ไป15-20ปี เปลี่ยนแบตซักครั้งรถน้ำมันอาจจะถูกกว่าก็ได้

ออฟไลน์ Cortana

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 75
    • อีเมล์
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 20:35:16 »
ส่วนตัว ไม่ได้สนใจเรื่องประหยัดน้ำมันเลย

แต่สนใจเรื่อง การซ่อมบำรุงที่ลดลง จะได้ไม่ต้องดูแลมาก น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย เบรก คลัทต์

ไม่ต้องมาพะวง น้ำมันเครื่องเบอร์ลื่น เบอร์หนืด เปลี่ยนรุ่นยี่ห้อ คุณภาพใช้ต่างกันอีก สารพัดน้ำมันที่ เห้อ ยุ่งยากชะมัด

คนขี้เกียจทำอะไรยุ่งยาก คงเข้าใจแหละ

เพราะงั้นรถยนต์ไฟฟ้า มันค่อนข้างตรงคอนเซ็ปกับสไตล์ชีวิต เป็นนิวนอมอล แต่จะดีกว่ารถสันดาปไหม ต้องลองก่อนแหละ

แต่ก็นั่นแหละ เรื่องระบบไฟฟ้า อาจจะสร้างความน่ารำคาญกว่าเดิมก็ได้



ออฟไลน์ andy_duf

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 179
    • อีเมล์
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มกราคม 28, 2022, 22:02:10 »
ต่อไป tesla แบตฯจะฝังในแชสซีย์พื้นรถ เปลี่ยนแบตฯทีปวดหัวแน่
รอลุ้นมาตรการส่งเสริม EV

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มกราคม 31, 2022, 08:31:13 »
แต่ละประเทศมีนโยบายที่ต่างกันนะครับ

ส่วนของ ไทย ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลย คงมีแค่ช่วยนิดๆหน่อยๆ แต่จะให้มีมาตรการเยอะๆ ช่วยเหลือหลายๆอย่าง คิดว่าคงไม่มีขนาดนั้นครับ

ออฟไลน์ neozero

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • อีเมล์
Re: ซื้อEVเพื่อหวังเงินอุดหนุนอาจไม่คุ้มก็ได้
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2022, 09:03:26 »
ผมเติมน้ำมันเดือนละ 6 พันกว่าบาท ถ้าเปลี่ยนมาใช้รถ EV ก็ประหยัดไปเดือนละตั้งเกือบ 5 พัน ปีละ 6 หมื่นบาท ปกติผมใช้รถ 10 ปี ก็ต่างกัน 6 แสนแล้ว ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษาที่หายไปอีกหลายหมื่น ยังไงก็คุ้มครับ