นั่งคิดๆดู ถ้าเป็นผม
4.0L ธรรมดา ผมตัดออกครับ เพราะ ความจุเยอะเกินจำเป็น สมรรถนะผมว่าน่าจะพอๆกับ 2.0 ECB
และเกรงว่า คนส่วนใหญ่ ต้องคิดว่ามันซดน้ำมันแน่ๆ ยุคนี้น้ำมันแพง ความจุน้อย แรงม้าเยอะ แรงบิดดี อัตราสิ้นเปลืองดี กำลังเป็น Trend ใหม่
ผมจะออก 5 รุ่นครับ
1. 2.0 ECB รุ่น XT จูนม้าเหลือ 173 ม้าครับ
2. 2.0 ECB รุ่น G6 จูนม้าเหลือ 173 ม้าครับ
3. 2.0 ECB รุ่น G6 จูนม้า 201 ม้าครับ
4. 2.0 ECB รุ่น XR จูนม้า 201 ม้าครับ
5. 4.0 TB รุ่น XR เอาม้าเต็มๆ เอาไว้เป็น Flagship ของ Falcon
ถ้าเปิดตลาดเลย ผมจะขายโฉมนี้ไปจนถึงต้นปลายปี 2012 หรือ จ้าวตลาดปรับปรุงตัวรถครับ
ซึ่งถ้าเป็นปลายปี 2012 ผมจะ Minor Change และทำปลดแรงม้าเพิ่มเป็นดังนี้
รุ่น MinorChange ในปลายปี 2012 เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับรถ
1. 2.0 ECB รุ่น XT จูนม้าเป็น 189 ม้าครับ
2. 2.0 ECB รุ่น G6 จูนม้าเป็น 189 ม้าครับ
3. 2.0 ECB รุ่น G6 จูนม้า 219 ม้าครับ
4. 2.0 ECB รุ่น XR จูนม้า 219 ม้าครับ
5. 4.0 TB รุ่น XR เอาม้าเต็มๆ ยังเหมือนเดิมครับ
กลยุทธทำตลาด
ในระว่างการขายตั้งแต่เปิดตลาด-ปิดรุ่นเปลี่ยนโฉม
1.ผมจะ PR เยอะๆ โฆษณาถึงสมรรถนะรถ ความปลอดภัย จุดเด่นทุกอย่างครับ โดยเฉพาะรายละเอียดๆเล็กๆน้อยๆของรถ
เพราะส่วนใหญ่แล้ว รายละเอียดเล็กๆน้อยของรถนี้แหละ มักจะสร้างความประทับใจให้แก่ตัวรถได้เสมอ
2.โฆษณาถึงจุดเด่นเทียบกับจ้าวตลาด โดยในโฆษณาก็ปิดตรายี้ห้อคู่แข่งเอาไว้
ไหนๆก็พลีชีพแล้ว ก็ขอตายในหน้าที่เลยแล้วกัน 555+
3.ประกัน 5 ปีหรือ 150000 กิโลเมตร
4.จัดของแถม ส่วนลดแบบลูกค้าตาถลน ยอมกำไรน้อยซักนิดนึง เพื่อดันให้รถติดตลาดให้ได้
5.จัดการเรียกพนักงาน เซลล์ ผู้จัดการ .... มาอบรมมารยาท การพูด และการบริการต่างๆ โดยจะจ้างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
จัดให้เข้าค่ายเลยเอา ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม 555++
6.ให้ลูกค้าสัมพันธ์โทรไปถามลูกค้า ว่าศูนย์บริการเป็นอย่างไรบ้าง รถใช้งานดีหรือเปล่า โดยให้ลูกค้า Complain มา
แย่ส่วนไหนก็แก้ไขทันที และบอกให้ลูกค้าทราบถึงการแก้ไขด้วย
7.มีบริการ On-Site ตลอด 24 Hr ครับ
.... นึกไม่ออกแล้วครับ