« ตอบกลับ #59 เมื่อ: มีนาคม 01, 2022, 20:22:31 »
**สปอย** ถ้าชอบและสู้ไหวก็จัด Entry Permium Car ครับ จะได้หายคาใจ หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมา D-Sedan หรือ C-D SUV ญี่ปุ่น ครับ **สปอย**
**สปอย** แล้วคุณจะเข้าใจว่ารถมันดีอย่างไรและทำไมถึงแพง แล้วมันเหมาะกับเราไหม **สปอย**
มี Accord G9 2.0el อยู่แล้ว และออก GLA200 ให้แฟนใช้ นางขับคนเดียว
พูดแบบไม่อาย และไม่กลัว ที่ซื้อเพราะเป็นตราดาว และพอจะเอื้อมถึง
(ในกลุ่มคนเล่นเบนซ์ก็คงบอกว่าเป็นรุ่นเอื้ออาทร แต่ก็ไม่แคร์ เพราะมีปัญญาแค่นี้)
พอเอามาใช้งาน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ภาพรวมรถก็ดูดี แฝงความ premium แทบในทุกรายละเอียด
แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้น (ตอนนั้น A200 เลิกขายไปแล้ว จะมีก็ CLA250 เลย GLA200 เลยเป็นราคาต่ำสุดติดขอบตาราง)
ความสะดวก Option ความปลอดภัย ก็มาแบบพอเพียง ไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด บริโภคน้ำมันเยอะตามปกติ
ขับไปไหนก็ดูดี รปภ.ให้เกียรติพอควร
พอนางมาเจอค่าต่อประกันชั้นหนึ่ง ค่า Service B1 ราคาอะไหล่ตอนรถเข้าซ่อมเคลมสี
ความล่าช้า และการเล่นแง่ของประกัน เนื่องจากอะไหล่ราคาแพง
คันต่อไปนางยอมไป CR-V ละครับ แต่ต้องรอโฉมต่อไปเท่านั้น
** เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง จัดไปให้คลายสงสัย สามีจ่ายตังพังอยู่คนเดียว **
เรื่องเบี้ยประกันนี่จริงมากครับ ปัจจัยนึงเลยที่ผมไม่เอา
ตอนเซอรวิสบางทีถ้ามันมี BSI ก็ไม่ต่างครับ แต่ปัจจัยเรื่องประกันนี่ผมก็สงสัยอยู่
รถยุโรปเล็กราคาไม่ได้ทิ้ง Camry มาก แต่เวลาคิดเบี้ยประกันชั้น 1 ซ่อมห้าง ราคาค่อนข้างสูงกว่าเกือบเท่านึงเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น (หรือแม้แต่เป็นมือสองที่ราคาลงมาแล้วก็ยังสูงกว่า)
ผมไม่แน่ใจว่าทางบริษัทประกันเขาคิดจากอะไร รถมันอะไหล่แพง หรือว่ายังไง
ถ้าเงินเหลือมากๆเลือกตามที่ชอบ และขับเองรถยุโรปก็ดีครับ แต่ต้องไม่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประกอบกันด้วย จะได้ไม่ตึงจนเกินไป
เบี้ยซ่อมอู่ก็ดรอปลงมาพอสมควร หรือเป็นสาเหตุนึงที่อู่สีที่ผมไปบ่อยๆ มีรถยุโรปมาจอดทำสีกันเยอะ ?
ผมขับรถญี่ปุ่นสบายใจครับ งบเหลือๆ ขับสนุก หามือสองเก่าๆเล่น คันเล็กๆ เอาครับ เดี๋ยวนี้ราคาตกลงมาเยอะ ถ้าปิดรถญี่ปุ่นแล้ว น่าจะหา E87 จับลงเกียร์ธรรมดาอยู่เลยครับ ผมนี่แฟนพันธุ์แท้พวงมาลัยไฮดรอลิคยุค E90 มากๆ หนักเหมือนขับโกคาร์ท
ขออนุญาตแจ้งจากประสบการณ์ล่าสุดในการเคลมซ่อมแก้มหน้าและกันชนหน้า อะไหล่ตัวถังของ GLA200 เป็นอลูมิเนียม หากมีการบุบต้องเปลี่ยนสถานเดียว ไฟหน้าก็แพงมาก ฝากระโปรงหน้านี่ก็ราคาโหดมาก ดีที่ไม่ได้บุบเลยทำสีใหม่ได้
ตีค่าซ่้อมออกมาหลักสอง-สามแสนบาทไทย
ตอนซื้อประกันซ่อมห้างเบี้ยประมาณ 45K เคยเคลมสีเปลี่ยนอะไหล่นิดหน่อย แถมมารู้ทีหลังว่าศูนย์ก็ส่งทำสีที่อู่นอกอยู่ดี (ซ่อมศูนย์?!?)
ปีต่อมาเจอโควิดงานหดต้องลดงบเบี้ยประกันมาซ่อมอู่ ค่าเบี้ยเหลือ 28K ก็มาเจอของจริงที่กล่าวข้างต้น แต่ก็ได้ซ่อมอู่ที่ศูนย์ส่งมานั่นละครับ มาตรฐานเดียวกัน ต่างกันที่อะไหล่อนุมัติยากกว่า รอนานกว่า
แต่ขอบอกว่ารายละเอียดตัวรถ คุณภาพงานประกอบ ความ premium มีในทุกรายละเอียด การขับก็ดี ขับเพลินทีไรไป 140-160 แบบไม่รู้ตัวเป็นประจำ
ปล. Accord G9 ของผมประวัติดี มีเคลมครั้งนึงโดนรถถอยมาชนและผมเป็นฝ่ายถูก ได้เบี้ยซ่อมห้างในปีที่ 3-6 ปีละ 11K เท่านั้นครับ ต่างกันเยี่ยงนี้ได้อย่างไร
บันทึกการเข้า
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK