ถาม คนที่เคยเลือกระหว่าง D segment ญี่ปุ่น และ entry premium car ยุโรป

IS2000

เป็นผมอาจจะมอง premium ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมาอีกครับ เมื่อวานไปลอง Lexus IS300h แล้วประทับใจครับ ได้ความเป็นทั้งรถพรีเมียมที่ขับสนุก + ความน่าเชื่อถือกับความนุ่มนวลแบบที่รถยุโรปยุคปัจจุบันไม่ค่อยมี พอคุยราคาเสร็จจองไปเรียบร้อยเอามาแทน GLC250D ที่ใช้อยู่ปัจจุบันครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R



InBkk

เคสแรก คุณแม่จอง E200 W212 ไป แต่พอเห็น Accord G9 2.4 Tech เลยลังเล จนเกือบถอนจอง/ทิ้งเงินจอง ไปเอา Accord แต่สุดท้ายกลับไป Benz เหมือนเดิม

เคสที่สอง รุ่นพี่ที่รู้จัก เดิมจะซื้อ CX-5 แต่สุดท้ายเพิ่มงบไปเอา X1 เพราะคิดว่าหรูกว่า ขับดีกว่า คันเล็กกว่าไม่มาก ได้ส่วนลด ที่สำคัญมากๆ เลยคือมี BSI

เคสที่สาม เพื่อนผมคนนึง พึ่งซื้อ 220i เมื่อปลายปีที่แล้ว คันก่อนหน้าที่เขาใช้ก็คือ CLA200 คันก่อน CLA200 เป็น Civic FD พูดง่ายๆ คือ ไม่มองรถคันใหญ่ตั้งแต่แรกแล้ว

ส่วนเคสที่ จะซื้อ Camry Accord แล้วสุดท้ายไป A-class 2 Series อันนี้ยังไม่เคยเจอครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2022, 11:31:30 โดย ArtofLife »



pratuang

ผมใช้ ACCORD มา 4 คันแล้ว ที่เลือกเพราะ กว้างขวาง นั่งสบาย ขับทางไกลไม่เหนื่อย เครื่องแรง ดูวัยรุ่น เข้าศูนย์ก็ไม่แพง อะไหล่มากมาย



DiKiBoyZ

entry premium car   ยุโรป  หมายถึง รุ่นไหนบ้างละครับ

เพราะ D-Seg ญี่ปุ่น ตอนนี้มีแค่ Camry Accord เองนะ Teana ไม่รู้ยังขายอยู่หรือป่าว

ถ้าคัณเอาราคา ออฟชั่น การขับขี่ การโดยสาร และ อื่นๆ ในเงิน 2 ล้าน ผมไม่มอง A Class, Series 1 เลยแม้แต่น้อย เพราะ เทียบกันไม่ได้เลย

ถ้าเลือกยุโรป คงเลือกตามที่ชอบ และ อยากได้ อย่าง 5 series, A4, A5 ไปเลย ดังนั้น ตามคำถามที่ถามมา มันไม่ใช่โจทย์ หรือ เป้าหมาย สำหรับผมคับ



godzodiac

ผมเลือกพวกseries3กับc-class

เพราะผมขับในเมือง camry accord ใหญ่เกินความจำเป็นครับ

ที่บ่นเพราะ คันเก่าseries3 คันใหม่ series5 (เปรียบเทียบเพราะcamry ใหญ่น่าจะพอๆกัน)

ใช้แล้วอยากกลับไปseries3 สะดวกกว่ามาก



MasterMan

ตลกคนที่คิดว่า คนขับa class กับ 2 series มีเงินไม่ถึงรถยุโรปแต่อยากได้รถยุโรป ถ้าเงินไม่ถึงเค้าจะซื้อได้หรอ

ผมขับ serie 1 แต่ก็มี series 5 ผมใช้ s1 เพราะตอนนั้นอยากได้รถเล็กกระทัดรัดขับสนุก ซื้อมันขับดีจริงๆชอบขับมากกว่า5อีก ถ้าผมจะซื้อรถเล็ก

ผมจะเทียบกับรถเล็กเท่านั้น ไม่เอารถคนละขนาดมาเทียบหรอก ผมกลับมองว่าคนที่เอารถ D seg ญี่ปุ่นมาเทียบกับ entry premium car

คือคนที่งบไม่เหลือพอที่จะแน่ใจเล่นรถยุโรปมากกว่า เลยมองความคุ้มค่ารถใหญ่มากกว่ามันเลยเกิดความลังเล เพราะเอาความคุ้มเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอาความชอบเป็นที่ตั้ง

เพื่อนผมโคตรรวยซื้อ s2 มาเพราะมันชอบ มันขับสนุก ไม่ไฮบริด ไม่ดีเซล ชอบเบนซิน ซื้อเงินสด เค้ามองความชอบเป็นที่ตั้ง เค้าไมได้มองความคุ้มค่า เค้ามองเป็นtoy car

คนที่คิดว่าเงินไม่ถึงแต่อยากได้รถยุโรปโลกแคบมากกก โคตรตลกอ่ะความคิดนั้น



joufo

ผมดู แคมรี่ ตัวท๊อป ฟอร์จูนเนอร์  บีเอ็ม 3 ฐานล้อยาว บีเอ็ม 5 ดีเซลไว้

สุดท้ายเลือกแคมรี่
เพราะ
มีคนขับรถให้ แคมรี่นั่งสบายกว่า บีเอ็ม 3 
จูนเนอร์ เด้งมาก นั่งไกลไม่ไหว



PKS8

Entry ยุโรป ผมว่า 3 กับ C ไม่น่าใช่นะ เพิ่มเงินจาก D Segment ตัวท๊อปไปหลายแสนเลยนะ

น่าจะหมายถึงพวก X1 GLA 1 A หรือเปล่า ถ้าพวกนี้บอกเลยไป D Segment สบายกว่าเยอะ และขับดีกว่าด้วย



Pegasus7700

มันแลัวแต่ จุดประสงค์นะ

ผมเคยมีทั้งคุ่พร้อมๆกัน

Premium Entry ขับดีกว่าครับ

ยกเว้นว่าคุณ เอาขนาดไปเทียบ มันก้อไม่ควรเป็นคำถาม
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



holahola66

ดีคนละแบบครับ แล้วแต่การใช้งานเลย แต่รถยุโรปพวก mb ,bm  มันขับแล้วwow กว่าครับ
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt



Edwardsella

ลักษณะการใช้งาน ค่าใช้จ่ายที่ตามมา และช่วงนี้เทคโนโลยีเริ่มเปลี่ยนผ่านไปรถถ่าน เลยสะดวกใจไป D-segment มากกว่าครับ รอดูอนาคตรถถ่านถ้าเริมน่าสนใจอาจมาดูอีกทีครับ



PetchPP

ถ้าใช้เป็นคันหลักเลย ไปc classหรือserie3 ได้สบายๆ ผมไป
แต่ถ้าa classหรือserie2 ผมไปญป.
2012 Volvo S60 T4F (Discharged)
2015 Mazda 2 1.3
2019 Benz C220D (W205)
2020 BMW X1 18D (F48)
2022 Honda Civic Turbo RS (FE)



wesborland

entry premium Europe car เหมาะกับผู้บริหารสาวๆ หรือหนุ่มโสด ที่ไม่จำเป็นต้องใช้รถใหญ่ครับ
หรือเป็นรถคันที่2-3ของบ้าน อยากได้ภาพลักษณ์ที่ดีหน่อย เช่น ทำงานสาย consult ที่ต้องไปเจอคนเยอะๆ ขับรถในเมืองคนเดียว



Tak

มันขึ้นอยู่กับว่ามองหาอะไรในคันใหม่ที่จะซื้อครับ เพราะเอาแค่ว่าในแบรนด์เดียวกันยังต้องเลือกเลยว่าจะซื้อรุ่นไหนดี แต่ละคนเหตุผลก็ไม่เหมือนกัน

หาคำตอบใจตัวเองก่อนครับว่าอยากได้อะไรจากรถคันใหม่ แล้วจะได้มีความสุขกับการครอบครองครับ 8) 8) 8)



spn

เคยเป็นครับ สุดท้ายเลือก Camry
มี CLA GLA X1 เป็นแคนดิเดทด้วย แต่ Entry premium มันแคบ เบาะนั่งไม่สบาย
แต่ยังไงภาพลักษณ์ Entry premium มันก็ดีกว่า ตามราคาที่แพงกว่าและแบรนด์
ส่วนตัวถ้าไปยุโรปจริงๆ คงไป D segment E class Series 5 เลย ไม่งั้นก็ไป C43 Coupe IS300h

ขึ้นอยู่กับโจทย์แต่ละคนต้องการรถแบบไหน นึกถึงพี่ Jimmy บอกว่าคนไทยชอบเทียบรถที่ราคา ไม่ใช่การใช้งาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2022, 16:38:56 โดย spn »
Revo 2.8 J B-cab 4x4
Kia Jumbo K2700 1JZ GE + LPG
Camry 2.5 HV Premium
E220d w213



ฟง อวิ๋น

**สปอย** ถ้าชอบและสู้ไหวก็จัด Entry Permium Car ครับ จะได้หายคาใจ หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมา D-Sedan หรือ C-D SUV ญี่ปุ่น ครับ **สปอย**
**สปอย** แล้วคุณจะเข้าใจว่ารถมันดีอย่างไรและทำไมถึงแพง แล้วมันเหมาะกับเราไหม **สปอย**

มี Accord G9 2.0el อยู่แล้ว และออก GLA200 ให้แฟนใช้ นางขับคนเดียว

พูดแบบไม่อาย และไม่กลัว ที่ซื้อเพราะเป็นตราดาว และพอจะเอื้อมถึง
(ในกลุ่มคนเล่นเบนซ์ก็คงบอกว่าเป็นรุ่นเอื้ออาทร แต่ก็ไม่แคร์ เพราะมีปัญญาแค่นี้)

พอเอามาใช้งาน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ภาพรวมรถก็ดูดี แฝงความ premium แทบในทุกรายละเอียด
แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้น (ตอนนั้น A200 เลิกขายไปแล้ว จะมีก็ CLA250 เลย GLA200 เลยเป็นราคาต่ำสุดติดขอบตาราง)
ความสะดวก Option ความปลอดภัย ก็มาแบบพอเพียง ไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด บริโภคน้ำมันเยอะตามปกติ
ขับไปไหนก็ดูดี รปภ.ให้เกียรติพอควร

พอนางมาเจอค่าต่อประกันชั้นหนึ่ง ค่า Service B1 ราคาอะไหล่ตอนรถเข้าซ่อมเคลมสี
ความล่าช้า และการเล่นแง่ของประกัน เนื่องจากอะไหล่ราคาแพง
คันต่อไปนางยอมไป CR-V ละครับ แต่ต้องรอโฉมต่อไปเท่านั้น

** เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง จัดไปให้คลายสงสัย สามีจ่ายตังพังอยู่คนเดียว **
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



Boatcommando

Entry premium ที่หมายถึง คือ กลุ่ม A class ของ benz. และ series 2 ของ bmw
ที่เป็นรถเก๋งเหมือนกัน ครับ
งั้นอย่างที่ตอบไปเลยครับ เลือกD Segmentครับ เพราะรู้สึกการขับในชีวิตจริงไม่ต่างกันมาก แต่D Segmentนั่งสบายกว่า แต่คือผมเป็นมนุษย์อ้วนด้วยครับ แล้วก็เลือกโดยใช้D Segmentอยู่เป็นทุนเดิม ถ้าคนหุ่นปกติก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร แล้วผมก็ชินกับขนาดรถD Segmentด้วย จนไม่ได้รู้สึกว่ารถมันใหญ่เทอะทะอะไร

แต่ผมมานึกๆดู ลองอ่านความเห็นหลายๆท่าน เลยอยากตอบเพิ่มเติมว่า
1. ถ้ามาจากC Segment แล้วโอเคกับขนาดตัวรถแบบนี้ แล้วกำลังจะเปลี่ยนรถโดยมีงบเพิ่มขึ้น1ระดับ ยุโรปEntryก็ดูน่าสนใจครับ เพราะเราโอเคกับขนาดรถอยู่แล้ว เงินที่เพิ่มไป มันก็จะไปลงกับส่วนอื่นๆของรถที่เราอาจจะยังไม่โอเคกับC Segment หรือเราได้ใช้งานจริง/อยากให้มันดีขึ้นครับ
2. รถยุโรป ค่าซ่อม ค่าดูแล ยังไงก็แพงกว่ารถญี่ปุ่นนะครับ เบนซ์เข้าศูนย์เช็คระยะที อย่างต่ำ1หมื่นบาทครับ คือมันแพงกว่ารถญี่ปุ่น แต่ถ้าเรามีเงินซื้อรถ ยังไงเราก็มีเงินซ่อมครับ แต่ทำใจไว้เลยว่าต้องจ่ายเยอะกว่ารถญี่ปุ่น
3. เบนซ์ ถ้าซ่อมศูนย์ รออะไหล่นานกว่าฮอนด้าครับ เปลี่ยนศูนย์แล้วก็นาน เลยคิดว่ามันน่าจะเกิดจากการที่รถยุโรป มีคนใช้น้อยกว่ารถญี่ปุ่น สเกลมันเล็กกว่า เค้าเลยไม่ได้เตรียมอะไหล่ไว้มากเท่าครับ ส่วนBMWยังไม่เคยสัมผัสอู่ครับ
Current Cars
1996 - Merc E200 (W124)  :-*
2022 - BMW 530e Elite (G30 LCI)

Past
2000 - Honda Civic (EK)
2003 - Honda Accord 2.0 (G7)  :-*
2015 - Honda Accord Hybrid (G9)  :-\



ติ่งมาเต็ม

ผมซื้อ GLA แทน Jazz ไม่ได้เทียบ D seg ด้วยซ้ำ ไม่เคยเอาราคามาผูกรุ่นรถตอนเลือกซื้อเลย ถ้าจะซื้อ D seg ก็ต่อเมื่อจะซื้อรถใหญ่ กว้างๆ นั่งสบาย แต่ถ้ามองรถที่เสริมภาพลักษณ์ได้ด้วย ก็จะเอา Mid-size executive ไปเลย ซึ่งปัจจุบัน ใช้ E220d ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีกว่า D seg หลายเรื่อง

จะซ่ื้อ Entry ยุโรป เพราะอยากได้รถเล็กสมรรถนะที่ดีว่ารถไซส์เดียวกันที่เป็นสัญชาติอื่น



Carrera

**สปอย** ถ้าชอบและสู้ไหวก็จัด Entry Permium Car ครับ จะได้หายคาใจ หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมา D-Sedan หรือ C-D SUV ญี่ปุ่น ครับ **สปอย**
**สปอย** แล้วคุณจะเข้าใจว่ารถมันดีอย่างไรและทำไมถึงแพง แล้วมันเหมาะกับเราไหม **สปอย**

มี Accord G9 2.0el อยู่แล้ว และออก GLA200 ให้แฟนใช้ นางขับคนเดียว

พูดแบบไม่อาย และไม่กลัว ที่ซื้อเพราะเป็นตราดาว และพอจะเอื้อมถึง
(ในกลุ่มคนเล่นเบนซ์ก็คงบอกว่าเป็นรุ่นเอื้ออาทร แต่ก็ไม่แคร์ เพราะมีปัญญาแค่นี้)

พอเอามาใช้งาน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ภาพรวมรถก็ดูดี แฝงความ premium แทบในทุกรายละเอียด
แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้น (ตอนนั้น A200 เลิกขายไปแล้ว จะมีก็ CLA250 เลย GLA200 เลยเป็นราคาต่ำสุดติดขอบตาราง)
ความสะดวก Option ความปลอดภัย ก็มาแบบพอเพียง ไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด บริโภคน้ำมันเยอะตามปกติ
ขับไปไหนก็ดูดี รปภ.ให้เกียรติพอควร

พอนางมาเจอค่าต่อประกันชั้นหนึ่ง ค่า Service B1 ราคาอะไหล่ตอนรถเข้าซ่อมเคลมสี
ความล่าช้า และการเล่นแง่ของประกัน เนื่องจากอะไหล่ราคาแพง
คันต่อไปนางยอมไป CR-V ละครับ แต่ต้องรอโฉมต่อไปเท่านั้น

** เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง จัดไปให้คลายสงสัย สามีจ่ายตังพังอยู่คนเดียว **

เรื่องเบี้ยประกันนี่จริงมากครับ  ปัจจัยนึงเลยที่ผมไม่เอา
ตอนเซอรวิสบางทีถ้ามันมี BSI ก็ไม่ต่างครับ แต่ปัจจัยเรื่องประกันนี่ผมก็สงสัยอยู่

รถยุโรปเล็กราคาไม่ได้ทิ้ง Camry มาก แต่เวลาคิดเบี้ยประกันชั้น 1 ซ่อมห้าง ราคาค่อนข้างสูงกว่าเกือบเท่านึงเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น (หรือแม้แต่เป็นมือสองที่ราคาลงมาแล้วก็ยังสูงกว่า)

ผมไม่แน่ใจว่าทางบริษัทประกันเขาคิดจากอะไร รถมันอะไหล่แพง หรือว่ายังไง

ถ้าเงินเหลือมากๆเลือกตามที่ชอบ และขับเองรถยุโรปก็ดีครับ แต่ต้องไม่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประกอบกันด้วย จะได้ไม่ตึงจนเกินไป

เบี้ยซ่อมอู่ก็ดรอปลงมาพอสมควร  หรือเป็นสาเหตุนึงที่อู่สีที่ผมไปบ่อยๆ มีรถยุโรปมาจอดทำสีกันเยอะ ?

ผมขับรถญี่ปุ่นสบายใจครับ งบเหลือๆ ขับสนุก หามือสองเก่าๆเล่น คันเล็กๆ เอาครับ เดี๋ยวนี้ราคาตกลงมาเยอะ ถ้าปิดรถญี่ปุ่นแล้ว น่าจะหา E87  จับลงเกียร์ธรรมดาอยู่เลยครับ  ผมนี่แฟนพันธุ์แท้พวงมาลัยไฮดรอลิคยุค E90 มากๆ หนักเหมือนขับโกคาร์ท  ;D



ToRToNGPaT

Entry premium ที่หมายถึง คือ กลุ่ม A class ของ benz. และ series 2 ของ bmw
ที่เป็นรถเก๋งเหมือนกัน ครับ

ถ้าเป็นรถ Sedan เหมือนกัน ผมเอา D-Segment ญี่ปุ่นครับ เคยมีโอกาสลองนั่ง CLA ตัวก่อน รู้สึกว่ามันอึดอัด โดยเฉพาะ Headroom

แต่ถ้าไม่จำกัดว่าเป็นเก๋ง ผมเลือก Crossover Entry Premium ยุโรป อย่าง XC40 X1 หรือ Countryman เนื่องจาก ผมชอบรถ Crossover หรือ Hatchback เป็นทุนเดิม และชอบรถคันไม่ใหญ่มาก ปกติขับรถเองทุกวัน และส่วนใหญ่ใช้รถไม่เกิน 2 คน ผมเลยรู้สึกว่ามันน่าจะเหมาะกว่าพวก Camry Accord ครับ
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)
2025 Nissan Serena e-Power 1.4 Highway Star Gun Metallic (น้องหมูเด้ง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง



sudlor_gang

ว่าละต้องมีคนมาโชว์รวย
 :) :) :)
บรรยากาศเหมือนอยู่ในเพจ  mg เลย



Highway Star

ถ้าเอาแค่รุ่นเล็ก ไปDsegญี่ปุ่นครับ เคยเทียบเหมือนกัน แต่dsegญี่ปุ่นรถคันใหญ่กว่า นั่งสบายกว่า สมรรถนะ ออฟชันได้มากกว่า ค่าดูแลยังไงก็ถูกกว่า ส่วนยุโรปภาพลักษณ์ดูดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าโอกาสหน้าก็อาจไปยุโรปรุ่นใหญ่ พวกeclass 5 series ไม่ก็m340i หรือ c43 ตัวแรงๆเลยครับจะได้ฉีกจากคันเดิมเยอะหน่อย



dht_tubes

เงินใครเงินมันนะเรื่องแบบนี้

มีเงินเท่าไหร่ก้ออยากได้ของที่ตัวเองคิดว่าดีสุด ถูกสุด ก้อเป็นเรื่องธรรมดา

บางคนมีเท่าไหร่ใส่กับรถหมด บางคนไม่

บางคนมีไม่ถึง แต่ยอมเป็นหนี้ ไม่สนขอแค่มีความสุขก้อเยอะแยะ

ใครจะคิดอย่างไร คุยกันหนุกๆได้แหละ แต่อย่าไปตัดสินกันจากตัวหนังสือของสมาชิกในบอร์ด แล้วเลยเถิดไปมากดีกว่าครับ ใครจะขับรถแคบกว้าง ขับบนกองหนี้สิน ภาระ มันก็เรื่องของแต่ละคนไป

ส่วนผม สมาชิกในบ้านตัวใหญ่ เลือกรถที่ขนาดเป็นหลัก เงินพอแค่ไหนก้อเอาตามนั้น แค่นั้นเอง



Tien.W

เอาเหตุผล หรือ อารมณ์ ล่ะ

ผมเชื่อว่า คนกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มนึง .. รถยุโรปหรู มันคือ รถในฝัน ถ้ามีโอกาสสักครั้ง ใครก็อยากจะไขว่คว้ามาครอบครองนั่นแหละ แต่กลับกัน ถ้าคนเคยสัมผัส เคยดูแล เคยมีประสบการณ์ คนกลุ่มนี้ ก็อาจจะไม่กล้า ไม่คิดที่จะเลือกมัน

ผมเอง .. ถ้าย้อนไปสัก 10 ปี บอกเลยว่า ก็คงไม่กล้า ก็คงเลือก d-segment ญี่ปุ่น

แต่ปัจจุบัน .. ผมมีกำลังเพียงพอ ผมมีรถสำรอง ผมว่า ผมกล้าที่จะยุ่งกับมันนะ หรือ อาจจะเหมือนบางท่านที่บอก คือ premium ญี่ปุ่น ก็ได้นะ



mongolias

ผมมองว่ามันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับ
บางคนไม่เคยมี Premium ยุโรปมาก่อน อยากจะลองเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะตราดาว หรือใบพัด บ้างสักครั้งในชีวิต จะเป็น Entry หรือไม่ แต่มันก็คือความภูมิใจของเขา
ส่วนคนที่เคยลองมาแล้ว หรือว่าชอบรถที่คันโตกว่า จะเลือก D-segment ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีกว่า
พวกความอยากได้ อยากมีรุ่นนั้นรุ่นนี้ มันเปลี่ยนได้ตามวัย หรือตามการใช้งาน ณ ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตได้เสมอครับ



PaPaMan

**สปอย** ถ้าชอบและสู้ไหวก็จัด Entry Permium Car ครับ จะได้หายคาใจ หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมา D-Sedan หรือ C-D SUV ญี่ปุ่น ครับ **สปอย**
**สปอย** แล้วคุณจะเข้าใจว่ารถมันดีอย่างไรและทำไมถึงแพง แล้วมันเหมาะกับเราไหม **สปอย**

มี Accord G9 2.0el อยู่แล้ว และออก GLA200 ให้แฟนใช้ นางขับคนเดียว

พูดแบบไม่อาย และไม่กลัว ที่ซื้อเพราะเป็นตราดาว และพอจะเอื้อมถึง
(ในกลุ่มคนเล่นเบนซ์ก็คงบอกว่าเป็นรุ่นเอื้ออาทร แต่ก็ไม่แคร์ เพราะมีปัญญาแค่นี้)

พอเอามาใช้งาน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ภาพรวมรถก็ดูดี แฝงความ premium แทบในทุกรายละเอียด
แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้น (ตอนนั้น A200 เลิกขายไปแล้ว จะมีก็ CLA250 เลย GLA200 เลยเป็นราคาต่ำสุดติดขอบตาราง)
ความสะดวก Option ความปลอดภัย ก็มาแบบพอเพียง ไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด บริโภคน้ำมันเยอะตามปกติ
ขับไปไหนก็ดูดี รปภ.ให้เกียรติพอควร

พอนางมาเจอค่าต่อประกันชั้นหนึ่ง ค่า Service B1 ราคาอะไหล่ตอนรถเข้าซ่อมเคลมสี
ความล่าช้า และการเล่นแง่ของประกัน เนื่องจากอะไหล่ราคาแพง
คันต่อไปนางยอมไป CR-V ละครับ แต่ต้องรอโฉมต่อไปเท่านั้น

** เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง จัดไปให้คลายสงสัย สามีจ่ายตังพังอยู่คนเดียว **

เรื่องเบี้ยประกันนี่จริงมากครับ  ปัจจัยนึงเลยที่ผมไม่เอา
ตอนเซอรวิสบางทีถ้ามันมี BSI ก็ไม่ต่างครับ แต่ปัจจัยเรื่องประกันนี่ผมก็สงสัยอยู่

รถยุโรปเล็กราคาไม่ได้ทิ้ง Camry มาก แต่เวลาคิดเบี้ยประกันชั้น 1 ซ่อมห้าง ราคาค่อนข้างสูงกว่าเกือบเท่านึงเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น (หรือแม้แต่เป็นมือสองที่ราคาลงมาแล้วก็ยังสูงกว่า)

ผมไม่แน่ใจว่าทางบริษัทประกันเขาคิดจากอะไร รถมันอะไหล่แพง หรือว่ายังไง

ถ้าเงินเหลือมากๆเลือกตามที่ชอบ และขับเองรถยุโรปก็ดีครับ แต่ต้องไม่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประกอบกันด้วย จะได้ไม่ตึงจนเกินไป

เบี้ยซ่อมอู่ก็ดรอปลงมาพอสมควร  หรือเป็นสาเหตุนึงที่อู่สีที่ผมไปบ่อยๆ มีรถยุโรปมาจอดทำสีกันเยอะ ?

ผมขับรถญี่ปุ่นสบายใจครับ งบเหลือๆ ขับสนุก หามือสองเก่าๆเล่น คันเล็กๆ เอาครับ เดี๋ยวนี้ราคาตกลงมาเยอะ ถ้าปิดรถญี่ปุ่นแล้ว น่าจะหา E87  จับลงเกียร์ธรรมดาอยู่เลยครับ  ผมนี่แฟนพันธุ์แท้พวงมาลัยไฮดรอลิคยุค E90 มากๆ หนักเหมือนขับโกคาร์ท  ;D


เรื่องเบี้ยประกันก็คำนวณจากฐานราคารถส่วนนึง ค่าซ่อมค่าอะไหล่ส่วนนึง อีกส่วนก็มาจากฐานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุหรือก็คือความเสี่ยงที่ประกันจะต้องจ่ายค่าเคลมนั่นเองครับ ซึ่งอันนี้มันก็สะท้อนจากรุ่นรถและกลุ่มคนที่นิยมใช้ครับ รถกลุ่ม D-seg ญี่ปุ่นคนใช้ส่วนมากก็จะเป็นคนที่มีอายุ ขับรถกันไม่ค่อยเร็ว สถิติอุบัติเหตุน้อยกว่ากลุ่มรถที่เล็กกว่าที่คนขับมักอายุน้อยกว่าและขับเร็วกว่า ความเสี่ยงของ บ.ประกันก็มากกว่าก็เลยคิดเบี้ยเพื่อให้คุ้มกับความเสี่ยงครับ



เนื้อน่องไม่หนัง

**สปอย** ถ้าชอบและสู้ไหวก็จัด Entry Permium Car ครับ จะได้หายคาใจ หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมา D-Sedan หรือ C-D SUV ญี่ปุ่น ครับ **สปอย**
**สปอย** แล้วคุณจะเข้าใจว่ารถมันดีอย่างไรและทำไมถึงแพง แล้วมันเหมาะกับเราไหม **สปอย**

มี Accord G9 2.0el อยู่แล้ว และออก GLA200 ให้แฟนใช้ นางขับคนเดียว

พูดแบบไม่อาย และไม่กลัว ที่ซื้อเพราะเป็นตราดาว และพอจะเอื้อมถึง
(ในกลุ่มคนเล่นเบนซ์ก็คงบอกว่าเป็นรุ่นเอื้ออาทร แต่ก็ไม่แคร์ เพราะมีปัญญาแค่นี้)

พอเอามาใช้งาน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ภาพรวมรถก็ดูดี แฝงความ premium แทบในทุกรายละเอียด
แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้น (ตอนนั้น A200 เลิกขายไปแล้ว จะมีก็ CLA250 เลย GLA200 เลยเป็นราคาต่ำสุดติดขอบตาราง)
ความสะดวก Option ความปลอดภัย ก็มาแบบพอเพียง ไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด บริโภคน้ำมันเยอะตามปกติ
ขับไปไหนก็ดูดี รปภ.ให้เกียรติพอควร

พอนางมาเจอค่าต่อประกันชั้นหนึ่ง ค่า Service B1 ราคาอะไหล่ตอนรถเข้าซ่อมเคลมสี
ความล่าช้า และการเล่นแง่ของประกัน เนื่องจากอะไหล่ราคาแพง
คันต่อไปนางยอมไป CR-V ละครับ แต่ต้องรอโฉมต่อไปเท่านั้น

** เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง จัดไปให้คลายสงสัย สามีจ่ายตังพังอยู่คนเดียว **

เรื่องเบี้ยประกันนี่จริงมากครับ  ปัจจัยนึงเลยที่ผมไม่เอา
ตอนเซอรวิสบางทีถ้ามันมี BSI ก็ไม่ต่างครับ แต่ปัจจัยเรื่องประกันนี่ผมก็สงสัยอยู่

รถยุโรปเล็กราคาไม่ได้ทิ้ง Camry มาก แต่เวลาคิดเบี้ยประกันชั้น 1 ซ่อมห้าง ราคาค่อนข้างสูงกว่าเกือบเท่านึงเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น (หรือแม้แต่เป็นมือสองที่ราคาลงมาแล้วก็ยังสูงกว่า)

ผมไม่แน่ใจว่าทางบริษัทประกันเขาคิดจากอะไร รถมันอะไหล่แพง หรือว่ายังไง

ถ้าเงินเหลือมากๆเลือกตามที่ชอบ และขับเองรถยุโรปก็ดีครับ แต่ต้องไม่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประกอบกันด้วย จะได้ไม่ตึงจนเกินไป

เบี้ยซ่อมอู่ก็ดรอปลงมาพอสมควร  หรือเป็นสาเหตุนึงที่อู่สีที่ผมไปบ่อยๆ มีรถยุโรปมาจอดทำสีกันเยอะ ?

ผมขับรถญี่ปุ่นสบายใจครับ งบเหลือๆ ขับสนุก หามือสองเก่าๆเล่น คันเล็กๆ เอาครับ เดี๋ยวนี้ราคาตกลงมาเยอะ ถ้าปิดรถญี่ปุ่นแล้ว น่าจะหา E87  จับลงเกียร์ธรรมดาอยู่เลยครับ  ผมนี่แฟนพันธุ์แท้พวงมาลัยไฮดรอลิคยุค E90 มากๆ หนักเหมือนขับโกคาร์ท  ;D


เรื่องเบี้ยประกันก็คำนวณจากฐานราคารถส่วนนึง ค่าซ่อมค่าอะไหล่ส่วนนึง อีกส่วนก็มาจากฐานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุหรือก็คือความเสี่ยงที่ประกันจะต้องจ่ายค่าเคลมนั่นเองครับ ซึ่งอันนี้มันก็สะท้อนจากรุ่นรถและกลุ่มคนที่นิยมใช้ครับ รถกลุ่ม D-seg ญี่ปุ่นคนใช้ส่วนมากก็จะเป็นคนที่มีอายุ ขับรถกันไม่ค่อยเร็ว สถิติอุบัติเหตุน้อยกว่ากลุ่มรถที่เล็กกว่าที่คนขับมักอายุน้อยกว่าและขับเร็วกว่า ความเสี่ยงของ บ.ประกันก็มากกว่าก็เลยคิดเบี้ยเพื่อให้คุ้มกับความเสี่ยงครับ

รถที่วัยรุ่นใช้เยอะ แต่งซิ่งเยอะ ก็มองเป็นกลุ่มเสี่ยงครับ อย่างตอนนี้ CIVIC TURBO ก็แพงกว่า Altis HV
เมื่อก่อน Jazz ประกันแพงมาก ห่างกัน D-seg ไม่มาก ทั้งๆที่ค่าตัวต่างกันเยอะ



Glazy

เคยมีโจทย์นี้ และก็เลือกentry premiumไป(ไม่ใช่ยุโรปคันแรก) คือของผมDจอดในบ้านไม่ได้เพราะมีฟอร์อยู่ อีกฝั่งที่จอดก็ได้แค่ไม่เกิน4.6เมตร
Chemical Engineering
2020- BMW X1 (F48) sDrive20d Msport
2018- Toyota Fortuner 2.4V 4wd
2010- Toyota Vios 1.5at +kyb newsr



CMaN20

จากคนที่ใช้รถยุโรปนะครับ และก็เคยใช้ญป.มาก่อนเหมือนกัน.

ถ้าคุณจะหาเหตุผลเพื่อมาสนับสนุนกับตัวเงินที่ต้องจ่าย รถญป.จะดูสมเหตุสมผลมากกว่าครับ.
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020



ฟง อวิ๋น

**สปอย** ถ้าชอบและสู้ไหวก็จัด Entry Permium Car ครับ จะได้หายคาใจ หลังจากนั้นก็ค่อยกลับมา D-Sedan หรือ C-D SUV ญี่ปุ่น ครับ **สปอย**
**สปอย** แล้วคุณจะเข้าใจว่ารถมันดีอย่างไรและทำไมถึงแพง แล้วมันเหมาะกับเราไหม **สปอย**

มี Accord G9 2.0el อยู่แล้ว และออก GLA200 ให้แฟนใช้ นางขับคนเดียว

พูดแบบไม่อาย และไม่กลัว ที่ซื้อเพราะเป็นตราดาว และพอจะเอื้อมถึง
(ในกลุ่มคนเล่นเบนซ์ก็คงบอกว่าเป็นรุ่นเอื้ออาทร แต่ก็ไม่แคร์ เพราะมีปัญญาแค่นี้)

พอเอามาใช้งาน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ภาพรวมรถก็ดูดี แฝงความ premium แทบในทุกรายละเอียด
แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้น (ตอนนั้น A200 เลิกขายไปแล้ว จะมีก็ CLA250 เลย GLA200 เลยเป็นราคาต่ำสุดติดขอบตาราง)
ความสะดวก Option ความปลอดภัย ก็มาแบบพอเพียง ไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด บริโภคน้ำมันเยอะตามปกติ
ขับไปไหนก็ดูดี รปภ.ให้เกียรติพอควร

พอนางมาเจอค่าต่อประกันชั้นหนึ่ง ค่า Service B1 ราคาอะไหล่ตอนรถเข้าซ่อมเคลมสี
ความล่าช้า และการเล่นแง่ของประกัน เนื่องจากอะไหล่ราคาแพง
คันต่อไปนางยอมไป CR-V ละครับ แต่ต้องรอโฉมต่อไปเท่านั้น

** เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง จัดไปให้คลายสงสัย สามีจ่ายตังพังอยู่คนเดียว **

เรื่องเบี้ยประกันนี่จริงมากครับ  ปัจจัยนึงเลยที่ผมไม่เอา
ตอนเซอรวิสบางทีถ้ามันมี BSI ก็ไม่ต่างครับ แต่ปัจจัยเรื่องประกันนี่ผมก็สงสัยอยู่

รถยุโรปเล็กราคาไม่ได้ทิ้ง Camry มาก แต่เวลาคิดเบี้ยประกันชั้น 1 ซ่อมห้าง ราคาค่อนข้างสูงกว่าเกือบเท่านึงเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น (หรือแม้แต่เป็นมือสองที่ราคาลงมาแล้วก็ยังสูงกว่า)

ผมไม่แน่ใจว่าทางบริษัทประกันเขาคิดจากอะไร รถมันอะไหล่แพง หรือว่ายังไง

ถ้าเงินเหลือมากๆเลือกตามที่ชอบ และขับเองรถยุโรปก็ดีครับ แต่ต้องไม่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประกอบกันด้วย จะได้ไม่ตึงจนเกินไป

เบี้ยซ่อมอู่ก็ดรอปลงมาพอสมควร  หรือเป็นสาเหตุนึงที่อู่สีที่ผมไปบ่อยๆ มีรถยุโรปมาจอดทำสีกันเยอะ ?

ผมขับรถญี่ปุ่นสบายใจครับ งบเหลือๆ ขับสนุก หามือสองเก่าๆเล่น คันเล็กๆ เอาครับ เดี๋ยวนี้ราคาตกลงมาเยอะ ถ้าปิดรถญี่ปุ่นแล้ว น่าจะหา E87  จับลงเกียร์ธรรมดาอยู่เลยครับ  ผมนี่แฟนพันธุ์แท้พวงมาลัยไฮดรอลิคยุค E90 มากๆ หนักเหมือนขับโกคาร์ท  ;D

ขออนุญาตแจ้งจากประสบการณ์ล่าสุดในการเคลมซ่อมแก้มหน้าและกันชนหน้า อะไหล่ตัวถังของ GLA200 เป็นอลูมิเนียม หากมีการบุบต้องเปลี่ยนสถานเดียว ไฟหน้าก็แพงมาก ฝากระโปรงหน้านี่ก็ราคาโหดมาก ดีที่ไม่ได้บุบเลยทำสีใหม่ได้
ตีค่าซ่้อมออกมาหลักสอง-สามแสนบาทไทย
ตอนซื้อประกันซ่อมห้างเบี้ยประมาณ 45K เคยเคลมสีเปลี่ยนอะไหล่นิดหน่อย แถมมารู้ทีหลังว่าศูนย์ก็ส่งทำสีที่อู่นอกอยู่ดี (ซ่อมศูนย์?!?)
ปีต่อมาเจอโควิดงานหดต้องลดงบเบี้ยประกันมาซ่อมอู่ ค่าเบี้ยเหลือ 28K ก็มาเจอของจริงที่กล่าวข้างต้น แต่ก็ได้ซ่อมอู่ที่ศูนย์ส่งมานั่นละครับ มาตรฐานเดียวกัน ต่างกันที่อะไหล่อนุมัติยากกว่า รอนานกว่า

แต่ขอบอกว่ารายละเอียดตัวรถ คุณภาพงานประกอบ ความ premium มีในทุกรายละเอียด การขับก็ดี ขับเพลินทีไรไป 140-160 แบบไม่รู้ตัวเป็นประจำ

ปล. Accord G9 ของผมประวัติดี มีเคลมครั้งนึงโดนรถถอยมาชนและผมเป็นฝ่ายถูก ได้เบี้ยซ่อมห้างในปีที่ 3-6 ปีละ 11K เท่านั้นครับ ต่างกันเยี่ยงนี้ได้อย่างไร
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V