ผู้เขียน หัวข้อ: ทุกท่านคิดอย่างไร ตามมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของหน่วยงานรัฐบาล  (อ่าน 5687 ครั้ง)

Bornplanet

  • บุคคลทั่วไป
ในงาน Motor Show 2022

ORA ลดราคา 150,000 บาท
MG EV ลดราคา 200,000 บาท

ให้ 2 แบรนด์นี้ นำร่องไปก่อน

ทุกท่านคิดอย่างไรครับ

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,208
ดีครับ ผู้บริโภคได้ประโบขน์ ถ้าคนมาซื้อรถ ev กันเยอะๆ รถน้ำมันก็ต้องลดราคาแข่งด้วย


แต่ถ้าผมจะซื้อรถ ev ผมจะรอช่วงปลายๆมาตรการ เพราะจะมีตัวเลือกเยอะขึ้นครับ ไม่ใช่ตอนนี้ที่ยังมีให้เลือกไม่กี่รุ่น

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,920
รอผู้เล่นหน้าใหม่ๆครับ

ตอนนี้เหมือนมัดมือชกให้เลือก ev ต่ำล้านอยู่แค่ไม่กี่เจ้า

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,726
ในแง่คนใช้รถ กอยากให้รัฐช่วยมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ ก่อนน้านี้ก็พูดแต่ว่ารัฐไม่สนับสนุนๆ
นี่เท่ากับเหมือนรัฐออกให้ถึง 150,000.- แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องอื่น ณ ตอนนี้คงต้องพึ่งพาตัวเองบ้างนะครับ ทั้งเรื่องการศึกษาหาวิธีการชาร์จ
คำนวณค่าใช้จ่าย และวางแผนการเดินทาง เพราะเมื่อมีทางเลือกมากขึ้น การเลือกก็ต้อง
ออกแรงศึกษาเปรียบเทียบมากขึ้นครับ

ส่วนในอง่อุตสาหกรามสิ่งแวดล้อม แะเรื่องอื่นๆ ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ที่ดี และต้องเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผู้ได้ประโยชน์และผู้เสียประโยชน์
เราคงต้องยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ

ออฟไลน์ nnss

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 580
ผมกำลังนึกภาพถึงจำนวนคนออกรถ EV มากขึ้นตามราคาที่ถูกลงจาก motorshow ครั้งนี้ซึ่งคิดว่าคงเยอะมากแน่ๆ แล้วจำนวนจถดชาร์จที่รองรับการชาร์จแบบนี้ยังเพิ่มขึ้นไม่ทันจำนวนรถ
ขอไม่พูดถึงในกทมเพราะคนที่คิดจะซื้อต้องมีบ้านที่ติดตั้งที่ชาร์จส่วนตัวอยู่แล้ว แต่จะไปส่งผลตอนไปเที่ยวตจวแล้วทุกคันต้องชาร์จพร้อมๆกัน
ผมว่าย้อนกลับไปสัก6เดือนถึงปัจจุบัน รถไฟฟ้าก็เยอะมากๆแล้ว บางปั๊มไปต่างจังหวัดนี่รอคิวชาร์จเป็นชั่วโมงเลย ทำแพลนเที่ยวเสียเวลาไปหมด

ออฟไลน์ ๑ ๒ ๓

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,027
    • ร้าน เอที คอมสำโรง
    • อีเมล์
รถถูกลง ค่าใช้จ่ายต่อกม. ถูกลง มลพิษลดลง   มองๆแล้ว ระยะยาว ยังไงก็มีได้มากกว่าเสียครับ
อย่างน้อย ตู้ชาร์จต้องมีกำลังการผลิตมากขึ้นแน่นอน

สู้ต่อไป ตอนนี้น้ำมันจะ 40 บาท/ลิตรละ ไม่ไหวๆ  อีก 3 ปี ผ่อนหมดค่อยว่ากัน

รถหน่อยนะ EV เพื่อนรัก   ::)
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,470
มาตรการรอบนี้จะมีอายุถึงปี 2568 เท่านั้น รอดูมาตรการระยะยาวมากกว่าครับ สนับสนุนยังไง มีแผนแบบไหน

หลายๆยี่ห้อเข้าร่วมมาตาการนี้ ก็หวังว่าคงมีแผนประกอบในประเทศอยู่แล้วในระยะยาว

ออฟไลน์ vsx555

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
    • อีเมล์
ตอบได้ง่าย ๆ เลย ดีครับ เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,055
    • อีเมล์
ในแง่คนใช้รถ กอยากให้รัฐช่วยมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ ก่อนน้านี้ก็พูดแต่ว่ารัฐไม่สนับสนุนๆ
นี่เท่ากับเหมือนรัฐออกให้ถึง 150,000.- แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องอื่น ณ ตอนนี้คงต้องพึ่งพาตัวเองบ้างนะครับ ทั้งเรื่องการศึกษาหาวิธีการชาร์จ
คำนวณค่าใช้จ่าย และวางแผนการเดินทาง เพราะเมื่อมีทางเลือกมากขึ้น การเลือกก็ต้อง
ออกแรงศึกษาเปรียบเทียบมากขึ้นครับ

ส่วนในอง่อุตสาหกรามสิ่งแวดล้อม แะเรื่องอื่นๆ ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ที่ดี และต้องเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผู้ได้ประโยชน์และผู้เสียประโยชน์
เราคงต้องยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ

ใช่ๆๆๆๆๆ ..

ผมกำลังจะเม้นท์แบบนี้เลย ...

1-2ปีก่อนจำได้เลยในบอร์ดนี่แหละ มีแต่คนบอกว่ารัฐไม่สนับสนุน ไม่ขยับ ไม่พัฒนาไม่ทำแบบนอร์เวย์ บลาๆ ... ถ้าทำนะ รถไฟฟ้าเต็มเมืองแน่นอน บ่นที่ชาจน์น้อยบ้าง แพงบ้าง มากมาย ...

ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...

ก็ไม่เห็นคนที่เคยด่ารัฐฯ จะซื้อรถไฟฟ้าใช้สักคน ...ผมจำได้นะว่าใครบ้างอะ ... 5555


ออฟไลน์ hong_G

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
  • I aM HoNG
    • อีเมล์
ดีครับ มีคนเปิดตลาด เดี๋ยวค่ายอื่นๆ ก็ตามมา (จะได้พยายามแข่งกัน มากกว่าพยายามกั๊ก)

รวมถึง Infrastructure ของเรื่องที่ชาร์จ จุดชาร์จ EV ก็จะยิ่งเร่งตามกันมา

ออฟไลน์ tleema

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 289
    • อีเมล์
ราคานํ้ามัน เป็นปัจจัย ให้รถไฟฟ้าขยับเร็วขึ้น

การเอาเงินไปลงกองทุนเพื่ออุดหนุน ภาคขนส่ง แล้วปล่อยเบนซินลอยตัวอย่างเดียวบางที เงินก้อนนั้น

กับก้อนที่ช่วยลดราคา รถยนต์ลง สองแสนอาจจะคุ้มค่าหรือเปล่า ถือว่ารถบ้านเบนซินก็ได้ประโยนช์

ออฟไลน์ tOntrAnETY

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
    • tontranety
    • อีเมล์
มองแบบกลางๆ ก็เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคครับ

ออฟไลน์ Boattamon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 526
แล้วแบรนด์ยุโรปจะขยับเมื่อไหร่

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ในแง่คนใช้รถ กอยากให้รัฐช่วยมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ ก่อนน้านี้ก็พูดแต่ว่ารัฐไม่สนับสนุนๆ
นี่เท่ากับเหมือนรัฐออกให้ถึง 150,000.- แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องอื่น ณ ตอนนี้คงต้องพึ่งพาตัวเองบ้างนะครับ ทั้งเรื่องการศึกษาหาวิธีการชาร์จ
คำนวณค่าใช้จ่าย และวางแผนการเดินทาง เพราะเมื่อมีทางเลือกมากขึ้น การเลือกก็ต้อง
ออกแรงศึกษาเปรียบเทียบมากขึ้นครับ

ส่วนในอง่อุตสาหกรามสิ่งแวดล้อม แะเรื่องอื่นๆ ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ที่ดี และต้องเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผู้ได้ประโยชน์และผู้เสียประโยชน์
เราคงต้องยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ

ใช่ๆๆๆๆๆ ..

ผมกำลังจะเม้นท์แบบนี้เลย ...

1-2ปีก่อนจำได้เลยในบอร์ดนี่แหละ มีแต่คนบอกว่ารัฐไม่สนับสนุน ไม่ขยับ ไม่พัฒนาไม่ทำแบบนอร์เวย์ บลาๆ ... ถ้าทำนะ รถไฟฟ้าเต็มเมืองแน่นอน บ่นที่ชาจน์น้อยบ้าง แพงบ้าง มากมาย ...

ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...

ก็ไม่เห็นคนที่เคยด่ารัฐฯ จะซื้อรถไฟฟ้าใช้สักคน ...ผมจำได้นะว่าใครบ้างอะ ... 5555
ปิดเทอมแล้วเดี๋ยวก็กลับมาใหม่ครับ

ออฟไลน์ stm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 400
ดีเลยครับ เห็นด้วย อยากให้ใช้รถไฟฟ้ากันมากๆ อยากให้ทำควบคู่ไปกับโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดด้วย

ออฟไลน์ Chicken Wings

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 296
ในแง่คนใช้รถ กอยากให้รัฐช่วยมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ ก่อนน้านี้ก็พูดแต่ว่ารัฐไม่สนับสนุนๆ
นี่เท่ากับเหมือนรัฐออกให้ถึง 150,000.- แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องอื่น ณ ตอนนี้คงต้องพึ่งพาตัวเองบ้างนะครับ ทั้งเรื่องการศึกษาหาวิธีการชาร์จ
คำนวณค่าใช้จ่าย และวางแผนการเดินทาง เพราะเมื่อมีทางเลือกมากขึ้น การเลือกก็ต้อง
ออกแรงศึกษาเปรียบเทียบมากขึ้นครับ

ส่วนในอง่อุตสาหกรามสิ่งแวดล้อม แะเรื่องอื่นๆ ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ที่ดี และต้องเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผู้ได้ประโยชน์และผู้เสียประโยชน์
เราคงต้องยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ

ใช่ๆๆๆๆๆ ..

ผมกำลังจะเม้นท์แบบนี้เลย ...

1-2ปีก่อนจำได้เลยในบอร์ดนี่แหละ มีแต่คนบอกว่ารัฐไม่สนับสนุน ไม่ขยับ ไม่พัฒนาไม่ทำแบบนอร์เวย์ บลาๆ ... ถ้าทำนะ รถไฟฟ้าเต็มเมืองแน่นอน บ่นที่ชาจน์น้อยบ้าง แพงบ้าง มากมาย ...

ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...

ก็ไม่เห็นคนที่เคยด่ารัฐฯ จะซื้อรถไฟฟ้าใช้สักคน ...ผมจำได้นะว่าใครบ้างอะ ... 5555

พวกนั้น เขารอรถไฟฟ้า วิ่งได้ 1,000 กม. ชาร์จ 0-100 ใน 10 นาที ราคาไม่เกิน 5 แสนบาทอยู่ครับ ;) ;) ;) ;)

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 842
บางท่านอาจจะยังไม่เคลียร์ว่า รัฐอุดหนุนเฉพาะผู้ผลิตรถไฟฟ้าที่มาลงทะเบียนรับการสนับสนุน ด้วยข้อแม้ว่า..จะต้องตั้งโรงงานผลิตในประเทศ และจำนวนการผลิตขายต้องเป็น 1.5 เท่าของยอดที่ขายได้ในสองปีนี้ ข้อดีคืออะไร..ก็เป็นการกระตุ้นตลาด เร่งให้ผู้ผลิตนำเข้ามาก่อนและ(สัญญาว่าจะ)เตรียมความพร้อมตั้งโรงงานไปด้วย ส่วนข้อเสียก็รัฐเสียโอกาสในการเก็บภาษี..ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าคนไม่สนใจจะซื้อ ถามว่าคิดอย่างไรก็ต้องบอกว่านี่แหละสิ่งที่รัฐควรทำและทำได้ถูกเวลา อาจจะดูว่าเข้าทางค่าย ev จีนแต่ก็เห็นๆกันอยู่ว่าค่าย (ice) ยุ่นเขาไม่กระดิกอะไรเลยมากี่ปีแล้ว?

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,048
คิดว่าเป็นไปในทางที่ดีครับ แต่อย่าทิ้ง PHEV ดีกว่า สำหรับการเดินทางไกลจริง หรือไกลขนาดนั้นไม่ควรขับรถแล้ว

ออฟไลน์ BKK777

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
เป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ คนที่ซื้อใช้คงจะไม่ได้มีรถคันเดียวในบ้าน  ผมคิดว่าคนซื้อส่วนใหญ่คงมีที่จอดรถในบ้าน พัฒนาการคงค่อยเป็นค่อยไป จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และสถานะการเงินของคนส่วนใหญ่ในประเทศ   

สรุปก็คืออยู่ที่การรบริหารของรัฐเป็นหลัก ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีรถ BEV ก็จะเติบโตช้า  เพราะบริษัทญี่ปุ่นคงดูความต้องการของทั้งภูมิภาคเป็นหลัก  ถ้าเราจะแหวกความต้องการต่างจากประเทศอื่นๆในแถบนี่ เศรษฐกิจประเทศเราต้องโดดเด่นจริงๆ

หรือภ้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็คงต้องอาศัยผู้ผลิตที่เป็นคนไทยด้วยกัน  เช่น ปตท. อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,539
ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ดีทั้งนั้นแหละครับ

ออฟไลน์ Sympho

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
ดีครับ แต่รอรถญี่ปุ่น

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,662
 ความเห็นส่วนตัว   ย้ำว่าส่วนตัวนะไม่เห็นด้วยที่จะไปสนับสนุนรถไฟฟ้า     เห็นคนใช้เบนซินบ่นกันเรื่องปล่อยเสรีราคาน้ำมัน ดีเซลกับเบนซินทำไมต้องอุ้มไว้     ผมว่ารถไฟฟ้าก็เหมือนกันไม่ควรอุดหนุน   เพราะคนจะไม่รู้ราคาที่แท้จริง รวมถึงค่าซ่อมในอนาคต   คนจะซื้อรถไฟฟ้าเค้าก็ซื้อ  แต่คนยังไม่ซื้อถ้าราคาถูกลงมาแค่นี้มันยังไม่มีเหตุผลจูงใจมากในการซื้อ  แค่ทำให้เขวได้บ้าง      แล้วปัจจัยเรื่องรถไฟฟ้าบ้านเราไม่พร้อมแน่นอน ขืนแห่มาใช้กันเยอะ  ๆ  ปัญหาก็ต้องมากตามกันไป  ส่วนตัวผมเองผมไม่คิดจะซื้อใช้แน่นอน   

     ส่วนความเห็นตามจริง   ยังไงรถไฟฟ้าก็ต้องอุดหนุนครับ    หลายประเทศในโลกนี้ต้องอุดหนุนรถไฟฟ้าไม่งั้นรถไฟฟ้าไม่เกิด  ยอดขายยังไงก็สู้รถสันดาปลำบากถ้าไม่มีมาตรการภาครัฐช่วยอุดหนุนเลย คงไม่ได้

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,299
    • อีเมล์
รุ่นที่จะซื้อไม่ลด

รุ่นที่ลดไม่คิดจะซื้อ

สุดท้าย ราคามันถูกลง ยังไง ในมุมผู้บริโภค ก็ได้ประโยชน์หมดแหละครับ

ส่วนในมุมของผู้ขาย ก็ได้กำไรน้อยลง แต่ขายรถได้มากขึ้น บวกๆ ลบๆ เอาไปเอามา เขาก็ไม่ได้ขาดทุดอยู่ดี ดีไม่ดีกำไรมากขึ้นด้วย

ออฟไลน์ Boatcommando

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...
Versionย่อ : ที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมืองนี่ ใช้จริงยากมากๆ จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ครับ

Versionเต็ม : ที่ชาร์จมีจริง แต่ได้มีประสบการณ์ลองพยายามเอารถไปชาร์จที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมือง อยากบอกว่าใช้ยากมากๆ ในระดับแทบใช้จริงไม่ได้ครับ จะไปชาร์จที ต้องโหลดAppมาก่อน(เพื่อ?? ยืนอยู่หน้าหัวชาร์จเนี่ย) แล้วขอข้อมูลส่วนตัวยังกับจะมาสืบราชการลับ ต้องให้เบอร์บัตรปชช. ต้องให้เบอร์มือถือ(ไม่รู้จะเอาไปขายให้ใครโทรมาขายประกันไหม) ต้องให้ที่อยู่ แถมต้องยินยอมให้เอาข้อมูลไปขายต่อ ต้องยินยอมว่าต้องรับโฆษณา ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ แบบมากมายมหาศาลมาก แค่จะชาร์จไฟ ทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้ ลอง2ยี่ห้อ เป็นเหมือนกัน2ยี่ห้อเลย

ไม่รู้มันจะอะไรหนักหนา ยืนอยู่หน้าร้านแล้ว เอาไฟมา เอาเงินไป มันก็ควรจะจบ แยกย้าย นี่อะไรไม่รู้ต้องเล่าเรื่องชีวิตโดยละเอียดก่อน ชาร์จเสร็จยังจะโทรตาม ส่งSMS ส่งE-Mailตามรบกวนอีก

จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่า1ใน2ยี่ห้อนั้น มันทำธุรกิจอื่นด้วย แล้วธุรกิจที่ว่านั้นมันเป็นธุรกิจหลัก และมีโอกาสสูงมากที่จะโดนDisruptถ้าทุกคนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันหมด เลยมีทฤษฎีสมคบคิดในหัวอยู่เบาๆ ว่าหรือว่ามันจงใจทำให้ยาก คนจะได้ถอดใจกับการสลับไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหว่า  ;D
Current Cars
1996 - Merc E200 (W124)  :-*
2022 - BMW 530e Elite (G30 LCI)

Past
2000 - Honda Civic (EK)
2003 - Honda Accord 2.0 (G7)  :-*
2015 - Honda Accord Hybrid (G9)  :-\

Bornplanet

  • บุคคลทั่วไป
ดีครับ ผู้บริโภคได้ประโบขน์ ถ้าคนมาซื้อรถ ev กันเยอะๆ รถน้ำมันก็ต้องลดราคาแข่งด้วย


แต่ถ้าผมจะซื้อรถ ev ผมจะรอช่วงปลายๆมาตรการ เพราะจะมีตัวเลือกเยอะขึ้นครับ ไม่ใช่ตอนนี้ที่ยังมีให้เลือกไม่กี่รุ่น

MG EP Facelift รอลุ้นว่าจะมาไทยหรือไม่ ตอนนี้ MP EP 7.5 แสนบาทครับ ราคาเริ่มต้น

Bornplanet

  • บุคคลทั่วไป
รอผู้เล่นหน้าใหม่ๆครับ

ตอนนี้เหมือนมัดมือชกให้เลือก ev ต่ำล้านอยู่แค่ไม่กี่เจ้า

อีกไม่นาน Proton (Geely) น่าจะมาไทยแน่ๆ

Bornplanet

  • บุคคลทั่วไป
ในแง่คนใช้รถ กอยากให้รัฐช่วยมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ ก่อนน้านี้ก็พูดแต่ว่ารัฐไม่สนับสนุนๆ
นี่เท่ากับเหมือนรัฐออกให้ถึง 150,000.- แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องอื่น ณ ตอนนี้คงต้องพึ่งพาตัวเองบ้างนะครับ ทั้งเรื่องการศึกษาหาวิธีการชาร์จ
คำนวณค่าใช้จ่าย และวางแผนการเดินทาง เพราะเมื่อมีทางเลือกมากขึ้น การเลือกก็ต้อง
ออกแรงศึกษาเปรียบเทียบมากขึ้นครับ

ส่วนในอง่อุตสาหกรามสิ่งแวดล้อม แะเรื่องอื่นๆ ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ที่ดี และต้องเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผู้ได้ประโยชน์และผู้เสียประโยชน์
เราคงต้องยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ

แต่ทำไม รถยนต์ไฟฟ้า MG ลดราคาไปถึง 2 แสนบาท!!!!!

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,055
    • อีเมล์
ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...
Versionย่อ : ที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมืองนี่ ใช้จริงยากมากๆ จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ครับ

Versionเต็ม : ที่ชาร์จมีจริง แต่ได้มีประสบการณ์ลองพยายามเอารถไปชาร์จที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมือง อยากบอกว่าใช้ยากมากๆ ในระดับแทบใช้จริงไม่ได้ครับ จะไปชาร์จที ต้องโหลดAppมาก่อน(เพื่อ?? ยืนอยู่หน้าหัวชาร์จเนี่ย) แล้วขอข้อมูลส่วนตัวยังกับจะมาสืบราชการลับ ต้องให้เบอร์บัตรปชช. ต้องให้เบอร์มือถือ(ไม่รู้จะเอาไปขายให้ใครโทรมาขายประกันไหม) ต้องให้ที่อยู่ แถมต้องยินยอมให้เอาข้อมูลไปขายต่อ ต้องยินยอมว่าต้องรับโฆษณา ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ แบบมากมายมหาศาลมาก แค่จะชาร์จไฟ ทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้ ลอง2ยี่ห้อ เป็นเหมือนกัน2ยี่ห้อเลย

ไม่รู้มันจะอะไรหนักหนา ยืนอยู่หน้าร้านแล้ว เอาไฟมา เอาเงินไป มันก็ควรจะจบ แยกย้าย นี่อะไรไม่รู้ต้องเล่าเรื่องชีวิตโดยละเอียดก่อน ชาร์จเสร็จยังจะโทรตาม ส่งSMS ส่งE-Mailตามรบกวนอีก

จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่า1ใน2ยี่ห้อนั้น มันทำธุรกิจอื่นด้วย แล้วธุรกิจที่ว่านั้นมันเป็นธุรกิจหลัก และมีโอกาสสูงมากที่จะโดนDisruptถ้าทุกคนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันหมด เลยมีทฤษฎีสมคบคิดในหัวอยู่เบาๆ ว่าหรือว่ามันจงใจทำให้ยาก คนจะได้ถอดใจกับการสลับไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหว่า  ;D

โหห ... แทบใช้จริงไม่ได้เลยหรอ .....

ผมดูรีวิว App ของผู้ให้บริการชาจน์ไฟใน youtube ที่เค้ารีวิวกันก็ดูไม่ยากนะ ...

เค้าก็ลงทะเบียน ใส่ข้อมุลลงไป ถามว่าทำไมใส่เยอะ ก็ถ้าไม่ใส่เยอะเค้าจะรู้ได้ไงว่าต้องเก็บเงินกับใคร ... และการชำระเงินคือ ชาจน์ก่อน จ่ายทีหลัง ไม่ใช่หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า ที่จะหยอดก่อนแล้วค่อยใช้งาน..

ส่วนถ้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เสียบปลั๊ค แล้วสแกน QR จบและ ...

นี่ขนาดผมแอนตี้รถไฟฟ้า ผมยังคิดว่ามันง่ายมากๆเลยนะ ...

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,662
ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...
Versionย่อ : ที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมืองนี่ ใช้จริงยากมากๆ จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ครับ

Versionเต็ม : ที่ชาร์จมีจริง แต่ได้มีประสบการณ์ลองพยายามเอารถไปชาร์จที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมือง อยากบอกว่าใช้ยากมากๆ ในระดับแทบใช้จริงไม่ได้ครับ จะไปชาร์จที ต้องโหลดAppมาก่อน(เพื่อ?? ยืนอยู่หน้าหัวชาร์จเนี่ย) แล้วขอข้อมูลส่วนตัวยังกับจะมาสืบราชการลับ ต้องให้เบอร์บัตรปชช. ต้องให้เบอร์มือถือ(ไม่รู้จะเอาไปขายให้ใครโทรมาขายประกันไหม) ต้องให้ที่อยู่ แถมต้องยินยอมให้เอาข้อมูลไปขายต่อ ต้องยินยอมว่าต้องรับโฆษณา ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ แบบมากมายมหาศาลมาก แค่จะชาร์จไฟ ทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้ ลอง2ยี่ห้อ เป็นเหมือนกัน2ยี่ห้อเลย

ไม่รู้มันจะอะไรหนักหนา ยืนอยู่หน้าร้านแล้ว เอาไฟมา เอาเงินไป มันก็ควรจะจบ แยกย้าย นี่อะไรไม่รู้ต้องเล่าเรื่องชีวิตโดยละเอียดก่อน ชาร์จเสร็จยังจะโทรตาม ส่งSMS ส่งE-Mailตามรบกวนอีก

จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่า1ใน2ยี่ห้อนั้น มันทำธุรกิจอื่นด้วย แล้วธุรกิจที่ว่านั้นมันเป็นธุรกิจหลัก และมีโอกาสสูงมากที่จะโดนDisruptถ้าทุกคนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันหมด เลยมีทฤษฎีสมคบคิดในหัวอยู่เบาๆ ว่าหรือว่ามันจงใจทำให้ยาก คนจะได้ถอดใจกับการสลับไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหว่า  ;D
   คนอย่างผมนี่ลำบากเลย    ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไร   เรื่องเนต มือถือก็แทบไม่ได้เล่น   วุ่นวายแบบนี้จะใช้กันยังไง   ขับมังกรทองต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2022, 19:50:15 โดย Auto »

ออฟไลน์ nin122

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
    • อีเมล์
ตอนนี้เค้าสนับสนุนแล้ว ออกมาตราการมาครบทุกอย่างแล้ว ที่ชาจน์มีทั่วเมืองแล้วมีทั้งในปั๊ม ทั้งในห้าง ...
Versionย่อ : ที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมืองนี่ ใช้จริงยากมากๆ จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ครับ

Versionเต็ม : ที่ชาร์จมีจริง แต่ได้มีประสบการณ์ลองพยายามเอารถไปชาร์จที่ชาร์จที่มีทั่วบ้านทั่วเมือง อยากบอกว่าใช้ยากมากๆ ในระดับแทบใช้จริงไม่ได้ครับ จะไปชาร์จที ต้องโหลดAppมาก่อน(เพื่อ?? ยืนอยู่หน้าหัวชาร์จเนี่ย) แล้วขอข้อมูลส่วนตัวยังกับจะมาสืบราชการลับ ต้องให้เบอร์บัตรปชช. ต้องให้เบอร์มือถือ(ไม่รู้จะเอาไปขายให้ใครโทรมาขายประกันไหม) ต้องให้ที่อยู่ แถมต้องยินยอมให้เอาข้อมูลไปขายต่อ ต้องยินยอมว่าต้องรับโฆษณา ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ แบบมากมายมหาศาลมาก แค่จะชาร์จไฟ ทำไมมันยุ่งยากขนาดนี้ ลอง2ยี่ห้อ เป็นเหมือนกัน2ยี่ห้อเลย

ไม่รู้มันจะอะไรหนักหนา ยืนอยู่หน้าร้านแล้ว เอาไฟมา เอาเงินไป มันก็ควรจะจบ แยกย้าย นี่อะไรไม่รู้ต้องเล่าเรื่องชีวิตโดยละเอียดก่อน ชาร์จเสร็จยังจะโทรตาม ส่งSMS ส่งE-Mailตามรบกวนอีก

จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่า1ใน2ยี่ห้อนั้น มันทำธุรกิจอื่นด้วย แล้วธุรกิจที่ว่านั้นมันเป็นธุรกิจหลัก และมีโอกาสสูงมากที่จะโดนDisruptถ้าทุกคนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันหมด เลยมีทฤษฎีสมคบคิดในหัวอยู่เบาๆ ว่าหรือว่ามันจงใจทำให้ยาก คนจะได้ถอดใจกับการสลับไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหว่า  ;D

ผมว่าการที่มี App มันสะดวกมาก  ตัดเงินผ่านบัตรเครดิตจบเลย 
ปล. ผมใช้ EA Anywhere เป็นหลัก