ทำไมรถไฟฟ้าเวลาทดสอบระยะทางเขาถึงไม่ทำเป็นปกติครับ...?

Akrachai

อย่างเช่นมีเวลาทดสอบระยะทาง ถ้าสมมุติเป็นรถ sedan 4 ประตู เวลาทดสอบขับความเร็ว 90-120 นั่ง 4 อาจจะมีหรือไม่มีสัมภาระก็ได้ เปิดแอร์เอาให้รู้สึกไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปสบายๆ แล้ววิ่งจนแบตหมด แล้วค่อยเอามาใส่ใน spec ที่ใช้ขายจริง

ผมแค่รู้สึกว่าทำไมเขาไม่เทสแบบนี้ครับ ทำไมบางมาตรฐานต้องปืดแอร์ ทำนู้นทำนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้วิ่งได้ไกลขึ้นแต่แบบเหมือนหลอกลวงผู้บริโภคอะ แล้วแบตไม่ว่าจะแบตอะไรขึ้นชื่อว่าแบต มันแถบจะไม่ตรง 100% อยู่แล้ว 

ผมแค่เลยรู้สึกว่าทำไมเขาไม่ทำให้เป็นปกติเหมือนคนใช้รถจริงๆครับ



เนื้อน่องไม่หนัง

ถ้าไม่จำเป็นผู้ผลิตน่าจะพยายามเคลมตัวเลขสูงๆเว่อๆไว้ก่อนอยุ่แล้วครับ
เหมือนสมัยรถน้ำมันที่ขับข้ามประเทศ ถังเดียวยังเหลือ อะไรแบบนั้น
แล้วก็มีคนซื้อกลุ่มนึงที่ ให้ตัวเลขพวกนี้ประกอบการตัดสินใจ
สุดท้ายมี ecosticker มาเทสให้ ค่อยเป็นมาตรฐานเดียวกันหน่อย



DiKiBoyZ

ผมว่า เขาก็พยายามทำให้ตัวเลขมันดูสวยแหละครับ

แต่ที่จริง การจะออก EcoStricker ในประเทศไทย ผมว่า มันน่าจะต้องอ้างอิงได้จริง บนเงื่อนไขจริงๆ ด้วยครับ

ไม่ใช่ตัวเลขบนกระดาษสวยหรู แต่ใช้งานจริง ต้อง หาร 4 ไรงี้

มันเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคนะ แต่เขาอาจจะปฏิเสธความว่าเขาไม่ผิด หรือมีความชอบธรรม เพราะดันมีหน่วยงานที่รับรองให้เขา ออกเอกสาร ออก EcoSticker ให้เขาได้

ภาพ Volkswagen ตอนเรื่องปรับแต่ง firmware ให้ตัวเลขสวย โกงมลพิษ ใน USA ลอยมาเลย



Akrachai

ขึ้นอยู่ว่าจะะเอามาตรฐานไหนมาอ้างอิง ทดสอบด้วยครับ

ถ้าเป็นรถ EV จำหน่ายในสหรัฐ ก็จะมีมาตรฐานของตัวเองในการทดสอบ EPA (Environmental Protection Agency)

ถ้าเป็นรถ EV จำหน่ายในยุโรป ก็จะมีมาตรฐานของตัวเองในการทดสอบ WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicles Test Procedure)

ส่วนมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) ก็มาตรฐานเก่าที่ใช้ในยุโรป

จากการรวบรวมการทดสอบมานั้น NEDC จะได้ตัวเลขออกมามากที่สุด ตามมาด้วย WLTP ส่วน EPA จะได้ตัวเลขน้อยที่สุด

ที่เป็นอย่างนี้ก็เนื่องมาจากทางฝั่งอเมริกา จะมีการใช้งานในการวิ่งทางไกลด้วยความเร็วที่มากกว่า

เนื่องมาจากสภาพถนนของฝั่งนั้นจะมีทางระหว่างเมืองที่ไกลมาก ตัวเลขที่ได้เลยน้อยที่สุด

แตกต่างกับฝั่งยุโรปและเอเชีย ที่ไม่ได้มีทางวิ่งนอกเมืองเยอะขนาดนั้น

จึงมีการเฉลี่ยเอาความเร็วแถบชานเมืองและแถวชนบทเข้ามาร่วมตัว ตัวเลขเลยได้มากขึ้นมาอีกนิดตามมาตรฐานของ WLTP

และที่ตัวเลขของ NEDC ได้มากที่สุด เพราะการออกแบบไม่ได้คำนึงถึงตัวแปรอื่น ๆ นั่นเอง ตัวเลขเลยได้ออกมามากที่สุดเลย

ที่มา https://www.autodeft.com/deftanswer/how-to-epa-nedc-wltp-test-electric-cars


ผมก็ไม่ได้คิดถึงการใช้ตามถนนในที่ต่างๆเลยแหะ ไหนจะสภาพอากาศอีก ภูมิประเทศอีก แต่ผมก็หวังว่าในอนาคตคงจะมีมาตรฐานที่เป็นข้อบังคับว่าต้องทดสอบแบบนี้เท่านั้นและใช้แบบ worldwide ละกันครับ

ตอนนี้ถ้าอยากได้ระยะทางเยอะจริงแล้วก็ไม่หลอกลวงก็ต้องไปซื้อรถที่ มาตรฐาน EPA รับรองแล้วแหละ ซึ่งผมดูแล้วในไทย น่าจะมีแค่ Porsche , Benz , Audi ปะ แต่ market brand ยังไม่มี ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2022, 15:54:30 โดย Akrachai »



XMSL

ขนาดความจุแบตบางยี่ห้อยังไม่บอกตัวเลขจริงเลยครับ..คงเป็นเพราะกฏหมาย(ยัง)ไม่ได้กำหนดให้ต้องระบุ เรื่องระยะทางถ้าติดตามตั้งแต่รถเปิดตัวก็จะมีตัวเลขกำกับคร่าวๆมาอยู่แล้วว่ารุ่นย่อยแต่ละรุ่นวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่โดยประมาณ (อิงมาตรฐานอันใดอันหนึ่ง) ตัวเลขทดสอบจริงก็มีให้ดูจากนักทดสอบตามเงื่อนไขทดสอบที่กำหนดค่าหนึ่ง เช่น ความเร็วคงที่บนถนนไฮเวย์ หรือ วิ่งในเมืองผสม..แบบการทดสอบ MPG ของแต่ละสำนักทดสอบ เอาเข้าจริงๆแต่ละคนก็ใช้งานไม่ได้ตามตัวเลขที่ว่าจริงมั้ยครับ



Chicken Wings

เพื่อการตลาดให้ดูเหมือนประหยัดมากไง ไม่ใช่แค่รถไฟฟ้าหรอก รถสันดาปก็ทำมานานแล้ว

วิ่งเหนือ-ใต้ น้ำมัน 1 ถังยังเหลืองี้ เห็นโฆษณาหลายค่ายเลย  8) 8)



LapisLazuli

มันต้องอ้างอิงมาตรฐานใด มาตรฐานหนึ่งครับ ไม่งั้นใครจะทดสอบแบบไหนก็ได้ เลขจะยิ่งไม่แม่นกว่านี้อีก และไม่แฟร์กว่านี้อีก

ไม่ใช่เเค่ EV ครับ รถน้ำมันก็ทำแบบเหมือนกัน แต่เราใช้รถน้ำมันกันจนชิน เราดูตัวเลขออกแล้ว (แบบสมมติถัง 40 ลิตร: ผลทดสอบมาตรฐานได้ 20 km/L ก็คือวิ่งได้ 800 km, แต่วิ่งจริงเฉลี่ยๆการใช้งานเเล้วได้แค่ 14 km/L ก็วิ่งได้เเค่ 480 km)

แต่รถไฟฟ้ามันยังใหม่ เรายังไม่ชินกับตัวเลข อยู่ในตลาดไปนานๆ เดี๋ยวเราก็ชินกับตัวเลขเองครับ
แต่เราก็ต้องรู้ เขาเอามาตรฐานไหนมาทดสอบ เราต้องเทียบรถ 2 คัน ด้วยมาตรฐานเดียวกัน

แต่ใจจริงผมอยากใช้ km/kWh อีกหน่วยมาวัดด้วย
เพราะ km Range เฉยๆ อาจจะ…. แต่ใช้แบตลูกใหญ่หนักๆ เฉยๆก็ได้ มันอาจจะกินไฟ กินสุดๆเลย แต่ใช้แบตลูกใหญ่เว่อๆก็ได้ครับ
(เช่น สมมติถ้าเป็นรถน้ำมัน
- A บอกวิ่งได้ 800 km, แต่จริงๆเเล้ว กินน้ำมัน 10 km/L แต่ใช้ถังน้ำมันขนาด 80 ลิตร
- B บอกวิ่งได้ 400 km, แต่จริงๆเเล้ว กินน้ำมัน 20 km/L แต่ใช้ถังน้ำมันขนาด 20 ลืตร
B ประหยักกว่า, ไม่ใช่ A, แต่ B ต้องชาร์จแบต บ่อยๆๆๆๆๆ เฉยๆ
เลขเว่อๆเฉยๆนะครับ จริงๆไม่เท่านี้หรอก แบตมันหนักมาก 55)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2022, 07:22:29 โดย LapisLazuli »



KTN88

ตอนนี้อยากให้เลิกใช้มาตรฐาน NEDC ก่อนเลย ความแม่นยำ = 0 จริงๆครับ

ล่าสุดรถจีนบางรุ่นระยะ NEDC แปลงเป็นระยะจริงต้องลบไป 200 km เลย



SM.

ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมาตรฐานพวกนี้นะ ระยะทางวิ่ง อัตราความสิ้นเปลือง ผมขอไปดูจากรีวิวผู้ใช้จริงดีกว่า