วันที่ 12 ก.ย.2565 ทางเจ้าของรถได้เข้ามาขอเอกสารจากทางศูนย์บริการในการรับผิดชอบ และได้ต่อสายไปยังน้องชายของเจ้าของรถซึ่งมีข้อเรียกร้อง เจ้าของรถไม่ประสงค์จะรับรถที่ซ่อมแต่จะขอเปลี่ยนรถคันใหม่ ทางผู้จัดการศูนย์ได้แจ้งกลับทางน้องชายเจ้าของรถว่า จะดำเนินการซ่อมรถคันนี้ให้แล้วเสร็จ
และหลังจากที่ซ่อมเสร็จแล้วจะเชิญลูกค้ามาร่วมในการตัดสินใจในการรับรถคันนี้ หรือจะดำเนินการเปลี่ยนรถคันใหม่ตามที่ลูกค้าแจ้งภายใต้เงื่อนไขของบริษัท โดยต้องได้รับความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางศูนย์จะสรุปเรื่องดังกล่าวในวันที่ 30 ก.ย.2565
ทั้งนี้ ในระยะเวลาที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ยื่นข้อเสนอและชดเชยความเสียหายให้กับลูกค้ามาโดยตลอด ข้อเสนอ 1.ทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าตัวรถทั้งหมดที่ค้างอยู่กับไฟแนนซ์คันเดิม เป็นจำนวนเงิน 459,374 บาทให้แก่ลูกค้า
2.ทางบริษัทเสนอรถใหม่ให้เป็น mg5 รุ่น c สีดำ เป็นตัวรองท็อป ราคารถ 585,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2.05 % non ยอดเงินดาวน์ 165,000 บาท ยอดจัด 420,000 บาท ดอกเบี้ยรวม 5 ปีคิดเป็นเงินจำนวน 43,050 บาท รวมทั้งสิ้นยอด 463,050 บาท ผ่อนงวดละ 7,717 จำนวน 60 งวด
3.รถคันเดิมที่ได้รับความเสียหาย ขอให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ท็อปทรีออโต้ จำกัด ทางบริษัทจึงทำหนังสือเพื่อเสนอชดเชยค่าเสียหายให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณา แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ลูกค้าได้นำรถสำรองใช้มาคืน ซึ่งมีรายละเอียดอีกหลายอย่าง โดยลูกค้าได้แจ้งว่าขอให้เป็นเรื่องของกฎหมาย
อ่านแล้วคือศูนย์จะจ่ายให้459,374บาท ให้รถรุ่นรองท้อป ลูกค่าจ่ายรวมผ่อน165,000+463,050=628,050บาท
รวมแล้วลูกค้าต้องจ่ายเพิ่ม168,676บาท ได้รุ่นต่ำลง ใครมันจะเอา
เพิ่มเติม 1.ข้อเสนอแบบนี้ศูนย์แทบไม่เสียอะไรเลย ลูกค้าจ่ายค่ารถใหม่เอง ประกันจ่ายค่าซ่อม ตัวเองซ่อมรถเสร็จเอาไปหลอกขายต่อได้ซักสามแสน เสียส่วนต่างแสนห้า หักลบกับกำไรที่ขายรถใหม่ไปได้เผลอๆได้กำไรด้วยซ้ำ
2.ผมเป็นเจ้าของรถผมคงให้ศูนย์ปิดไฟแนนซ์ให้แล้วยกรถให้ศูนย์ไปเลย เอาตังไปดาวน์ยี่ห้ออื่นถือว่าโชคดีที่ขายได้ราคาขนาดนี้ แต่เดาว่าศูนย์คงไม่ยอมซื้อคืนถ้าไม่เอาคันใหม่