มาร่วมป่วนนอกเรื่องด้วย
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กากกัมตภาพรังสี ผมไม่กลัวครับ แต่ที่กลัวคือ "ความชุ่ยในสันดานของคนไทย" นี่แหละ เรื่องของพลังงานนิวเคลียร์จำเนต้องมีสถานที่ๆคุณภาพสูง มีการบำรุงรักษาระบบตลอดเวลาสม่ำเสมอ มีบุคลากรที่เคร่งครัดในวินัยเพื่อตรวจจับความผิดปกติแก้ไขได้ทันท่วงที แต่ลองมาเทียบกับคนไทยดูซิว่าเป็นยังไงบ้าง
เริ่มต้นเลยนะครับการจัดหาที่ดินสำหรับเริ่มแผนก่อสร้างโรงงานก็ส่อแววเน่าแล้วเพราะไม่มีใครอายกจะเอาของอันตรายแบบนี้มาอยู่ใกล้บ้านตัวเอง คนจะผลักดันให้ไปอยู่ที่ไกลๆต่างจังหวัดที่ไหนสักแห่งหนึ่งไกลๆกรุงเทพหมานร....อาจจะมีการเล่นใต้โต๊ะโกงการประมูลที่ดินผลักดันให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานของเตานิวเคลิยร์ ในภายหลังอาจมีปัญหาระบบระบายความร้อนเสียบ่อยหรือผนังอาคารแตกร้าวเพราะหน้าดินไม่แข็งแรงพอก็ได้ ดูได้เลยสนามบินสุวรรณภูมิเนี่ยโกงกันมาตั้งแต่รุ่นเราๆยังไม่เกิดเลยนะครับ หนองงูเง่าฟ่อๆเรื่องโครงการที่ดินเน่าเฟะแบ่งผลประโยชน์กันข้ามชั่วคนเลยทีเดียว
ขั้นต่อไปมาเรื่อสงคุณภาพวัสดุของสิ่งก่อสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ ที่นี่คือประเทศไทยจร้าประเทศไทย ผมไม่เคยเห็นอาคารใดๆถนนสายไหนๆที่ใช้วัสดุที่มมีคุณภาพตรงตามหลักวิศวกรเลย!!! แตกร้าว พัง ทรุดโทรมก่อนเวลาอันควรทั้งนั้น!!! ไหนถนนบางนาตราดขาเข้าขาออกมีสภาพเป็นดาวอังคารทำเอาคนตายไปหลายคนแบบนี้มากี่ปีแล้ว?? นี่คือชะตากรรมที่มีแนวโน้มสูงว่าจะเกิดกับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ผลประโยชน์ โกงกิน ทั้งกระบวนการ การเมืองแอบแฝง......
มาที่เรื่องของการซ๋อมบำรุงบ้าง ไม่ต้องมองไกลถึงอนาคตตอนที่มันสร้างเสร็จแล้วเลยจร้าพี่น้องงงงง เอาง่ายๆเลยเมื่อสิบปีที่แล้วที่มีคดีสารกากกัมมันตภาพรังสีรั่วจากกบ้านของคนเก็บของเก่าขาย ใครจำได้ยกมือขึ้นนนนนน สรุปง่ายๆก็คือคนเก็บของเก่าเค้าไปเจอกองเครื่องภายรังสีทิ้งไว้อยู่เค้าเลยเอากลับมาบ้านแบ่งชิ้นส่วนขาย ด้วยความที่ไม่รู้เลยเอาที่เชื่อมเหล็กผ่าภาชนะบรรจุตัววัตถุรังสีแรงสูงออกเพื่อดูข้างใน เปิดผอบออกปุ๊บได้เรื่องเลยชาวบ้านละแวกใกล้เคียงได้รับรังสีเข้มข้นไปด้วย ร้อนองค์กรปรมณูเพื่อสันติต้องมาเก็บไปให้ (แต่เค้าไม่ใช่พระเอกนะครับ) สืบไปสืบมาปรากฏว่าไอ้เครื่องฉายรังสีเนี่ยถือเป็นของอันตรายระดับสูงจำเป็นต้องมีการตรวจเช็คเป้นประจำสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลขึ้นมาซึ่งองค์กรนี้มีส่วนร่วมรับผิดชอบตรวจสอบด้วย.............. เรีกว่าไอ้เครื่องนี้ตั้งแต่นำเข้ามาจนมันพังไปต้องมีรายงานบอกชัดเจนว่าตอนนี้วินาทีนี้มันอยู่ที่ไหนมีสภาพเป้นยังไงแล้วบ้าง แล้วทำไมอยู๋ๆมันไปกองเป็นสภาพเศษเหล็กให้คนขายของเก่าเค้าเอามาชำแหละได้ไงวะเว้ยเฮ้ยยยย?
สรุปย่อตอนท้ายคนขายของเก่าได้รับผลกระทบจากรังสีเนื้อตามร่างกายหลายส่วนตายหลุดออกไปนิ้วมือกุดเกือบหมด ทีแรกจะเรียกร้องค่าเสียหายจากตระกูลสุโกศลที่เป้นคนนำเข้าเครื่องนี้มาเพราะไม่ช่วยเหลือเค้าเลย ปรากฏว่าตระกูลสุโกศลฟ้องร้องกลับหาว่าไปขโมยของเค้ามาเอง คนขายของเก่าไม่มีเงิน ไม่มีความรู้จ้างทนายก็ต้องยอมเงียบรับสภาพไป.......................
กะอีแค่เครื่องภายรังสีตัวเดียวยังดูแลกันไม่ได้นับประสาอะไรกับเตาปรมณูเครื่องเท่าตึกโตๆเล่า? ขนาดประเทศที่เค้าเข้มงวดด้านการตรวจสอบยังมีการผิดพลาดให้แก้ไขกันบ่อยๆเลย ความสะเพร่าของคนไทยไม่รอดแน่นอน ถ้ามันระเบิดตูมขึ้นมาแบบเชอร์โนบิลคนไทยทั้งประเทศจะอยู่ยังไงกันล่ะครับ? นัการเมืองกับคนรวยก็หนีไปอยู่เมืองนอกกันหมด เราๆท่านไกอยู๋กันแบบเจ็บออดๆแอดๆไปหลายชั่วอายุคนนี่แหละ
ผมไม่ได้บอกนะครับว่าเตานี่มันไม่ดี แต่ว่าคนไทยยังไม่พร้อมที่จะมีมันเลย ตราบใดที่คนไทยยังคงมักง่าย ขี้เกียจ หละหลวม หย่อนยานกฏระเบียบแบบนี้ อย่าคำเดียวเท่านั้น เอาไว้ให้บนท้องถนนไม่มีพวกขับรถปาดหน้า แทรกตามคอสะพาน จอดรถในที่ห้ามจอดติดต่อกันได้สักเดือนนึงก่อนแล้วค่อยมาคิดเรื่องนี้อีกทีก็ยังไม่สายครับ