ผู้เขียน หัวข้อ: ขออนุญาตถามนะครับ  (อ่าน 4314 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ขออนุญาตถามนะครับ
« เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 16:04:06 »
สวัสดีครับ

วันนี้ผมมีคำถามมาถาม(อีกแล้ว)  รบกวนด้วยนะครับ
ขอให้เป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ

เรื่องกรองอากาศ
1. กรองอากาศ คืออะไร ทำหน้าที่อะไร แล้วก็มีประโยชน์อะไรเหรอครับ
2. ทำความสะอาดกรองอากาศยังไงเหรอครับ
3. ถ้าข้อ2มันเกินความสามารถของผม ผมให้ศูนย์ หรืออู่ทำแทนได้มั้ยครับ
4. ถ้าไม่ทำ จะเกิดผลอะไรเหรอครับ

เรื่องน้ำมัน(อีกแล้ว)
1. ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณพ่อซื้อน้ำยาขวดนึง ท่านบอกให้ผมใส่ลงไปในช่องที่เติมน้ำมัน ตอนเติมน้ำมัน
 ผมอยากทราบว่า มันเรียกว่า น้ำยาล้างหัวฉีดรึเปล่าครับ
2. จากข้อ1 แล้วมันช่วยอะไรรถผมบ้างครับ
3. แล้วถ้าผมไม่ใส่น้ำยาที่ว่าลงไป มันจะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ

เรื่องทั่วๆไป
1. พวกของเหลวในรถ น้ำยา หม้อน้ำ น้ำมันเบรก จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกครั้งมั้ยครับ
 แล้วของเหลวแต่ละอย่างในรถ มีอายุที่สมควรแก่การเปลี่ยน เพื่อให้รถมีสภาพสมบูรณ์ที่สุด วัดได้จากอะไรครับ
2. คำว่า รถสภาพดี คือรถแบบไหนครับ แล้วทำยังไงถึงจะทำให้รถมีสภาพดีๆ อยู่กับเราไปนานๆ


เหอะๆ มีตั้งหลายคำถาม
ยังไงก็รบกวนด้วยนะครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้า

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 16:23:09 »
1. กรองอากาศ ชื่อมันก็ตามหน้าที่เลยครับ
คือเป็นตัวกรองเอาฝุ่น ความชื้น และพวกสิ่งสกปรกที่อยู่ในอากาศให้สะอาด
ก่อนที่จะเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เพื่อให้เครื่องยนต์มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์
2. ถอดมาเป่าลมครับ
3. ได้แน่นอน
4. เมื่ออากาศไม่สะอาด กรองอุดตัน การเผาไหม้ก็จะไม่สมบูรณ์ อัตราเร่งอาจด้อยลง + กินน้ำมันมากขึ้น

พวกของเหลวเปลี่ยนตามระยะทางที่วิ่งไปหรือเป็นระยะเวลา แล้วแต่ว่าอย่าใดถึงก่อน
ส่วนสภาพนั้น เราอาจสังเกตได้จากสีของมันครับ

รถสภาพดีสำหรับผมคงเป็นองค์ประกอบโดยรวมมากกว่า
อย่างเช่น เครื่องยนต์ ช่วงล่าง สภาพตัวถัง และอุปกรณ์ต่างๆ ว่ายังใช้ได้และอยู่ในสภาพที่ดีไหม
ถ้าใช้ได้ตามปกติ ผมก็ถือว่ารถคันนั้นสภาพดีครับ  ;D

Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 18:08:23 »
ผมว่าน้ำมันอะไรนั้นหนะ(ผมก็เรียกไม่ถูก)มันไม่ช่วยอะไรเลย นอกจากเสียเงินเพิ่ม แต่ถ้ามีอยู่แล้วก็ใส่ไปก็ได้ ;D

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 18:13:36 »
เรื่องกรองอากาศ

1. กรองอากาศ คืออะไร ทำหน้าที่อะไร แล้วก็มีประโยชน์อะไรเหรอครับ
รถทุกคันต้องมีกรองอากาศ เอาไว้กรองฝุ่นละอองก่อนเข้าเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันเครื่องยนต์สึกหรอก่อนเวลาอันสมควร(แม้ใส่ก็ยังสึกหรอเลยคิดดู...)

2. ทำความสะอาดกรองอากาศยังไงเหรอครับ
ถอดออกมาเป่าลม กรณีที่เป็นกรองแห้ง แต่ถ้ากรองเปียกส่วนมากจะเป่าไม่ออก ก็จำเป็นต้องเปลี่ยน ในลำดับนี้ ถ้าเป็นกรองแห้งสังเกตุจะไม่มีคราบเหนียวๆ
เยิ้มๆ จะเป็นฝุ่นเสียมาก สามารถเป่าได้ เวลาเข้าศูนย์หรือไปคาร์แคร์ตามป๊งตามปั๊ม ก้ให้เขาถอดมาเป่าก็ได้ ถ้ากรองเปียกนี่เป่าไม่ค่อยออกครับ....

3. ถ้าข้อ2มันเกินความสามารถของผม ผมให้ศูนย์ หรืออู่ทำแทนได้มั้ยครับ
ถ้าเซอร์วิสตามระยะเขาก็ทำให้นะครับ แต่ถ้าให้ดี เราลองถอดเจ้ากรองออกมาดูด้วยตัวเองทุก 3000-5000 โลก็ดี ว่าสะอาดดีอยู่มั๊ย
ถ้ามันเริ่มสกปรก ก็วกไปอ่านข้อ 2 ครับ

4. ถ้าไม่ทำ จะเกิดผลอะไรเหรอครับ
รถเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ กินน้ำมัน เกิดเขม่ามากกว่าที่ควรจะมี โลกร้อน เป็นการเพิ่มมลพิษให้กับเพื่อนร่วมโลก การไม่เป่ากรองอากาศเป็นการทำร้ายเพื่อนร่วมชาติ
เ็ห็นมั๊ย....มันเป็นปัญหาระดับชาติเลยนะ การที่กรองอากาศสกปรกเนี่ย.....

เรื่องน้ำมัน(อีกแล้ว)
1. ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณพ่อซื้อน้ำยาขวดนึง ท่านบอกให้ผมใส่ลงไปในช่องที่เติมน้ำมัน ตอนเติมน้ำมัน ผมอยากทราบว่า มันเรียกว่า น้ำยาล้างหัวฉีดรึเปล่าครับ
บางคนเรียกออกเทนบูสเตอร์ บางคนเรียกน้ำยาล้างหัวฉีด มันก็คือๆ กัน ผมว่าเติมแก๊สโซฮอลก็เท่ากับล้างหัวฉีดแล้วหล่ะ....

2. จากข้อ1 แล้วมันช่วยอะไรรถผมบ้างครับ
ช่วยให้รถดูเหมือนจะแรงขึ้น....ดูเหมือนจะนะ

3. แล้วถ้าผมไม่ใส่น้ำยาที่ว่าลงไป มันจะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ
ดูเหมือนจะเสียตังค์......

เรื่องทั่วๆไป
1. พวกของเหลวในรถ น้ำยา หม้อน้ำ น้ำมันเบรก จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกครั้งมั้ยครับ
ของเหลวในรถมีหลายอย่าง แต่ละอย่างมีอายุแตกต่างกัน เช่นน้ำมันเครื่อง แล้วแต่เกรดมีตั้งแต่ 3000-5000 โลไปยัน 10,000 โล แล้วแต่ว่าคุณใช้แบบไหน
ข้อแนะนำ ควรเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องด้วยทุกครั้ง สาเหตุเพราะกรองน้ำมันเครื่องเป็นตัวกักความสกปรกในเครื่องยนต์ แต่...มันมีวาล์วบายพาสนะ
ถ้าซัดหนักๆ วาล์วตัวนี้เปิด พวกคราบสกปรกก็สามารถวิ่งขึ้นมากับน้ำมันเครื่องได้เช่นกัน...ดังนั้น ก็ควรเปลี่ยนพร้อมน้ำมันเครื่องครับ

 แล้วของเหลวแต่ละอย่างในรถ มีอายุที่สมควรแก่การเปลี่ยน เพื่อให้รถมีสภาพสมบูรณ์ที่สุด วัดได้จากอะไรครับ
ดูจากในหนังสือรับประกันของรถนั้นๆ เช่น น้ำมันเกียร์ 40,000 โล (จริงๆ 20,000 โลผมก็จับเปลี่ยนแล้ว เพราะขับรถไม่ค่อยจะเรียบร้อย) หรือน้ำมันเบรก 50,000 โล แต่ละค่ายใส่ไม่เท่ากัน ดูจากคู่มือรถจะดีที่สุดครับ ผมว่าบางอย่างเปลี่ยนถ่ายเร็วไม่เสียหาย(แต่เสียตังค์....)แต่ต้องตรงสเปกรถนะ

2. คำว่า รถสภาพดี คือรถแบบไหนครับ แล้วทำยังไงถึงจะทำให้รถมีสภาพดีๆ อยู่กับเราไปนานๆ
นิยามดูเหมือนตอบง่ายแต่ตอบยาก รถสภาพดี เอาอะไรเป็นมาตราฐานหล่ะ ?  ถ้ามาตราฐานของผมนะ ผมดูตั้งแต่คนขับเลยว่า
สูบบุหรี่ในรถหรือไม่ ถ้าคนขับสุขภาพแย่ ผมก็มั่นใจว่ารถคันนั้นก็คงจะสุขภาพดีได้ยากเช่นกัน เราต้องเอาตัวคนขับเป็นบรรทัดฐานเลยว่า
เขาดูแลตัวเองได้ดีขนาดไหน(ส่วนมากคนดูแลตัวเองดี รถก็จะดีไปด้วย ส่วนมากนะไม่ใช่ทั้งหมด) ดังนั้นผมดูที่ตัวคนขับก่อน รวมถึงอาชีพการงาน
รวมถึงความเข้าใจเรื่องรถ ทัศนคติที่มีต่อศูนย์บริการ ความรู้ความเข้าใจเรื่องรถด้วย......อาจจะดูเพี้ยนๆ แต่การที่ผมจะเลือกรถมือสองสักคัน ผมดูหมด
แทบจะเช็คประวัติเจ้าของกันเลยทีเดียว บางทีมันรู้สึกได้เลยนะ ว่าเจ้าของรถ รักรถคันนี้ขนาดไหน ดูจากเจ้าของ ดูจากรถ มันอินได้เลย

ส่วนรถ ก็ดูว่าเคยชนมามั๊ย ชนหนักขนาดเขาแคสซีหรือไม่ ตัวถังเป็นไงบ้าง เส้นสายรอบคันสวยมั๊ย สีดีมั๊ยเงาหรือไม่ หรือทั้งปีเคยเคลือบสีอยู่หนเดียว
มุดดูใต้ท้องมีผุมั๊ย ร่องรอยการใช้งานเป็นไง (ถ้ารถวิ่งต่างจังหวัด ดูใต้ท้องรถนี่จะชัดเจนมาก รอยเพียบ) เพื่ออะไร...เพื่อเทียบกับไมล์รถ ว่ากลับมาหรือไม่
ได้อีกทางหนึ่ง กรณีไม่มีบุ๊คเซอร์วิส นอกจากนั้นดูห้องเครื่อง ดูชุดยางต่างๆในห้องเครื่อง สีของยางในห้องเครื่อง สภาพห้องเครื่องโดยรวม
ฟังเสียงเครื่อง ดูเสียงแปลกๆที่อาจจะเกิดจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ในห้องเครื่อเช่น การแกว่งของเครื่องยนต์(ที่อาจจะเกิดจากยางแท่นเครื่องฉีกขาด หรือทรุด) พวกนี้แปลว่าเ้จ้าของรถอาจจะไม่เคยเปิดฝาเครื่องเลยเวลาจอด สักแต่ขับ ไม่เคยสนใจรถเลย อันนี้เกิดกับตัวผมเอง เพราะคนขับรถที่บ้านไม่เคยเข้าใจ
เรื่องเครื่องยนต์เลย ต้องพัง ถึงจะแจ้งเป็นต้น

ดูภายใน ถ้ามีการสูบบุหรี ผมเลิกดูต่อทันที เพราะผมแพ้บุหรี่ ดูสภาพคอนโซล ดูปุ่มต่างๆ ดูหัวเกียร์ พวงมาลัย เบาะ สภาพเบาะ ผ้าบุหลังคา
การติดตั้ง ดัดแปลงต่างๆ ที่มีภายในรถ ถ้าทำมาเละ แปลว่าเสียรถ สำหรับผมนะ ผมจะไม่ค่อยชอบอะไรที่ดัดแปลงแล้วและ แต่ถ้าดัดแปลงแล้วเนียน
ผมโอเค ถือว่าเ้จ้าของรถ มีความเข้าใจอย่างน้อยๆก็เลือกร้านที่ทำหล่ะครับ นอกจากนั้น ดูองค์ประกอบรวมๆ เช่นสภาพไฟ สายไฟ แอร์ เครื่องยนต์
ระบบส่งกำลัง(เกียร์) เบรก ช่วงล่างจะวัดจากการทดลองขับขี่ ว่ามีบูทตัวไหนดังมั๊ย พวงมาลัยแน่นมั๊ย มีอะไรหลุดหลวมเสียงดังก๊อกๆแก๊กๆ มั๊ย

ประมาณนี้อ่ะ ....
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 20:35:40 »
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

โห.. เรื่องการดูใต้ท้องรถนี่เข้าท่ามากๆเลยครับ

แบบนี้รถผมคงรอยอื้อแน่ๆเลย ผมขับไปเรียนบางนาตราด-มอเตอร์เวย์แทบทุกวัน

ออฟไลน์ ??????

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 21:38:07 »
ขออนุญาตเสริมเรื่องน้ำมันหน่อยนะครับ

การเติมน้ำมันที่ทำให้หัวฉึดสะอาดที่สุดคือการเติมน้ำมันธรรมดาครับ

การเติมโซฮอลนั้นยิ่งเปอร์เซ็นต์มากขึ้นยิ่งทำให้หัวฉึดสกปรกครับ


ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 23:36:42 »
หัวฉีดสกปรกเพราะน้ำมันมันกัดดี กันเอาตะกอนมาตันตรงหัวฉีดครับ
ถ้ารถใหม่ เติมโซฮอล์มาตลอดอยู่แล้วไม่มีผลครับ หัวฉีดสวยเหมือนกัน

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ gateaux

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 615
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 09:25:42 »
กรองอากาศ สมัย นิสสัน  ผมถอดมาทำความสะอาดเองตลอด
แต่พอเป็น MZ3   ไม่แม้แต่คิดจะถอดครับ  เห็นตอนที่ร้านเปลี่ยนให้ ยังรู้สึกว่า ไมมันยุ่งจังวะ  สมัยนู้น ปลด คลิป 4 ตัว จบแล้ว

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
Re: ขออนุญาตถามนะครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 07:10:09 »
ขออนุญาตเสริมเรื่องน้ำมันหน่อยนะครับ
การเติมน้ำมันที่ทำให้หัวฉึดสะอาดที่สุดคือการเติมน้ำมันธรรมดาครับ
การเติมโซฮอลนั้นยิ่งเปอร์เซ็นต์มากขึ้นยิ่งทำให้หัวฉึดสกปรกครับ

สำหรับรุ่นเก่าๆ อาจจะมีปัญหาน่ะครับ ก็คือเอททานอลในน้ำมันแก๊สโซฮอล กัดอุปกรณ์ประเภทยางที่อยู่ในระบบของท่อทางเดินน้ำมันเบนซิน
ไล่กันตั้งแ่ต่ปั๊มติ๊กเข้ามา แต่.....โดยทั่วไปจะถูกดักไว้ที่กรองเบนซินครับ....ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนกรองเบนซินบ่อยหน่อย บางคันใช้สี่ห้าหมื่นโล
ไม่เคยถอดกรองเบนซินมาดูเลยก็มีเยอะแยะ เรามักจะลืมเลือนเจ้ากรองน้ำมันเบนซินไปนะครับ.....
ส่วนถ้าหลุดจากกรองเบนซินมาแล้วอาจจะมีท่อยางก่อนเข้า เรกกูเรเตอร์และผ่านจากเรกกูเรเตอร์ก็ถึงรางหัวฉีด กับหัวฉีด ก็มีโอกาสที่จะมีเศษผงมาอุดตันได้
ดังนั้นผมคิดว่าถ้าเริ่มรู้สึกว่ารถอืดๆ เร่งไม่ขึ้น นอกจากกรองอากาศ น้ำมันเครื่องแล้ว ควรเช็คระบบส่งน้ำมันด้วยครับ

นอกจากเป็นการระมัดระวังเรื่องท่อยางในระบบส่งน้ำมันบวม(และมีโอกาสรั่ว)แล้ว ก็ช่วยให้ใช้งานรถและแก๊สโซฮอล์ได้เต็มประสิทธิภาพด้วยครับ
เดี๋ยวนี้สำหรับรถเก่าๆ เรื่องท่อทางเดินน้ำมัน สามารถเลือกสเปกที่ทนการกัดกร่อนสูงได้แล้วนะครับ ตามร้านอะไหล่มันมีเกรดให้เลือกเลยครับ
แต่พวกโอริง หรืออุปกรณ์พ่วงของรถรุ่นนั้นๆ คงต้องอาศํยช่างหรือร้านอะไหล่ เพื่อทำการสอบถามแล้วหล่ะ
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011