ในเมื่อ แบตเตอรี่ราคาเป็น 70 % ของตัวรถ
- เข้าใจว่าที่พูดกันว่าแบตเตอรี่ราคาเป็น 70 % ของตัวรถ เอามาจากเคสที่ต้องเปลี่ยนแบต แล้วเอาราคาขายแบต ที่เปนอะไหล่มาเทียบกับราคารถทั้งคัน
ซึ่งการที่ซื้อรถทั้งคัน มันถูกกว่า การที่เราซื้ออะไหล่ทุกชิ้น มาประกอบเป็นรถคันใหม่เองครับ ถ้าต้องการอะไหล่รถทั้งคัน ซื้อรถใหม่ 1 คัน เอามาแยกอะไหล่ ถูกกว่าครับ
- รถไฟฟ้าคันนึงราคา 1 ล้านบาท แบตเตอรี่กับมอเตอร์ ถือว่าอาจจะเป็น 70-80 %ของราคารถคือ 700,000-800,000 บาท เท่ากับว่าตัวรถมีราคา 200,000-300,000 บาทเท่านั้น ถ้าแบตเตอรี่เสื่อมสัก 5 ปี หรือ 10 ปี ก็จะเหลือแค่ราคาตัวรถที่เสื่อมไปด้วยหรือเปล่า
- ถ้าต้องเปลี่ยนแบตคิดว่าราคาน่าจะลงเยอะกว่านั้นครับ
สมมุติ รถอายุ 7 ปี รถ 1 ล้าน ค่าตัวรถ 30% เหลือ 300,000 หักค่าเสื่อม ขายสัก 1 แสน
แต่คนที่ซื้อไป ต้องจ่าย 100,000 ค่าตัวรถ กับ 700,000 ค่าแบตใหม่ ทั้งหมดเป็น 800,000 แสน
ถ้ามองในมุมคนซื้อ จ่าย 800,000 กับรถเก่าที่ได้แบตใหม่ซิงๆ แต่ส่วนอื่นอายุ 7 ปี และอาจเสียในเวลาอันใกล้ตามอายุการใช้งานของมัน
กับออกป้ายแดง อาจจ่ายสัก 1.1m ดีไม่ดีได้รุ่นใหม่ วิ่งได้ไกลขึ้น ชาร์จได้เร็วขึ้นอีก..
ไม่เหมือนกันตอนเทียบ civic fc มือสอง กับ fe ใหม่ ที่บอดี้ใหม่ แต่เครื่องเดิม ไม่ได้ต่างกันมากมาย
- รถที่ใช้เครื่องยนต์ สมมุติรถราคา 1 ล้านบาท ราคาเครื่องยนต์กับเกียร์ ไม่น่าถึง 4 แสนบาท ตัวรถซึ่งก็ไม่น่าต่างจากรถไฟฟ้ามาก ทำไมราคาแพงกว่า
กำลังหาข้อมูลว่าถ้าหารถไฟฟ้ามือสอง ไม่เกิน 5ปีจะเหลือราคาเท่าไหร่
ถ้าเทียบกับรถไฟฟ้าจากจีนที่ได้ fta กลุ่มนั้นอาจโดนภาษีน้อยมากๆ จนราคาขายมันสะท้อนราคาต้นทุนขายครับ
ส่วนรถสันดาบในไทย โดนเก็บสรรพสามิต 10-30% แล้วแต่มลพิษที่ปล่อย ราคามันเลยบวมที่ภาษี
ยิ่งถ้ารถยุโรป ที่ประกอบในไทย หรือนำเข้ามาแล้วโดนภาษีเข้าไป พอมาเจอ tesla ที่ ได้ fta ส่วนต่างยิ่งเห็นได้ชัดเลย
รถไฟฟ้า ผมคิดว่าราคาคงร่วงแน่ๆ เพราะเรื่องแบตกับ technology ที่ผ่านไปเร็วครับ อย่างเช่น mg zs ev โมเดลเดียวกันแค่ปรับปรุงแบต ก็วิ่งได้ใกล้ขึ้น 70km (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) คนซื้อ lot แรกไป อาจเซ็งนิดๆ
แล้ว zs ev รุ่นเดิม อายุ 3ปี ราคาตั้งขายมือสอง หายไป 50% ได้เลย
ส่วน byd คิดว่าช่วงนี้ราคาแข็งอยู่เพราะเหมือนอยู่ในกระแส
แต่ 5 ปี คิดว่าราคาคงร่วงเหมือนกันครับ แต่จะร่วงหนักเท่า mg ไหมคงต้องดู aftersale ครับ