ผมจขกท.นะครับ
คือ รุ่นน้องผมต้องทำโปรเจคนี้ส่ง เขาไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ และ ค้นมาได้แค่สถิติถึงปี 60
ก็มาโยนหินถามทาง ได้คนฟอรัมนี้ช่วย เรียบร้อย เขาพร้อมส่งเฟซแรกแล้ว เป็นโปรเจคเชิงนโยบาย ครับ
(เฟซสองคือ ประมาณว่า ปีใดเมืองไทยจะใช้ EV แบบต่าง ๆ แล้วปล่อย CO2 น้อยอย่างเห็นได้ชัด ครับ)
เห็นด้วยกับความเห็นที่บอกค่าไฟกม.ละไม่ถึงบาท
ส่วนตัวผมก็วิ่งไม่ถึง EV ประหยัดมาก
โพสต์แรกผมคำนวณ Worst case คงไม่เหมาะเท่าใด ยอมรับครับ
ผมขอให้ข้อมูลจากข้อมูลทีมงานผมที่ใช้ BEV จริงเช่นกัน นะครับ
Model 3P ขับข้ามจังหวัด
200 กม. ใช้ไฟ 40-50kWh (ค่อนข้างใกล้กับตัวเลขต่ำสุดที่โบรชัวร์ระบุเลย)
เมื่อผนวกกับข้อมูลจากความเห็นก่อนหน้า
486*45/200 = 109.35 ก./กม. ครับ
นี่คือ Real case นะครับ ขับแรง ๆ กินมากกว่านี้ ครับ
นั่นก็คือ รถคันนี้วิ่งข้ามจังหวัด วิ่งปริ่ม ๆ ที่ไม่โดนใบสั่ง จะอยู่ที่เกือบ 150 ก./กม. ในไทย
บางการศึกษาที่วิเคราะห์ลึก ๆ รถคันนี้ 3xx ก.e/กม. ครับ (เฉพาะ Usage stage)
เยอะกว่า อย่าง Prius เท่าตัว ครับ
; ข้อมูล 8billiontress.com
: รถวิ่งจริงกินมากกว่าค่าแล็บ 35% และ สูญเสียระหว่างการชาร์จ 12%
และจากความเห็นด้านบน ที่ช่วยบอกว่าผลการสำรวจแตกต่างกันแต่ละเจ้า
ถ้าผู้ใดสนใจข้อมูลการปล่อย CO2e แล้วอยากดูเทียบโมเดลรถในหน้าเดียวกันเลย แบบไม่ต้องค้นทีละคัน ขององค์กรอิสระ
ดูตรง Life cycle emissions for electric, plug-in hybrid and conventional hybrid cars based on 100,000 miles of driving and the average U.S. mix of electricity.
http://assets.climatecentral.org/pdfs/ClimateFriendlyCarsReport_Final.pdfจะพบว่า องค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งได้รับการอ้างอิงมากกว่า 50,000 ครั้ง (รวมถึง UN) สำรวจพบว่า
รถที่ปล่อย CO2e ทั้งชีวิตรถ น้อยที่สุด เท่าที่สำรวจ คือ
'Prius Plug-in Hybrid EV' ครับ
ดีกว่า Prius ธรรมดา
และ ดีกว่ารถไฟฟ้าแรง ๆ เกินเท่าตัว ครับ
; กริดสหรัฐปี 2013 ซึ่งน่าจะพอเทียบเท่ากริดไทยปัจจุบัน ครับ
ผมอาจโพสต์ ทั้งถูกที่ และ ผิดที่ คือ มาโพสต์กึ่งถาม คนรู้เรื่องรถจริง และ คนรักรถ ครับ
สำหรับตัวผม ผมไม่ได้ขิงอะไรนักหรอกครับ
เพราะเป็นคนรักรถเช่นกัน แต่รักแบบหลายใจ
รักษาสิ่งแวดล้อมจำเป็นหรือไม่ ผมก็เห็นคนในเฟซ EV คุยเรื่องนี้ 'เพียบ' เลยครับ
คนใช้ ICE ก็จะเข้ามาค้านคนเหล่านั้น เถียงกันไปมา
คนเหล่านั้น จะสรุปได้จากโพสต์นี้ ว่า แต่ละคัน มีข้อดีของแต่ละคัน
ซึ่งก็เป็น ธีม ที่ผมเขียนด้านบนอยู่แล้ว
ส่วนตัวผม ก็แค่ ก่อนโควิด ก็ขึ้นรถสาธารณะไปทำงาน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
และปั่นจักรยานไปทำงาน บางวัน เช่นเดียวกับความเห็นก่อนหน้า ครับ
เข้าในเมือง ผมก็ขับรถไฟฟ้าไปเป็นหลัก
หรือเล็ก ๆ น้อย ๆ ฟังเพลงในรถ หรือ ในบ้าน ผมเป็นคนไม่สตรีมเพลงที่ฟังซ้ำแต่โหลดลง SD
ถึงแม้เปิดปิดเพลงยากกว่า / ค่า Wifi มันคงที่ และ OS HEOS เครื่องเสียงมันคุยกับ WiFi โดยตรง สตรีมได้แม้เพลง Hi-Fi
คือ ช่วยคนรุ่นหลัง เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยสิครับ
จะไม่ช่วยคนอื่นทั้งที่ช่วยได้ เพื่อ . . .
ผมเข้าใจว่า ทั้งหลายทั้งปวงในโพสต์นี้ คงเป็นประสบการณ์ใหม่ น่าจะของหลายคน รวมถึงผมและรุ่นน้องด้วย
ส่วนตัวที่ทำงานให้สำนักข่าวต่างประเทศนะครับ เรื่องที่โพสต์นี่ เป็นปรกติของคอลัมน์ข่าว มากเลยนะครับ
ข่าวต่างประเทศ เรื่องนี้ เขาลงลึกกันมากเลย
ยุโรปนี่ คนเลือกรถเป็น เพราะข่าวเขาชัดเจนมาก
สหรัฐนี่ คอลัมน์ออนไลน์ต่าง ๆ ถกกันละเอียดเลย และ รัฐบาลก็สำรวจเจาะลึกเลย เจาะแบรนด์ด้วย
แม้แต่ประเทศใกล้เรา อย่าง จีน อินเดีย เขาก็ยังให้ความสำคัญกับข้อมูลลักษณะช่วยโลก 'อย่างมาก'
ไทย ผมไม่เคยเห็นข่าวที่ลงลึกอย่างต่างประเทศ ซักข่าวเดียวเลย โพสต์นี้แหละ คือ ข่าวแรกที่ผมเห็น
ขอขอบคุณเป็นพิเศษต่อหลายความเห็น
โดยเฉพาะต่อความเห็นก่อนหน้า ครับ
คุณช่วยเปิดโลกทัศน์คนเข้ามาอ่านเลย
เฉพาะบางความเห็น Toxic ปนน้อยใจ ด้านบนนะครับ
ความคิด สุดโต่งสองข้าง (ไม่สนใจช่วยเลย หรือ กระแนะกระแหน)
ไม่ตรงกับคนรุ่นใหม่ที่เขาต้องเผชิญกับอนาคตแล้วล่ะครับ
ผมคุยกับคนรุ่นใหม่ มี 'หลายคน' อยากทำโปรเจคด้านบนที่ว่านี้ ครับ
ลึก ๆ แล้ว เขาคงอยากรู้ว่า รถแบบไหน ทำให้สิ่งแวดล้อมต่อจากนี้ อยู่ง่าย เท่าที่มันจะเป็นไปได้
สวัสดีครับ