ผู้เขียน หัวข้อ: ความเชื่อที่ว่า “ขัดเคลือบสีจะทำให้สีรถบาง” จริงเท็จประการใดครับ?  (อ่าน 2376 ครั้ง)

ออฟไลน์ Komutmas

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 25
สวัสดีครับ   

เรื่องมีอยู่ว่า นกขี้ใส่หลังคาครับ ขี้เยอะด้วย  ล้าง(เอง)ก็เอาออกไม่หมด
ก็เลยพึมพัมกับพ่อว่า เออเนี่ย จะเอารถไปขัดเคลือบสีสักหน่อย
(คือกะจะให้พ่อเป็นเจ้าภาพนั่นแหละครับ) 😇

พ่อผมแกก็บอกว่า “ปล่อยไว้อย่างงั้นแหละ มันเป็นเรื่องปกติ เอารถไปขัดสี สีรถจะบางเปล่าๆ”

คือแกมีชุดความคิดประมาณนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับว่า อย่าไปยุ่งกับสีรถ ไม่ว่าจะเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิคส้นมือส้นเท้าอะไรก็ตามแกไม่สนับสนุนนัก  แกเชื่อว่าเดิมๆจากโรงงานนั่นคือสวรรค์ประทานมาแล้ว

ผมก็เลยอยากรู้ คำกล่าวที่ว่า ขัดเคลือบสีทำให้สีรถบาง นี่มันเป็นfact หรือเป็นแค่ความเชื่อส่วนบุคคลครับ?

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
เกือบจริงครับ เหล็ก>รองพื้น>สี>แลคเกอร์>เคลือบ

ขัด = ขัดชั้นแลคเกอร์ (ไม่ใช่สีนะ) ให้บางลง = จะเรียกว่า"สี"บางลงก็ไม่ผิดนัก เพราะชั้นสีจริงมันบางมาก ความหนาที่เราเรียกกันจะเป็นแลคเกอร์มากกว่า
เคลือบ = พอกสารจำพวก wax บนชั้นแลคเกอร์อีกที = ไม่บางลง

สรุปถ้าขัดหนัก ไม่ควรทำบ่อย เคลือบทำบ่อยดี เวลามีรอยไม่มากจะเป็นชั้นเคลือบที่เป็นรอย ไม่ใช่ชั้นแลคเกอร์

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,954
    • อีเมล์
ตามที่คุณ Turin ว่ามาถูกต้องเลยครับ

คุณพ่อว่ามาน่ะถูกต้องแล้วครับ ไม่ใช่ความเชื่อเลย

ผมขยายความเพิ่มดังนี้ รถยนต์ออกมาจากโรงงาน เค้าจะพ่นสีและตามด้วยชั้นแลคเกอร์มาอีกชั้น

ทีนี้เมื่อเรานำมาใช้งาน และเกิดรอยขนแมวที่ใครๆก็เป็นกัน ก็จะมีการขัดลบรอยขนแมว ที่ไปทำๆกัน ทีนี้การขัดเนี่ย ถึงแม้จะมีการลงน้ำยาแต่การขัดนั้น มันคือการขัดผิวแลคเกอร์เดิมของรถ ทำให้รอยหายไปและนั่นก็คือ ผิวแลคเกอร์ก็จะบางลงไปด้วย

ส่วนน้ำยาที่เคลือบๆกันนั้น จริงๆมันเป็นตัวเคลือบเงา มันไม่ใช่ตัวที่จะสามารถไปเพิ่มชั้นแลคเกอร์ของสีได้ (แลคเกอร์จากน้ำยาเคลือบ กับ แลคเกอร์สีที่พ่นมา มันคนละชนิดกัน)

และที่คุณพ่อบอกว่า  "เดิมๆจากโรงงานนั่นคือสวรรค์ประทานมาแล้ว" อันนี้ถูกต้องที่สุดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 19, 2023, 09:50:35 โดย apinui »

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,724
ต้องดูว่าคำว่า ขัด ที่ว่าหมายถึงแบบไหนละครับ

ขัดใหญ่ ชั้นแลคเกอร์จะมีออกไปบ้าง ถึงจะเคลือบแก้ว ถ้าเคลือบแก้วดีๆ เขาก็จะมีการขัดใหญ่เหมือนกันนะครับ ผมเคยเคลือบแก้วมา ตอนขัดก่อนที่จะลงน้ำยาเคลือบแก้ว จะเป็นฝุ่นขาวๆเต็มห้องเหมือนกัน แบบนี้ชั้นแลคเกอร์ก็จะบางลงหน่อยครับ

ขัดใหญ่ สำหรับสาย wax ก็เหมือนกัน เพียงแต่ตอนจบงานมาลงด้วย wax

แต่การขัดพวกนี้ เขาจะนานๆแบบ 5-6 ปี ทำกันทีครับ หรือ แบบรถสีดูหมองมากๆจะถึงมาทำกันครับ

ขัดเคลือบ จริงๆก็แค่การเคลือบสี ด้วย wax อาจจะมีการใช้เครื่องปั่น เลยเรียกว่า ขัด กันครับ อันนี้จะไม่ได้เป็นอันตรายอะไรครับ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,724
มาเพิ่มเติมอีกหน่อย

การขัดเคลือบสี ปกติเขาจะใช้น้ำยาคลีนเนอร์ ทำความสะอาดก่อน แล้วก็มาลงด้วย wax ฟองน้ำที่เขาใช้ ก็จะเป็นฟองน้ำสำหรับงานพวกนี้ไม่เหมือนกับฟองน้ำสำหรับงานขัดหยาบครับ

ตัวคลีนเนอร์ ตัว wax เขาก็จะมีหลายแบบ พวกที่เครื่องปั่นกัน เขาจะแบบครีมๆ แบบนี้ตามร้านจะนิยมเอาเครื่องปั่นมาทำกัน เพราะเร็วและใช้ปริมาณที่น้อย คนทั่วไปเห็นก็จะนึกว่าเป็นการขัดสีมากกว่า

ส่วนถ้าคุณพ่อกลัวเรื่องการใช้เครื่องจริงๆ ก็ลองมาใช้แบบ ลงด้วยมือ ใช้ฟองน้ำแล้วเอามือวนๆเอาก็ได้ครับ เขาก็มีให้เลือกใช้อยู่ แบบในรูปของผม จะเป็นแบบลงมือครับ รักษาสีได้เหมือนกันครับ

M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,738
งานขัดสี เคลือบสีจริง ทำบนชั้น แลคเกอร์คับ ไม่ใช้ที่สีรถโดยตรง
ขัดสีเหมือนเอากระดาษทรายละเอียดๆมาขัดเผื่อลบรอยออก ซึ่งต้องมีส่วนที่หายไปแน่นอน ยังไงก็บางลงครับ
เคลือบสี ก็คือการลง wax ทับชั้น แลคเกอร์ ไม่ทำให้บางลง

ทีนี้เวลารถเป็นรอย หรือมีคราบ ก็ต้องดูว่า คราบมันฝังตัวลึกแค่ไหน คราบส่วนใหญ่อาจล้างออกได้ด้วยแชมพูครับ ถ้าเป็นคราบแน่นขึ้นมาหน่อย
หรือพวกมูลนกที่ทิ้งไว้นานๆ มันอาจกัดให้ด่าง และทิ้งคราบได้ อาจต้องใช้ Cleanner ช่วย  ถ้าลึกกว่านั้นคือฝังในชั้น แลคเกอร์ ก็ต้องใช้เครื่องขัด เปิดชั้น แลคเกอร์ นิดนึงแล้วไล่ความละเอียดใหม่

ผมเห็นด้วยที่ว่าสีเดิมโรงงานจะดูดีสุดนะ คือมันมาจาก lot เดียวกัน โดนแดดเลียเท่าๆกัน ยังไงนานวันไปสีซีดมันก็ซีดทั้งคันไม่มีชั้นไหนโดดออกมา
ถ้าทำสีใหม่ ไม่ทำทั้งคัน ใช้สีคนละยี่ห้อ คนละเบอ คิดว่ายังไงสักวันความแตกต่างจะชัดขึ้น
ถึงจะเป็นสีเบอเดิมจากกระป๋องเดิม สีที่พ่นมาแล้วโดนอากาศ 1-2 ปี กับสีที่เพิ่งพ่น มันไม่เหมือนกันครับ

ในมุมของผู้ใหญ่หรือคนเน้นใช้งาน อาจมองแค่ว่าให้รถมันสะอาดก็พอ ไม่ต้องเงาเนี๊ยบ แทนที่จะเข้า carcare เดือนละสองครั้ง ก็ใช้ๆมันไป พอจะขายค่อยเอาไปขัดเคลือบทีเดียว ผลลัพมันอาจไม่ได้ต่างกันมากครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
การขัดสี หรือขัดผิวสี มันทำให้ชั้นสีชั้นเคลียร์บางลงจริงครับ
ไม่ใช่เรื่องความเชื่ออันคร่ำครึ  เพราะครีมขัดมันก็คือกระดาษทราย
ดีๆ เรานี่แหละ เพียงแต่มันเป็นผงขัดเบอร์ละเอียดๆ นั่นเอง
และการขัดคราบสกปรกก็คือการขัดผิวสีส่วนที่คราบสกปรกฝังแน่น
ให้หลุดออกไป

ถ้ามันมีคราบสกปรกก็คงต้องทำ ยิ่งเป็นคราบขี้นก ถ้าไม่รีบเช็ดออก
มันก็จะกัดผิวสีและฝังตัวลึกลงไปในเนื้อสี เผลอๆ ขัดสียังเอาออกได้ไม่หมดเลย
ต้องลูบกระดาษทรายเบอร์ละเอียดๆ ด้วยซ้ำไปมั้ง

คราวต่อๆ ไป ถ้าอยากทำความสะอาดผิวสีโดยที่ไม่ขัดให้ผิวสีบางลง
แนะนำให้ใช้วิธีลูบดินน้ำมัน (clay) ดีกว่าครับ

ออฟไลน์ panupong508

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
แลคเกอร์ชั้นนอกบางลงจริงๆครับ เป็นสาเหตุทำให้สีรถซีดเร็วขึ้นครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ปกติ ขัดเคลือบสี

อย่างมาก(โดยทั่วไป) เขาขัดแค่คราบบนแล็คเกอร์ครับ แบบนี้เขาจะใช้ในร้านขัดเคลือบสี เคลือบแว็ก ขัดเงา

แต่ถ้าไม่รู้ หรือ ไม่เชียวชาญ มันจะขัดเนื้อแล็คเกอร์ออกไปด้วย (ตอนขัดมันจะเป็นเหมือนฝุ่นๆ ขุยๆ สีนม) ส่วนมากจะเป็นการขัดลบรอย

ถ้าหนักว่านั้น ขัดละทุยันชั้นสี อันนี้ หนักครับ แสดงว่าทำไม่เป็น ไม่เชียวชาญ และ ไม่ควรเข้าไปใช้บริการ

ออฟไลน์ Komutmas

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 25
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ

ไม่ทำดีกว่าแฮะ เชื่อพ่อไว้ปลอดภัยกว่า แหะๆ

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,190
    • อีเมล์
คราบมูลนกบนชั้นเคลียร์โค้ทถ้ารีบเช็ดไม่ปล่อยทิ้งไว้นานสามารถแก้ไขโดยไม่ต้องขัดสีครับ ใช้ไดร์เป่าผมเป่าบนบริเวณคราบและรอบๆ เป่าๆหยุดให้ผิวชั้นเคลียร์ไม่ร้อนเกินไป ผิวแลคเกอร์จะมีการขยายและหดตัวเวลาโดนความร้อนและความเย็นครับ ทำให้รอยใหม่ๆสามารถกลับมาเรียบได้
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,242
ผมว่าก็ไม่ขนาดนั้นอะครับ
รถคันเก่า10ปีผมซื้อเครื่องDAมาขัดเคลือบเองตลอด สีก็ปกติ ไม่ได้ซีดหรือแลกเกอร์บางจนผิวสาก
กับอีกคนรถที่บ้าน ไม่ได้ขัดเคลือบเลย สีด้าน

การขัดแล้วเคลือบด้วยwaxดีๆช่วยถนอมสีรถมากกว่าอีกครับ แต่ไม่ได้ขัดบ่อยนะ ปีละครั้งพอ(เหนื่อยโคตร) นอกนั้นเน้นเคลือบเอา ทำแล้วเหมือนได้รถใหม่ ดีกว่าทนใช้รถเป็นรอยหมองๆ55

ยิ่งถ้าโดนขี้นก แนะนำล้างได้ล้างเลย ล้างไม่ออกใช้น้ำยาช่วย ไม่งั้นสีรถด่างแน่ บางตัวนี่กัดไปแลกเกอร์ด้านก็มี

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,724
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ

ไม่ทำดีกว่าแฮะ เชื่อพ่อไว้ปลอดภัยกว่า แหะๆ

ลองเข้าไปหาอ่านในเฟสบุ๊ค ชื่อเพจ twcc ดูครับ จะมีให้ดูหลายแบบครับ ทั้งสายขัดแบบที่ว่า กับ สายสวยงามรักษาสีทั่วไป ครับ
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,955
    • อีเมล์
     ขัดเคลือบสีทั่วๆคือขัดแลกเกอร์แล้วคลือบน้ำยาทับ  อาจะเป็นการเคลือบแว็กหรือเคลือบโพลิเมอร์ก็ได้  แต่ถ้าสีรถมีรอยขีดข่วน  ถ้าเราต้องการขัดเพื่อลบรอยของสีรถ  แบบนี้ต้องขัดสีรถ ทำให้สีรถบางลง แล้วจึงเคลือบน้ำยาทับสีอีกที 

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
สีรถสมัยก่อนมันเป็น Single Stage ซึ่งก็คือสีผสมแลคเกอร์

ขัดบ่อย ๆ สีบางลง จนหายไปเลยครับ คุณพ่อพูดถูกแล้ว

แต่สีรถสมัยนี้มันมีหลายชั้น ชั้นบนสุดคือเคลียร์โค๊ทใส ๆ

ซึ่งก็หนาพอสมควร ยิ่งขัดยิ่งใส ไม่ใช่ยิ่งขัดยิ่งสีจืดซีดจางแต่อย่างใดครับ


ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,538
ยิ่งขัดมากชั้นแลกเกอร์ยิ่งบางลงครับ ความฉ่ำมีแต่ลดลงที่เงาเพราะฟิลม์แวกซ์เคลือบไว้ได้แค่เงาแต่ก็ไม่ฉ่ำครับ ลองไม่ลงแวกซ์แล้วสังเกตุดูครับสีจะด้านๆ หรือกรณีเคสรถไปเบียดมาชั้นแลกซ์หายเหลือแต่ชั้นสี หรือหลังจากเก็บรอยที่ใช้กระดาษทรายน้ำลงแล้วจะขัดชักเงากับเนื้อสี จะขึ้นเงายากกว่าจุดที่มีแลกซ์เคลือบไว้ครับ
รถผมหลายคันไม่เคยขัดเลยล้างอย่างเดียวและพยายามเช็ดถูให้น้อยที่สุด  5-10ปี ขายยังเงาฉ่ำไม่เคยต้องทำสีสักคัน ยิ่งเช็ดถูยิ่งขัดรอยขนแมวยิ่งเยอะ ความฉ่ำก็หายไปในตัว