เดินทางปีใหม่ ผู้ใช้รถ EV เริ่มเจอปัญหา รถติดทำพลาดนัดจุดชาร์จ ต้องจองคิวใหม่
วันที่ 28 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ช่วงนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางออกต่างจังหวัด ทั้งไปท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนา โดยเส้นทางสายเหนือ และสายอีสาน คึกคักเหมือนทุกปี เส้นทางสายหลักที่มุ่งหน้าขึ้นสู่ภาคเหนือ และอีสานปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งสองวันที่ผ่านมา มีรถเข้าไปใช้บริการเติมน้ำมันและจอดพักรถยนต์กันอย่างไม่ขาดสาย
ส่วนสถานีเติมพลังงานไฟฟ้ารถยนต์หรือจุดชาร์จ EV ในจังหวัดนครสวรรค์ ต่างมีผู้ใช้รถไฟฟ้าต่อคิวเข้าชาร์จกันแน่นทุกจุด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครกว่า 2 ร้อยกิโลเมตร และเป็นจังหวัดประตูสู่ภาคเหนือ จึงทำให้มีรถและผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
นายวัฒนศักดิ์ เศวตสกาวพันธ์ ผู้ที่เข้ามาใช้บริการของจุดชาร์จไฟในรถ EV เผยว่า ตนขับรถจากจังหวัดชลบุรี เพื่อกลับภูมิลำเนาจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เมื่อถึงจังหวัดนครสวรรค์พลังงานงานไฟฟ้าในรถเหลือน้อยลง จึงต้องจอดเติมพลังงานไฟฟ้าที่สถานีบริการแห่งหนึ่งบนถนนเส้น 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก แต่ด้วยความที่เป็นช่วงเทศกาล และมีรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการจองคิวเพื่อชาร์จไฟให้กับรถยนต์ของตนเอง ในขณะเดียวกันทางสถานีหรือจุดที่ให้บริการชาร์จไฟ EV ก็จะใช้มาตรการลดเวลาการชาร์จต่อคันให้เหลือระยะเวลาที่น้อยลง ซึ่งจากที่เคยให้ชาร์จไฟคันละประมาณ 1 ชั่วโมง ในช่วงเทศกาลนี้ปรับลดเวลาให้เหลือเพียงคันละ 30 นาที หรือครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเพื่อเป็นการแบ่งเฉลี่ยให้กับลูกค้าและผู้เดินทางคนอื่นๆ ด้วย
นายวัฒนศักดิ์ ยังบอกอีกว่าตลอดระยะทางที่ขับรถมา สถานีที่ให้บริการชาร์จไฟ EV กับรถยนต์นั้นมีหลายจุด แต่เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลที่มีคนเดินทางเป็นจำนวนมากและระยะในการชาร์จไฟแต่ละครั้งใช้เวลานานจึงทำให้การชาร์จแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความยากลำบากมากกว่าปกติ
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา สถานีชาร์จไฟฟ้ารถ EV จะมีเฉพาะบางปั๊มน้ำมันเท่านั้น โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ซึ่งมีสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV อยู่ 1 สถานี มีสายชาร์จไฟฟ้ารถ EV ได้ครั้งละ 2 คัน ปรากฏว่ามีประชาชนนำรถมาจอดชาร์จไฟฟ้าเต็มทั้งสองสายตลอดเวลา
สอบถามนายวิเชียร จันทลุน อายุ 44 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ เผยว่า ตนและครอบครัวเดินทางจากกรุงเทพฯ จะไปบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยใช้รถยนต์ EV ในการเดินทาง ซึ่งรถคันนี้ชาร์จไฟฟ้าครั้งหนึ่งสามารถวิ่งได้ประมาณ 300 กิโลเมตร แต่ระยะทางกว่าจะถึง จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 500 กิโลเมตร ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไว้ 2 ครั้ง โดยจะวิ่งมาชาร์จไฟที่ จ.นครราชสีมา 1 ครั้ง และไปชาร์จอีกครั้งที่ จ.มหาสารคาม
แต่เนื่องจากว่าสถานีชาร์จไฟฟ้ารถ EV มีจำนวนน้อย จึงต้องมีการจองสถานีชาร์จผ่านแอปพลิเคชันไว้ล่วงหน้า ซึ่งพบปัญหาว่าเมื่อจองได้แล้ว แต่การจราจรติดขัด ทำให้มาไม่ทันเวลาที่จองไว้ ก็ต้องถูกยกเลิกการจอง เพื่อให้รถคันอื่นชาร์จไฟแทน ซึ่งกว่าที่ตนจะได้ชาร์จนั้น ก็ถูกยกเลิกการจองไปแล้ว 3 ที่
ขณะเดียวกันการชาร์จแต่ละรอบก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร อย่างรถของตนเองแบตเตอรี่เหลือ 30% ต้องใช้เวลาชาร์จประมาณ 56 นาทีกว่าจะเต็ม 100%.
https://www.thairath.co.th/news/local/2751313
