ผู้เขียน หัวข้อ: Euro 5 พึ่งประกาศใช้ไม่กี่เดือน เริ่มมีการตัด DPF อุด EGR กันแล้ว  (อ่าน 5079 ครั้ง)

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
เครื่องยนต์เบนซินปกติจะเผาไหม้สมบูรณ์กว่าดีเซล เขม่าพิษก็น้อยกว่า แถมยังมี Catalytic Converter ดักก่อนปล่อยออกท่อไอเสีย คนที่ถอดทิ้ง Catalytic Converter ก็น้อยกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรถเก่ามากๆ ที่ไม่อยากเปลี่ยน

เครื่องยนต์ดีเซลเผาไหม้แล้วเกิดเขม่าพิษสูงกว่า เขาก็พยายามใส่ EGR DPF เพื่อช่วยดักเขม่าพิษให้ลดลง แต่คนใช้งานเอาไปถอดทิ้งกันตั้งแต่รถยังใหม่หรือรถเก่า
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
เครื่องยนต์เบนซินปกติจะเผาไหม้สมบูรณ์กว่าดีเซล เขม่าพิษก็น้อยกว่า แถมยังมี Catalytic Converter ดักก่อนปล่อยออกท่อไอเสีย คนที่ถอดทิ้ง Catalytic Converter ก็น้อยกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรถเก่ามากๆ ที่ไม่อยากเปลี่ยน

เครื่องยนต์ดีเซลเผาไหม้แล้วเกิดเขม่าพิษสูงกว่า เขาก็พยายามใส่ EGR DPF เพื่อช่วยดักเขม่าพิษให้ลดลง แต่คนใช้งานเอาไปถอดทิ้งกันตั้งแต่รถยังใหม่หรือรถเก่า

ท่านอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนนิดนึง ผมขออธิบายความนิดนึงนะครับ

ที่เราเรียกแคทๆ หรือ Catalytic เนี่ยะ มันมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล นะครับ

แล้วไอ้ EGR เนี่ยะ มันก็มีทั้ง เบนซิน และ ดีเซล เหมือนกัน เข้าใจตรงนี้ก่อน และมันก็ทำงานแค่ในบางช่วงเท่านั้น (เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย)

ส่วน DPF ใช่ ว่า มีเฉพาะในเครื่องดีเซล เพื่อดักฝุ่น หรือ เผาฝุ่น ตามหน้าที่ของมัน

แต่....

รถเบนซิน และ ดีเซล สร้างมลพิษทั้งคู่ครับ ต่างกันที่ เบนซิน หลักๆ คือ คาร์บอนมอนน๊อกไซต์ หรือ ก๊าซเรือนกระจก ซึ่ง ดีเซล ก็ปล่อย แต่น้อยกว่า เบนซินอีก (ตามข้อมูลหน่วยงาน และ งานวิจัย หาดูได้)

ส่วนรถดีเซล จะสร้างฝุ่นจิ๋ว หรือ จะเรียกว่า PM2.5 หรือ PM10 มากกว่า ในรูปแบบควันดำๆ เลยต้องมี DPF ช่วยเผานั้นละ

มันไม่ใช่เบนซิน หรือ ดีเซล ใครปล่อยมลพิษมากกว่า แต่อยู่ที่ว่าจะโฟกัสมลพิษตัวไหนมากกว่าครับ

สุดท้าย ทั้ง CAT และ EGR คนทั่วไปไม่มีใครอยากถอดทิ้งเล่นหรอกครับ ขนาดสติ๊กเกอร์ QR Code ติดกระหูช้างมาจากโรงงาน บางคนซื้อรถมาใช้ ยังไม่แกะเลย (มันไม่แกะกะสายตาหรือไง)

นับประสาอะไรกับ CAT หรือ EGR หรือยัน DPF ก็ตาม มันจะมีแค่บางคน บางกลุ่มเท่านั้นแหละครับ ที่ทำ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
สอบถามครับ

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่ารถที่เราใช้งานอยู่ เป็นเครื่องยนต์ Euro ไหน

(เปิดคู่มือรถทั้งสองคันที่บ้านดูแล้ว ไม่ได้ระบุเอาไว้เลยครับ)

คู่มือบอกรวมๆ ครับ

ดูจาก Ecosticker ก็ได้ หรือ ถามจากศูนย์ หรือ ดูจากพื้นที่ในการขายรถรุ่นนั้นๆ ก็ได้ครับ

เพราะรถรุ่นเดียวกัน ขายแต่ละโซน มาตรฐาน Euro ก็ไม่เท่ากัน อย่าง กระบะบ้านเราที่ขายในไทย กับ ต่างประเทศ เช่น UK ก็ มาตรฐาน Euro ก็ไม่เท่ากัน ครับ

ถ้าบอก ยี่ห้อ รุ่น ก็พอจะทราบ ครับ

หรือเข้าใจง่ายๆ ก็
EURO4 มี EGR
EURO5 มี DPF
EURO6 ก็พวกเติม Adblue ครับ

คันแรก BT-50 Pro 3.2 ปี 2012 อีกคัน Duramax1 2.8 ปี 2013 ครับ

2 ตัวนี้ สเปคไทย มาตรฐาน EURO4 ทั้งคู่ครับ (ถ้าเมืองนอก จะเป็น EURO5 จะมี DPF เช่นใน Colorado ที่ขายใน USA ครับ)

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร จนกระทั่งคุณ DiKiBoyZ ดูจะกังวลกับข้อความเรื่องมลพิษที่หลายคนไม่เห็นด้วย

ถ้าดีเซลมีมลพิษพอๆ กับเบนซิน ลองดูอุปกรณ์ส่วนควบที่ต้องติดตั้งเพิ่มมาระหว่าง ดีเซล vs เบนซิน ก็เห็นกันอยู่ นี่ยังไม่ลากไปถึงสาร AdBlue ที่เติมในเครื่องดีเซลอีกนะ การถอดชิ้นส่วนใดชิ้นึงทิ้งหรือปิดกั้น ก็เท่ากับจงใจเพิ่มมลพิษให้รถยนต์คันนั้นแหละ

ข้อมูลประกาศมาตรฐาน Euro แต่ละเกรดก็ระบุ "ขั้นต่ำ" ของมลพิษแต่ละประเภทที่อนุญาตให้เครื่องยนต์นั้นผ่านเกณฑ์ ถ้ามีการถอดหรือปิดกั้นชิ้นส่วนจากโรงงาน ก็เท่ากับจงใจปล่อยมลพิษให้สูงขึ้นชัดๆ อยู่แล้ว

เครื่องยนต์เบนซินปกติจะเผาไหม้สมบูรณ์กว่าดีเซล เขม่าพิษก็น้อยกว่า แถมยังมี Catalytic Converter ดักก่อนปล่อยออกท่อไอเสีย คนที่ถอดทิ้ง Catalytic Converter ก็น้อยกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรถเก่ามากๆ ที่ไม่อยากเปลี่ยน

เครื่องยนต์ดีเซลเผาไหม้แล้วเกิดเขม่าพิษสูงกว่า เขาก็พยายามใส่ EGR DPF เพื่อช่วยดักเขม่าพิษให้ลดลง แต่คนใช้งานเอาไปถอดทิ้งกันตั้งแต่รถยังใหม่หรือรถเก่า

ท่านอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนนิดนึง ผมขออธิบายความนิดนึงนะครับ

ที่เราเรียกแคทๆ หรือ Catalytic เนี่ยะ มันมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล นะครับ

แล้วไอ้ EGR เนี่ยะ มันก็มีทั้ง เบนซิน และ ดีเซล เหมือนกัน เข้าใจตรงนี้ก่อน และมันก็ทำงานแค่ในบางช่วงเท่านั้น (เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย)

ส่วน DPF ใช่ ว่า มีเฉพาะในเครื่องดีเซล เพื่อดักฝุ่น หรือ เผาฝุ่น ตามหน้าที่ของมัน

แต่....

รถเบนซิน และ ดีเซล สร้างมลพิษทั้งคู่ครับ ต่างกันที่ เบนซิน หลักๆ คือ คาร์บอนมอนน๊อกไซต์ หรือ ก๊าซเรือนกระจก ซึ่ง ดีเซล ก็ปล่อย แต่น้อยกว่า เบนซินอีก (ตามข้อมูลหน่วยงาน และ งานวิจัย หาดูได้)

ส่วนรถดีเซล จะสร้างฝุ่นจิ๋ว หรือ จะเรียกว่า PM2.5 หรือ PM10 มากกว่า ในรูปแบบควันดำๆ เลยต้องมี DPF ช่วยเผานั้นละ

มันไม่ใช่เบนซิน หรือ ดีเซล ใครปล่อยมลพิษมากกว่า แต่อยู่ที่ว่าจะโฟกัสมลพิษตัวไหนมากกว่าครับ

สุดท้าย ทั้ง CAT และ EGR คนทั่วไปไม่มีใครอยากถอดทิ้งเล่นหรอกครับ ขนาดสติ๊กเกอร์ QR Code ติดกระหูช้างมาจากโรงงาน บางคนซื้อรถมาใช้ ยังไม่แกะเลย (มันไม่แกะกะสายตาหรือไง)

นับประสาอะไรกับ CAT หรือ EGR หรือยัน DPF ก็ตาม มันจะมีแค่บางคน บางกลุ่มเท่านั้นแหละครับ ที่ทำ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Maj.Worakrit

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 281
    • อีเมล์
คุณภาพประชากรจริงๆนะ ส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยไม่หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา ก็เพราะตัวประชากรนี่แหละ ที่ยังมีมพวกด้อยพัฒนา ถ่วงความเจริญอยู่ 
ไม่ใช่แค่เรื่องมลพิษในอากาศ แต่ยังหมายรวมถึงหลายๆเรื่อง เช่น การควบคุมสัตว์เลี้ยง การบังคับใช้กฏหมาย จิตสำนึกเรื่องการทิ้งขยะ การระบายน้ำของครัวเรือน บลาๆๆๆๆ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร จนกระทั่งคุณ DiKiBoyZ ดูจะกังวลกับข้อความเรื่องมลพิษที่หลายคนไม่เห็นด้วย

ถ้าดีเซลมีมลพิษพอๆ กับเบนซิน ลองดูอุปกรณ์ส่วนควบที่ต้องติดตั้งเพิ่มมาระหว่าง ดีเซล vs เบนซิน ก็เห็นกันอยู่ นี่ยังไม่ลากไปถึงสาร AdBlue ที่เติมในเครื่องดีเซลอีกนะ การถอดชิ้นส่วนใดชิ้นึงทิ้งหรือปิดกั้น ก็เท่ากับจงใจเพิ่มมลพิษให้รถยนต์คันนั้นแหละ

ข้อมูลประกาศมาตรฐาน Euro แต่ละเกรดก็ระบุ "ขั้นต่ำ" ของมลพิษแต่ละประเภทที่อนุญาตให้เครื่องยนต์นั้นผ่านเกณฑ์ ถ้ามีการถอดหรือปิดกั้นชิ้นส่วนจากโรงงาน ก็เท่ากับจงใจปล่อยมลพิษให้สูงขึ้นชัดๆ อยู่แล้ว

เครื่องยนต์เบนซินปกติจะเผาไหม้สมบูรณ์กว่าดีเซล เขม่าพิษก็น้อยกว่า แถมยังมี Catalytic Converter ดักก่อนปล่อยออกท่อไอเสีย คนที่ถอดทิ้ง Catalytic Converter ก็น้อยกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรถเก่ามากๆ ที่ไม่อยากเปลี่ยน

เครื่องยนต์ดีเซลเผาไหม้แล้วเกิดเขม่าพิษสูงกว่า เขาก็พยายามใส่ EGR DPF เพื่อช่วยดักเขม่าพิษให้ลดลง แต่คนใช้งานเอาไปถอดทิ้งกันตั้งแต่รถยังใหม่หรือรถเก่า

ท่านอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนนิดนึง ผมขออธิบายความนิดนึงนะครับ

ที่เราเรียกแคทๆ หรือ Catalytic เนี่ยะ มันมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล นะครับ

แล้วไอ้ EGR เนี่ยะ มันก็มีทั้ง เบนซิน และ ดีเซล เหมือนกัน เข้าใจตรงนี้ก่อน และมันก็ทำงานแค่ในบางช่วงเท่านั้น (เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย)

ส่วน DPF ใช่ ว่า มีเฉพาะในเครื่องดีเซล เพื่อดักฝุ่น หรือ เผาฝุ่น ตามหน้าที่ของมัน

แต่....

รถเบนซิน และ ดีเซล สร้างมลพิษทั้งคู่ครับ ต่างกันที่ เบนซิน หลักๆ คือ คาร์บอนมอนน๊อกไซต์ หรือ ก๊าซเรือนกระจก ซึ่ง ดีเซล ก็ปล่อย แต่น้อยกว่า เบนซินอีก (ตามข้อมูลหน่วยงาน และ งานวิจัย หาดูได้)

ส่วนรถดีเซล จะสร้างฝุ่นจิ๋ว หรือ จะเรียกว่า PM2.5 หรือ PM10 มากกว่า ในรูปแบบควันดำๆ เลยต้องมี DPF ช่วยเผานั้นละ

มันไม่ใช่เบนซิน หรือ ดีเซล ใครปล่อยมลพิษมากกว่า แต่อยู่ที่ว่าจะโฟกัสมลพิษตัวไหนมากกว่าครับ

สุดท้าย ทั้ง CAT และ EGR คนทั่วไปไม่มีใครอยากถอดทิ้งเล่นหรอกครับ ขนาดสติ๊กเกอร์ QR Code ติดกระหูช้างมาจากโรงงาน บางคนซื้อรถมาใช้ ยังไม่แกะเลย (มันไม่แกะกะสายตาหรือไง)

นับประสาอะไรกับ CAT หรือ EGR หรือยัน DPF ก็ตาม มันจะมีแค่บางคน บางกลุ่มเท่านั้นแหละครับ ที่ทำ

กลับมาก่อนครับ อย่าเพิ่งไปไกล

ผมแค่บอกข้อเท็จจริงเกี่ยวชิ้นส่วนของรถตามมาตรฐาน Euro ตามที่คุณบอก มันแนวว่า ดีเซล มีอันนี้ แล้ว เบนซิน ไม่มีอันนี้ เพราะสะอาดกว่า มันไม่น่าใช่ครับ เพราะที่ผมบอกคือชิ้นสั่นตรงนั้นมันมีทั้งคู่ แค่นั้น

จะพาไปรื้อเทียบกันซะแล้ว อันนี้คนละเรื่องครับ

แล้วตามมาตรฐาน ทั้งกระทรวงการคลัง(ภาษีสรรพสามิต) และ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ อื่นๆ เขาก็ใช้คำว่า "ปล่อย........ไม่เกิน x กรัมต่อกิโลเมตร" คือ ค่าที่กำหนด ครับ

ไม่ค่อยเห็น หรือ ไม่เคยเห็นเขาใช้คำว่า "ขั้นต่ำ" นะครับ เพราะใช้คำว่านี้ แสดงว่ามันต้องเกินกว่าได้ ซึ่งไม่น่าใช่ (ผมอาจจะไม่เข้าใจ หรือ เข้าใจผิดเองก็ครับ)

ผมขอจบเม้นผมตรงนี้นะครับ ผมว่าบางคนอ่านแล้วไม่เข้าใจที่สิ่งที่ผมอธิบาย เดี๋ยวจะยาว

ออฟไลน์ Altima

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,150
อือแปลกเนอะ คนไทยอยากติด DPF ส่วนฝรั้งที่คนอย่างคุณคิดว่ามาจากประเทศที่พัฒนาแล้วย้อมอยากตัด DPF ออกกันหมดเพราะปัญหามันเยอะมากๆ

ส่วน EGR ใครๆก็อยากอุดครับ ผมติดตามกลุ่มเล่นรถ ออสเตรเลีย ยุโรป เมกา ไม่มีใครมานั่งขอระบบ EGR ติดรถเบนซินหรอก

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,255
ใช้ มาสดเา 2 ดีเซล

ไปถามหาอู่ และศูนย์ ให้ล้าง DPF
ทุกที่ตอบกลับมาว่า ให้ตัด ทิ้ง
ไม่ตัด ก็พังทุกคัน เพราะญี่ปุ่นมันวางยาไว้

ส่วนศูนย์บอกให้เปลี่ยนใหม่ ล้างไม่ได้


เดาว่า พวกอู่รถกระบะ ก็คงมีความคิดนี้เหมือนกัน
เพราะรับตัด DPF ได้เงินเยอะกว่ารับล้าง