ผู้เขียน หัวข้อ: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ  (อ่าน 2837 ครั้ง)


ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 433
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 10:44:32 »
น่าจะเหมาะกับคนรักความเป็นส่วนตัวมากกว่านะครับ

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,065
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 11:18:54 »
ผมว่ามันตรงข้ามกับบ้านเรานะครับ


บริการเติมน้ำมันของปั๊มบ้านเราดีกว่าต่างประเทศเยอะ ยิ่งรถหรูแบบ RR ผมว่าต้องได้รับการบริการแบบพิเศษ เพิ่มความภูมิใจให้เจ้าของไปอีก หรือไม่ก็เป็นหน้าที่ของคนขับรถไปเติมก่อนเดินทาง
ถ้าต้องจอดรอชาร์จไฟฟ้าตามสถานีชาร์จตอนเดินทางไกลผมว่ามันไม่น่าอภิรมย์สำหรับเจ้าของรถ
จอดชาร์จไฟที่บ้านเหมือนไม่ได้อวดรถ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,057
    • อีเมล์
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 11:38:13 »
ผมก็มีความเห็นว่า รถหรูก็ควรเป็นรถไฟฟ้าเหมือนกันนะ

เพราะรถพวกนี้เค้าไม่ได้วิ่งไกล เค้าใช้ออกงานสังคม หรือขับมาทำงาน ที่ไม่ได้ขับไปไหนไกลๆ ซึ่งถ้าเค้าวิ่งไกลก็มีรถน้ำมันใช้อยู่แล้ว

 

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,862
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 12:42:19 »
น่าจะแล้วแต่ ประเทศด้วยครับ
อย่าง US ปั้มน้ำมันต้องเติมเอง... เอาบัตรเสียบ/ทาบ ยกหัวจ่ายเติมเอง กลิ่นน้ำมันติดมือ เสี่ยง Credit Card Skimmer อีก
แล้วพอเป็นรถหรูมันก็เป็นเป้าสายตาอีก ถ้าจังหวะที่เติมอยู่โดนจี้ ก็หนีไปไหนไม่ได้..
พอเป็นรถหรู รถแพงๆหน่อยก็ต้องเลือกปั้มใหญ่ๆในนโซนที่ไม่อัตราย น้ำมันเกรดเดียวกันยี่ห้อเดียวกัน แค่อยู่คนละมุมถนน ราคาก็ไม่เท่ากันอีก...

ซึ่งในไทยเหตุการนี้ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
เชื่อว่าการเป็น EV/Hybrid ในรถหรู มันช่วยในเรื่องของภาษี ทำให้เรามันราคาถูกลงได้เลยทำให้ขายได้ดีขึ้น

ออฟไลน์ spn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,683
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:20:19 »
ผมก็มีความเห็นว่า รถหรูก็ควรเป็นรถไฟฟ้าเหมือนกันนะ

เพราะรถพวกนี้เค้าไม่ได้วิ่งไกล เค้าใช้ออกงานสังคม หรือขับมาทำงาน ที่ไม่ได้ขับไปไหนไกลๆ ซึ่งถ้าเค้าวิ่งไกลก็มีรถน้ำมันใช้อยู่แล้ว
+1 แต่ละคันแทบจะซื้อมาจอดดด แถมค่าน้ำมัน V8 W12 ก็โหดเอาเรื่อง ทำระยะทางวิ่งสัก 400 กม น่าจะพอแล้ว
Datsun ช้างเหยียบ My dream cars ><

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 676
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 13:41:32 »
RR มันเหมาะมากๆ กับการเป็นรถไฟฟ้าในหลายๆด้าน

ก่อนหน้านี้ต้องพัฒนาเครื่องยนต์ให้สั่นน้อยที่สุด
และมีแรงบิดมากพอที่ทำให้คนขับไม่ต้องเค้นขันเร่งมาก แล้วต้องเงียบด้วย
ซึ่งรถไฟฟ้ามันตอบโจทย์ที่ว่ามาทุกอย่าง ทั้งเรื่อง noise and vibration และความ effortless

ส่วนเรื่องน้ำหนักแบตที่หนัก ก็ไม่ต้องสน เพราะเดิมๆ RR มันก็หนักอยู่แล้ว
หรือการเดินทางไกลๆ หลายร้อยกิโล คนพวกนี้ก็น่าจะนั่งเครื่องบินเอา เผลอๆก็นั่งเจ็ทส่วนตัวด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,229
    • อีเมล์
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 15:42:01 »
จริงๆ ก็เป็นได้ทุกคัน ทุก segment แหละครับ อยู่ที่จุดประสงค์

หัวลาก ยังเป็น ไฟฟ้ากันแล้ว ในไทยยังมีวิ่งกันแล้วด้วย

รถหรู ก็คงไม่ต่างกัน ได้เงียบด้วย แถมบ้านหลังใหญ่โต เดินไฟ 3 เฟส สบาย พร้อมๆ

ออฟไลน์ boost

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
    • อีเมล์
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2024, 17:49:50 »
richman toy ของจริงครับ  ::)
2020 CIVIC fc RS 1.5
2017 Mirage GLS-LTD
2015 NAVARA VL auto 4wd
2012 almera V auto
2008 camry acv40 2.4
1991 A31 Rb25det set bo TD06-24v
1990 A31 2JZ GTE 5speed M/T
1984 SUPRA A60 1JZ GTE M/T

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,936
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2024, 12:11:06 »
ทำไมโดนดักกันง่ายจังครับ article นี้เค้าประชด ครับเพราะมีเพจ autofun นั่งเทียนเขียนผลสำรวจว่าคนใช้รถแพงไม่ได้สนใจพลังงานไฟฟ้าเพราะ รวยเติมน้ำมันได้

1- เข้าใจว่าข้อพิพาทมาจากกลุ่มนึงแหละที่คนมาเม้นว่า benz eq ขายไม่ดี แล้วก็มีมนุษย์ลุงกะลาครอบมาบอกว่า ก็ขายซะแพงคนรวยๆเค้าเติมน้ำมันกัน

2- ทำให้เกิดข้อพิพาทฝั่ง facts ที่เอาข้อมูลมาบอกว่า benz ราคา global ไม่ได้แพง เวลาเทียบไม่ควรใช้ราคารถที่ขายในไทยเพราะโดนภาษีฐานสูงๆมา
จากนั้นคนกลุ่มนี้ก็ทะยอยเอา facts มาแปะในคอมเม้นลุงแก ว่ามันแพงกว่า tesla นิดเดียว ยิ่งเทียบกับค่าครองชีพประเทศเค้าคือ ไม่กินกาแฟ กับโค้ก วันละมื้อก็ขยับจาก tesla ไปน้องดาวได้เลยนะเออ

ซึ่งข้อจำกัด bev มันก็มีเยอะอะ แต่ข้อดีมันก็มีเยอะเหมือนกัน ก็ขึ้นอยู่กับคนเลือกใช้แหละนะ

3- ลุงแกโต้กลับ บอกตอนไหนว่าเป็นราคาที่ไทย หมายถึงเบนซ์ราคา 10 ล้านเค้าไม่ใช้กันหรอกรถไฟฟ้า อย่ามาหยามลุง ลุงรู้ทุกอย่าง

4- ฝั่ง facts เลยถามว่า global รุ่นไหนที่ขาย 10ล้านบ้าง คงจะเหลือแต่พวก รถ performance ที่ทุกวันนี้ก็ต้องเติมน้ำมันมันเกี่ยวอะไรกบั eqs ด้วย แล้วอนาคตเค้าใส่ eq boost เข้าไป จะหมายถึงเค้าจะประหยัดน้ำมันหรอ คนก็มาทะยอยถมลุงไป

ลุงแกก็เลยหายสาปสูญไป คงต้องติดต่อมูลนิธิกระจกเงาให้ช่วยหาตัวมาตอบ

5- สักพักเพจ autofun เลยเอาเรื่องนี้ไปลง ข้อความว่า "เบนซ์จะกลับไปพัฒนา เครื่องยนต์ไฮบริดแทน แสดงให้เห็นว่าคนรวยจริงยอมเสียค่าน้ำมัน แต่ไม่ยอมเสียเวลาชาร์จ" ซึ่งเป็นวลีที่นั่งเทียนเขียนมาโดยไม่มี citation เพจ blink drive เลยเอาไปแซะว่า RR พูดโต้ รวยมากอย่ามาแตะรถชั้น

ซึ่งตรงเนี้ย ใครเคยไปต่างประเทศก็น่าจะรู้ว่า เค้าเติมน้ำมันเองอยู่แล้ว รวมถึงเพจ blink drive เค้าก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ USA ด้วย

แล้วเอาจริงๆ benz เค้าก็หยุดพัฒนา bev เป็นข้อมูล PR จริง แต่สาเหตุมันมาจากต้นทุนที่เค้าทำสู้จีนไม่ได้ ด้วย mass production / price war ต่างๆ เลยหันกลับมาขายจุดที่ตัวเองถนัด ก็คือ ICE ซึ่งอันนี้ผมเดาๆเองว่าเค้าก็จะเน้นพวกแบตใหญ่นั่นแหละ แต่จะเอาเครื่องยนต์เป็นจุดขาย แล้วเสียบ DC วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกลๆอยู่

โพสเค้าทำมาตกมนุษย์ลุงครับ อย่าไปบ้าจี้ตามเค้า บอกคนรวยขับรถไม่ไกลบ้าง แบรนด์ทำให้คนไม่แตะรถบ้าง ไปไกลละครับ

ออฟไลน์ Sommerดอยแม่สลอง

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 410
    • อีเมล์
Re: รถไฟฟ้านี่เหมาะกับรถหรูนะครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2024, 22:53:30 »
น่าจะเหมาะกับ “ความเท่าเทียมด้าน Option” มากกว่า รถหรู

รถ EV จีน ราคาต่ำล้าน ได้ Option เท่ารถหรู ดู BYD เป็นตัวอย่าง ราคาไม่ถึงล้านได้Optionราคาเกินล้าน นี่แหละ รับรอง BYD ก้าวสู่ยอดขายอันดับ 1 ในไทยอีกไม่นาน (ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน Toyota อาจร่วงบังลังก์ เพราะรถราคาต่ำล้านได้ Option ยังกับยุค 2000s แม้ Toyota มีรุ่น Hybrid เพิ่มขึ้นก็ตาม)
ซัวสเด็ยยยยยย Cambodia