หา...!?!?! จะขับ F1 บนถนนราชดำเนิน ???

[Bluedoft]

จากข่าวนี้ครับ  http://manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000166672

 บริษัท กระทิงแดง จำกัด ในฐานะบริษัทแม่ของผลิตภัณฑ์เรดบูลล์ทั่วโลก เตรียมนำรถแข่ง RB6 แห่งทีมเรดบูลล์ เรซซิง แชมป์โลกรถสูตรหนึ่งประจำปี 2010 มาโชว์ลีลาบนถนนราชดำเนิน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2554 นี้


รถแข่ง RB6 ของเว็บเบอร์ เตรียมลงแทร็กราชดำเนิน

       หลังจากที่ “เรดบูลล์ เรซซิ่ง” ทีมรถแข่งสูตรหนึ่ง เพิ่งโชว์ผลงาน คว้าแชมป์ ฟอร์มูล่า-วัน ทั้งในประเภททีมแข่ง และ นักขับ จาก เซบาสเตียน เวทเทล นักซิ่งชาวเยอรมัน ฤดูกาล 2010 ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า บริษัท กระทิงแดง จำกัด เตรียมยกทีมแข่งมาฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ในเมืองไทยภายใต้โครงการ "เรดบูลล์ สตรีท ออฟ คิง แบงก็อก 2010”
       
       ซึ่งแหล่งข่าวใกล้ชิดนายสราวุฒิ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระทิงแดง จำกัด ในฐานะผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นเจ้าของ ทีม “เรดบูลล์ เรซซิ่ง” เปิดเผยผ่าน MGR SPORT ว่าโครงการดังกล่าว จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 ธันวาคม ศกนี้ โดยความร่วมมือกับ บริษัท สิงห์ คอปอเรชัน จำกัด สปอนเซอร์ของทีม และกรุงเทพมหานคร
       
       โดยมีการวางคิวดึงตัว มาร์ค เว็บเบอร์ นักขับชาวออสเตรเลีย มาโชว์ตัวพร้อมนำรถฟอร์มูลาวันคันจริงมาวิ่งโชว์ให้ชมอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก บนถนนราชดำเนินบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศไทย กับการมีส่วนร่วมในทีมแข่งที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก พร้อมกิจกรรมต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับประเทศไทย
       
       ขณะเดียวกัน โครงการดังกล่าวยังจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2554 ด้วยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ถือเป็นสิริมงคลอันสูงยิ่ง แก่พสกนิกรชาวไทยตราบกาลนาน รวมถึงยังเป็นการรำลึกถึงเจ้าดาราทองนักแข่งรถชาวไทย พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือ พระองค์พีระ คนไทยคนแรกที่ได้ลงแข่งขันฟอร์มูลาวัน ในอดีตอีกด้วย
       
       สำหรับการแถลงข่าว จะมีขึ้นในวันพุธที่ 1 ธ.ค.ศกนี้ ณ บริเวณ ชั้น 1 โซนอีเดน ห้างเซ็นทรัลเวิล์ด พลาซ่า ในเวลา 12.30 น. เป็นต้นไป กิจกรรมในงานดังกล่าว จะมี นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ผู้บริหารระดับสูงของทีม เรดบูลล์ เรซซิ่ง ,พันธมิตร ,หน่วยงานราชการ พร้อมดารานักแสดง รับเชิญมากมายอาทิ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ ฯลฯ และนักแข่งรถชื่อดัง มาร่วมพูดคุยและให้สัมภาษณ์ รายละเอียดในงานครั้งนี้






ผมคิดว่าเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ  แต่ทว่าถนนมันจะเรียบพอหรอเนี่ย ><"  ยิ่งพื้นทรุดเป็นลูกคลื่นอยู่ด้วย

[911turbo]

เคยคิดเล่นๆว่า จะจัด f1 ปิดเมืองในกรุงเทพ

ราชดำเนินกลาง - ราชดำเนินนอก - วิสุทธิกษัตริย์ - พระราม 8 - วนกลับมาสะพานปิ่นเกล้า
 
วิวน่าจะสวยแสดงความเป็นเมืองไทย (ระหว่างแข่งก็ถ่ายพวกวัดพระแก้วไปอะไรแบบนั้น)
หรืออาจจะไปวนสนามหลวงสักรอบนึงด้วย ^^'

แต่ตัวสะพานมันมีเกาะกลางเลย ไม่ค่อยจะมันเท่าไหร่ เพราะดูท่าจะแซงยาก

[Fly to dream]

แทร็คนี้ผมเคยคิดเหมือนกันเลย ถ้าไทยจัด F1 คงต้องทำแบบนี้ 

[YIM]

ช่วงล่างจะ set ยังไงให้เข้ากับถนนที่ยอดเยี่ยมของกทม. ละนั่น

[BBOnLY]

เคยคิดเล่นๆว่า จะจัด f1 ปิดเมืองในกรุงเทพ

ราชดำเนินกลาง - ราชดำเนินนอก - วิสุทธิกษัตริย์ - พระราม 8 - วนกลับมาสะพานปิ่นเกล้า
 
วิวน่าจะสวยแสดงความเป็นเมืองไทย (ระหว่างแข่งก็ถ่ายพวกวัดพระแก้วไปอะไรแบบนั้น)
หรืออาจจะไปวนสนามหลวงสักรอบนึงด้วย ^^'

แต่ตัวสะพานมันมีเกาะกลางเลย ไม่ค่อยจะมันเท่าไหร่ เพราะดูท่าจะแซงยาก

ผมว่าเข้าท่านะ แต่ยากละครับ เวลาจะแข่งทีลงทุนมหาศาล ยากที่จะทำกำไร

[keng.]

สงสัยคงวิ่งช้าๆเพื่อโชว์รถอย่างเดียวรึเปล่าครับ?

[boykung]

เจอพื้นผิวดวงจันทร์แล้วจะหนาว 

[Ishida]

แข่งจบช่วงล่างพังกันระนาว ไม่ก็แข่งไม่จบ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

[POPROCK]

F1 คันละหลายล้านเหรียญ

ถ้ามาเจอสภาพถนนประเทศไทย
ช่วงล่างรถคงพัง ก่อนแข่งจบแหงๆ

[2k]

ไม่เหมาะนะครับโดนคนด่าแน่ๆประเทศไทยไม่ใช่ว่ารถน้อยๆมีถนนหลายสายให้เลี่ยงไปใช้แทนสายที่ปิดเสียเมื่อไหร่ ถ้าอยากเฉลิมฉลองในโอกาสของในหลวงน่าจะเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างคงวามดือดร้อนและมีเสียงดังๆของรถF1นะครับ ยิ่งประเภทเชิญดารามานี่ไม่ควรเลยรู้ๆกันอยู่ว่าอย่างอั้มเนี่ยแต่งตัวแบบไหนใส่สั้นเท่าไหร่ เหมาะสมไหมครับเชิญคนแต่งตัวโป๊มาเกี่ยวของกับงานของในหลวงน่ะเหรอ?  


เคยอ่านมามีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งนานมาแล้วว่ามีนักการเมืองนายหนึ่งขึ้นขบวนรถผ่านไปถนนแถวๆหน้าพระราชวังคนขับรถพบชายคนหนึ่งที่เพิ่งซ์อโอเลี้ยงข้างทางเสร็จจึงบอกว่าให้รีบหลบไปเพราะนี่เป้นรถของนักการเมือง ชายคนนั้นบอกทำนองที่ว่าทำไมต้องหลบในเมื่อถนนมีตั้งกว้างถนนประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน นักการเมืองในรถเห็นเข้ารีบลงมากราบแทบไม่ทันเพราะนั่นคือในหลวงนั่นเอง นักการเมืองคนนั้นเสนอจะตั้งขวานให้เพื่อให้ท่านกลับวังแต่ท่านปฏิเสธและขึ้นรถของท่านขับกลับวังเช่นสามัญชนทั่วไป

   
ผมมองเห็นแต่ว่ากระทิงแดงคิดจะโชว์แต่อ้างชื่อของท่านมากกว่าครับ ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะ พระองค์ท่านทำอะไรยังคิดแล้วคิดอีกเพื่อว่าจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่นี่จะปิดถนนทำเสียงอึกทึกครึกโครมโดยอ้างเพื่อเฉลิมฉลองให้มันขัดกับแนวทางของท่านมากๆ ท่านไม่เคยเรียกร้องอยากได้อะไรจากคนไทยเลยแต่ดูเหมือนจะมีแต่คนคนจะเอาไอ้โน่นไอ้นี่จากท่าน  เศรษกิจพอเพียงยังเป็นสิ่งที่ย้ำกันอยู่นะครับ เปลี่ยนเป็นให้บริการแจกน้ำดื่มและผ้าเย็นสำหรับผู้มารอรับเสด็จในวันที่ 5 ตามเส้นทางต่างๆดีกว่าไหม

[2k]

เรื่องเล่าของในหลวงจากในวัง
"เรื่องขำขันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "
1.ระยะแรกราวปี
พ.ศ.2498 เป็นต้นมา คราใดที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวลนั้น จะทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท้องที่ห่างไกลทุรกันดารย่านหัวหินหนองพลับแก่งกระจาน ด้วยพระองค์เอง ทำนองเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ห้า โดยที่ราษฎรไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าทรงมาถึงแล้ว วันหนึ่งทรงขับรถยนต์พระที่นั่งผ่านไปถึงยังบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหมู่บ้านห้วยมงคล อำเภอหัวหิน ซึ่งราษฎรกำลังช่วยกันตบแต่งประดับซุ้มรับเสด็จกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง และไม่คาดคิดว่าเป็นรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ ต้องให้ในหลวงเสด็จฯก่อนแล้วพรุ่งนี้ถึงจะลอดผ่านซุ้มได้ วันนี้ห้ามลอดผ่านซุ้มนี้ เพราะขอให้ในหลวงผ่านก่อนนะ.. ทรงขับรถพระที่นั่งเบี่ยงข้างทางไม่ลอดซุ้มดังกล่าว วันรุ่งขึ้นเมื่อทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้านนี้อย่างเป็นทางการพร้อมคณะข้าราชบริพารผู้ติดตามและทรงมีพระดำรัสทักทายกับชายผู้นั้นที่เฝ้าอยู่หน้าซุ้มเมื่อวันวานว่า
”วันนี้ฉันเป็นในหลวง..คงผ่านซุ้มนี้ได้แล้วนะ.."

2.อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน
เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่งที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่อง แคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า ”ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวน พระพุทธเจ้าข้า.." มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.. พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า "มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว" เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง

3.มีเรื่องนึงเคยฟังจากผู้ใหญ่เล่าเมื่อนานมาแล้ว มีช่างไปทำฝ้าเพดานในวัง คนนึงกำลังยืนบนบันได ส่วนหัวอยู่ใต้ฝ้า อีกคนคอยจับบันไดอยู่ด้านล่าง พอดีในหลวงเสด็จมา คนที่อยู่ข้างล่างเห็นในหลวงก็ก้มลงกราบ คนอยู่ด้านบนไม่เห็น ก็บอกว่า “เฮ้ย จับดีๆ หน่อยสิ อย่าให้แกว่ง” ในหลวงทรงจับบันไดให้ เค้าก็บอกว่า “เออ ดีๆ
เสร็จงานนี้จะให้เป็นช่างจริง” (สงสัยคงจะเพิ่งเข้ามาทำงานยังไม่ผ่านโปร) พอเสร็จก็ก้าวลง พอเห็นว่าในหลวงเป็นคนจับบันไดให้ ถึงกับเข่าอ่อน จะตกบันได รีบลงมาก้มกราบ ในหลวงทรงตรัสกับช่างว่า “แหม ดีนะที่ชมว่าใช้ได้ แถมจะปรับตำแหน่งให้เป็นช่างอีกด้วย"

4.เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่น พิเศษ ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า "ไปบอกเค้านะ เราไม่ใช่มิกกี้เมาส์"

5.เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน เพราะเรียนมาตั้งแต่เล็กแต่ไม่เคยได้ใช้เมื่อออกงานใหญ่จึงตื่นเต้นประหม่า ซึ่งเป็นธรรมดาของคนทั่วไป และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน หรือกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทในพระราชานุกิจต่างๆนานัปการ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ
เคยเล่าให้ฟังว่า ด้วยพระบุญญาธิการและพระบารมีในพระองค์นั้นมีมากล้นจนบางคนถึงกับไม่อาจระงับอาการกิริยาประหม่ายามกราบ
บังคมทูล จึงมีผิดพลาดเสมอ แม้จะซักซ้อมมาอย่างดีก็ตาม
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงานว่า ”ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า พลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ" เมื่อคำกราบบังคมทูลในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า "เออ ดี เราชื่อเดียวกัน..." ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัยเพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้

6.เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับท่านให้เพื่อนๆ ฟังตั้งหลายเรื่อง วันนี้เริ่มเรื่องนี้ก่อนแล้วกันนะ เรื่องมีอยู่ว่า เหตุการณ์เมื่อปี 2513 วันนั้นท่านทรงเสด็จไปหมู่บ้านท้ายดอยจอมหด พร้าว เชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน ซอกราบทูลชวนให้ไปแอ่วบ้านเฮา ท่านก็ทรงเสด็จ ตามเขาเข้าไปบ้านซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง เขาเอาที่นอนมาปูสำหรับประทับ
แล้วรินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่ไม่ค่อยจะได้ล้างจน มีคราบดำๆ จับ ทางผู้ติดตามรู้สึกเป็นห่วง เพราะปกติไม่ทรงใช้ถ้วยมีคราบ จึงกระซิบทูลว่า
ควรจะทรงทำท่าเสวยแล้วส่งถ้วยมาพระราชทานผู้ติดตามจัดการเอง แต่ท่านก็ทรงดวดเองกร้อบเดียวเกลี้ยง ตอนหลังทรงรับสั่งว่า "ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด" ซึ้งไหมหล่ะ

7.เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งพ่อหลวงทรงเสด็จไปทีตลาดสด
ทรงแครับไปเสวยก๋วยเตี๋ยว แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว เห็นก็สงสัย จึงทูลถามท่านว่า "ทำไมหน้า เหมือนในหลวงจัง?" ท่านไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มๆ ทรงจ่ายเงินค่าก๋วยเตี๋ยวแล้วตรัสชมว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อย ส่วนแม่ค้ามารู้ที่หลังว่าเป็นท่านก็ได้แต่ปลื้ม

8.เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว ราษฎรผู้หนึ่งจึงกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า "ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์" ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว"

9.เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่ามีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่าเมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้งเพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม

10.ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมา แล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับ พระฉวีมีพระอาการคัน มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา คุณหมอเป็นผู้วชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้วชาญทางราชา ศัพท์ ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง...อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะ ค่ะ" พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัส ว่า
" ฉันไม่ใช่ผู้หญิง นี่จะท้องได้ยังไง" ล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า
หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกาย จริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้าพูดภาษา อังกฤษกันเถอะ


11.วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตาม ปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมาก มาย พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระ บาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลง กราบแทบพระบาท แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของ ในหลวง แล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอ ในหลวง
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่าง นี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง เฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอ พระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบ ว่ากับหญิงชราคนนั้น
ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
" เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อน กว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิถึงจะ ถูก"

12.มีอยู่ครั้ง หนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร ให้กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวน พระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูล ว่า " ถวายพระเพลิงพระเจ้า ข้า" ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับ อธิการบดีว่า " เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้ หรอก"

13.เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์ ของฟ้าหญิงองค์ เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับ ฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสาย ด้วย ก็มี เสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า แต่ พอฟ้าหญิงรับ โทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่ เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุก เลย ( ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่น เอง)

14.เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก เมื่อพระเทพทรงเสด็จไป เยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ ได้ ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนใน ตลาดสด และถามความเป็น อยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรง ตรัสถามว่า "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ" แม่ค้าตอบว่า "ที่ สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท และที่เสด็จไปเสด็จมา กิโลละ 80 บาทจ๊ะ" เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน

[prachaja]

คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมี F1 มาขับโชว์แถวราชดำเนินเมื่อนานมาแล้ว (รึเปล่า  )

[Ruksadindan]

ได้โอกาสซ่อมถนนล่ะครับถ้าจะให้เขามาขับแถวนี้

[Sarutino]

ถ้าเอาจริงก็จะไปดู อยากฟังสุ้มเสียงเครื่อง 20000rpm

[J!MMY]

Honda เคยเอารถแข่ง Formula 1 มาให้ดูกันเมื่อปี 1991 ที่สนามพีระ
เป็นกิจกรรมที่ จัดเหมือนกับ Sunday Racing Festival แบบที่ Honda หรือ Toyota เคยจัดในญี่ปุ่นนั่นละครับ
ขับแค่ไม่กี่รอบ จำได้แต่ว่า นักแข่งฝรั่งให้สัมภาษณ์ว่า สนามพีระ นั้น ไม่เหมาะกับ F1


ถ้า กระทิงแดง จะเอามาจัดที่ราชดำเนิน ผมก็ว่าน่าดูนะครับ

คือ คุณ 2k ผมมองต่างออกไปนิดนึง จริงอยู่ว่า ในหลวง ท่านทรงโปรดความพอเพียง ไม่ใหญ่โต อะไรก็ตามที่เรียบง่าย

แต่อันที่จริง เมื่อดูรูปแบบของงาน ก็ชวนให้นึกถึง งานฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ เหมือนกันนะ

ประเทศเรามีเรื่องร้ายๆกันมาตลอดทั้งปี ถ้า 18-19 ธันวาคม จะมีงานรื่นเริง ฉลองให้กับพระองค์ท่าน
นอกเหนือไปจากงานวันที่ 5 ธันวาคม ตามปกติแล้ว ผมว่า นั่นน่าจะเป็นเรืองดีเหมือนกันนะ


ผมมองว่า ในเมื่อ ถนนหนทาง ถือว่าเป็นของคนไทยทั้งประเทศ
ในเมื่อ การชุมนุม ของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังมีการปิดถนนกันมาแล้ว
พิธีสวนสนามต่างๆ ก็คงจำเป็นต้องมีการปิดถนน
หรือแม้แต่วันสงกรานต์ ก็ยังมีการปิดถนน
เยาวราช ตอนจัดเทศกาล ก็ปิดถนน

ผมว่า ถ้า กระทิงแดงจะปิดถนน สัก 1-2 วัน
เพื่อเอาเรื่องที่วกเขา ดีใจ ที่ได้ทำสำเร็จ ในการเอาชื่อไทย ไปให้ชาวต่างชาติรู้จัก
กลับมาบอกเล่ากัน ผมว่า นี่เป็นเรื่องที่เราควรส่งเสริม และควรจะยินดี

ผมเชื่อว่า ตระกูลอยู่วิทยานั้น อาจจะไม่ได้มองเรื่องการโปรโมทแบรนด์เป็นหลัก
แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น ก็คือ วัตถุประสงค์ในการจัดงานที่เขาแถลงไว้มากกว่า

เราจะได้ไม่ลืมว่า คนไทยเรา กับกีฬา มอเตอร์สปอร์ตนั้น
ก็ถือว่า ไม่เป็นรองชาติใดในโลก มาตั้งแต่สมัยพระองค์เจ้าพีระ
กับรถรอมิวลุส ในสมัยกระโน้นแล้ว

ผมยังอาจจะมองโลกในแง่ดี และเชื่อเช่นนั้นอยู่ไปเองก็ได้หนะครับ


สิ่งเดียวที่ผมแอบห่วง....

พื้นถนนราชดำเนินหนะ มันลื่นเอาการเลยนะ ไม่ต้องตอนฝนตกหรอก
เอาแค่ถ้าคิดจะสาดโค้ง รอบอนุเสาวรีย์ฯ หนะ  โอกาส หลุดไปชนร้านแมคโดนัลด์ หรือร้านศรแดง หนะ ไม่ยากเลย
เพราะเคยได้ยินว่า มีคนหลุดมาแล้ว

เอิ๊กๆๆๆๆ

[Fly to dream]

เป็นเรื่องที่ดีนะลองนึกดีๆ  สมัยก่อนพระองค์เจ้าพีระ  ก็เคยมาจัดแข่งรถบนถนนราชดำเนินมาแล้ว  ดังนั้นการเอา  F1  มาโชว์หรือมาแข่งในไทยเหมือนเป็นการให้เกียรติประเทศเรานะ

[2k]

พระองค์เข้าพีระท่านชื่นชอบรถยนต์นี่ครับการฉลองแบบนั้นถือว่าไม่แปลก แต่ในหลวงท่านไม่ได้โปรดอะไรอู้ฟู่หรูหรา ยังนึกไม่ออกเลยว่าF1จะเข้ากับงานเฉลิมฉลองของท่านยังไง ต้องปิดถนนและเสียงแว๊ดดังๆของเครื่องอีก ถ้าเป้นสวนสนามบนถนนด้วยกองพลม้าแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยงามน่าจะดูเข้ากันมากว่า 


หวังว่าต้นคิดของกระทิงแดงจะเคยผ่านไปแถวนั้นมาแล้วนะครับคิดจะมาจัดF1บนถนนประเทศไทย ถ้ามันไม่ทำช่วงล่างรถพังจนเกิดอุบัติใหญ่ก็ดี 

[muzaa]

ในอดีตเมืองไทยเคยมีการนำรถแข่งโบราณมาวิ่งแข่งที่ถนนราชดำเนินในปี 1988 ครับในชื่อ bangkok historical grandprix เพื่อเฉลิมพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุ 5 รอบครับและเป็นการถวายพระเกียรติ์แก่พระองค์เจ้าพีระครับเพราะพระองค์เจ้าพีระตอนที่ท่านทรงยังเป็นนักแข่งรถเคยมีดำริในการจัดการแข่งขัน bangkok grandprix ครับแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียก่อนรัฐบาลไทยในขณะนั้นได้มอบหมายให้พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์ในฐานะ ผบทบ . ขณะนั้นเป็นประทานจัดงานครับโดยเชิญรถแข่งประวัติศาสตร์ประมาณ 20 คันแข่งขันบริเวณถนนราชดำเนินครับโดยมรถสำคัญ 2 คันครับคือ ERA รอมิวรุสขับโดยมรว.นริศรา จักรพงศ์ ( พระธิดาของพระองค์เจ้าพีระครับและเป็นคุณแม่ของฮิวโก้-จุลจักรครับ) และ ERA หนุมานรถแข่งของพระองค์เจ้าพีระอีกคันขับโดยนักแข่งชาวต่างชาติ และในปีนั้นเองมีการเปลี่ยนชื่อสนามพัทยาเซอร์กิตเป็นพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตครับ
ส่วนนักแข่ง F-1 ทีมาขับให้ Mclaren Honda ที่สนามพีระที่คุณ jimmyกล่าวถึงในขณะนั้นคือ Alan Mcnish ครับซึ่งเคยเป็นนักขับตัวจริงของทีม TOYOTA ใช้รถแข่ง TF-102 ลงแข่งในฤดูกาล 2002 ครับ

[kritphakhin]

อยากให้มีสนามแข่ง F1 แบบเป็นที่เป็นทางก็ดีนะครับ