« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2024, 22:00:33 »
เสื้อสูบเดิม แต่ก็เคย Rebuild ตัวเครื่อง ซึ่งถ้าไม่เจอปัญหาเรื่องความร้อน หรือสูบแตก ตัวเสื้อสูบก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรอยู๋แล้ว แถมยังเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5000 km อีก
ส่วนใหญ่ที่เปลียนเครื่องกันเพราะยกเครื่องมือสองหรือเครื่องใหม่ใส่ มันคุ้มกว่าการรื้อเครื่องออกมาซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ครับ
แล้วที่ไม่เคยเปลี่ยนเกียร์แต่เป็นเกียร์กระปุก ซึ่งปรกติที่มันเสียคือส่วนของคลัช ในเคสของเกียร์ at คลัชมันอยู่ในเกียร์ ส่วนใหญ่ที่ยกเกียร์เพราะคลัชมันเสีย
https://www.media.volvocars.com/us/en-us/media/pressreleases/616เอาจริงๆมันก็ใช้งานมาเยอะมากนะครับ 4,800,000 km ในเวลา 52 ปี ตกวันละ 252 km เลย ไม่รวมวันหยุด
แต่ถ้าเรามองว่าเจ้าของรถเขาต้องการทำ world record ผมว่ารถยุคก่อน ที่ไม่ได้มีระบบ electronic อะไรมาก และได้รับการดูแลอย่างดีมันก็ไปถึงได้ครับ
และ volvo เองก็เหมือนจะเป็น sponsor กลายๆด้วย...
มันเหมือนแข่งขับประหยัดน้ำมันที่ทำตัวเลขเว่อร์ แต่มันไม่ใช้การให้งานแบบที่คนทั่วๆไปใช้กันหน่ะครับ
ตัวผมเองก็แฟน Volvo นะครับ ไม่ได้อยากให้เข้าใจผิด
แต่ก่อนหน้านี่ในไทย volvo ไม่ได้เป็นรถที่ ทนทานอะไรมากครับ
ยุค 940 ก็โดนเรื่องเกียร์กันแทบทุกคันช่วงแสนโล จนราคาขายต่อร่วงเละเทะ ช่วง xc90 ตัวแรก ก็ยังมีปัญหาเรื่องเกียร์ เหมือนว่าเกียร์รับแรงบิดจากเครื่องยนต์ไม่ไหว ช่วงที่โดน ford take ไป ก็ยังมีปัญหา
จะมีก็ S80 ตัวท้ายๆ กับ Gen ปัจจบันที่ดูไว้ใจได้ ส่วน PHEV ก็มีเคลมมอเตอร์ แต่ไม่แน่ใจว่ามีปัญหาถือว่าน้อยสุดได้ไหม ถ้าเทียบกับ BMW / Mercedes