ช่วยแนะนำรถไฟฟ้าให้หน่อยครับ

[ไม่ได้ไม่เกลียดรถจีน แต่ไม่ชอบคนจีนทำธุรกิจ]

ซื้อมาให้เซลใช้งาน ไม่ได้ใช้เองครับ ออกวิ่งทุกวันระยะทางไม่ต่ำกว่า 200KM แต่ไม่เกิน 450KM ปัจจุบันใช้รถน้ำมันตกลิตรละประมาณ 2 - 3 บาท / กิโลเมตร ไม่แน่ใจว่าถ้าเปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้าจะคุ้มกว่าไหม ส่วนตัวผมไม่เคยใช้รถไฟฟ้าเหมือนกัน เลยไม่รู้ว่าอัตราการกินไฟต่อกิโลเมตรเป็นอย่างไรในกรณีที่ชาร์จไฟที่บริษัทเป็นหลัก (ประมาณหน่วนละ 4 บาท) รบกวนพี่ๆช่วยแนะนำหน่อยครับ

[เนื้อน่องไม่หนัง]

ส่วนตัวมองว่าถ้า 200-300km ต่อวันถ้าเปลี่ยนเปนรถไฟฟ้าคุ้มครับ ค่าเชื้อเพลิง กิโลละ 0.5-1 บาท ค่าน้ำมันลดลงอย่างน้อยๆก็เดือนละหมื่น...
และพวก Dolphin STD ที่ลดราคาอยู่ก็เอาอยู่

ปัญหาคือ Range 450km หารถยากครับ ต้องไปดูรุ่นที่เคลมว่าวิ่งได้ 550-600km เลย ซึ่งราคาก็จะทะลุล้านไปเลย พวก Tesla LR / Seal Premium / S07L

อีกอย่างคือเรื่องของการชาร์จ ถ้าเซลเอารถกลับบ้านและต้องเป็นคนชาร์จเอง ผมคงไม่โอเคกับการที่ต้องมาหาที่ชาร์จทุกวันหลังเลิกงานครับ
นอกจากว่าส่งรถคืนที่ office แล้วเสียบ WallCharge ที่ Office เช้าออกไปใหม่ได้เลย

ถ้าวิ่งยาวๆ 450km ผมคิดว่า Hybrid จะยืดหยุ่นกว่าครับ

[ไม่ได้ไม่เกลียดรถจีน แต่ไม่ชอบคนจีนทำธุรกิจ]

ส่วนตัวมองว่าถ้า 200-300km ต่อวันถ้าเปลี่ยนเปนรถไฟฟ้าคุ้มครับ ค่าเชื้อเพลิง กิโลละ 0.5-1 บาท ค่าน้ำมันลดลงอย่างน้อยๆก็เดือนละหมื่น...
และพวก Dolphin STD ที่ลดราคาอยู่ก็เอาอยู่

ปัญหาคือ Range 450km หารถยากครับ ต้องไปดูรุ่นที่เคลมว่าวิ่งได้ 550-600km เลย ซึ่งราคาก็จะทะลุล้านไปเลย พวก Tesla LR / Seal Premium / S07L

อีกอย่างคือเรื่องของการชาร์จ ถ้าเซลเอารถกลับบ้านและต้องเป็นคนชาร์จเอง ผมคงไม่โอเคกับการที่ต้องมาหาที่ชาร์จทุกวันหลังเลิกงานครับ
นอกจากว่าส่งรถคืนที่ office แล้วเสียบ WallCharge ที่ Office เช้าออกไปใหม่ได้เลย

ถ้าวิ่งยาวๆ 450km ผมคิดว่า Hybrid จะยืดหยุ่นกว่าครับ

ขอบคุณครับพี่ โดยปกติถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจะไม่ให้เซลเอารถกลับบ้านครับ จะต้องกลับมาจอดที่ออฟฟิศเท่านั้น
ส่วนกรณีที่เป็น Hybrid ถ้ามองเป็น Toyota Yaris Cross HEV หรือ City e:HEV ขอรวม City 1.0 Turbo ด้วย จะเฉลี่ยประมาณกี่ KM/L ในกรณีขับปกติไม่เกิน 120 KM/HR

[DiKiBoyZ]

รถน้ำมัน 2-3 km/บาท
รถแก็ส/ไฮบริด 1-2 km/บาท
รถไฟฟ้า 0.5-0.6 km/บาท

ไม่หนีจากนี้

ดังนั้น คำนวณกลับเป็นเงิน ต่อ กิโล ต่อ เดือน ดูครับ ดีไม่ดี เอาค่าน้ำมันส่วนต่าง ไปจ่ายค่ารถ ยังได้เลย

ระยะ 200-300 km รถ BEV ในตลาด วิ่งได้หมดครับ (ถ้าไม่นับบางคันก๊องแก๊ง หรือ อินดี้จัดๆ)

ส่วนถ้า 350-400 km ไป อันนี้ต้องดูเป็นคันๆ อ้างอิงสเป็ค(โม้) ไว้ ไม่ได้เลย

อยู่ในกลุ่ม ผมก็เห็นจากคนที่ใช้จริง บอกวิ่ง 500km วิ่งจริง 350km งี้ (วิ่ง 110-120km/h) เป็นเรื่องปกติ

[Xtream@tom]

ถ้าจะใช้รถไฟฟ้ามีอีหลายประเด็นที่ต้องคำนึงถึงครับ
-Chargeที่office ต้องวางระบบwall charge ต้องถามวิศวกรว่าไฟพอหรือไม่(ไม่รู้ว่ามีกี่คัน แต่คิดว่าคงต้องชาร์จเวลาพร้อมกันตอนกลางคืน) ถ้ามิเตอร์TOU็จะถูกหน่อย
-ต้องดูด้วยว่าถ้าเสียบค้างคืนไว้ เช้ามาแบตจะเต็มหรือยัง
-ต้องเผื่อแบตหมดกลางทาง ชาร์จDCส่วนใหญ่หน่วยละ7-10บาท
-ต้องเผื่อเวลาชาจ์รอย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมง ด้วยตัวเนื้องานสามารถรอได้ไหม
-เส้นทางที่วิ่งส่วนใหญ่มีสถานีชาร์จ เผื่อในรณีที่แบตหมดมั้ย

ถ้าไม่มั่นใจ ผมว่าลองเช่ามาดูซัก1เดือน เก็บข้อมูลคชจ.+feedback จากพนง.ก็ดีนะครับ

[ไม่ได้ไม่เกลียดรถจีน แต่ไม่ชอบคนจีนทำธุรกิจ]

ถ้าจะใช้รถไฟฟ้ามีอีหลายประเด็นที่ต้องคำนึงถึงครับ
-Chargeที่office ต้องวางระบบwall charge ต้องถามวิศวกรว่าไฟพอหรือไม่(ไม่รู้ว่ามีกี่คัน แต่คิดว่าคงต้องชาร์จเวลาพร้อมกันตอนกลางคืน) ถ้ามิเตอร์TOU็จะถูกหน่อย
-ต้องดูด้วยว่าถ้าเสียบค้างคืนไว้ เช้ามาแบตจะเต็มหรือยัง
-ต้องเผื่อแบตหมดกลางทาง ชาร์จDCส่วนใหญ่หน่วยละ7-10บาท
-ต้องเผื่อเวลาชาจ์รอย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมง ด้วยตัวเนื้องานสามารถรอได้ไหม
-เส้นทางที่วิ่งส่วนใหญ่มีสถานีชาร์จ เผื่อในรณีที่แบตหมดมั้ย

ถ้าไม่มั่นใจ ผมว่าลองเช่ามาดูซัก1เดือน เก็บข้อมูลคชจ.+feedback จากพนง.ก็ดีนะครับ

ขอข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับว่าปกติแล้ว 1 หน่วยไฟฟ้าวิ่งได้กี่กิโลเมตรครับ เอาแบบเฉลี่ยก็ได้ครับ

[เนื้อน่องไม่หนัง]

Dolphin STD ผมตีว่า 300km ครับ แบบ safeๆ 110-120 เผื่อวิ่งหาหัวDC
ถ้ากดหนักๆแช่ความเร็วสูง น่าจะมี250kmครับ  ดูง่ายๆก็หักจากที่เคลมออกไปเลย 25%
Wallcharge ได้ประมาณ 7km/h 6-7 ชั่วโมงเต็ม 100% ครับ

ผมวิ่ง 11-13 Kwh ต่อ 100km ครับ ประมาณ หน่วยละ 7.5-9 km
ถ้าชาร์จ offpeak ประมาฯ 0.5 บาท ถ้าไปตามปั้มก็ อาจ 1-1.2 บาท ต่อ kmซึ่งก็ถูกกว่า น้ำมันล้วนเท่าตัว ถูกกว่า Hybrid ประมาณนึง

ตามที่คุณ Xtream@tom แจ้งครับ ระวังเรื่องระบบไฟ ถ้าชาร์จหลายคันอาจต้องขอมิเตอร์ใหม่เดือนไฟใหม่
และเรื่องที่จอด เพราะBEV ต้องกับมาชาร์จทุกคืนครับที่หน้าตู้ชาร์จครับ อาจไม่ได้สะดวกเหมอืนรถน้ำมน

[chatcharwarn]

ลองเช่า evme มาก่อนดีกว่าครับ ขับซักเดือนตามเม้นท์บนๆ ว่าไว้ ให้คนใช้จริงเค้าคุ้นเคยกับการขับ การชาร์จ การใช้ app.แล้วค่อยมาสรุปว่าokหรือไม่ ถ้าติดใจก็เช่าต่อเลยก็ได้ ค่าประกันค่าma.รวมในค่าเช่าอยู่แล้ว

อย่างบริษัทเพื่อนผมเช่าevmeหลายคันให้ sale ขับเหมือนกันทั้งแมว, zsev, โลมา STDมีมาติดตัวชาร์จให้ที่officeเลย ช่องล่ะคัน ขับกลับมาก็เสียบสายชาร์จปิดรถ

[joufo]

ที่บริษัท เคยเช่า Nissan Leaf มาใช้
สรุปแล้ว ก็ต้องกลับมาใช้ ยาริส เอทีฟ กับ อัลติส เหมือนเดิมครับ

เพราะเรื่องความยุ่งยากในการชาร์ตไฟ และระยะทางที่วิ่งได้น้อย
ออฟฟิศในเมือง ก็ไม่มีที่ชาร์จ เพราะเป็นตึกจอดรถ ต้องเอารถไปชาร์จตามปั๊มน้ำมัน
ทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก

[tOntrAnETY]

อันนีเแนะนำจาก ส่วนตัวนะ เพราะใช้ 200km/ วัน

แต่เดิม เติมน้ำมันเดือนละ 18000 บาท
ตอนนี้ จ่ายค่าไฟแทนจ่ายค่าน้ำมัน เหลือ แค่ ราว 1300 บาท/เดือน ( Tou + solarrooftop )



แต่ถ้าคิด แบบ เข้าใจง่ายๆ ชาร์จ AC บ้าน ก็กิโลเมตรละ 50-70 สตางค์ครับ

แต่ถ้าชาร์จ DC ก็ ราคา Onpeak ตก ราว 1บาท/km ครับ

แต่ถ้า Offpeak ก็ จะตกสักราว 70-80 สตางค์/km   



สรุป คือ คุ้ม แน่นอนครับ

[kiwiwi]

เรื่องคำนวนระยะทาง สมช.ท่านอื่นตอบไปแล้ว
มีข้อควรระวังเพิ่มเติมตรงที่ ทางบริษัทยังต้องมีรถน้ำมันหรือhybrid ไว้สำรองอันนี้โอเคมั๊ยครับ
เพราะความไม่เสถียรของระบบสต๊อกอะไหล่ของรถไฟฟ้าจีนทุกค่าย หากต้องมีการซ่อมแซมจากอุบัติเหตุ ทำให้รถคันดังกล่าวต้องนอนศูนย์เป็นระยะเวลานานๆ

ส่วนตัวยังมั่นใจในระบบ hybrid ของญี่ปุ่นมากกว่า รถเล็กหน่อยอย่าง yaris cross หรือ city hybrid สามารถวิ่งได้เกิน 20 กม/ลิตร แบบไม่ยากเย็นอะไร(เท่าที่ผมตามเพจนี่ ส่วนใหญ่ระดับ 25กม/ลิตรกันเยอะเลย) เรียกได้ว่าคำนวนที่ต่ำกว่า 2 บาทยืนพื้นได้เลย

ถ้าเอารถไฟฟ้าที่ระยะทางวิ่งได้ไม่เยอะ แล้วต้องไปชาร์จ dc กลางทางบ่อยๆ กลายเป็นว่าส่วนต่างค่าพลังงานไม่ถึง 1 บาทดี
หรือ(ผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบัน​ที่บริษัทคุณใช้รถอะไร)​ถ้าเอารถคันเดิมไปติดระบแก๊ส​อย่างดี ซึ่งไม่นานก็คืนทัน หลังจากนั้นค่าพลังงานยิ่งจะต่างจากรถไฟฟ้าไม่เยอะครับ เผื่อเป็นทางเลือก

[sukhontha]

รายละเอียข้างบนตอบหมดแล้ว

ทดลอง 1 คันก่อน  เอาโลมานี่แหละ   450 กม.  วิ่งจริงก็  300 กว่า ๆ  ถ้าเวิร์ค  ค่อยจัดต่อครับ

[helloweentz]

วิ่งเยอะ รถไฟฟ้า คุ้มจริง

จากรายละเอียด Hybrid จบสุด 

[apinui]

รถบริษัท วิ่งเซล .... ผมพึ่งค้านบริษัทผมไปเองว่า ไม่ควรจะซื้อมาให้เซลใช้เป็นอย่างยิ่ง เหตุผลดังนี้ครับ

1.อาชีพเซล มีเร่ง มีรีบ มีวิ่งใกล้/ไกล วันๆนึงคาดเดาได้ยาก คำถาม ถ้าเซลแจ้งว่าไปหาลูกค้าไม่ทัน เพราะไฟจะหมดต้องหาที่ชาร์จ หรือ เค้าไม่สามารถวิ่งเร็วหรือเร่งได้มากกว่านี้แล้วเพราะไม่งั้นไฟจะหมดก่อนถึงลูกค้า และถ้าเลวร้าย วิ่งไปถึงลูกค้าแต่ไฟไม่พอกลับ ... บลาๆ

2.รถเซล ยิ่งอยู่บนถนนนาน ความเสี่ยงอุบัติเหตุยิ่งสูง เกิดเหตุมา ไม่แรงหรอก เบาๆแค่ไฟหน้าแตก ประตูบุบ รอซ่อม 3-6 เดือน คุ้มไหม?? ... รถญี่ปุ่นทั่วไปซ่อมไม่เกิน 2 อาทิตย์ ไฟฟ้าจีนซ่อมกันครึ่งปี คุ้มกับธุรกิจหรือเปล่า


เหตุการข้างต้นผมให้ความเห็นไปในฐานะที่ผมเคยเป็นเซลแมน วิ่งขายของหาลูกค้ามาก่อน งานเซล บางวันรีบ บางวันชิว บางวันรถแทบไม่ได้ดับเครื่อง ข้าวเที่ยงยังไม่มีเวลาแวะกินก็มี เพราะติดนัดลูกค้า รถติดเดินทางช้าว่าแย่แล้ว นี่ต้องมาห่วงหาที่ชาร์จไฟอีกหรอ .. บ้าตายพอดี ..

[SM.]

จริงๆ อยากแนะนำพวกไฮบริดก็พอครับ ประหยัดไปเยอะแล้ว แต่ถ้าอยากไปไฟฟ้าล้วนจริงๆ ผมว่าก็พอได้นะครับ แต่ระยะทาง 450 กม. อาจจะมากไปหน่อย ผมว่าอาชีพนี้ ให้เซลส์ไปรอชาร์จไฟที่ปั๊มก็คงไม่เหมาะนัก

[Sommer C350e W205]

ORA Good Cat รุ่นประกอบในประเทศเลยครับ แถมมีแบต LFP ประกอบในประเทศ รุ่น SVolt

[ThisIsYuTh]

เอาแค่ประเด็นรถทำงานหาเงินก็ควรเลี่ยงรถจีนทุกแบรนด์แล้วล่ะครับ

แต่พอไม่ใช่รถจีน ราคาก็อาจจะไม่คุ้มค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้สักเท่าไหร่

รอดูสักหน่อยดีกว่าครับผมว่า หรือถ้าต้องรีบใช้จริงๆ ไปไฮบริดญี่ปุ่นเลยมั่นใจมากกว่าครับ

[XMSL]

Neta X เพิ่งเปิดตัวเลยครับ เปลี่ยนมิเตอร์ที่เน้นชาร์จไฟเป็น TOU ได้ค่าไฟถูกลงอีก คำนวณค่าใช้จ่าย/ประเมินความเสี่ยงเทียบกันดูครับ

[solo]

https://www.headlightmag.com/2024-07-26-special-price-neta-v-ii/