ผู้เขียน หัวข้อ: ผ่อน Volvo XC60 มาได้ครึ่งทาง อยากวางแผนอนาคตของรถคันนี้ครับ  (อ่าน 2947 ครั้ง)

ออฟไลน์ Komutmas

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
สวัสดีพี่ๆน้าๆทุกท่านครับ

ผมมีเรื่องอยากจะมาชวนคุยกึ่งๆขอคำปรึกษาครับผม

ผมมีรถ Volvo XC60 Recharge MY2022 อยู่ 1 คันครับ เป็นตัวไมเนอร์เชนจ์แต่ยังเป็นรุ่นแบตเล็ก วิ่ง Mode Pure ได้ 40 กิโลเมตรครับ
ราคาตอนซื้อนั้นอยู่ที่ 3,490,000 บาท - ส่วนลด 280,000 และดอกเบี้ย 0%
รถคันนี้ผ่อนมาได้ 32/60 งวดครับ ก็เกินครึ่งทางมานิดหน่อยแล้วแหละ
เลขไมล์ใช้ไป 20,xxx กิโลเมตรกว่าๆ  :'(

ผมชอบวอลโว่ครับ มองมาตั้งกะเด็กๆ จนได้มาเป็นเจ้าของตอนอายุ 30 ขวบ
วอลโว่เป็นรถที่หลายคนเชื่อว่า ราคาขายต่อดิ่งเหวสุดๆ ซึ่ง ณ วันนี้ ผมก็ว่ามันไม่ต่างกันเท่าไหร่ถ้าเทียบกับค่ายเยอรมัน กล่าวคือ เจ๊งพอกัน  ;D
นอกจากนี้ หลายท่านก็ยังคงเชื่อว่าวอลโว่นั้น ค่าซ่อมเมื่อหมดประกัน โหดเอาเรื่อง ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้อ่ะ ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะรถยังอยู่ใน VPSP5ปี + ประกันระแบบไฮบริด 8 ปี


ดูจากกระแสของทางวอลโว่ที่ระบุว่าจะเป็นรถไฟฟ้า 100% ในปี 2030
แต่เทรนด์รถ PHEVกลับมาบูมอย่างมาก สะท้อนให้เห็นการลากขายพี่ใหญ่ XC90 แบบ Big Minorchange ที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้
ผมเชื่อว่า Volvo XC60 Phev คงจะถูกลากขายต่ออายุออกไปอีกซึ่งจากเดิม น่าจะตกรุ่นในปี 2025-2026

ผมกำลังวางแผนว่าจะเอายังไงกับเจ้า XC60คันนี้เมื่อผ่อนหมดครบ 60 งวด ในปี 2027 ทำยังไงถึงจะเจ็บตัวน้อยสุด

หนึ่งในตัวเลือกแรกที่ผมคิดคือ  ผ่อนไปถึงงวดที่ 54 แล้วโปะปิดไฟแนนซ์แล้วชิงขายตอนที่ VPSP ยังเหลือ เพื่อที่ว่าราคาขายต่อจะได้ไม่ลงหนักมาก หาคนรับช่วงต่อง่าย
แต่ถ้าขายไปแล้วจะยังไงต่อ? ผมคงเสียดายเจ้าคันนี้มากๆ ดูทรงแล้ววิ่งไม่ข้าม 50,000โลแน่ๆ
ที่สำคัญคือจะขายแล้วไปต่อคันไหน? ผมยังคงอยากได้วอลโว่ แต่โดยส่วนตัวผมไม่ชอบ และไม่คิดจะใช้รถไฟฟ้าล้วน ต่อให้รักวอลโว่ขนาดไหน แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าล้วนผมก็ขอบาย
ถ้าให้ไปค่ายเยอรมัน? ดูจากการออกแบบ new X3 , new GLC ผมคงทำใจขับไม่ลง มันไม่ตรงจริตผมเลย

แผนที่สองคือ ใช้ไปเรื่อยๆ (แม้จะหมด VPSP) จนหมดประกันแบตไฮบริด ซึ่งก็จะหมดประกันไฮบริดในปี 2030 ตรงกับไทม์ไลน์ที่วอลโว่จะเป็นไฟฟ้าล้วนพอดี แล้วค่อยขาย
ถ้าเอาตามแผนนี้ ราคาขายต่อคงไม่ต้องพูดถึง ไม่มีทางได้แตะหลักล้านแน่นอน ประกอบกับค่าดูแลช่วงปีที่ 5 ถึง ปีที 8 ที่หมด VPSP ไปแล้วน่าจะเอาเรื่องอยู่

แผนสุดท้ายคือ ใช้ไปเรื่อยๆ ใช้จนตายจากกันไปข้างนึง หรือจนกว่าจะรับค่าซ่อมไม่ไหว  แล้วตัดใจขายทิ้งแบบขายซาก

คิดว่าแบบใดจะคุ้มค่าหรือเจ็บตัวน้อยที่สุดครับ?   :-\




 

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
    • อีเมล์
1. ตัดสินใจตอนนี้ยังยากอยู่ครับ เพราะรถไฟฟ้าเพิ่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แต่อนาคตก็ยังไม่แน่นอน อาจจะมีบางค่ายกลืนคำพูดตัวเองทำ Phev ต่อไปก็ได้ครับ หรือไม่ตอนนั้น จขกท เองอาจจะอยากได้ไฟฟ้าล้วนแล้วก็ได้
2. ถ้าถึงเวลานั้นแล้วมีตัวเลือกที่ถูกใจ ผมก็เลือกขายก่อนวารันตีหมดครับ ไปคันใหม่ดีกว่า แต่ถ้าไม่มีรถถูกใจจริงๆ เลือกใช้งานต่อครับ รถจขกท ใช้เองตั้งแต่ป้ายแดง วิ่งน้อยมาก รู้ว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว ดูแลต่อไม่น่ายากและไม่น่าใช้เงินเยอะครับ เทียบกับกำลังผ่อนที่ จขกท. ผ่อนคันนี้มา ผมว่าชิวๆ ครับ เรื่องเงินไม่น่าใช่ปัญหา ถ้าเริ่มซ่อมแล้วไม่จบ ค่อยว่ากัน

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,831
    • อีเมล์
      ขายตอนอายุ 5 ปี ขับไม่เกิน 100,000 กิโล ได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
โดยส่วนตัว

ผมเชื่อว่า น้อยคน ที่จะใช้รถไปจนตายไปจากกัน (ไม่นับว่าเกิดอุบัตเหตุตายทั้งคนขับ ทั้งรถนะครับ เปรียบเปรย ไม่ได้แช่ง)

ซึ่งแต่ก่อน ถามว่า มีไหม รถพ่อ เป็น มรดกให้ลูก แบบนี้ มีครับ แต่น้อย และ ลูกได้มา หลายคนก็ขาย หรือ ทิ้ง ไปซื้อคันใหม่ เพราะมันทั้งเก่า และ ต้องดูแลแบบรถเก่า

ถ้า ณ วันนี้ ถ้าต้องเลือก

ผมเลือกขาย ในวันที่มันขายได้ และ มีราคา

หลายคน เลือกที่จะทิ้ง เช่น ยกให้คนอื่นผ่อนต่อฟรีๆ เปลี่ยนสัญญา ทิ้งทั้งเงินดาวน์ และ เงินที่ผ่อนมาแล้ว (ถ้าเปลี่ยนสัญญา แล้ว ได้เงินกลับบ้าง ก็มีนะ)

สำหรับผม ก็คงเลือกที่จะปิดไฟแนนซ์ แล้ว ขาย ครับ ได้เท่าไหร่ ก็เท่านั้น เพราะมันคือทางเลือกเดียว ได้เงินกลับมาบ้าง แล้วถ้าจะซื้อคันใหม่ ก็ซื้อคันใหม่ต่อไป

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 414
    • อีเมล์
ผมเองคิดว่า เลือกใช้รถที่ตัวเองมีความสุขกับมัน
ขายเมื่อเจอกับคันที่ถูกใจมากกว่า
ราคาขายต่อเป็นส่วนหนึ่ง ยิ่งขายเร็วยิ่งได้เงินเยอะกว่า
มันคงไม่ทีจุดคุ้มทุนครับ เพราะรถคือหนี้เสีย

ยิ่งซื้อรถราคานี้ ยิ่งจะราคาตกมากครับ
ผมเองเคยขายรถไปหนึ่งคัน เป็นรถที่ใช้หัดขับ
เราจะเสียดายราคาตอนขาย แต่พอเวลาผ่านไปเราก็จะลืมไปเอง

ผมมองว่าถ้าตอนนี้ใช้รถแล้วมีความสุข ให้ใช้ต่อ
แต่พบว่าจุดอ่อนรถ มันสร้างปัญหากวนใจ ก็ขายครับ

อีกทางคือมีเงินให้ได้มากพอ จนรู้สึกว่าการจะซื้อจะขายรถ ได้เท่าไหร่ก็ตามนั้น

ส่วนตัวมองว่า XC60 ตัวปัจจุบัน ยังคงมีขายอยู่จนถึงปี 2030
อาจปรับภายในแบบ XC90 ใหม่ ผมเองใช้ Volvo 2 คัน
จริง ๆ ไม่เคยคิดถึงราคาขายต่อครับ คือขับแล้วสบายใจพอ
ถ้าถึงขั้นต้องขาย มันก็ตามสภาพ คิดว่าเราซื้อความปลอดภัยบนถนน จะได้สบายใจครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 04, 2024, 22:27:21 โดย Odrecranon »

ออฟไลน์ bennieT8

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 501
    • อีเมล์
ปัญหา จขกท. ตรงกับของผมเลยครับ  XC60 ผม 5 ปีแล้วเพิ่ง 27,700 กม. เอง  ประเด็นของผมคือใช้คันนี้แล้วมีความสุขและมั่นใจในความปลอดภัยมากครับ ตัวรถเองก็ไม่มีปัญหาใดๆเลย เลยไม่เอาประเด็นเรื่องราคาแบตหรือราคาขายต่อมาคิดให้ปวดเฮด  แค่ลองคิดว่าถ้าขายคันนี้ไปแล้วจะหาคันไหนที่ถูกใจเท่านี้โดยงบไม่บานปลาย  ก็จบเลยเลิกคิดต่อเลยครับเพราะนึกไม่ออก  เพราะทั้ง MB และ BMW ไม่ถูกจริตผมเช่นกัน  Audi ก็ได้แค่คิดๆแต่ไม่ลงตัว  สรุปคือใช้อย่างมีความสุขไปก่อนจนกว่าจะถึงจุดที่มีปัญหาใหญ่ๆแล้วค่อยว่ากัน  ถ้าแบตหมดสภาพต้องเปลี่ยนก็ขอดูค่าใช้จ่ายตอนนั้นก่อน  อย่างมากก็ขับแต่น้ำมันอย่างเดียวมั้ง  เงินที่ประหยัดค่าน้ำมันมาตลอดถัวแล้วน่าจะรับได้  เพราะปัจจุบันวิ่งในเมือง 95% เติมน้ำมันปีละสองพันกว่าบาท  ยกเว้นวิ่งทางไกลนานๆทีก็เต็มถังปีละกี่ทริปก็ตามใจตัวเองแล้วครับ

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,917
ตอนนี้ phev ยังถือเป็นเรื่องใหม่ในวงการมือสองครับ ฉะนั้นยังเทียบราคายากมาก ปัจจุบันขายตอนนี้ตกกระจายแน่นอนครับ เพราะความฮอตของ bev + ชื่อเสียง benz ที่สร้าง phev เจนแรกให้เป็นรถมีปัญหา

ถ้าผ่อนหมดแล้วคิดจะเปลี่ยนผมว่าค่อยมาดู condition ตอนนั้นอีกทีดีกว่า ตอนนี้คนเริ่มถูกบังคับให้เปิดใจรับ hev ซึ่งจาก day1 ที่ระบบนี้เข้าสู่ตลาดผมว่าเป็น 10ปีนะ แต่ในมุม phev มันจะเปิดรับง่ายกว่าเพราะมันก็คือ hev เสียบปลั๊กได้

ส่วนในมุมราคาที่ตก ก็จริงอยู่ที่มันตกเยอะสุดในบรรดายุโรป แต่เทียบจริงๆผมว่าต่างจากเจ้าอื่นๆไม่เท่าไหร่ ถ้าไม่นับ

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
ผมคิดว่า volvo ยุคนี้ไว้ใจได้ประมาณนึงเลยครับ และส่วนตัวคิดว่าถือยาวๆปัญหาอาจน้อยกว่า Mercedes ด้วยซ้ำ ปัญหาคือ อู่นอกค่อนข้างน้อย ทำให้มีปัญหาต้องไปจบศูนย์ ค่าใช้จ่ายเลยสูง
แต่ถ้าเทียบกับ BMW / Mercedes เข้าศูนย์เหมือนๆกัน ไม่น่าจะต่างกันครับ

ส่วนตัวถ้าใช้แล้วโอเครถไม่มีปัญหา ชอบฟิลลิ่งของมัน ผมอาจใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเริ่มมีปัญหาบ่อยๆ เริ่มไม่สบายใจถ้าขับยาวๆ หรือเจอคันใหม่ที่ชอบจริงๆ
ก็ค่อยเปลี่ยนรถออกไปครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
    • อีเมล์
วอลโว่ ในมุมเต้นท์รถ ราคารับซื้อ ทำไมราคาตก มันมีสาเหตุครับ

โดยตัวรถ ความจุกจิก มันไม่ต่างจากยุโรปค่ายอื่นเลยครับ และเป็นรถที่ใช้งานดี คุ้มค่ามากๆเมื่อดูราคาป้ายแดงเทียบกับยุโรปค่ายอื่น

แต่วอลโว่ เป็นรถที่เต้นท์รถไม่อยากตีราคา ไม่อยากซื้อมากที่สุด .. ชนิดที่ว่า ใครส่งรูปมาว่าใครรับบ้าง ลายกลุ่มนี่เงียบกริบเลยครับ ไม่มีการตอบรับใดๆเลย ไม่ให้ราคาไม่ว่า กดขำใส่อีกก็มี 555

ไม่ใช่รถไม่ดี อะไหล่แพงหรืออะไรเลยครับ เพียงแต่ พอมันเป็นมือ 2 แล้วมันขายยากมากๆ หรือพูดแบบตรงๆเลยคือ ไม่มีคนเล่น ซื้อไปก็ไม่มีใครซื้อไปใช้ต่อ ...เพราะ ความเชื่อ ที่พูดต่อๆกันมายาวนานว่า อะไหล่แพง จุกจิก ต่าง นาๆ ทั้งๆที่คนที่พูดก็ไม่เคยใช้ด้วยซ้ำ มันเป็นความกลัว ความกังวลที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

เคยไหมล่ะ แบบ จะซื้อยุโรปมือสองสักคัน พอเล่าให้ใครฟังว่าจะซื้อวอลโว่ จะมีแต่คนคัดค้านและบอกว่าไปเยอรมันดีกว่า แพงกว่านิดหน่อย ทั้งๆที่เยอรมันกล้องรอบคันยังไม่มีเลย

ดังนั้น ความเห็นผมครับ วอลโว่ ก็ยังเป็นวอลโว่ ความนิยมในตลาดมือ2 ยังคงเดิม ความคุ้มค่าที่สุดสำหรับคนที่ซื้อป้ายแดงคือ ถนอมใช้ให้ยาวนานที่สุด ใช้ไปจนรู้สึกว่าคุ้มแล้วล่ะ พอแล้ว ทีนี้เราจะตัดขายแบบถูกๆหลักหมื่นหลักแสน หรือ ปล่อยทิ้งเป็นซากไปก็น่าจะรู้สึกเสียดายน้อยกว่ามาขายตอนอายุ 5 ปี ครับ


ออฟไลน์ helloweentz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 468
    • รถขนของ
ใช้ไปเรื่อยๆ ครบ 5 ปี ค่อยคิดอีกทีครับ

แต่ อนาคต สงคราม ราคารถ บางทีใช้ถึง 5 ปี ใช้ต่อ อาจจะคุ้มกว่าขายครับ  :-\
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ

ออฟไลน์ moo36

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 192
ผมใช้ XC90 T8 มา 8 ปีแล้ว วิ่งไป 140,000 เคยคิดจะขายแต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาใช้แทน มันเป็นรถที่ใช้ดีจริงๆ แล้วก็ไม่จุกจิกเลย เพิ่งคุยกับเซลล์เมื่อไม่กี่วันนี้เค้าให้ราคามา 900,000 - 950,000 (ซื้อมา 4,100,000)

ล่าสุดเลยเพิ่งตัดสินใจว่าจะใช้ไปเรื่อยๆ ซวยสุดถ้าซ่อมใหญ่ เปลี่ยนแบตใหม่ อีกสักครึ่งล้าน แล้วใช้ไปได้อีกสัก 5-6 ปี ผมว่าก็คุ้มล่ะ เพราะถ้าไปซื้อใหม่ ให้ได้รถใช้งานดีๆแบบนี้ ก็คงต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีก 3 ล้านเป็นอย่างน้อย
2017 Honda Civic Turbo RS
2016 Volvo XC90 T8
2015 Volvo XC60 D4
2009 Toyota Estima Hybrid
1993 Bmw E36

ออฟไลน์ Tpol

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
น่าจะเป็นจุดที่เลือกยาก ผมก็เคยผ่านนี้ จุดตัดสินใจคือ ใช้ต่ออีก xปี แล้วค่าเสื่อมตกเท่าไร เทียบกับคันที่จะไปใช้อีก xปีเท่ากัน แล้วดูส่วนต่าง เทียบกับ การทนใจต่อ กับได้รถใหม่

ออฟไลน์ belkw202

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 417
ผมว่าเรื่องรถมันวางแผนยากนิดนึง ใช้ไปก่อนค่อยคิดอีกทีดีกว่าครับ เพราะจากแผนก็คือยังไม่ได้จะเปลี่ยนเร็วๆนี้แน่
ถึงเวลามันจะมีปัจจัยมาบีบให้เราขายหรือลากให้เราอยู่ต่อกับมันเองเช่น
สถานการณ์ทางการเงิน การใช้รถ ความอยากได้รถรุ่นใหม่ ความจุกจิกของรถเรา ณ วันนั้น
รอใกล้จะผ่อนหมด (งวดที่ 54 อย่างที่จขกทว่า) ค่อยดูกันวันนั้นอีกทีดีกว่าครับ
Tesla Model 3 Highland LR
G08 iX3 M Sport
Cx5 2.5s
Mazda 2 1.3 S
w202 c36 AMG
w212 e63 AMG
w204 c250 AMG Sport Plus
w207 e350 4matic
e90 325i

ออฟไลน์ ติ่งมาเต็ม

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 199
ในมุมคนจะเล่นมือสอง อู่วอลโว่แบบพึงพาได้มันไม่มีมีเลยดีกว่า ที่แนะนำกันในกลุ่มบางเคสแพงพอกับเปลี่ยนยกชิ้นราคาศูนย์เลย

ออฟไลน์ Kanarath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 371
ผมว่ายังไงก็ได้เปลี่ยนถ้ามีกำลัง แนะนำว่าตอนนี้เล็งรถที่ชอบกว่านี้ไปพลางๆ พอใกล้จะ 5ปี ค่อยดูอีกทีว่ามีอะไรให้เลือก

ผมว่าความสุขอย่างนึงคือการเล็งและรอรถที่อยากได้ครับ

ออฟไลน์ marvel

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
ถ้าตอนนี้ 30 กว่าๆ และชอบ Volvo มาตั้งแต่เด็กๆ สมัยนั้นน่าจะเป็นรุ่นประมาณนี้มั๊ยครับ
960 , 850 , XC90 1st gen และ โมเดลที่นำหน้าด้วย S และ V ทั้งหลาย ที่เป็น 1st gen เช่น
S40 V50 S60 S70 V70 S80 S90 (ที่เป็นตัวถังเดียวกับ 900 series ยุคก่อน)

Volvo ผมเคยใช้แต่รุ่น 740GLE , 940GL , 960 3.0 หลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้อีกเลย
จนไม่กี่เดือนมานี้เกือบจะได้กลับมามี Volvo อีกครั้ง เกือบได้ซื้อ 850 T-5R

เรื่องวิธีไหนประหยัดสุด นี่ตอบยากครับ เพราะมีปัจจัยอื่นๆอีก เช่น ถ้าขายแล้ว ไปซื้อรถรุ่นไหน
และถ้าใช้คันเดิมต่อ เจออู่นอกที่ซ่อมจบในราคาสมเหตุสมผลหรือเปล่า
ผมก็ออกจากวงการ Volvo มานาน เลยไม่ทราบเรื่องอู่นอกของ Volvo เลย

แต่อย่างน้อย ตอนนี้ก็ยินดีด้วยครับ เหมือนทาง Volvo จะได้ยิน  :D

Volvo Cars กลับลำแผน EV เลื่อนกำหนดเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าล้วน จากเดิมปี 2030 เป็นปี 2040
https://www.headlightmag.com/news-volvo-cars-postpones-plan-to-be-ev-brand-by-2040/

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,746
ลองเอารถไปตีราคาแล้วค่อยตัดสินใจดูอีกทีสิครับ ถ้าเป็นผมใช้รถน้อยแบบนี้และยังชอบขับคันนี้อยู่ ผมจะใช้ต่อไปจนใกล้หมดWarrantyแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมากับรถยุโรปหลายสิบปี พออายุรถขึ้น5ปีจะเริ่มต้องซ่อมทีละหลายหมื่นหรือเป็นแสนมาเรื่อยๆไม่ว่าจะใช้น้อยๆปีละหลักพันหรือใช้ปีละหลายหมื่นโลก็ตาม ถึงตอนน้นจะเหมือนโดนบังคับให้ขายกลายๆ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,917
คหสต.นะครับ
1.ถ้าอยากเจ็บน้อยขายตอนมีประกันครับ
2.ถ้าเสียดายที่รถวิ่งน้อย ผมว่าใช้ไปสัก 10 ปีน่าจะดี ตอนนั้นราคามันนิ่งแล้ว และคุณก็ใช้มันคุ้มแล้ว
ส่วนอนาคต ตอนนี้แนวโน้มไปทาง PHEV  ครับ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,252
 8) 8) 8)......หากเป็นของผม ก็จะพยายามขายออกไป ให้ได้ราคาดีที่สุด(สำหรับผมนะ) แล้วเปลี่ยนแบรนด์อื่น
ที่ ดูแลด้วยค่าใช้จ่ายสบายๆในวันหน้าดีกว่า  :-X

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,250
ถ้าเป็นผมผ่อนจนใกล้ๆ จะหมดแล้วคงปล่อยออก ตอนที่มันยังมีมูลค่า

ซึ่งผมก็คงจะทำกับ X3 คันที่ใช้อยู่เหมือนกัน แต่จะไปหาคันไหนต่อ คงต้องรอดู ณ ช่วงเวลานั้นอีกครับ

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 777
ถ้าบอกว่า ชอบ Volvo มานาน และ ไม่แนวที่จะไป Benz , BMW

ใช้ต่อไปก็ดีนะครับ ของผม XC60T8 2020 รุ่นช่วงล่างถุงลม (น่าจะมีแค่ปีเดียว) ใกล้จะ 4.5 ขวบ ยังปกติดี

มาลุ้นช่วงล่างถุงลมว่าหมดประกันจะเป็นยังไง แต่ใช้มา 4 ปีกว่า คิดว่าอึดพอสมควรเทียบกับถุงลม ยุโรปเจ้าอื่น

ตอนแรกก็ลังเลว่าจะใช้ไปกี่ปี ส่วนตัวติดว่า XC60 , XC90 ณ เวลานี้ยังไงก็น่าจะลากขายอีกไปพอสมควร

เลยคิดว่า น่าจะใช้สักปีที่ 6 ค่อยมาคิดเรื่องขายว่าจะไปต่ออีกหน่อย หรือ ขาย บวกกับดูรถ ณ ช่วงนั้นว่ารุ่นไหนน่าสนใจอีกที

ปล.อู่นอก Volvo เก่งๆก็เห็นมีแนะนำกันในกลุ่มอยู่ครับ เลยคิดว่าน่าจะพอพึ่งได้

ออฟไลน์ wibul10

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
    • อีเมล์
แนะให้ใช้ไปจนสุดทางเลยครับ ใช้ไปก่อน รถไฟฟ้า ยังไม่ควรซื้อตอนนี้ เพราะอะไร เพราะการผลิตรถไฟฟ้ายังไม่ถึงจุด optimal ดังน้้น สงครามราคาจะดำเนินต่อไป คุณจะได้เห็นรถไฟฟ้า ราคาถูกลงเรื่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย ออปชั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ขับ XC60 ไปก่อนครับ ครบ สองแสนโลค่อยว่ากัน ผมเองก็ขับมา 1.2 แสนโลแล้ว และสภาพรถก็ยังดีอยู่ครับ ยังใช้งานได้ดี ไม่มีงอแง ผมยังเชื่อว่า รถไฟฟ้าในช่วง สามปี นี้ ไม่ควรซื้อ กว่าสงครามราคาจะจบ กว่า ระบบการผลิตจะถึงจุดสูงสุด ราคาจะลงไปเรื่อยๆ ยกเว้น มีกิเลสความหยาก แบบนี้ก็ห้ามไม่ได้ครับ ถ้าเอาเหตุผล รออีก สามปีครับ ดู CLS สิ แต่ก่อนคันละ 10 ล้าน เดี๋ยวนี้ 5 ล้าน ก็ขับตัว แรงแล้ว

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,480
อยากให้เลือกแนวทางที่ 3  ใช้กันจนกว่าจะตายไปข้าหนึ่ง.....เพราะราคาที่ได้มันน้อยมาก..

ผมใช้ saab  ปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่  แม้จะขับน้อย  แต่ไม่ขาย  เคยคิดจะขายก็เสียดาย  ได้ไม่กี่บาท

รถใหม่ซื้อเข้ามาก็เอาเป็นคันที่สองชับเล่นๆเอา 

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,119
จากประสบการณ์ ใช้รถ 3 ล้านกว่าอยู่ 3 คัน 3 ยี่ห้อ คือ วิธีสุดท้ายครับ คุ้มค่าสุด
คันแรก A6 อยู่ที่บ้านมา 24 ปีแล้วตอนนี้ก็จอดอยู่
อีกคัน Benz 13 ปี ก็ยังจอดอยู่
อีกคัน BMW ขายที่ 4 ปีราคาหายเกินไปมาก
ตอนหลังรถที่เพิ่มมาก็จะเป็นรถแนว JDM เกือบหมด ใช้ไป 10 ปี ราคาขึ้นซะอีก

ออฟไลน์ Boattamon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 389
อัพเดทล่าสุดเหมือนว่าจะขยับไปเป็นปี ค.ศ. 2040 ละล่ะมั้ง

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,082
ใช้จนไม่คุ้มค่าซ่อม หมดราคา น่าจะคุ้มที่สุดครับ
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,484
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ถ้าชอบ Volvo และยังพอใจในการใช้งานโดยรวม ก็สนับสนุนให้ใช้ต่อจนกว่าจะเจอรุ่นที่ถูกใจกว่าครับ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner Champ, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK, Swift

ออนไลน์ nobody123

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 221
รถคุณมันเทพแล้ว คือ ขายในยุโรป ในหมู่รถหรู ได้อันดับหนึ่ง ด้วยหลายปัจจัย
1. Volvo เลื่อนแผน Full electric เป็น 2040 ตามกระแสโลก เรียบร้อยแล้วครับ
2. Volvo จะตั้งโรงงาน Remanufacturing / recycle แบต ครับ
--> แบต ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งแพ็คแบบบางเจ้าง เปลี่ยนเฉพาะเซลล์ คาดได้ว่าถูกกว่าที่เซลส์บอกเราตอนแรก
3. ค่าลิเธียม ถูกลง
4. มันพิสูจน์มานานแล้ว รถขับสองระบบ แต่ละระบบจะไม่ค่อยเสีย
รถคุณคลีนอยู่แล้ว ถ้าขายไปซื้อไฟฟ้าแบตใหญ่ นั่นแหละ ถึงจะไม่คลีน / จ่ายค่าแบตอ่วม / ปลายอายุจ่ายค่าซ่อมไฟฟ้าอ่วมอยู่ดี เพราะขับระบบเดียว

คือ ทั่วโลก กระแสกำลังไปทางรถ PHEV คุณนะครับ

ส่วนตัวผม V60 รถฉลาดขนาดนี้ ผมพอใจใช้ 2x ปี ครับ

ยกเว้นคุณขายไปซื้อ HEV ฉลาด ๆ อันนั้นผมถึงเห็นด้วยหน่อย ๆ ครับ

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 156
    • อีเมล์
1. ตัดสินใจตอนนี้ยังยากอยู่ครับ เพราะรถไฟฟ้าเพิ่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แต่อนาคตก็ยังไม่แน่นอน อาจจะมีบางค่ายกลืนคำพูดตัวเองทำ Phev ต่อไปก็ได้ครับ หรือไม่ตอนนั้น จขกท เองอาจจะอยากได้ไฟฟ้าล้วนแล้วก็ได้
2. ถ้าถึงเวลานั้นแล้วมีตัวเลือกที่ถูกใจ ผมก็เลือกขายก่อนวารันตีหมดครับ ไปคันใหม่ดีกว่า แต่ถ้าไม่มีรถถูกใจจริงๆ เลือกใช้งานต่อครับ รถจขกท ใช้เองตั้งแต่ป้ายแดง วิ่งน้อยมาก รู้ว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว ดูแลต่อไม่น่ายากและไม่น่าใช้เงินเยอะครับ เทียบกับกำลังผ่อนที่ จขกท. ผ่อนคันนี้มา ผมว่าชิวๆ ครับ เรื่องเงินไม่น่าใช่ปัญหา ถ้าเริ่มซ่อมแล้วไม่จบ ค่อยว่ากัน

ไม่ทันขาดคำ volvo ประกาศเลื่อนละครับ

Volvo เลื่อนแผนการเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2030 ออกไปก่อน กลับมาขายรถยนต์สันดาปแบบเดิม
.
โดยเหตุผลในการประกาศเลื่อนเป้าหมายการเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2030 ออกไปนั้น เขาให้เหตุผลว่า สภาพเศรษฐกิจไม่แน่นอน มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของบริษัท รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงมีความต้องการรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปอยู่
.
รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกายังไม่พร้อม จึงเป็นเหตุผลที่ Volvo ตัดสินใจกลับลำ ไม่ไปต่อแล้วกับเป้าหมายที่จะเปลี่ยนเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้า
.
จริง ๆ แล้ว จากการตัดสินใจครั้งนี้ก็ทำให้ได้เห็นว่า แม้จะมีการผลักดันด้านสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญอยู่สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
.
Source: Engadget

ออฟไลน์ jakk

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
    • อีเมล์
สถานการณ์คล้ายๆกันเลยครับ แต่ของผมเป็น CX5 ผ่อนหมดแล้ว ใช้มา 7 ปีละ

อารมณ์ก็อยากจะเปลี่ยนรถใหม่ ไปลองมาหลายๆคัน ถ้าราคาไม่โดดจากตัวเดิมมาก ก็ไม่ได้จะขับดีกว่า นั่งสบายกว่าเลยครับ
เผลอๆยังชอบคันเดิมมากกว่า เลือกมาปีนึงแล้วยังไม่โดนตัวไหนที่ทำให้เปิดใจได้เลยครับ

ของจขกท. ผมว่ายังใช้อีกได้ยาวๆครับ รถเราใช้เอง ใช้น้อย ตัวนี้ถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไร เทคโนโลยีก็ครบอยู่ครับ
ขับสบาย เครื่องเสียงแจ่ม ใช้แล้วมีความสุขครับ